Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2132 เลี้ยงดูผู้อมตะ
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2132 เลี้ยงดูผู้อมตะ
ภาคใต้ ตระกูลวู
ผู้ใช้วิญญาณมากกว่าห้าสิบคนมารวมตัวกันในห้องโถง
“ผู้อาวุโสสูงสุดลําาดับที่หนึ่งผู้อาวุโสสูงสุดวูเฉียวผู้อาวุโสเคลื่อนภูเขา”กลุ่มผู้ใช้วิญญาณทักทายและแสดงความเคารพด้วยความตื่นเต้น
เว่ยเฉินจิงเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนี้
ในที่สุดเขาก็ได้รับโอกาสที่จะกลายเป็นผู้อมตะ
นอกจาเว่ยเฉินจิงยังมีหมอเทวดาเฉิงโจวและวูเฉินตงพวกเขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยความช่วย
เหลือของตระกูลวู นอกจากนี้ยังมีจงอี้จากทะเลทรายตะวันตกที่ได้รับมรดกที่แท้จริงเพลิงอสนี
ผู้ใช้วิญญาณเหล่นี้ล้วนเป็นอัจฉริยะในยุคของพวกเขาและเป็นผู้ใช้วิญญาณที่ได้รับการคัด
เลือกจากตระกูลวู
“ยืนขึ้น” วูหยงนั่งอยู่บนเก้าอี้หลักด้านซ้ายของเขาคือสัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขาด้านขวาของเขาคือผู้อมตะระดับเจ็ดวูเฉียว
“ข้อมูลเกี่ยวกับการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะถูกมอบให้พวกเจ้าแล้ว หลังจากนี้พวกเจ้าจงปิดประตูฝึกตนและออกมาเมื่อพวกเจ้ามีความมั่นใจที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะผู้อมตะของตระกูลวูจะช่วยพวกเจ้าต่อต้านภัยพิบัติด้วยกําลังทั้งหมดของพวกเขาเอาล่ะไปได้” วูหยงโบกมือกลุ่มผู้ใช้วิญญาณถอยหลังและจากไปอย่างรวดเร็ว
วูหยงเผยรอยยิ้มให้กับสัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขา“ผู้อาวุโสสูงสุดเคลื่อนภูเขาข้าจะมอบเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของท่าน”
สัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขาไม่ใช่ทายาทตระกูลวูชื่อของเขาคือฉินจิงเฉิงก่อนหน้านี้เขาเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ
เมื่อฟางหยวนปลอมตัวเป็นวูอี้ไห่เขาบรรลุข้อตกลงเรื่องหอยทากภูเขากับสัตว์ประหลาดเฒ่า
เคลื่อนภูเขาสัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขาได้รับประโยชน์ส่วนใหญ่แต่หอยทากภูเขายังคงเป็นสมบัติของตระกูลวู
หลังจากตัวตนของฟางหยวนถูกเปิดเผยสถานการณ์ของสัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขากลายเป็นน่าอึดอัดใจ
แต่วูหยงเป็นตัวตนที่น่าเกรงขามเขาจะปล่อยโอกาสนี้ไปได้อย่างไรเขากดดันสัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขาด้วยไม้อ่อนและไม้แข็งสุดท้ายสัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขาจึงกลายเป็นผู้ อาวุโสสูงสุดนอกของตระกูลวู
สัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขาเร่งรับค่าสั่งจากวูหยง “ข้ารู้สึกซาบซึ้งในความใจกว้างของผู้อาวุโสสูงสุดลําาดับที่หนึ่งข้าจะใช้กําลังทั้งหมดเพื่อทําให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ได้รับอันตราย
ใดๆ”
“ดี” วูหยงหัวเราะ “ข้าวูหยงรับรองว่าตระกูลวูของข้าจะปกครองอย่างยุติธรรม” “ข้าจะไปเตรียมการทันที”สัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขากล่าวและจากไป
เขารู้ความหมายที่อยู่เบื้องหลังการกระทําของวูหยง
เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดนอกของตระกูลวูขณะที่เมล็ดพันธุ์อมตะส่วนใหญ่ของตระกูลวูเป็น
คนนอก
วูหยงมอบหมายหน้าที่นี้ให้กับสัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขา ด้านหนึ่ง เขากังวลว่าผู้อมตะตระกูลวูจะมีอคติต่อคนนอกและไม่ให้ความช่วยเหลือพวกเขาอย่างเต็มที่ อีกด้านหนึ่งมันเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับสัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขาและบอกคนผู้นี้ว่า ข้าวูหยงแตกต่างจาก
ผู้นําทั่วไป!
