Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2120 นักกวีอมตะ
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2120 นักกวีอมตะ
เมื่อเห็นสายฟ้าสีเขียวซีดกําลังจะปะทะร่างของหลี่เสี่ยวไป๋ซูฉีฮันรีบบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
นางต้องการเสียสละตนเองเพื่อปิดกั้นสายฟ้า
“ลูกสาวที่โง่เขลา”ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นและหยุดซูฉีฮันเอาไว้
ซูฉีฮันเห็นคนที่มาถึงนางทั้งตกใจและยินดี“ท่านพ่อ!”
คนผู้นี้คือเสนาบดีของราชสํานักยุคปัจจุบันเขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดของถ้ำสวรรรค์วรรณกรรม“หลี่เสี่ยวไป๋เป็นลูกเขยของข้า ข้าจะปล่อยให้เขาตายได้อย่างไรอดทนไว้และอย่าสร้าง
ปัญหา” เสนาบดีซูปลอบใจซูฉีฮันและลอบถอนหายใจอยู่ภายในไป
ลูกสาวของเขาทิ้งพ่อแม่ไปอยู่กับสามี
แม้เสนาบดีซูจะชื่นชมความสามารถของหลี่เสี่ยวไป๋แต่เขาไม่พอใจการตัดสินใจของหลี่เสี่ยว
แรกเริ่มเสนาบดีซูต้องการให้หลี่เสี่ยวไป๋แต่งงานเข้าสู่ตระกูลซูและบ่มเพาะด้วยมรดกของตระกูลซูเพื่อก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะและกลายเป็นข้าราชสํานักด้วยวิธีนี้เขาจะก้าวหน้าได้อย่างราบรื่นและกลายเป็นเสาหลักของตระกูลซู
แต่หลี่เสี่ยวไป๋เลือกที่จะบ่มเพาะด้วยมรดกจากบ้านตําราเขาออกเดินทางไปทั่วเพื่อสะสมประสบการณ์เขาไม่ต้องการรับราชการ การกระทํานี้ทําให้เสนาบดีซูไม่พอใจหลี่เสี่ยวไป๋มีสายตาที่กว้างไกลเกินไปเขาไม่พอใจกับการเป็นเพียงข้าราชสํานักตัวเล็กๆอยู่ในถ้ำสวรรค์วรรณกรรม ขาเป็นร่างแยกของฟางหยวนเขามีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ถ้ำสวรรค์วรรณกรรมไม่สามารถเหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้
แม้เด็กผู้นี้จะไม่รู้ว่าสิ่งใดดีกับตนเองแต่เขาก็ยังเป็นสมาชิกตระกูลซูและชายที่ลูกสาวของข้ารัก ข้าต้องปกป้องเขา’เสนาบดีซูถอนหายใจ เขาสะบัดแขนเสื้อส่งสายรุ้งพุ่งออกไปปิดกั้นสายฟ้าสีเขียวซีดทั้งสามสาย
“บัดซบ! เสนาซูมา!” ตู้จื่อเซียวกรีดร้องด้วยความโกรธ “หลี่เสี่ยวไป๋เจ้าช่างโชคดีนักบุคคลที่ยิ่งใหญ่ปกป้องเจ้าข้าเกลียดเจ้าข้าเกลียดทุกอย่างเกี่ยวกับเจ้า!”
ขณะที่แผนการของตู้จื่อเซียวกําลังจะล้มเหลวร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านซ้ายของเขาร่างนี้ปรากฏขึ้นกลางอากาศเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้อมตะ
ผู้อมตะที่พึ่งมาถึงสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าพุ่งเข้าหาเสนาบดีซู
เสนาบดีซูแสดงออกด้วยความโกรธ “เข้ามา! ข้ามีศัตรูทางการเมืองมากมายเจ้าเป็นผู้ใด?”ผู้อมตะสวมหน้ากากกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง “เสนาซูเจ้าย่อมเข้าใจ ลูกเขยของเจ้ายอดเยี่ยมเกินไป มันจะดีกว่าหากตระกูลซูของเจ้าจะไม่แข็งแกร่งมากไปกว่านี้อย่าคิดว่าจะสามารถช่วยเขา!”
