Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2128 ทรัพยากรบนเส้นทางแห่งพลังปราณ
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2128 ทรัพยากรบนเส้นทางแห่งพลังปราณ
ผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนี่ใช้กําลังทั้งหมดเพื่อจัดการแม่น้ำทองคําที่กําลังเอ่อล้น
แรกเริ่ม พวกเขาใช้วิญญาณระดับมนุษย์เพื่อสร้างเขื่อนจากนั้น พวกเขาขุดคลองเพื่อระบายน้ำออกไปมันทําให้ระดับน้ำในแม่น้ำทองค่าลดลงเรื่อยๆ
เหตุการณ์นี้ทําให้สิ่งมีชีวิตจํานวนมากที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำตื่นตระหนกและเริ่มโจมตีผู้ใช้
วิญญาณตระกูลหนึ่
การต่อสู้ปะทุขึ้น
ผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนี่เป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปฐพีพวกเขาใช้วิญญาณโคลนเป็น
หลักเส้นทางแห่งปฐพีโดดเด่นด้านการป้องกันดังนั้นตระกูลหนี่จึงสร้างแนวป้องกันเพื่อต่อต้านศัตรู
แต่สัตว์อสูรในแม่น้ำทองค่ามีมากเกินไปมันยังมีราชันอสูรที่แข็งแกร่งอยู่ด้วยภายใต้คลื่นสัตว์อสูรที่บ้าคลั่งแนวป้องกันของผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนี่เริ่มแตกทีละแนว
“อดทนไว!” “ฆ่าพวกมัน!”
“ล้างแค้นให้กับพวกพ้องของเรา!”
“อดทนเพื่ออนาคตของตระกูล!”
โคลนและเลือดสาดกระเซ็นไปทุกหนทุกแห่งผู้ใช้วิญญาณหมุนเวียนกันออกมาต่อต้านคลื่นสัตว์อสูร
ตระกูลหนี่ถูกนําเข้ามาในมิติช่องว่างจักรพรรดิและได้รับการเลี้ยงดูอย่างลับๆโดยฟางหยวน
สมาชิกตระกูลหนี่เพิ่มจํานวนขึ้นอย่างมากการสร้างสภาพแวดล้อมที่กดดันทําให้พวกเขาต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดในสวรรค์สีเหลืองแต่นั่นก็ทําให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
ในการต่อสู้ป้องกันตัวครั้งนี้ กองทัพตระกูลหนี่แสดงพลังการต่อสู้ที่โดดเด่นและความเด็ดเดี่ยวออกมา
ในที่สุดจํานวนสัตว์อสูรก็ลดน้อยลงกองทัพตระกูลหนี่เริ่มโต้กลับ
ฝูงสัตว์อสูรไม่มีระบบโครงสร้างภายในที่ดีภายใต้การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันพวกมันเริ่ม
กระจัดกระจายกันไปอย่างรวดเร็ว
ศพของสัตว์อสูรจํานวนนับไม่ถ้วนถูกทิ้งไว้ตามทางและกลายเป็นทรัพยากรในการบ่มเพาะ“เราชนะ!”
“เร็ว จัดตั้งค่ายกลวิญญาณ มันยังไม่ใช่เวลาชื่นชมยินดี!”
“ถูกต้อง เราต้องสร้างค่ายกลวิญญาณ มิฉะนั้นคลื่นสัตว์อสูรจะออกมาจากแม่น้ำอีกครั้ง”
ผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนี่จัดตั้งค่ายกลวิญญาณด้วยความพยายามทั้งหมด
พวกเขาวางแผนสําหรับเรื่องนี้มานานกว่าครึ่งปีมันเป็นค่ายกลวิญญาณที่เหมาะสมและสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามเมื่อค่ายกลวิญญาณถูกจัดตั้งขึ้น แม่น้ำทองคําและดินเมฆกลับเกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่
“เกิดสิ่งใดขึ้น? สัตว์อสูรบุกงั้นหรือ?”
“มีบางอย่างผิดปกติ!”