เมื่อสัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขาจากไปวูหยงก็หันหน้าไปทางวูเฉียว
วูเฉียวเงียบและรู้สึกไม่สบายใจภายใต้การจ้องมองของวูหยง
วูเฉียวเคยเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สามของตระกูลวู เขาถูกโน้มน้าวโดยตระกูลเฉียวและสนับสนุนฟางหยวนที่ปลอมตัวเป็นวูอี้ไห่ การกระทํานี้เหมือนการทรยศตระกูลวู
ต่อมาวูเฉียวได้รับมอบหมายให้จัดการภูเขาซากศพแต่เขาพ่ายแพ้ให้กับศัตรูนี่เป็นจุดด่างพร้อยของเขา
วูหยงปราบปรามวูเฉียวจนถึงขีดสุด สุดท้ายเขาถูกปลดออกจากตําแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สาม
“วูเฉียว” วูหยงกล่าว “เจ้าคิดอย่างไรที่ข้าสนับสนุนเมล็ดพันธุ์อมตะจํานวนมาก”หน้าผากของวูเฉียวเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาสูดหายใจลึกก่อนจะยืนขึ้นและโค้งคํานับ“ท่านวูหยงข้าคิดว่าการกระทํานี้จะเป็นประโยชน์ในระยะยาวข้าสนับสนุนอย่างเต็มที่”
วูหยงหัวเราะเขายกถ้วยชาขึ้นจิบก่อนจะถามอย่างสบายๆ“บอกข้าว่าเจ้าจะสนับสนุนอย่างเต็มที่อย่างไร?”
วูเฉียวสูดหายใจลึกและกล่าวสิ่งที่เขาเตรียมไว้
วูหยงพยักหน้าและวางถ้วยชาลง“เช่นนั้นก็ลงมือท่า”
วูเฉียวดีใจมาก เขารีบจากไปแต่เขาไม่ได้จากไปโดยตรงเหมือนสัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขา เขายืนอยู่ที่ประตูและโค้งคํานับวูหยงอีกครั้งก่อนจะจากไปอย่างช้าๆ
นี่เป็นการให้เกียรติอย่างมาก
ตอนนี้เหลือเพียงวูหยงอยู่ในห้อง
เขาแสดงออกอย่างไร้อารมณ์แต่ลอบถอนหายใจอยู่ภายใน
ครั้งนี้เขาลงทุนด้วยทรัพยากรทั้งหมดเพื่อสนับสนุนการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะของเมล็ดพันธุ์อมตะ นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่บ้าคลั่ง
การกระทําของเขาทําให้ผู้อาวุโสสูงสุดหลายคนของตระกูลวูรู้สึกไม่พอใจ
เหตุผลหลักคือท่ามกลางเมล็ดพันธุ์อมตะเหล่านี้มีคนนอกมากกว่าครึ่ง
ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลวูรวมถึงวูป่าชงคิดว่าการกระทําของวูหยงทําให้รากฐานของตระกูลวูสั่นคลอน
“พวกสายตาสั้น” วูหยงนึกถึงเรื่องนี้และอดไม่ได้ที่จะเย้ยหยัน
ปัญหาใหญ่ที่สุดของตระกูลวูคือพวกเขาขาดแคลนผู้อมตะ หากมีกําลังคนไม่พอพวกเขาจะไม่สามารถปกป้องอาณาเขตโดยยังไม่ต้องกล่าวถึงแผนการใหญ่ในอนาคต
อย่างไรก็ตามสมาชิกตระกูลวูมีเมล็ดพันธุ์อมตะเพียงไม่กี่คน แม้พวกเขาจะลดมาตรฐานลงแต่มันยังมีเพียงสิบแปดคนเท่านั้น
แม้ผู้อมตะจะสามารถช่วยต่อต้านภัยพิบัติ แต่จุดสําคัญของการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะคือการปรับสมดุลของพลังปราณทั้งสาม สําหรับเรื่องนี้คนนอกไม่สามารถให้ความช่วยเหลือผู้ใช้วิญญาณต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น
ตามมาตรฐานเดิมสมาชิกตระกูลวูอาจมีเพียงหนึ่งหรือสองคนเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์และสามารถกลายเป็นผู้อมตะ
แต่นั่นไม่เพียงพอต่อความต้องการของตระกูลวู
มันไม่สามารถเติมเต็มความทะเยอทะยานของวูหยง!
