Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2126 ตระกูลหนึ่
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2126 ตระกูลหนึ่
เมืองชั้นในชั้นที่หนึ่งเฉิงซินซื่อกําลังจัดการงานของตระกูล
“การซ่อมแซมเมืองชั้นที่สองเสร็จสิ้นแล้วเหตุการณ์วิญญาณปลอมได้รับการแก้ไขเช่นกัน”
เฉิงซินซื่อตรวจสอบวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลและเผยรอยยิ้มบางขึ้นบนใบหน้าจากนั้นนางก็เพิ่มเนื้อหาลงไปในวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูล
นางตัดสินใจลดราคาสินค้าทั้งหมดที่ขายในร้านค้าของตระกูลเฉิง
“ด้วยวิธีนี้เราจะสามารถเพิ่มชื่อเสียงให้กับตระกูลเฉิงและลดความสูญเสียที่เกิดขึ้น”
นิ้วอันบอบบางของเฉิงซินซื่อคลายออกวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลบินออกจากห้องหางาน
เฉิงซินซื่อหยิบวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงต่อไปขึ้นมาจากโต๊ะ
มันมาจากเฉิงซื่อหว่าน
ตั้งแต่เฉิงปู้หลี่ลาออกเฉิงซินซื่อมอบงานดูแลร้านค้าให้กับเฉิงซื่อหว่าน
วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลบอกว่ากลุ่มพ่อค้ากักตุนสินค้าเพื่อผลักดันราคาคําแนะนําของ
เฉิงซื่อหว่านคือฆ่าพวกเขาทั้งหมด
“เห้อ…เพื่อผลประโยชน์ของตนเองคนเหล่านี้ถึงกับทําร้ายผู้คนจํานวนนับไม่ถ้วน”เฉิงซินซื่อถอนหายใจนางไตร่ตรองและตอบกลับว่าให้ฆ่าเฉพาะคนร้ายคนสําคัญเท่านั้นและให้ปล่อยคนที่เหลือไป
หลังจากวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลบินออกไปนางก็ตรวจสอบวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงที่สาม
หมู่บ้านที่อยู่ในอาณาเขตรอบนอกของตระกูลเฉิงเผชิญหน้ากับคลื่นสัตว์อสูรและอาจถูกทําลายล่าง
หมู่บ้านแห่งนี้มีผู้ใช้วิญญาณระดับสามเพียงไม่กี่คนและแทบไร้นัยสําคัญ
“การช่วยคนก็เหมือนกับการดับไฟคําร้องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนเหตุใดมันจึงถูกส่งมาในช่องทางปกติ?”เฉิงซินซื่อขมวดคิ้วแต่นางเข้าใจเหตุผล
ลูกน้องของนางรู้จักธรรมชาติของนาง นางจะให้ความช่วยเหลือคนเหล่านี้อย่างแน่นอนแต่สถานการณ์ปัจจุบันค่อนข้างวุ่นวายยุคที่ยิ่งใหญ่มาถึงแล้วกระแสลมปราณอาละวาดไปทั่วมรดกทุกประเภทปรากฎขึ้นทุกกองกําลังพยายามช่วงชิงพวกมันทั้งผู้ใช้วิญญาณและผู้อมตะต่างยุ่งอยู่กับเรื่องเหล่านี้การนํากําลังคนบางส่วนออกไปทําภารกิจกู้ภัยที่ไร้ประโยชน์ถือเป็นการสูญเสียทรัพยากรและกําไรของตระกูล
“เมื่อพิจารณาจากเวลา มันอาจสายเกินไปแล้วเห้อ….หัวใจของผู้คน…” บ่อยครั้งที่เฉิงซินซื่อ
รู้สึกถึงความไร้นัยสําคัญของตนเองเช่นเดียวกับตอนนี้นางเข้าใจความคิดของผู้ใต้บังคับบัญชาของนางแต่นางไม่สามารถทําสิ่งใด
ยิ่งนางดํารงตําแหน่งผู้นําตระกูลเฉิงนานเท่าใดนางก็ยิ่งตระหนักถึงความไร้อํานาจมากขึ้นเท่านั้นเมื่อเปรียบเทียบกับตระกูลเฉิงทั้งหมดหรือโลกทั้งใบนางไร้นัยสําคัญอย่างสิ้นเชิง
“บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่ผู้บ่มเพาะทุกคนเดิมพันด้วยชีวิตเพื่อไล่ล่าความแข็งแกร่ง”เฉิงซินซื่อครุ่นคิดแต่ยังตัดสินใจส่งผู้ใช้วิญญาณส่วนหนึ่งออกไปเพื่อช่วยเหลือผู้คน
แม้มันจะมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่หมู่บ้านแห่งนี้จะถูกทําลายล้างไปแล้วก็ตามวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงต่อมากล่าวถึงข่าวดี
แหล่งทรัพยากรบนเส้นทางแห่งพลังปราณถูกค้นพบรอบๆภูเขาเฉิงเหลียงพวกเขาต้องจัดตั้งกองกําลังเอาไว้ที่นั่นเพื่อปกป้องพวกมันและสนับสนุนหมู่บ้านในบริเวณใกล้เคียง
