Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2122 ภาพวาดเก้ามังกร
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2122 ภาพวาดเก้ามังกร
เขาสวมเสื้อคลุมสีดํา เส้นผมสีแดงเหมือนเลือด ใบหน้าเป็นชายรูปงาม ลูกๆของเขารวมตัวกัน
อยู่ในห้องโถง
ภายใต้การจ้องมองของพวกเขา เฉิงเยี่ยนเฟยน่ากองหนังสัตว์ออกมา
แผ่นหนังสัตว์แต่ละผืนมีภาพวาดรูปมังกรและข้อความที่เขียนด้วยหมึกสีดํา มันดูเก่าแก่มาก
“นี่คือภาพวาดเก้ามังกร ข้าได้รับมันมาจากศพของผู้อมตะ ในวัยหนุ่ม ข้าบังเอิญพบมัน น่า เสียดายที่โอกาสอมตะนี้ไม่เหมาะสมกับข้า แม้ข้าจะถามผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลแล้ว แต่ข้าก็ไม่
สามารถคลี่คลายมัน ตอนนี้ข้าจะส่งต่อภาพวาดเก้ามังกรให้กับพวกเจ้า ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะ
สามารถไขปริศนาและรับโอกาสอมตะ”
หลังกล่าวจบคํา เฉิงเยี่ยนเฟยก็หันหน้าไปทางเฉิงชิวหนิว
“ชิวหนิว มานี่” เขาเรียก
“ท่านพ่อ” เฉิงชิวหนิวเดินเข้าไปหาเฉิงเยี่ยนเฟย
เฉิงเยี่ยนเฟยส่งแผ่นหนังสัตว์ผืนแรกให้เขา “นี่คือภาพวาดของชิวหนิว ข้ามอบสิ่งนี้ให้เจ้า เพราะมันเหมือนเจ้า เจ้าเป็นบุตรชายคนโตของข้า เจ้ามีบุคลิกที่พึ่งพาได้ ข้ามั่นใจว่าการฟื้น คืนชีพครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สําหรับเจ้า อย่าทําให้ข้าผิดหวัง”
เฉิงชิวหนิวรับแผ่นหนังสัตว์ด้วยสองมือ “ท่านพ่อ ข้าจะทําให้ดีที่สุดและจะไม่ทําให้ท่านพ่อผิดหวัง”
“หยาจื่อ เข้ามา” เฉิงเยี่ยนเฟยเรียกบุตรชายอีกคนของเขา “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จงขยายวิสัย ทัศน์ของเจ้าให้กว้างขวางขึ้น อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย มันจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้า” “ข้าจะจดจํานําสั่งสอนของท่านพ่อเอาไว้” เฉิงหยาจื่อรับแผ่นหนังสัตว์จากเฉิงเยี่ยนเฟย
เฉิงเยี่ยนเฟยเรียกลูกๆของเขาทีละคนและแจกจ่ายแผ่นหนังสัตว์แก่ลูกเก้าคน
เฉิงซินซื่อไม่ถูกเรียก นางสังเกตอย่างระมัดระวังและพบว่าภาพวาดมังกรทั้งเก้ามีลักษณะที่ แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นภาพวาดมังกรของเฉิงจ้าวเฟิงดูน่ากลัว ภาพวาดมังกรของเฉิงไป่ซื่อ เหมือนเต่ามังกร ภาพวาดมังกรของเฉิงไปอันเหมือนมังกรพยัคฆ์ที่ดุร้าย
มีแผ่นหนังสัตว์เพียงเก้าผืน ในไม่ช้าพวกมันก็ถูกแจกจ่ายจดหมด แต่เฉิงเยี่ยนเฟยมีบุตรธิดา
มากกว่าเก่าคน
เฉิงเยี่ยนเฟยเรียกเฉิงเต๋าไห่ “เจ้าจัดการขบวนสินค้าได้ดี ข้าจะมอบขบวนสินค้าทั้งหมดให้ เจ้า นอกจากนี้ข้ายังมีมรดกบนเส้นทางแห่งวารี มันเป็นมรดกอมตะ แม้เนื้อหาของมันจะไม่ สมบูรณ์ แต่มันยังล้ําค่ามาก ข้าหวังว่าเจ้าจะทํางานหนักต่อไปในอนาคต”
