Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2131 ฟางหยวนกับแดนหู
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2131 ฟางหยวนกับแดนหู
ด้วยสถานการณ์ที่แปลกประหลาดฟางตงซีและคนอื่นๆจึงหยุดโจมตี
“แปลก!”
“นี่แปลกเกินไป มีบางอย่างไม่สมเหตุสมผล
“ซื่อกังไม่ใช่คนที่จะฆ่าตัวตายเขาอาจได้รับผลประโยชน์จากการท่าเช่นนี้”
สําหรับผลประโยชน์ดังกล่าวทุกคนคาดเดาไปในทิศทางเดียวกัน
“ซื่อกังเข้ามาพร้อมพวกเราและพึ่งเข้าไปในพื้นที่เงียบสงบก่อนหน้านี้เป็นไปได้หรือไม่ว่า…”
กลุ่มผู้อมตะบินเข้าไปในพื้นที่เงียบสงบอีกครั้ง
ซื่อกังรู้สึกกังวลมากเขารีบติดตามไป
เขาตะโกนสาปแช่งแต่ไม่มีผู้ใดสนใจเขา
กลุ่มผู้อมตะมาถึงใจกลางของพื้นที่เงียบสงบในพริบตาและเห็นฉากที่เจ็บปวด
พวกเขาเห็นโม่หลี่นอนอยู่บนพื้นในลักษณะกางแขนขาออก เขากัดฟันแน่นขณะที่ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด
หวังเซียวเอ๋อยืนอยู่ด้านหน้าและกําลังเตะส่วนที่อยู่ระหว่างขาของโม่หลี่อย่างดุเดือด
อีกด้านหนึ่ง ดวงวิญญาณของเผิงต้าก็โจมตีโม่หลี่เช่นกัน
สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของกลุ่มผู้อมตะคือจิตวิญญาณแผ่นดินหัวหมู
จิตวิญญาณแผ่นดินหัวหมูตะโกนให้กําลังใจ“ดีวิธีทุบตีเช่นนี้ทําให้ผู้คนประลาดใจสิ่งที่ทําให้ข้าตื่นเต้นยิ่งกว่าก็คือดวงวิญญาณสามารถทุบตีได้เช่นกันโม่หลี่เจ้ายินดีรับการทุบตีที่รุนแรงเช่นนี้ เจ้าช่างกล้าหาญนัก!”
“อา…เช่นนั้นเจ้า…โอ้ว!เจ้า….อู้…เจ้าจะยอมรับข้า…อุ๊บ….ในฐานะ….เจ้านายของเจ้า…หรือ
ไม่…” น้ำตาของโม่หลี่ไหลออกมาด้วยความเจ็บปวดขณะที่เขาพยายามตะโกน
จิตวิญญาณแผ่นดินหัวหมูกล่าวอย่างจริงจัง “เร็วๆนี้ตอนนี้เจ้าก้าวข้ามซื่อกังไปแล้ว”โม่หลี่อยากจะร้องไห้“เจ้า เจ้า เจ้า….อา…ก่อนหน้านี้เจ้าก็พูดเช่นนี้…อุ๊บ!”
“หยุดพวกเขา!” ฟางตงซีตะโกน
“มนุษย์ธรรมดาต้องการแดนศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ?”กลุ่มผู้อมตะเคลื่อนไหวซื่อกังรู้สึกยินดีที่ค้นพบเรื่องนี้มิฉะนั้นเขาอาจพ่ายแพ้ให้กับมนุษย์เหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว
การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้อมตะทําให้กลุ่มของโม่หลี่หน้าซีด
“แม่จ๋า!” หวังเซียวเอ๋อจับหัวของเขาและพยายามวิ่ง
“จิตวิญญาณแผ่นดินช่วยข้าด้วย!”โม่หลี่นอนอยู่บนพื้นขาของเขาสั่นอย่างรุนแรง
จิตวิญญาณแผ่นดินหัวหมูบินออกไป“ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าเพื่อเป็นเจ้านายของข้าเจ้าต้องยอมรับการทุบตี แต่สิ่งสําคัญคือเจ้าต้องมีความสามารถในการรับการทุบตี”
แต่ในจังหวะที่โม่หลี่กําลังจะตายอย่างน่าอนาถเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น การโจมตีของกลุ่มผู้อมตะถูกทําลาย
“ผู้ใด?”