เฉิงซินซื่อตรวจสอบวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลทีละดวงจนเวลาล่วงเลยจากกลางคืนสู่รุ่งสางโดยไม่รู้ตัว
เป็นเพียงเวลานี้ที่วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงหนึ่งบินเข้ามาหาเฉิงซินซื่อ
หัวใจของเฉิงซินซื่อสั่วไหว“ภารกิจจากเบื้องบน
เฉิงซินซื่อรีบตรวจสอบและตระหนักว่ามันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ
มันกล่าวถึงการแข่งขันเพื่อครอบครองแดนศักดิ์สิทธิ์ขนสัตว์
แดนศักดิ์สิทธิ์ขนสัตว์ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของภาคใต้ มันเก็บมรดกที่แท้จริงขนสัตว์เอาไว้มันเผยตัวออกมาเพราะกระแสลมปราณ เนื่องจากตําแหน่งที่ตั้งของมันอยู่ห่างไกลจากอาณาเขตของกองกําลังใหญ่ทั้งหมดของภาคใต้ดังนั้นมันจึงเกิดการต่อสู้แย่งชิง
กองกําลังใหญ่ฝ่ายธรรมะของภาคใต้พูดคุยและตัดสินใจส่งผู้ใช้วิญญาณไปที่นั่นเพื่อต่อสู้ตัดสิน ผู้อมตะจะไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้
วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลยังกล่าวถึงความลับบางอย่างเกี่ยวกับผู้อมตะขนสัตว์
ผู้อมตะขนสัตว์บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งไม้และเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงแต่นางไม่มีวิธีการบ่มเพาะสองเส้นทางที่ดี ดังนั้นมันจึงเกิดความขัดแย้งระหว่างเส้นทางแห่งไม้และเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงนั่นทําให้พลังการต่อสู้ของนางถดถอยลงอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นเป้าหมายของการกลั่งแกล้งจากผู้อมตะทั้งหมด
“ไม่มีกองกําลังใดสนใจมรดกเช่นนี้ แต่แดนศักดิ์สิทธิ์มีคุณค่า”
“มันไม่ได้อยู่ในอาณาเขตของเรา ในกรณีที่ตระกูลเฉิงชนะและได้รับแดนศักดิ์สิทธิ์ มันจะเป็นเพียงภาระที่จัดการได้ยาก”
ไว้
“แต่สิ่งนี้สามารถทําธุรกรรม ข้าเชื่อว่ากองกําลังใหญ่ที่อยู่ใกล้กับมันจะต้องเต็มใจซื้อมันเอา
ม่านแห่งยุคที่ยิ่งใหญ่ถูกเปิดออกแล้ว ความวุ่นวายครั้งใหญ่จะปะทุขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอนเมื่อเวลานั้นมาถึง แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้จะกลายเป็นตัวช่วยในการขยายอาณาเขตของกองกําลังใหญ่หรือเป็นแนวป้องกันสําคัญสําหรับพวกเขา
ท้ายที่สุดกองกําลังใหญ่เหล่านี้อาจไม่มีวิธีย้ายแดนศักดิ์สิทธิ์
เฉิงซินซื่อประเมินอยู่ในใจ
ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปทําให้เฉิงซินซื่อได้รับข้อมูลของโลกผู้อมตะมากกว่าเฉิงเยี่ยนเฟยดังนั้นแม้เฉิงซินซื่อจะเป็นเพียงผู้ใช้วิญญาณระดับห้าแต่นางก็เข้าใจสถานการณ์ของโลกผู้อมตะเป็นอย่างดี
“นี่เป็นเรื่องสําคัญและเร่งด่วน ข้าต้องรีบจัดการ” เฉิงซินซื่อรู้สึกถึงความยากลําบากแม้เฉิงชิวหนิวเฉิงซื่อหว่าน และคนอื่นๆจะกลายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนางแต่นางยังมีผู้ใต้บังคับบัญชาน้อยเกินไป
“เฟิงเทียนหยูไม่เพียงเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมแต่ยังเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าคราวนี้ข้าควรขอให้เขารับหน้าที่นี้”เฉิงซินซื่อตัดสินใจในไม่ช้าเฟิงเทียนหยูก็ได้รับข้อความและเดินทางมายังห้องทํางานของเฉิงซินซื่อ
ห้องทํางานของเฉิงซินซื่อเป็นคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์
เฟิงเทียนหยูเข้าไปด้วยความตื่นเต้น“ท่านผู้นํา ข้ามีข่าวดีจะแจ้ง”
“โอ้ ข่าวใด?” เฉิงซินซื่อถามด้วยรอยยิ้ม
เฟิงเทียนหยูตอบ “ข้าค้นคว้าเกี่ยวกับอสูรโคลนตนนั้นมาหลายวันและพบความลับที่น่าตกใจบางอย่าง!”