หลังจากนั้นเขาก็เรียกเฉิงอี้ฟาน “นี่เป็นมรดกของผู้ใช้วิญญาณระดับห้า แต่มันมีเบาะแสเกี่ยว
กับมรดกอมตะ มันขึ้นอยู่กับความพยายามของเจ้า”
ในที่สุดเฉิงเยี่ยนเฟยก็เรียกเฉิงซินซื่อ
“ท่านพ่อ” เฉิงซินซื่อเดินเข้าไปหาพ่อของนาง
เฉิงเยี่ยนเฟยถอนหายใจ “ข้าแจกจ่ายมรดกของข้าไปหมดแล้ว เหลือเพียงบ้านหลังนี้ ซินซื่อ ท่ามกลางลูกๆทั้งหมดของข้า เจ้าเป็นคนที่เหนือความคาดหมายของข้ามากที่สุด หากเจ้าไม่ รังเกียจ รับบ้านหลังนี้ไว้นี้”
ห้องโถงตกสู่ความโกลาหลทันที
ลูกคนอื่นๆของเฉิงเยี่ยนเฟยต้องการกล่าวบางคําแต่กลับไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมา
เห็นได้ชัดว่าเฉิงเยี่ยนเฟยกําลังทําสิ่งใดอยู่
ภายใต้สายตาของทุกคน เฉิงซินซื่อตอบกลับอย่างสงบ “ขอบคุณท่านพ่อสําหรับของขวัญชิ้น
หลังการประชุมครั้งนี้สิ้นสุดลง ลูกๆของเฉิงเยี่ยนเฟยบางส่วนลอบรวมตัวกันอย่างลับๆ “อืม ท่านพ่อมอบบ้านให้เฉิงซินซื่อจริงๆ”
“เขาไม่แม้แต่จะให้เราพูดคัดค้าน”
“ดูเหมือนท่านพ่อต้องการให้เฉิงซินซื่อเป็นผู้นําตระกูลจริงๆ เราควรทําอย่างไร?”
“นี่ไม่ยุติธรรม! พวกเราได้รับสิ่งใด ของไร้สาระหรือมรดกที่ไม่สมบูรณ์ ส่วนเฉิงซินซื่อ นาง กําลังจะกลายเป็นผู้นําตระกูล นางจะกลายเป็นเมล็ดพันธุ์อมตะและได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี!”
ย้อนกลับไปในอดีตเมื่อเฉิงเยี่ยนเฟยยังเป็นนายน้อยของตระกูล เขาถูกนายน้อยคนอื่นๆกดขี่ เขาละทิ้งตําแหน่งนายน้อยและกลายเป็นคนธรรมดา ในช่วงชีวิตที่ตกต่ํา เขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้
หลังจากนั้นเมื่อเขากลายเป็นผู้นําตระกูล เขายังรักษาบ้านหลังนี้เอาไว้เพื่อใช้มันเป็นเครื่อง เตือนใจสําหรับตนเองและทายาทรุ่นต่อๆไป งานเลี้ยงของตระกูลจะถูกจัดขึ้นที่นี่เสมอ
ต่อมาเมื่อฟางหยวนและไป่หนิงปิงออกจากภูเขาชิงเหมา พวกเขานําเฉิงซินซื่อกลับมายังตระ
กูลเฉิงและเข้าร่วมงานเลี้ยงที่บ้านหลังนี้
เฉิงเยี่ยนเฟยมอบบ้านหลังนี้ให้เฉิงซินซื่อ เรื่องนี้มีความนัยซ่อนอยู่ มันหมายความว่าเขากําลัง
ส่งมอบตําแหน่งผู้นําตระกูลให้นาง
แม้เฉิงซินซื่อจะเป็นผู้นําตระกูลมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ตามกฎ นางต้องได้รับการแต่งตั้งอย่าง เป็นทางการจากผู้นํารุ่นก่อน ด้วยวิธีนี้ผู้คนจะไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์นาง
“ท่านพ่อล่าเอียงเกินไป!”
“ถูกต้อง เขารักเฉิงซินซื่อมากที่สุด เราควรทําอย่างไร?”