“ออกมา!”
บุคคลลึกลับสามคนปรากฏขึ้น
ร่างกายของพวกเขาปกคลุมไปด้วยแสงลึกลีบและซ่อนรูปลักษณ์ที่แท้จริงของพวกเขาเอาไว้พวกเขายืนอยู่อย่างเงียบๆแต่กลิ่นอายของพวกเขาสามารถสะกดข่มผู้อมตะทั้งหมด
ฟางตงซีและคนอื่นๆแสดงออกอย่างเคร่งขรึมราวกับพบศัตรูตัวฉกาจ
“แสงลึกลับเช่นนี้…”
“พวกเจ้าคือตระกูลอี้ในตํานาน!”
“ตระกูลอี้แห่งทะเลทรายตะวันตกพวกเขาเป็นคนตระกูลอี้จริงๆงั้นหรือ?”
มีตระกูลใหญ่ซ่อนอยู่ในทะเลทรายตะวันตกพวกเขาแข็งแกร่งและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน
แต่นี่เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น มันไม่เคยมีหลักฐานที่ชัดเจนมาก่อน
“เมื่อพวกเจ้ารู้จักตระกูลอี้ของเราเช่นนั้นก็ถอยออกไป”หนึ่งในสามร่างลึกลับกล่าวด้วยเสียงที่ถูกดัดแปลงทําให้ไม่รู้ว่าเป็นชายหรือหญิงไม่?”
ฟางตงซีก่นเสียงเย็น “คนขี้ขลาดที่ไม่กล้าแสดงตัวผู้ใดจะรู้ว่าพวกเจ้ามาจากตระกูลอี้จริงหรือ
“ต้องการให้เราจากไปงั้นหรือ? ช่างโอหังนัก”
“พวกเจ่ายโสยิ่งกว่าซื่อกัง”
ซื่อกังลูบจมูกของเขาและกําลังจะกล่าวแต่บางคนชิงกล่าวตัดหน้า “ดูราคาความเย่อหยิ่งของ
ซื่อกัง ผลลัพธ์ของพวกเจ้าจะเป็นเช่นเดียวกัน!”
ซื่อกังกลายเป็นพูดไม่ออก “…….”
การต่อสู้ที่วุ่นวายปะทุขึ้น
ผู้อมตะลึกลับทั้งสามร่วมมือกันชัดเจนว่าพวกเขาฝึกฝนมาด้วยกัน นั่นทําให้พวกเขากลาย
เป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างรวดเร็ว
กลุ่มผู้อมตะถูกปราบปรามแต่จํานวนของพวกเขาเหนือกว่า
จิตวิญญาณแผ่นดินหัวหมูเฝ้ามองการต่อสู้อยู่ด้านข้างด้วยความตื่นเต้น
กลุ่มผู้อมตะให้ความสําคัญกับการป้องกันเพื่อโอกาสในการครอบครองแดนศักดิ์สิทธิ์พวกเขา
ไม่หลบการโจมตีและกระทั่งพุ่งเข้ารับมันเอาไว้
หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดจบลงโม่หลี่ถูกผู้อมตะลึกลับนําตัวไป
หวังเซียวเอ๋อถูกจับโดยฟางตงซี
และผู้ที่กลายเป็นเจ้าของแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ก็คือซื่อกัง ความพยายามของเขาไม่สูญเปล่า!
ฟางตงซีกลับไปยังตระกูลฟางและรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฟางหยวนดังนั้นฟางกงจึงเรียกประชุมกลุ่มผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูล
“เราควรฆ่าหลิงหูซู!”
“ปัญหาคือเราจะอธิบายเรื่องนี้กับฟางหยวนอย่างไร?”
“เราควรบอกความจริงกับฟางหยวนและปล่อยให้เขาฆ่าหลิงหูซู! แต่เราต้องซ่อนการท่า
ธุรกรรมระหว่างเรากับฟางหยวนเอาไว้เราไม่สามารถจัดการหลังหูซูเพราะเขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมและเชี่ยวชาญด้านการหลบหนีหากฟางหยวนเคลื่อนไหวหลิงหูซูจะ
ต้องตายอย่างน่าอนาถ!”