“มองขึ้นไปข้างบน โอ้ สวรรค์!”
กลุ่มผู้ใช้วิญญาณอุทานด้วยความตกใจ
เมื่อพวกเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าร่างกายของพวกเขากลายเป็นแข็งทื่อ
เพราะพวกเขาเห็นอุกกาบาตตกลงมาจากท้องฟ้า
อุกกาบาตบางดวงมีขนาดเท่าทุ่งหญ้าเล็กๆขณะที่บางดวงมีขนาดใหญ่เท่าภูเขา
และมันมีจํานวนนับหมื่นดวง!
“พวกเราจบสิ้นแล้ว!”ใบหน้าของผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนึ่กลายเป็นซีดเผือด
“สวรรค์ต้องการทําลายตระกูลหนี่ของข้างั้นหรือ?”ในสนามรบอันเงียบสงัดผู้อาวุโสของตระ
กูลหนี่กล่าวด้วยความโศกเศร้า
“ข้าไม่พร้อมที่จะตายเช่นนี้!”ผู้นําตระกูลหนี่รุ่นปัจจุบันกําหมัดแน่น “เรากําลังจะประสบความสําเร็จตระกูลหนี่ของข้าเสียสละครั้งใหญ่เพื่อควบคุมน้ำท่วมอนาคตที่สดใสอยู่ในสายตาของเราแล้วแต่ตอนนี้เรากําลังจะตาย!”
ทุกคนตกอยู่ในความสิ้นหวัง
ภัยธรรมชาติครั้งนี้น่ากลัวเกินไปผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนี่ไม่มีความคิดที่จะต่อต้านมันแม้แต่น้อยพวกเขารู้สึกถึงความไร้นัยสําคัญของตนเองนี่คือความโศกเศร้าและไร้หนทางของผู้อ่อนแอ
แต่ในจังหวะนี้เสียงกรีดร้องโหยหวนราวกับเสียงปีศาจจากขุมนรกกลับดังขึ้น
อุณหภูมิในอากาศลดลงอย่างรวดเร็วหัวใจของกลุ่มผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนี่สั่นไหว
“เกิด…เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“โอ้ สวรรค์!” “ยักษ์ด่า!?”
กลุ่มผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนี่ตกตะลึงและเบิกตากว้างเมื่อเห็นฉากนี้
พวกเขาเห็นยักษ์สีดําปรากฏตัวขึ้นอย่างช้าๆมันมีร่างกายใหญ่โต ความสูงของมันทะลุขึ้นไปบนก้อนเมฆ
ยักษ์ด่ามีสองเศียรดวงตาทั้งสี่ของมันดูน่าสะพรึ่งกลัวและปลดปล่อยเจตนามุ่งร้ายออกมา
มือหลายร้อยข้างของมันยกสูงขึ้นพร้อมกับกรงเล็บมันเป็นฉากที่น่ากลัวและแปลกประหลาด
หัวข้างหนึ่งของยักษ์ดําพ่นลมหายใจส่งแม่น้ำภูตผีออกมา
แม่น้ำภูตผีกลืนกินอุกกาบาตจํานวนมากเข้าไป
หัวอีกข้างของยักษ์ดําอ้าปากและดูดอุกกาบาตจํานวนมากเข้าไปในท้องของมันโดยตรง“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม…”
กรงเล็กจํานวนมากของมันโจมตีอุกกาบาตขนาดเท่าเนินเขาอย่างต่อเนื่อง
หัวใจของกลุ่มผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนี่สั่นไหวอย่างรุนแรง
“มันสามารถคว้าดวงจันทร์จับดวงดาวได้ตามต้องการ!
