Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2130 จิตวิญญาณแผ่นดินหัวหมู
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2130 จิตวิญญาณแผ่นดินหัวหมู
หลิงหูซูเป็นปีศาจอมตะของทะเลทรายตะวันตกเขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมผู้อมตะฟางตงซีแห่งตระกูลฟางเต็มไปด้วยความโกรธแดนศักดิ์สิทธิ์กองทรายปรากฏขึ้น
อย่างกะทันหันตระกูลฟางไม่สามารถระดมกําลังพลออกมาได้ในระยะเวลาสั้นๆดังนั้นฟางตงซีที่อยู่ใกล้ที่สุดจึงต้องมาที่นี่เพียงลําพัง
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คาดหวังว่าแก่นแท้อสูรวิญญาณที่เขารวบรวมมาจากทะเลทรายผีเขียว
จะถูกขโมยโดยหลิงหูซูระหว่างการต่อสู้ที่วุ่นวาย
‘ข้าต้องส่งมอบแก่นแท้อสูรวิญญาณเหล่านี้ให้ฟางหยวนข้าจะสูญเสียพวกมันไปไม่ได้!” ฟางตงซีค่อนข้างโชคร้ายเขามีทรัพยากรมากมายอยู่ในมิติช่องว่างแต่สิ่งที่ถูกขโมยกลับเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถสูญเสีย
นอกจากนี้ฟางตงซีก็ไม่สามารถประกาศความร่วมมือระหว่างตระกูลฟางกับฟางหยวนเขาทําได้เพียงไล่ล่าเท่านั้น
แต่ในจังหวะที่เขากําลังจะออกไล่ล่าเขากลับถูกโจมตีโดยซื่อกัง
ซื่อกังเผยรอยยิ้มเย็นชา “ฟางตงซีเจ้ากับคนเหล่านี้โจมตีข้ามานานแต่เจ้ากลับต้องการจากไปเช่นนี้งั้นหรือ?”
เปลือกตาของฟางตงซีกระตุก“ซื่อกังเจ้าควรดีใจที่ข้าไม่โจมตีเจ้า เจ้าทําข้อตกลงกับหลังหูซูงั้นหรือ?ตระกูลซื่อเป็นตระกูลใหญ่แต่พวกเจ้ากลับร่วมมือกับปีศาจ!”ฟางตงตั้งข้อหาเท็จทันที
เนื่องจากสถานการณ์ที่วุ่นวาย หลิงหูซูจึงสามารถหลบหนีและหายตัวไป
ซื่อกังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง“ข้าปิดประตูฝึกตนมานานหลายปีนี่เป็นการต่อสู้ครั้งแรกของข้าหลังจากออกมามันจะต้องโด่งดังไปทั่วโลก อย่าคิดหนีมาสู้กันเถอะพวกเจ้าทุกคนจะเป็นหินรองเท้าของข้า!”
ใบหน้าของผู้อมตะทั้งหมดกลายเป็นมืดครึ้ม
ฟางตงซีกัดฟันแน่น “ซื่อกังคํากล่าวของเจ้าช่างไร้สาระนักเราปิดล้อมเจ้าแต่เนื่องจากพวกเราล้วนเป็นฝ่ายธรรมะเราจึงไม่ได้ใช้กําลังเต็มที่ตอนนี้เจ้าไม่เพียงเป็นพันธมิตรกับหลิงหูซูแต่เจ้ายังกล้าดูถูกพวกเรา เจ้ากําลังรนหาที่ตายทุกคนโจมตี!”