“ทุกคน เราจะมองดูสิ่งนี้เกิดขึ้นงั้นหรือ? นางเป็นเพียงลูกนอกสมรส!”
“ฮึม หลังจากที่ข้าตาย พวกเจ้ากลายเป็นไร้ประโยชน์ พวกเจ้าปล่อยให้นางเป็นผู้นําาจริงๆ”
“ข้าไม่ใช่ผู้ตัดสิน มันเป็นคําสั่งจากผู้อาวุโสสูงสุด”
“ในความคิดเห็นของข้า ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลทําไม่ถูก
“เฉิงซินซื่อและฟางหยวนมีความสัมพันธ์ลึกลับ ข้าเกรงว่าตัวตนระดับสูงจะคิดถึงเรื่องนี้”
การสนทนาหยุดชะงักลง
หลังจากเงียบไปชั่วครู่ เฉิงอี้ฟานก็เปิดปากกล่าว “ฟางหยวนเคยอาศัยอยู่บนภูเขาเฉิงเหลียง ระยะหนึ่ง ตอนนี้เขาเป็นคนที่สามารถส่งอิทธิพลต่อโลกทั้งใบ เหตุใดเขาต้องสนใจเรื่องของมด ตัวเล็กตัวน้อยเช่นพวกเรา ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลคิดมากเกินไป พวกเขาไม่เห็นหรือว่าหลัง จากหลายปี ฟางหยวนไม่เคยช่วยเฉิงซินซื่ออีกเลย”ผู้นํา
ถ้อยคําเหล่านี้ทําให้ดวงตาของทุกคนส่องประกายขึ้นอีกครั้ง
พวกเขาคิดว่าฟางหยวนลืมภูเขาเฉิงเหลียงไปแล้วขณะที่พวกเขาไม่เต็มใจที่จะละทิ้งตําแหน่ง
เฉิงอี้ฟานกล่าวต่อ “เฉิงซินซื่อแข็งแกร่ง แต่มันไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถต่อสู้กับ
นาง เราต้องร่วมมือกันเพื่อเอาชนะนาง เราต้องแยกกองกําลังของนาง”
เฉิงหยาจื่อเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน “เราต้องโจมตีพร้อมกัน เฉิงซินซื่อจะไม่สามารถจัดการทุกสิ่ง ได้ทันเวลา ข้าพบผู้เชี่ยวชาญบางคนเมื่อไม่นานมานี้ หากเราสามารถขอความช่วยเหลือจากเขา
เฉิงซินซื่อจะต้องพบปัญหามากมาย ชื่อเสียงของนางจะตกต่ําลงหลายวันต่อมาในห้องทํางาน
เฉิงซินซื่อขมวดคิ้วขณะฟังรายงานของเฉิงปู้หลี่ “สถานการณ์เลวร้ายมาก ในเวลาเพียงไม่กี่ วัน ปัญหาที่เกิดขึ้นกระจายไปทั่วภูเขาเฉิงเหลียง”
ไม่กี่วันก่อนสินค้าเลียนแบบเริ่มปรากฏขึ้นในตลาด วิญญาณปลอมเหมือนกับของจริงมาก แม้ มันจะสามารถใช้งาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกมันจะเปิดเผยตัวตนและระเบิดตัวเอง ผู้ซื้อจะพบกับ ความสูญเสียครั้งใหญ่
วิญญาณปลอมปรากฏขึ้นบนภูเขาเฉิงเหลียงส่งผลต่อชื่อเสียงของตระกูลเฉิง
สถานการณ์รุนแรงมาก เสี่ยวตี้ยืนอยู่ข้างเฉิงซินซื่อและมองเฉิงปู้หลี่ด้วยความไม่พอใจ “ท่าน เฉิงปู้หลี่ ท่านเป็นผู้ดูแลตลาด เหตุใดท่านจึงปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เหตุใดจึงเก็บข้อมูลไว้เป็น เวลานานก่อนจะรายงาน?”
เฉิงปู้หลี่ก่นเสียงเย็น “ข้าไร้ประโยชน์ ข้าทําให้ท่านผิดหวัง ท่านผู้นํา สถานการณ์ตอนนี้ รุนแรงเกินไป ข้าไม่สามารถแก้ไข ข้าจะลาออก โปรดอย่าหยุดข้า”
“เจ้า!” เสี่ยวตี้ตกตะลึง นางกล่าว “เจ้าพยายามข่มขู่ผู้ใด?”