“นั่นไม่เหมาะสม”ฟางตี้เฉิงส่ายศีรษะปฏิเสธข้อเสนอนี้
ดวงวิญญาณของเขากลับมายังตระกูลฟางแล้วตอนนี้เขาอยู่ในร่างผู้ใช้วิญญาณระดับห้าและกําลังเตรียมตัวก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ เขาเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้
ฟางตี้เฉิงวิเคราะห์ต่อไป“มีความเป็นไปได้มากกว่าที่ฟางหยวนจะสร้างปัญหาให้กับพวกเรา”
“ฟางหยวนทําธุรกรรมกับพวกเราเพราะเหตุใด?นั่นเป็นเพราะตระกูลของเราอยู่ใกล้ทะเล
ทรายผีเขียวมากที่สุดเขาต้องการแก่นแท้อสูรวิญญาณเพื่อบ่มเพาะจิตวิญญาณ”
“หากตระกูลฟางของเราไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราจะสูญเสียคุณค่าเมื่อเวลานั้นมาถึง พวกเจ้าคิดว่าเขาจะทําอย่างไร?”
หัวใจของผู้อมตะตระกูลฟางสั่วไหวเมื่อได้ยินการวิเคราะห์นี้
ฟางกงพยักหน้า “ข้าเห็นด้วยกับค่ากล่าวของฟางตี้เฉิงฟางหยวนสามารถจัดการตระกูลฟางเราไม่สามารถต่อสู้กับเขา!”
“นอกจากนี้ตระกูลของเรายังได้รับประโยชนมากมายจากการทําธุรกรรมกับฟางหยวนทรัพยากรอมตะจํานวนมากที่เราได้รับจากฟางหยวนกลายเป็นกําไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสําหรับตระกูลของเรา”
ฟางตงซีกังวล“แต่จํานวนแก่นแท้อสูรวิญญาณที่เรามีอยู่ในเวลานี้ไม่เพียงพอพรุ่งนี้เป็นวันส่งมอบสินค้าเราจะใช้เหตุผลใดเพื่อซื้อเวลาหากฟางหยวนต้องการตรวจสอบเรื่องนี้เขาจะค้นพบความจริงอย่างง่ายดายแต่หากเราไม่โกหกและพูดความจริงคุณค่าของเราในสายตาของฟางหยวนจะลดลง”
ฟางตี้เฉิงกล่าว“เราต้องพูดความจริงแต่เนื่องจากแก่นแท้อสูรวิญญาณมีไม่เพียงพอเราจะใช้สิ่งอื่นชดเชยมันจะไม่เป็นไรตราบเท่าที่ฟางหยวนพอใจ”
ฟางฮัวเฉิงยังกังวล “ฟางหยวนมีมรดกที่แท้จริงมากมายมาตรฐานของเขาสูงมากตระกูลฟางของเรามีสิ่งที่สามารถตอบสนองเขาแต่สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นรากฐานที่สําคัญของตระกูลเราไม่
สามารถมอบรากฐานของเราให้เขาเพราะหลังหูซู!”
ฟางตี้เฉิงหัวเราะ“เจ้าคิดลึกเกินไปในความคิดเห็นของข้าเรื่องนี้สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย”
ฟางกงถาม “เจ้ามีแผนใด?”