“ดี ข้าต้องการเห็นความสามารถของซื่อกังที่ปิดประตูฝึกตนมานานหลายปี”
“ซื่อกัง ข้าไม่ได้เจอเจ้ามาหลายปีแล้วดูเหมือนเจ้าจะมีความกล้ามากขึ้น ให้ข้าดูว่าเจ้าพัฒนาไปเพียงใด”
ฟางตงซีโจมตีก่อนขณะที่คนอื่นๆติดตามไป
ซื่อกังแทบไม่สามารถหยุดพักหายใจเขาเผชิญหน้ากับแรงกดดันมากขึ้นหลายเท่าเขาตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างรวดเร็วแต่เขายังหัวเราะด้วยความตื่นเต้น“เข้ามา”
กลุ่มผู้อมตะต่อสู้กันอย่างดุเดือดขณะที่โม่หลี่ลอบเข้าไปในพื้นที่เงียบสงบ
‘โชคอยู่ในอันตราย!’โม่หลี่ตัดสินใจเสี่ยงโชค
โม่หลี่เข้าไปในพื้นที่เงียบสงบและพบว่าทางเลือกของเขาถูกต้อง
เขาพบทรัพยากรมากมาย
สัตว์อสูรและพืชอสูรถูกกลุ่มผู้อมตะกําจัดไปหมดแล้ว ซากศพของพวกมันกองอยู่บนพื้น
“ข้ารวยแล้ว เรารวยแล้ว!” โม่หลี่ตื่นเต้นมาก
เขาเห็นหลุมลึกและบ่อเลือดจํานวนมาก มันแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัว“หากข้าสารวจมันด้วยตนเองข้าอาจกลายเป็นอาหารของสัตว์ร้ายเหล่านี้!”
ต้องขอบคุณกลุ่มผู้อมตะที่ทําให้โม่หลี่สามารถเข้าสู่จุดศูนย์ของสถานที่แห่งนี้
เดิมทีที่นี่มีทรัพยากรที่ล้ำค่าที่สุดแต่โม่หลี่ไม่ได้รับมันเพราะมันถูกนําออกไปโดยกลุ่มผู้อมตะเรียบร้อยแล้ว
“แม้มันจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของทรัพยากรอมตะมันก็ยังเป็นโชคลาภมหาศาลสําหรับข้า!” โม่หลี่ไม่ยอมแพ้เขายังสํารวจพื้นที่ต่อไป
ในที่สุดเขาก็พบหินก้อนใหญ่ฝังอยู่ใต้ดิน
“นี่เป็นทรัพยากรระดับสี่บนเส้นทางแห่งพลังปราณและเส้นทางแห่งปฐพี” โม่หลี่ถอนหายใจ
กําไรครั้งนี้ตากว่าที่เขาคาดไว้มาก
โม่หลี่กําลังจะยกหินก่อนนี้ขึ้นมาแต่ในจังหวะนี้มันกลับแตกออก
เด็กหนุ่มหลุดออกมาจากก้อนหิน
“อันใด!?” โม่หลี่ตกใจก่อนจะรู้สึกอยากรู้อยากเห็น
โม่หลี่ปลุกเด็กหนุ่มให้ตื่นขึ้น
เด็กหนุ่มกล่าวว่า“ข้าคือหวังเซียวเอ๋อจากภาคกลางท่านลุง ขอบคุณที่ช่วยข้าไว้ที่นี่ที่ใด?”โม่หลี่หัวเราะอย่างชั่วร้ายขณะคว้าคอเสื้อของหวังเซียวเอ๋อขึ้นมา“พูดเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
หวังเซียวเอ๋อพูดตะกุกตะกัก “ข้า…ข้าไม่รู้
ย้อนกลับไปที่ภูเขาโคลนเน่าเปื่อยของภาคใต้เจตจํานงของกงเฉิงเทียนใช้ท่าไม้ตายของเขากับแดนหูเพื่อส่งทุกคนออกมา
แต่เขาเตือนทุกคนล่วงหน้าแล้วว่าท่าไม้ตายของเขาไม่สามารถระบุจุดหมายปลายทางพวกเขาจะถูกส่งตัวออกไปแบบสุ่ม
ดังนั้นหวังเซียวเอ๋อจึงถูกส่งมายังทะเลทรายตะวันตกและบังเอิญตกลงมาที่นี่
ด้วยเหตุผลบางประการ เขาถูกผนึกไว้ในหินก้อนนี้และเข้าสู่การจําศีล
แม้หวังเซียวเอ๋อจะรู้เหตุผลบางอย่างแต่เขาต้องการรักษาความลับเกี่ยวกับที่อยู่ของสี่ผู้อนาจาร
โม่หลี่มีประสบการณ์มากมายเขาสามารถบอกได้ว่าหวังเซียวเอ๋อกําลังโกหก“ปัง!”