เฉิงปู้หลี่มองเสี่ยวตี้อย่างเย็นชา “เจ้าเป็นเพียงคนรับใช้ ข้าจะไม่ตําหนิเจ้า ท่านผู้นํา ข้าจะลา
ออก โปรดอนุญาตด้วย”
เฉิงซินซื่อมองเฉิงปู้หลี่อย่างลึกซึ้งก่อนจะตอบอย่างสงบ “เช่นนั้นข้าก็จะอนุญาตให้เจ้าลา
ออก”
“ลาก่อน!” เฉิงปู้หลี่หัวเราะเบาๆก่อนจะจากไป “เขาทิ้งปัญหาเอาไว้และจากไปงั้นหรือ?” เสี่ยวตี้ตะลึง
“ท่านผู้นําา ท่านเฉิงเต๋าไห่ขอเข้าพบ” เสี่ยวหลานกล่าวรายงาน สายตาของเฉิงซินซื่อสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ “ให้เขาเข้ามา”
เฉิงเต๋าไห่เข้ามา เมื่อเห็นการแสดงออกของเฉิงซินซื่อ เขาพยักหน้า “ดังนั้นท่านก็ตระหนักถึง
มันแล้ว”
เฉิงซินซื่อกล่าว “เพราะตําแหน่งผู้นําตระกูลงั้นหรือ?”
เฉิงเต๋าไห่ตอบ “ถูกต้อง เฉิงปู้หลี่ควบคุมตลาดทาส ธุรกิจของเขาดําเนินไปได้ด้วยดี แต่หลัง
จากท่านก้าวขึ้นมาเป็นผู้นํา ท่านไม่ชอบความโหดร้ายเช่นนี้ ท่านสั่งห้ามการค้าทาส นั่นทําให้เฉิง ปู้หลี่ถูกโน้มน้าวโดยหนอนบ่อนไส้และสมรู้ร่วมคิดในการปลอมสินค้าครั้งนี้”
“เจ้าแก่ผู้นี้!” เสี่ยวตี้กัดฟันด้วยความโกรธ
เฉิงเต๋าไห่กล่าวเสริม “นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมด เฉิงปู้หลี่เป็นเพียงคนแรก คนอื่นๆจะปรากฏตัวออก
มาเร็วๆนี้”
เฉิงซินซื่อพยักหน้า “แล้วเจ้าต้องการสิ่งใด?”
เฉิงเต๋าไห่ตอบอย่างตรงไปตรงมา “เราทั้งคู่ต่างเป็นลูกนอกสมรส แม้ท่านจะล้มลง ข้าก็ไม่ สามารถเป็นผู้นํา ในอนาคต ข้าจะไม่กลับมาบ่อยนัก ข้าจะนําขบวนสินค้าเดินทางไปรอบๆและ สํารวจโลกกว้าง ข้าอยากเป็นผู้อมตะ แต่ข้าไม่สามารถพึ่งพาตระกูล หากท่านกลายเป็นผู้อมตะใน อนาคต ข้าหวังว่าความช่วยเหลือในครั้งนี้ของข้าจะได้รับผลตอบแทนบางอย่าง”
“ข้าจะจ่าสิ่งนี้เอาไว้”
“ลาก่อน”
เมื่อเฉิงเต๋าไห่จากไป เฉิงซินซื่อแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อน
หลังจากเป็นผู้นําตระกูลเฉิงมาหลายปี เฉิงซินซื่อพัฒนาความสามารถมากมายและสามารถ
ขยายอิทธิพลออกไป จากมุมมองของนาง ท่างกลางบุตรธิดาของเฉิงเยี่ยนเฟย เฉิงเต๋าไห่เป็น สามอันดับแรกในแง่ของความสามารถ เขาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในด้านความสามารถและบุคลิก น่าเสียดายที่เขาขาดโอกาส เขาไม่ได้รับความโปรดปรานจากตัวตนระดับสูง “วิญญาณชะตากรรมถูกทําลาย ยุคที่ยิ่งใหญ่มาถึงแล้ว ผู้คนนับไม่ถ้วนกําลังแข่งขันและต่อสู้