ฟางตี้เฉิงตอบ“ไม่ใช่ว่าพวกเราค้นวิญญาณหวังเซียวเอ๋อแล้วงั้นหรือ? แม้เขาจะเป็นมนุษย์ธรรมดาแต่ร่างกายของเขามีความลับบางอย่างเขามีประสบการณ์ที่น่าทึ่งเรายังรู้ข้อมูลของแดนหูตอนนี้มันควรอยู่ในมือตระกูลวู เราจะส่งข้อมูลนี้ให้กับฟางหยวนมันจะทําให้เขาพึ่งพอใจ”
“มันจะได้ผลจริงๆงั้นหรือ?”บางคนสงสัย
ฟางตี้เฉิงส่ายศีรษะ “อย่าปฏิบัติต่อฟางหยวนเหมือนคนทั่วไป เทพปีศาจจิตวิญญาณและชิงโจวตายไปแล้วปีศาจอมตะฉีเจียถูกจับ บรรพชนทะเลปราณพ่ายแพ้ตอนนี้ฟางหยวนเป็นตัวตนอันดับหนึ่งของโลกแม้ตระกูลวูจะเป็นกองกําลังใหญ่อันดับหนึ่งของภาคใต้แต่…ฮ่าฮ่าฮ่าพวก
เขาก็ยังไม่สามารถปกป้องแดนหู”
ฟางกงพยักหน้า “เช่นนั้นเราจะทําตามแผนนี้ หากฟางหยวนไม่พอใจ เราจะชดเชยมากขึ้น”
จากนั้นเขาก็ถอนหายใจ“น่าเสียดายแดนหู”
ฟางตี้เฉิงกล่าวอย่างจริงจัง“ฟางหยวนน่าจะพอใจคนผู้นี้น่ากลัวมากสิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่
ความแข็งแกร่งของเขาแต่เป็นความใจกว้างของเขา!เขาไม่ใส่ใจเรื่องเล็กน้อยเขามีความเฉลียว
ฉลาดและใจกว้างเหมือนมหาสมุทร”
“สิ่งที่ทําให้ข้ารู้สึกหนาวสั่นที่สุดก็คือแม้เขาจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่เขาเต็มใจที่จะทําธุรกรรมกับเราโดยไม่ใช้กําลังบังคับ”
“คนประเภทนี้ไม่ใช่คนที่ตระกูลฟางหรือวังสวรรค์จะสามารถรับมือได้ ข้าเกรงว่าอาจมีเพียงการฟื้นคืนชีพของเทพเท่านั้นที่จะสามารถหยุดยั้งปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวผู้นี้”
มิติช่องว่างจักรพรรดิ
สวรรค์สีเหลืองน้อย
ผู้ใช้วิญญาณผู้หนึ่งของตระกูลหนี่ตื่นขึ้นหลังจากหมดสติมานานหลายวัน
“วิญญาณอมตะเติบโตขึ้นในร่างกายของข้า!” ผู้ใช้วิญญาณผู้นี้ดูอ่อนแอมากแต่เขาแทบไม่สามารถซ่อนความสุขเอาไว้
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปข้าจะก้าวเข้าสู่จุดสูงสุดของชีวิต!” ผู้ใช้วิญญาณรู้สึกตื่นเต้นมากเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่และรู้ความลับของตระกูล
“ในตระกูลหนี่ทั้งหมดมีผู้ใช้วิญญาณสามคนที่สามารถบ่มเพาะวิญญาณอมตะและรอดชีวิต
ตอนนี้ข้ากลายเป็นคนที่สี่ข้ามีวิญญาณอมตะแล้ว ข้าจะกลายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลหนึ่
แม้การบ่มเพาะของข้าจะยังไม่ถึงระดับห้า!”
ในใจของผู้ใช้วิญญาณเต็มไปด้วยแผนการสําหรับอนาคตที่สวยงามแต่เขาไม่รู้ว่าสภาพของเขาในช่วงหลายวันที่ผ่านมารวมถึงการเคลื่อนไหวและความคิดของเขาถูกเฝ้ามองอย่างใกล้ชิดโดยฟางหยวน
ฟางหยวนคิด ‘วิธีการของหนี่เซียงเป็นทักษะการหลอมรวมที่แยบยลจริงๆ หลังจากเหตุการณ์แม่น้ำทองคําแม้ตระกูลหนี่จะสูญเสียผู้ใช้วิญญาณจํานวนมาก แต่ผู้ใช้วิญญาณที่รอดชีวิต สามารถปลุกสายเลือดให้ตื่นขึ้นอย่างต่อเนื่องตอนนี้ผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนี่มากว่าสี่สิบคนกําลังมีไข้และหมดสติแต่มีสองคนที่ตื่นขึ้นพร้อมกับวิญญาณอมตะในร่างกาย’เป็นเพียงเวลานี้ที่ข้อความบางอย่างถูกส่งมาหาฟางหยวนและรบกวนความคิดของเขา
“แดนหูงั้นหรือ?”