“อสูรโคลนตนนี้อาจไร้สติแต่มันสามารถตอบสนองหากเราถามทีละคําถาม”
“ข้าถามมันและทราบที่มาของมันแล้ว”
“ชื่อเดิมของมันคือหนี่เจี้ยนคนผู้นี้เคยเป็นนายน้อยของหมู่บ้านตระกูลหนี่วันหนึ่งผู้เชี่ยวชาญ
บนเส้นทางปีศาจปรากฏตัวขึ้นและสังหารทุกคนในหมู่บ้านรวมถึงเขา”
“แต่หลังจากเขาเสียชีวิต เขาฟื้นขึ้นมาโดยวิธีการบางอย่างของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณผู้อมตะถามเกี่ยวกับคนร้ายหลังจากได้รับคําตอบผู้อมตะก็จากไปและทิ้งเขาเอาไว้เบื้องหลัง”
“อสูรโคลนหนี่เจี้ยนแข็งแกร่งมาก มันมีพลังการต่อสู้ระดับอมตะ แต่เมื่อเวลาผ่านไป มัน
อ่อนแอลงจนอยู่ในสถานะปัจจุบัน”
“อสูรโคลนตนนี้มีประวัติที่น่าสนใจจริงๆ” เฉิงซินซื่อถอนหายใจ “แต่หมู่บ้านธรรมดาเช่นนี้มีความเชื่อมโยงอย่างไรกับผู้อมตะ?”
เฟิงเทียนหยูกล่าวด้วยความตื่นเต้น “นี่คือประเด็นสําคัญข้าพบว่าคนตระกูลหนี่มีความลับที่ยิ่งใหญ่นานๆครั้งสายเลือดของผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนี่จะตื่นขึ้นหากพวกเขารอดชีวิตวิญญาณ
อมตะจะเติบโตขึ้นในร่างกายของพวกเขา!”
“วิญญาณอมตะ?” เฉิงซินซื่อประหลาดใจ
“วิญญาณอมตะดังกล่าวเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้รับความสนใจจากผู้อมตะ” ดวงตาของเฟิงเทียนหยูส่องประกายขึ้น“นี่มันแปลกเกินไปร่างกายของผู้ใช้วิญญาณสามารถให้กําเนิดวิญญาณ
อมตะ สิ่งสําคัญที่สุดก็คือหมู่บ้านตระกูลหนี่ที่ถูกกวาดล้างเป็นเพียงหมู่บ้านสาขาเท่านั้น มันยังมี
หมู่บ้านตระกูลหนี่สาขาอื่นอยู่อีกหลายแห่ง”
เฉิงซินซื่อถาม “เจ้ามีแผนการบางอย่างใช่หรือไม่?”
เฟิงเทียนหยูพยักหน้า“ถูกต้อง ข้าต้องการขอให้ท่านผู้นําอนุญาตให้ข้าตรวจสอบความลับอัน
ยิ่งใหญ่นี้! หากเราสามารถทําความเข้าใจวิธีการหลอมรวมวิญญาณนี้เราจะสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะขณะที่ยังเป็นผู้ใช้วิญาณระดับมนุษย์!”
เฉิงซินซื่อไตร่ตรองก่อนกล่าว “เช่นนั้นก็ไปเถอะ ข้าจะส่งคนไปช่วยเจ้า”
“ไม่จําเป็น ไม่จําเป็น”เฟิงเทียนหยูป้องหมัด“ข้าเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าแม้ผู้ใช้วิญญาณระดับสี่จะมากับข้าพวกเขาก็เป็นได้เพียงตัวถ่วงของข้ายิ่งไปกว่านั้นหากเป็นไปได้ข้าต้องการ
สะสมผลงานเพื่อหาโอกาสพบท่านฟางหยวนในอนาคต!”
เฉิงซิน อพยักหน้าเมื่อเห็นทัศนคติอันแน่วแน่ของเฟิงเทียนหยู นางจึงต้องปล่อยเขาไป
มิติช่องว่างจักรพรรดิสวรรค์สีเหลืองน้อย
กลุ่มผู้ใช้วิญญาณแซ่เดียวกันมาที่แม่น้ำทองคํา
ผู้นําตระกูลสูงอายุผมขาวเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าเรียกรวมพล
“เป็นเวลากว่าสิบปีแล้วที่เราเดินทางจากภาคใต้มายังสถานที่แห่งนี้อย่างลึกลับ”
“แม้ข้าจะไม่รู้เหตุผลแต่มันต้องเกี่ยวกับผู้อมตะอย่างแน่นอน!”
“สายเลือดตระกูลหนี้ของเรามารวมตัวกันอยู่ที่นี่”
“กว่าสิบปีที่ผ่านมาตระกูลหนี่ของเราพัฒนาและเติบโตขึ้นมากจํานวนผู้ใช้วิญญาณของเรา
เพิ่มขึ้นสิบเท่า อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆนี้สภาพแวดล้อมเกิดการเปลี่ยนแปลง ภัยพิบัติเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตอนนี้เรากําลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์แห่งชีวิตและความตาย”“ระดับน้ำของแม่น้ำทองค่าสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราต้องสร้างเส้นทาง
ระบายน้ำมิฉะนั้นน้ำอาจท่วมและทําลายล้างหมู่บ้านของเรา!”