เพื่อโอกาสอมตะ’ เฉิงซินซื่อถอนหายใจกับตนเอง
หลังจากนั้นสถานการณ์ก็ดําเนินไปตามค่าเตือนของเฉิงเต๋าไห่
ซูปาและหว่านเฉียนซานลาออก เซียวเยี่ยนได้ยินข่าวเกี่ยวกับทรัพยากรบนเส้นทางแห่งไฟ
เขาต้องออกเดินทางไกลเพื่อรวบรวมพวกมัน
ซ่งถู ซ่งเฮา และซ่งเฟิงได้รับข้อมูลเกี่ยวกับมรดกของบรรพบุรุษและต้องจากไปเช่นกัน
โจวฉวนและเว่ยเต๋อซินล้มป่วยพร้อมกันโดยบังเอิญ
เฉิงซินซื่อขาดลูกน้องที่มีความสามารถจํานวนมากในครั้งเดียว
ผู้ใช้วิญญาณที่ซื้อวิญญาณปลอมเริ่มรวมตัวและสร้างปัญหา
เฉิงซินซื่อต้องนําเสี่ยวตี้และเสี่ยวหลานออกไปควบคุมสถานการณ์
“วิญญาณพวกนี้เป็นของปลอม ตระกูลเฉิงขายของปลอม!”
“ผู้นําตระกูลเฉิงอยู่ที่นี่แล้ว บอกเรามาว่าเจ้าจะทําอย่างไร!”
“ข้าใช้ทรัพย์สินเกือบทั้งหมดเพื่อซื้อวิญญาณระดับสี่ของพวกเจ้าแต่มันกลับเป็นของปลอม!”
“ตระกูลเฉิงขายวิญญาณปลอม นี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับ!”
เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธของผู้คน เฉิงซินซื่อยังสงบนิ่งราวกับน้ําแข็ง “ตระกูลเฉิงจะจ่าย
เงินชดเชยให้พวกท่านทั้งหมด เรายังจะมอบเงินชดเชยเป็นสองเท่าของจํานวนเงินที่พวกท่าน
สูญเสียไป”
เพียงประโยคเดียว สภาพแวดล้อมเงียบลงทันที
เฉิงหยาจื่อและคนอื่นๆเฝ้ามองอยู่ในความมืดด้วยความกังวล อย่างไรก็ตามบางคนกลับตะโกนออกมาจากกลุ่มคน “เราต้องการค่าชดเชยทันที!”
“ถูกต้อง เจ้าให้คํามั่นกับเราแต่เจ้าอาจใช้อุบายในที่มืด นี่คืออุบายของตระกูลเฉิง!”
“ตระกูลเฉิงขายสินค้าปลอม เราจะเชื่อคําพูดของพวกเจ้าได้อย่างไร?”
“ข้าไม่สน ร้านค้าของพวกเจ้าโกงเงินที่เราหามาอย่างยากลําบาก ข้าต้องการทําลายพวกมัน!” คนร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนรีบดําเนินการและโจมตีเฉิงซินซื่อ
เฉิงซินซื่อยกมือขึ้นและใช้ท่าไม้ตายของนางปกป้องร้านค้าที่อยู่ด้านหลัง นางสามารถปิดกั้น
การโจมตีทั้งหมด
เสี่ยวหลานกับเสี่ยวตี้เตรียมพร้อมโจมตีแต่เฉิงซินซื่อหยุดพวกนางเอาไว้
แสงสว่างส่องประกายขึ้นจากดวงตาของเฉิงซินซื่อขณะที่นางใช้ท่าไม้ตายเขตแดน
คนร้ายถูกจับกุมทันที ถนนที่เคยอึกทึกเงียบลงในพริบตา
“ทรงพลังนัก!”
“ผู้ใดจะคิดว่าเฉิงซินซื่อจะซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้!”
เฉิงหยาจื่อและคนอื่นๆเฝ้ามองด้วยความตกใจ
ในเวลานี้พวกเขารู้สึกเหมือนกําลังมองเฉิงเยี่ยนเฟยบิดาของพวกเขา