โม่หลี่ต่อยหวังเซียวเอ๋ออย่างแรง“บอกความจริงกับข้าทุกอย่างที่เจ้ารู้ มิฉะนั้นเจ้าต้องตาย!”
ดวงวิญญาณของเผิงตัาลอยออกมา “หยุด!”
โม่หลี่หรี่ตามองดวงวิญญาณของเผิงต้า“เจ้าหนูเจ้าพยายามทําสิ่งใด?”
ดวงวิญญาณของเผิงตําากัดฟันแน่น “ลุงโม่หลี่ท่านเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้าเขาเป็นเพียง มนุษย์ธรรมดาเหตุใดต้องใช้วิธีที่โหดร้ายกับเขาลุงโม่หลี่ที่ข้ารู้จักช่วยชีวิตข้าจากทะเลทรายท่านลุง อย่าลืมมโนธรรมของท่านเพียงเพราะความเกลียดชังท่านไม่ใช่คนเช่นนี้!”
“หุบปาก!”โม่หลี่ตบดวงวิญญาณของเผิงต้าออกไปด้านข้าง“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่ใช่คนเช่นนี้?แม้ข้าจะไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน…แต่มนุษย์เปลี่ยนไปเสมอ!”
โม่หลี่เดินเข้าไปหาหวังเซียวเอ๋ออีกครั้ง“เมื่อเจ้าไม่พูดข้าก็ทําได้เพียงค้นวิญญาณเจ้าเท่านั้น”
หวังเซียวเอ๋อกรีดร้องและชี้นิ้วไปที่เผิงต้า“ผี ผี ผี!”
ดวงวิญญาณของเผิงต้ากลายเป็นพูดไม่ออก “…”
“หยุดโวยวาย!” โม่หลี่ต่อยหวังเซียวเอ๋อจนล้มลงบนพื้น
เขาพึ่งกล่าวจบสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้นและหัวเราะ “ดีมากเด็กน้อยข้าคาด
หวังกับเจ๊าค่อนข้างสูง”
โม่หลี่ หวังเซียวเอ๋อ และเผิงต้ามองไปยังสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันหวังเซียวเอ๋อตะโกน“หมูพูดได้แต่เหตุใดจึงมีเพียงหัวแต่ไม่มีลําตัว?”
อย่างไรก็ตามโม่หลี่กลับรู้สึกตื่นเต้น “เจ้าโง่นี่คือจิตวิญญาณแผ่นดินของแดนศักดิ์สิทธิ์กองทราย!”
โม่หลี่เดินเข้าไปหาจิตวิญญาณแผ่นดิน“พูดมาเถอะเงื่อนไขในการเป็นเจ้านายคนใหม่ของเจ้าคือสิ่งใด?”
จิตวิญญาณแผ่นดินหัวหมูกล่าว“เงื่อนไขของข้าเรียบง่ายมากผู้ที่สามารถรับการทุบตีได้มากที่สุดจะเป็นเจ้านายของข้า”
จากนั้นมันก็หันหน้าไปทางหวังเซียวเอ๋อ“เด็กน้อยข้าคาดหวังกับเจ้าสูงมาก”
ดวงวิญญาณของเผิงต้าเข้าใจบางสิ่ง“ข้าเข้าใจแล้วไม่แปลกใจเลยที่ผู้อมตะที่ชื่อชื่อกัง
อาละวาดอยู่ข้างนอกเขากําลังพยายามทําให้ตนเองถูกทุบตี!”