“มีบางคนช่วยข้า! ฮ่าฮ่าฮ่ายอดเยี่ยม!”ตู่จื่อเซียวตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นความสุข“ท่านพ่อ!”ซูฉีฮันตะโกนด้วยความเป็นห่วง “ช่วยเสี่ยวไป๋ด้วย!”
“เปรี้ยง!”
สายฟ้าสีเขียวซีดพุ่งลงมาอีกครั้งหลี่เสี่ยวไป๋ใช้กําแพงกวีปกป้องตนเอง
ตู้จื่อเซียวกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง“อย่าคิดว่าจะสามารถป้องกัน!”
ควันสีเทาลอยขึ้นมาจากร่างของเขาและทําให้ภัยพิบัติรุนแรงขึ้นอีกครั้ง
กําแพงกวีพังทลายลงด้วยสายฟ้าแห่งภัยพิบัติแต่พลังงานส่วนใหญ่ของมันสลายไปแล้วสายฟ้าส่วนที่เหลือพุ่งปะทะร่างของหลี่เสี่ยวไป๋
“เสี่ยวไป๋!”ซูฉีฮันตกใจมากนางพุ่งเข้าไปหาเขาโดยไม่คํานึงถึงสิ่งใด
เนื่องจากนางไม่สามารถแก้ปัญหานี้นางจึงต้องการตายพร้อมกับเขา
แต่ในช่วงเวลาสําคัญหลี่เสี่ยวไป๋กลับโบกมือหยุดซูฉีฮัน“อย่าใจร้อนในสถานการณ์อันตรายข้าได้รับแรงบันดาลใจข้าต้องการท่องบทกวี”
“อันใด!?” ซูฉีฮันตกตะลึง
ร่างกายของเสนาบดีซูและผู้อมตะสวมหน้ากากกลายเป็นแข็งค้าง
เสนาบดีซูต้องหันไปมอง ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับหลี่เสี่ยวไป๋เขารอด
ชีวิตจากอันตรายร้ายแรงมาหลายครั้งด้วยการสร้างบทกวีที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาในจังหวะสําคัญ“อีกครั้งงั้นหรือ?ข้าจะดูว่าความสามารถของเจ้าเหนือกว่าสวรรค์หรือไม่!”ใบหน้าของตู้จื่อเซียวกลายเป็นมืดครึ้ม
ในอดีตตู้จื่อเซียวเคยต่อสู้กับหลี่เสี่ยวไป๋เขามีข้อได้เปรียบและสามารถเอาชนะฝ่ายหลังแต่ในช่วงเวลาสําคัญบทกวีของหลี่เสี่ยวไป๋กลับทําให้สถานการณ์พลิกคว่ำประสบการณ์นี้กลายเป็นบาดแผลฝังลึกอยู่ในหัวใจของตู้จื่อเซียว
ทุกคนตั้งใจฟังขณะหลี่เสี่ยวไป๋ท่องบทกวี
“ใต้ต้นสนข้าขอเป็นศิษย์เขาตอบว่าอาจารย์ของเขาไปเก็บสมุนไพรเขาอยู่บางแห่งบนภูเขาภายใต้เมฆสีขาวอันหนาทึบร่างของเขาถูกซ่อนเอาไว้ในป่าสน…”
เขา
ตัวอักษรสีดําบินออกมาจากปากของหลี่เสี่ยวไป๋เป็นเส้นสายและกลายเป็นห่วงโซ่หมุนรอบตัว
ไม่กี่ลมหายใจต่อมาห่วงโซ่บทกวีก็กลายเป็นหมอกสีขาวที่หนาทึบปกคลุมอยู่รอบตัวเขา
สายฟ้าสีเขียวซีดถูกดูดกลืนเข้าไปในหมอกสีขาวทั้งหมด
หมอกสีขาวค่อยๆจางหายไปพร้อกกับสายฟ้าสีเขียวซีดขณะที่หลี่เสี่ยวไป๋ไม่ได้รับอันตรายใดๆทั้งสิ้น
ตู้จื่อเซียวตกตะลึง
เสนาบดีซูชมเชย“กวีที่ดีกวีที่ดีถ้อยคํากระชับตรงไปตรงมาปลุกเร้าอารมณ์มีความนัยซ่อนเร้นบรรยายความรู้สึกซับซ้อนด้วยถ้อยคําง่ายๆแต่ให้อารมณ์ที่จริงใจและน่าตื่นเต้น”
ซูฉีฮันยกมือขึ้นทาบอกและมองหลี่เสี่ยวไปด้วยสายตาชื่นชม “เสี่ยวไป๋คืออัจฉริยะตัวจริงบทกวีของเขาไม่มีถ้อยค่าที่ฉูดฉาดและให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมันมีทั้งความสดใสและความนัย
ซ่อนเร้น มันเป็นบกทวีที่งดงามจริงๆ!”