“โลกนี้มีสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ซ่อนอยู่จริงๆ”
“เปรียบเทียบกับยักษ์ตนนี้ตระกูลหนี่ของเรายังไม่แม้แต่จะสามารถเป็นมดปลวก”
ฝนอุกกาบาตเกือบทั้งหมดถูกหยุดโดยยักษ์ดํามีเพียงบางส่วนที่ตกลงบนพื้น
บางส่วนตกลงสู่แม่น้ำทองคําบางส่วนตกลงบนพื้นเมฆพวกมันจะส่งอิทธิพลบางอย่างต่อระบบนิเวศดั่งเดิมของที่นี่
หนี่
แล้ว
เมื่อฝนอุกกาบาตสงบลง ยักษ์ดําก็จากไปร่างกายของมันค่อยๆหายไปต่อหน้าสมาชิกตระกูลหลังจากไม่นานผู้คนที่รอดชีวิตก็ระเบิดเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความยินดี
ยักษ์ด่ากลายเป็นแสงสีดําพุ่งเข้าสู่ร่างหลักของฟางหยวน
แท้จริงแล้วมันก็คือดวงวิญญาณของฟางหยวน!
นี่คือวิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของนิกายเงา
ตอนนี้การบ่มเพาะจิตวิญญาณของฟางหยวนบรรลุถึงขั้นจิตวิญญาณเดียวดายระดับหกสิบล้าน
จิตวิญญาณเดียวดายระดับหนึ่งร้อยล้านจะทําให้ดวงวิญญาณของผู้บ่มเพาะกลายเป็นยักษ์
สามเศียรพันกรที่มีพลังการต่อสู้ระดับเก้าและสามารถต่อต้านภัยพิบัติได้โดยตรงเช่นเดียวกับเทพ
ปีศาจจิตวิญญาณ
นี่คือจุดสูงสุดของการบ่มเพาะจิตวิญญาณและเป็นขีดจํากัดของโลกใบนี้
ฟางหยวนยังไม่บรรลุถึงระดับเดียวกับเทพปีศาจจิตวิญญาณ ตอนนี้เขามีเพียงสองเศียรและแขนมากกว่าหกร้อยข้าง
‘การบ่มเพาะจิตวิญญาณช่างยอดเยี่ยมนัก’
‘เพียงดวงวิญญาณก็มีพลังการต่อสู้ที่น่ายกย่องหากมันใช้ท่าไม้ตาย มันจะทรงพลังกว่านี้’
‘สิ่งสําคัญก็คือท่าไม้ตายเหล่านั้นไม่พึ่งพาวิญญาณแต่สามารถใช้การจัดเรียงพลังงานแห่งเต๋า
เพื่อปลดปล่อยพลังอํานาจเหมือนความสามารถโดยกําเนิด’
ฟางหยวนเลียนแบบท่าไม้ตายแม่น้ำภูตผีมาจากเทพปีศาจจิตวิญญาณ
เขาใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่สลักไว้ในดวงวิญญาณของ
เขาเพื่อปลดปล่อยท่าไม้ตายแม่น้ำภูตผีราวกับความสามารถโดยกําเนิด
ตราบเท่าที่การจัดเรียงร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเหล่านี้ไม่ถูกทําลายฟางหยวนจะ
สามารถใช้มันได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายกว่ากว่าการกระตุ้นใช้วิญญาณ
ความสามารถโดยกําเนิดของการบ่มเพาะจิตวิญญาณท่าไม้ตายรอยสักรวมถึงการจัดตั้งค่าย
กลวิญญาณโดยใช้ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าตามธรรมชาติ พวกมันล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน’
ด้วยการสนับสนุนจากตระกูลฟางข้าไม่ขาดแคลนแก่นแท้อสูรวิญญาณมันไม่ใช่เรื่องยากที่
จะบ่มเพาะจิตวิญญาณไปถึงขั้นจิตวิญญาณเดียวดายระดับหนึ่งร้อยล้าน’
‘วิธีนี้สามารถเป็นหนึ่งในไพ่ตายของข้า ข้าไม่สามารถเปิดเผยมันออกไปโดยง่าย’
หากฟางหยวนใช้วิธีนี้ที่โลกภายนอกเจตจํานงสวรรค์จะค้นพบ แต่ไม่มีภัยคุกคามดังกล่าวอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