จิตวิญญาณแผ่นดินหัวหมูยิ้ม “ผู้อมตะผู้นั้นถูกสัตว์อสูรทุบตีดังนั้นเขาจึงพบข้าและได้เรียนรู้เงื่อนไขในการเป็นเจ้านายคนใหม่ของข้าแต่เขาไม่รู้ว่านอกจากความสามารถในการรับมือกับการ
ทุบที คนผู้นั้นยังต้องมีจิตวิญญาณที่แน่วแน่และไม่ย่อท้อที่จะรับการทุบตีอีกด้วย”
“ดูเจ้าหนูผู้นี้ เห็นได้ชัดว่าเขากําลังโกหก แต่กระทั่งเขาจะไม่สามารถอดทนต่อการทุบตีเขาก็ยังดื้อรั้นที่จะรับมันจิตวิญญาณที่ต้องการรับการทุบตีของเขาน่าชื่นชมมาก”
“เป็นเช่นนี้”ดวงตาของโม่หลี่ส่องประกายขึ้นเมื่อเขาเห็นความหวังที่จะได้รับแดนศักดิ์สิทธิ์
การต่อสู้บนท้องฟ้ายังดําเนินต่อไป
แต่กลุ่มผู้อมตะที่กระหน่ําโจมตีเริ่มรู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ
“ซื่อกังนี่คือความแข็งแกร่งของเจ้าหลังจากปิดประตูฝึกตนงั้นหรือ?เจ้าถูกทุบตีจนแทบไม่สามารถพูดคุยหากเราไม่ยั้งมือเอาไว้เจ้าคงตายไปแล้ว!”บางคนเย้ยหยัน
ใบหน้าของซอกงบวมและเปลี่ยนเป็นสีม่วงสายตาของเขาพร่ามัวแต่เขายังหัวเราะและพูดไม่ได้ศัพท์ “ไอ้อ๋าอะเอ้าอาไอ่อีอัญอ๋”
แล้ว”
ผู้อมตะอีกคนกล่าว “ตระกูลของเรามีความสัมพันธ์ที่ดีซื่อกังถอยไปซะเจ้าถูกทุบตีมามาก
ซื่อกังอ้าปากและต้องการกล่าวต่อแต่เขากลับกระอักเลือดค่าโตออกมา
ฟางตงซีเย้ยหยัน “ซื่อกัง แม้เจ้าจะเชี่ยวชาญด้านการป้องกันและสามารถเปลี่ยนเป็นมนุษย์หินแต่เจ้าก็ทนได้ไม่นานเจ้าจะกลายเป็นตัวตลกของโลกผู้อมตะแห่งทะเลทรายตะวันตกหากเรายังต่อสู้กันต่อไปเจ้าจะกลายเป็นคนพิการ หากเจ้ายังมีสตินําทรัพยากรบางส่วนออกมาชดเชยให้กับความสูญเสียของเราแล้วตระกูลฟางของข้าจะปล่อยเจ้าไป”ฝ่ายธรรมะมีกฎของฝ่ายธรรมะ พวกเขาจะไม่เข่นฆ่ากันจนถึงแก่ความตายเพื่อฉกชิงมรดก
นอกจากนั้นทรัพยากรของแดนศักดิ์สิทธิ์กองทรายก็มีค่าไม่มากพอให้เดิมพันด้วยชีวิต
ซื่อกังถูกทุบตีอย่างน่าสังเวชจนเกินมาตรฐานไปแล้ว คนอื่นไม่ต้องการให้ข้อพิพาทนี้บานปลาย
ซื่อกังเงยหน้าและกําลังจะกล่าวแต่ขาหินของเขากลับแตกออก เขาเร่งรักษาอาการบาดเจ็บก่อนตะโกนใส่ฟางตงซี“เอ้าอาอาอ่ออู๋อัน…”