ผู้อมตะที่สวมหน้ากากหัวเราะ “ข้าเข้าใจแล้วตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว หลี่เสี่ยวไป๋เจ้าเป็นอัจฉริยะที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบเมฆสีขาวในบทกวีของเจ้าแสดงถึงความบริสุทธิ์ของเจ้าต้นสนแสดงถึงทัศนคติที่ตรงไปตรงมาของเจ้าคนเช่นเจ้าจะลดตัวลงมาเป็นเพียงข้าราชสํานักได้อย่างไรลืมมันไปซะข้าจะจากไปด้วยความสามารถของเจ้า หากเจ้าตายในภัยพิบัติมันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของโลกใบนี้ ข้าจะกลายเป็นคนบาปในประวัติศาสตร์”
หลังกล่าวจบค่าผู้อมตะสวมหน้ากากก็จากไป
เสนาบดีซูแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อน
“เขาไปแล้ว เขาปล่อยหลี่เสี่ยวไป๋ไปงั้นหรือ!”ตู้จื่อเซียวกระอักเลือดคําโตออกมาจากปาก
เขาถอยหลังกลับไปสองสามก้าวและแทบล้มลง
“สิ่งนี้เกิดขึ้นอีกครั้งหลี่เสี่ยวไป๋ทําให้ผู้คนเชื่อมั่นในความสามารถของเขาอีกครั้งข้าไม่พอใจข้าไม่เข้าใจนี่คือสิ่งที่ข้าควรได้รับงั้นหรือ!”
“อ๊าก…” ตู้จื่อเซียวกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งขณะที่ควันสีเทาลอยออกมาจากร่างของเขาอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกันร่างกายของตู้จื่อเซียวก็เริ่มแก่ลงเขาเปลี่ยนจากชายหนุ่มป็นชายวัยกลางคนควันสีเทาลอยขึ้นสู่อากาศและถูกค้นพบโดยเสนาบดีซู“เจ้าเป็นคนสร้างปัญหางั้นหรือ?ตู้จื่อเซียวเจ้าเป็นอดีตนักปราชญ์อันดับหนึ่งของโลกแต่เจ้ากลับทําตัวน่ารังเกียจเช่นนี้!”
ตู้จื่อเซียวเผยรอยยิ้มขมขื่น“นักปราชญ์อันดับหนึ่งของโลกงั้นหรือ? ข้าไม่ใช่อันดับหนึ่งอีกต่อไปแต่ข้าจะทวงคืนตําแหน่งนี้กลับมาด้วยตนเอง!”
เสนาบดีซูตะโกน “ดูเหมือนวันนี้ข้าจะถูกบังคับให้ฆ่าเจ้า!”
“ทําได้ก็ลองดู” อีกคนบินมาจากด้านขวาของตู้จื่อเซียว
ผู้อมตะผู้นี้สวมหน้ากากไว้บนใบหน้าเช่นกัน
“มีคนมาช่วยข้างั้นหรือ?”ตู้จื่อเซียวมีความสุขมาก
ผู้อมตะสวมหน้ากากต่อสู้กับเสนาบดีซูขณะที่ควันสีเทาลอยเข้าไปในเมฆภัยพิบัติพลังอํานาจของภัยพิบัติเพิ่มขึ้นอีกครั้งสายฟ้าสีเขียวซีดสามสายพุ่งลงมาที่หลี่เสี่ยวไป๋
เสนาบดีซูโกรธมาก “ข้ามีศัตรูทางการเมืองมากมาย เจ้าเป็นผู้ใด?”