‘มาดูสถานการณ์ตอนนี้’ฟางหยวนกระตุ้นใช้งานหม้อปรุงโชคและสังเกตโชคของเขา
“หือ?” ฟางหยวนขมวดคิ้ว
โชคของเขาดูไม่ดีนัก
เสาแสงสีเงินของเขาดูบอบบางและส่งสัญญาณของการพังทลาย
เมฆสามก้อนที่อยู่ด้านบนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
เมฆแสงดาวอยู่ด้านบนสุด นี่หมายความว่าเทพอมตะกลุ่มดาวเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ด้านล่างเป็นเมฆสีดําสนิทของเทพปีศาจจิตวิญญาณ แม้มันจะถูกแสงดาวบดบังแต่มันก็ส่ง
ความมืดส่วนหนึ่งแทรกซึมเข้าสู่เสาแสงสีเงินของฟางหยวนราวกับการหยั่งรากและแตกหน่อด้านล่างสุดเป็นเมฆสีทองของเทพอมตะตะวันเดือด มันขยายใหญ่ขึ้นแม้มันจะอยู่ต่ํากว่าเมฆ
อีกสองก้อน แต่มันแสดงให้เห็นถึงการสะสมพลังและรอคอยเวลาที่เหมาะสม
นอกจากเมฆทั้งสามยังมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นรอบๆเสาแสงสีเงิน
เงาที่พร่าเลือนเหมือนภูเขาสูงปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของเสาแสงสีเงินภาคใต้
เฟิงเทียนหยูหยุดฝีเท้า
เขาหอบหายใจอย่างหนักหน่วง“ในที่สุดข้าก็มาถึงแล้ว”
การเดินทางของเฟิงเทียนหยูค่อนข้างยากลําบาก เขาต้องการค้นหาหมู่บ้านตระกูลหนี่แต่กลับไม่พบสิ่งใดเลย
สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือฟางหยวนย้ายหมู่บ้านตระกูลหนี่ทั้งหมดไปยังมิติช่องว่างจักรพรรดิมานานแล้ว
เฟิงเทียนหยูไม่พบสิ่งใดและรู้สึกผิดหวังมากแต่ระหว่างทางเขาพบว่าอสูรโคลนหนี่เจี้ยน
สามารถกินวิญญาณโคลนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง
“ตระกูลหนี่ทั้งหมดหายไปอย่างลึกลับหากข้ากลับไปด้วยผลลัพธ์ที่น่าอับอายเช่นนี้ข้าจะไม่สามารถอธิบายตนเองข้าควรเพิ่มพลังการต่อสู้ให้กับอสูรโคลนตัวนี้เมื่อเฉิงซินซื่อถามหลังจาก
ข้ากลับไป ข้าจะสามารถตอบคําถามของนาง”
ดังนั้นเฟิงเทียนหยูจึงเดินทางไปยังภูเขาโคลนเน่าเปื่อย
ภูเขาโคลนเน่าเปื่อยไม่โด่งดังมากนักแต่มันยังเป็นภูเขาที่มีชื่อเสียง มันเต็มไปด้วยทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปฐพีและวิญญาณโคลน มันเหมาะสมกับการเลี้ยงดูอสูรโคลนหนี่เจียน
“ดูเหมือนคลื่นสัตว์อสูรจะเกิดขึ้นที่นี่หมู่บ้านของผู้ใช้วิญญาณที่อยู่รอบๆถูกกวาดล้างเอาล่ะ
ข้าจะสํารวจมัน
เฟิงเทียนหยูเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าและมีอสูรโคลนหนี่เจี้ยนอยู่ข้างกายเขาไม่กลัวอันตรายและเดินทางขึ้นสู่ภูเขาโคลนเน่าเปื่อยทันที
หลังจากหลายวันเฟิงเทียนหยูก็ไปถึงสถานที่แห่งหนึ่ง
ทันใดนั้นอสูรโคลนหนี่เจี้ยนก็พ่นโคลนออกมา
“เกิดสิ่งใดขึ้น? โคลนเหล่านี้มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งพลังปราณแฝงอยู่งั้นหรือ ?”เฟิงเทียนหยูประหลาดใจมาก