ผู้อมตะสวมหน้ากากเผยรอยยิ้มเย็นชา “แม้เจ้าจะรู้แล้วอย่างไร? ลูกเขยของเจ้าไม่สามารถต่อต้านภัยพิบัติเขาจะต้องตาย!”
“เสี่ยวไป๋!” ซูฉีฮันตะโกนด้วยความสิ้นหวัง
แต่หลี่เสี่ยวไป๋โบกมือ “ในสถานการณ์อันตราย ข้าได้รับแรงบันดาลใจเพิ่มขึ้นข้ารู้สึกว่าข้าสามารถสร้างบทกวีที่ดีได้อีกครั้ง”
“อันใด!? อีกครั้งงั้นหรือ? ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อ!” ตู้จื่อเซียวส่ายศีรษะอย่างบ้าคลั่งเสนาบดีซูยังกังวล“สถานการณ์อันตรายกระตุ้นให้ผู้บ่มเพาะเกิดแรงบันดาลใจและสามารถสร้างสรรผลงานที่ดีเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์สิ่งนี้เกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์แต่สถานการณ์เช่นนี้มักบีบเค้นศักยภาพของผู้บ่มเพาะออกมาทั้งหมด สิ่งนี้ไม่สามารถบังคับได้ มันอาจทําให้เขาตกอยู่ในอันตราย!”
“เสี่ยวไป๋ ข้าเชื่อในตัวเจ้ารีบท่องเร็วเข้า!”ซูฉีฮันเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
หลี่เสี่ยวไปลอบถอนหายใจอยู่ภายใน
เขาไม่ต้องการทําตัวโดดเด่นแต่เขาไม่มีทางเลือก
วิธีการของเขาไม่สามารถต่อต้านภัยพิบัติเขาต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากถ้ำสวรรค์วรรณกรรม
ตราบเท่าที่เขาท่องบทกวีที่โดดเด่นท่าไม้ตายอมตะสนับสนุนผู้มีความสามารถทางวรรณกรรมของถ้ำสวรรค์วรรณกรรมจะช่วยเหลือเขา
พิบัติ
ก่อนหน้านี้บทกวีของหลี่เสี่ยวไป๋ก็ทําให้เขาได้รับรางวัลและทําให้เขารอดชีวิตจากสายฟ้าภัย
ดังนั้นหลี่เสี่ยวไป๋จึงท่องบทกวีอีกครั้ง
“เนินเขากว่าพันลูกไร้วิหคโบยบินเส้นทางนับไม่ถ้วนไร้รอยเท้าทิ้งไว้เบื้องหลังชายหมวก
ฟางนั่งอยู่ในเรือล่าเล็กตกปลาอยู่เพียงลําพังในหนองน้ำที่เย็นยะเยือก….
เมื่อบทกวีถูกท่องออกมาสายฟ้าภัยพิบัติก็สลายไปทันที
“บทกวีที่ดีนี่คือบทกวีศักดิ์สิทธิ์!ข้าเข้าใจแล้วตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว หลี่เสี่ยวไป๋เจ้าไม่เคยต้องการเป็นข้าราชการตั้งแต่แรกเจ้ามีพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ข้าไม่สามารถฆ่าเจ้าได้จริงๆข้าจะจากไป!”ผู้อมตะสวมหน้ากากถอนหายใจเขายกย่องก่อนจะจากไป
“พรวด!”
ตู้จื่อเซียวกระอักเลือดคําโตออกมาและล้มลงบนพื้น
“อีกแล้วเป็นเช่นนี้อีกแล้ว!ข้ารู้ว่าบทกวีของเขาดีจริงๆแต่นั่นยิ่งทําให้ข้าเจ็บปวดมากขึ้นข้าเบื่อหน่ายกับคําชมเหล่านั้นมันช่างน่าสะอิดสะเอียนข้าอยากให้เจ้าตายข้าอยากให้เจ้าตาย!”
ตู้จื่อเซียวเรียกควันสีเทาออกมาอีกครั้งขณะที่ร่างกายวัยกลางคนของเขาเปลี่ยนเป็นวัยชราหลี่เสี่ยวไป๋ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตอีกหน
ข้าต้องท่องบทกวีอีกหรือไม่?’หลี่เสี่ยวไป๋กังวล
เขาไม่ต้องการทําเช่นนั้นเพราะมันจะทําให้เขาโดดเด่นมากเกินไป
มันน่าสงสัยเกินไป!
‘ข้าไม่มีทางเลือกข้าต้องท่อง!’หลี่เสี่ยวไป๋มองตู้จื่อเซียวที่นอนอยู่บนพื้นและรู้สึกไม่มีทางเลือกหลี่เสี่ยวไปท่องบทกวีเสียงดัง
“ดวงตะวันเหนือขุนเขาทอแสงแม่น้ำเหลืองไหลลงสู่มหาสมุทร ผู้คนสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่ยิ่งใหญ่โดยการปีนสูงขึ้นไป…”
วิกฤตของหลี่เสี่ยวไป๊คลี่คลาย เมฆภัยพิบัติกระจายออกไป ปราณทั้งสามระเบิดและให้กําเนิดมิติช่องว่างอมตะเขากลายเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล!
“โอ้ สวรรค์ตั้งแต่ท่านให้ข้าเกิดมาเหตุใดต้องให้หลี่เสี่ยวไป๋เกิดมาด้วย?”ตู้จื่อเซียวโอดครวญด้วยความโศกเศร้า“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้าคือนักกวีอมตะหลี่เสี่ยวไป๋!”เสนาบดีซูบินเข้าไปหาหลี่เสี่ยวไป๋ด้วย
ความรู้สึกซับซ้อน
เขาถอนหายใจ“คลื่นลูกใหม่มาแทนคลื่นลูกเก่าเสมอข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไป ข้าต้องการให้เจ้าเข้าสู่ราชสํานักแต่ความปรารถนาของเจ้ายิ่งใหญ่เกินไปเปรียบเทียบกับเจ้าข้าก็เป็นเพียงคน ธรรมดาเท่านั้นช่างน่าขันนักตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้าสามารถออกเดินทางสํารวจโลกกว้างได้ตามใจปรารถนาอย่าทําให้ลูกสาวของข้าผิดหวัง!”
หลี่เสี่ยวไป๋อ้าปากค้างเขาต้องการบอกว่าการเป็นข้าราชสํานักเป็นความคิดที่ดีเขาต้องการเป็นข้าราชสํานักเพื่อรับทรัพยากรและสร้างเครือข่ายแต่บทกวีที่เขาท่องออกมาก่อนหน้านี้กลับบอกเจตนาอีกอย่าง
ดังนั้นหลี่เสี่ยวไป๋จึงต้องกล่าวว่า“ท่านพ่อตาอย่ากังวลข้าจะปกป้องเสี่ยวฮันอย่างแน่นอน”
หลี่เสี่ยวไป๋และเสนาบดีซูบินลงสู่พื้น
“สามีของข้าท่านช่างยอดเยี่ยมนัก!พรสวรรค์ของท่านยิ่งใหญ่ดั่งมหาสมุทรมันไม่สามารถประเมินได้ด้วยสามัญสํานึกอีกต่อไป”ซูฉีฮันวิ่งเข้าไปหาหลี่เสี่ยวไป๋
เสนาบดีซูได้ยินคํากล่าวของบุตรสาวและรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้หักล้างคําพูด
เหล่านั้นของนางหลี่เสี่ยวไป๋จมูกเขาสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้นมาแล้วเขาต้องไหลไปตามกระแส“กล่าวตามตรงตั้งแต่ข้าเกิดมาข้ารู้สึกเสมอว่าข้าแตกต่างจากผู้อื่น….”