ดังนั้นวูหยงจึงไม่สนใจฝ่ายคัดค้านและคัดเลือกเมล็ดพันธุ์อมตะจากภายนอกตระกูลวูยังปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างยุติธรรมและให้การสนับสนุนทุกคนอย่างเต็มที่
“ไม่ใช่ว่าคนเหล่านั้นมองไม่เห็นภาพรวม แต่พวกเขาคัดค้านเพราะเรื่องนี้คุกคามผลประโยชน์ของพวกเขา”
“พวกเขาทําให้ข้าผิดหวังจริงๆวิสัยทัศน์ของพวกเขาคับแคบเกินไป เมื่อปราศจากกําแพงภูมิภาคศัตรูของตระกูลจะไม่ใช่เพียงกองกําลังของภาคใต้แต่มันคือทั้งห้าภูมิภาคศัตรูที่น่ากลัวที่สุดอยู่ที่ภาคกลาง”
“มันคือระบบนิกายของภาคกลาง…”วูหยงถอนหายใจ
นิกาย นั่นเป็นเหตุผลที่เขารับสมัครคนนอก
ด้วยการมองการณ์ไกลและสติปัญญาของวูหยงเขาตระหนักถึงความเหนือกว่าของระบบ
แม้เขาจะได้รับการยกย่องอย่างสูงแต่เขายังเผชิญหน้ากับการต่อต้าน มันเป็นเรื่องง่ายที่จะ
จินตนาการว่าสถานการณ์ของกองกําลังอื่นเป็นอย่างไร
วูหยงมีทักษะทางการเมืองที่ยอดเยี่ยมเขาจัดการสถานการณ์ต่างได้อย่างเหมาะสม
สัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขาเป็นคนนอกเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนเมล็ดพันธุ์อมตะจากภายนอก
วูเฉียวเป็นคนฉลาดเขามองเห็นสถานการณ์ของตระกูลวูและเข้าใจแผนการของวูหยง
เพื่อกลับสู่เวทีทางการเมืองของตระกูลวู แม้เขาจะไม่เห็นด้วยกับการกระทําของวูหยงแต่เขาต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้เขาต้องสนับสนุนวูหยงและยืนหยัดต่อสู้กับผู้อาวุโสสูงสุดที่ต่อต้านเรื่องนี้
ด้วยวิธีนี้เหตุการณ์ในตระกูลวูจึงได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว
‘ข้าหวังว่าหนึ่งในเมล็ดพันธุ์อมตะที่ประสบความสําเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะจะมีคน
บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งพลังปราณและสามารถใช้งานแดนหู’
‘ในอนาคตหากข้าโชคดีพอและสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะพายุเกียรติยศระดับแปดความแข็งแกร่งของข้าจะก้าวเข้าสู่ระดับใหม่รวมกับแดนหูตระกูลวูของข้าจะกลายเป็นหนึ่งใน
กองกําลังใหญ่ระดับแนวหน้าของห้าภูมิภาค
อารมณ์ของวูหยงดีขึ้นมากเมื่อเขานึกถึงแดนหู
หากไม่ใช่เพราะเขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งวายุเป็นเส้นทางหลักและมีร่องรอยของพลังงาน
แห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวายุจํานวนมากเขาอาจเปลี่ยนไปบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ
วูจี้ไม่ได้เลือกมรดกบนเส้นทางแห่งพลังปราณและยืนยันที่จะบ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง นี่ทําให้วูหยงรู้สึกผิดหวัง
แดนหูมีค่ามาก เรื่องนี้สามารถเห็นได้จากปีศาจอมตะฉีเจีย
ด้วยการใช้แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพเป็นแกนกลางของท่าไม้ตาย มันสามารถปลดปล่อยพลังอํานาจอันเป็นที่สุดออกมา
แดนหูสามารถใช้งานแทนวิญญาณอมตะระดับเก้าขณะที่การครอบครองวิญญาณอมตะระดับเก้าเป็นเรื่องยากราวกับการปีนป่ายขึ้นสู่สวรรค์แม้แต่การหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดก็ยังเป็นการทดสอบครั้งใหญ่สําหรับตระกูลวูมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลอมรวมดาราเมืองหมึกเทือกเขาผลึกน้ำแข็ง หรือพื้นที่อื่นๆกลุ่มผู้อมตะต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาฟางหยวนสร้างหอคอยเกียรติคุณหอคอยภารกิจ และหอคอยสมบัติ
หอคอยเกียรติคุณและหอคอยภารกิจมีมานานแล้วแต่หอคอยสมบัติปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก
มันระบุรายการสมบัติที่ผู้อมตะทั้งหมดที่อยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิสามารถแลกเปลี่ยนด้วยแต่มผลงาน
มันมีวิญญาณอมตะระดับหกและระดับเจ็ดจํานวนมากนอกจากนี้ยังมีท่าไม้ตายอมตะที่น่าทึ่ง
เคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะและทรัพยากรอมตะอีกนับไม่ถ้วน
ผู้อมตะเพียงต้องใช้แต้มผลงานของพวกเขาเพื่อแลกเปลี่ยนกับพวกมัน
“ข้าไม่เคยเห็นรายการสมบัติมากมายเช่นนี้มาก่อน!” กระทั่งจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายังรู้สึกตกตะลึง
“มันมีกระทั่งท่าไม้ตายอมตะระดับเก้าท่าไม้ตายเขตแดนอมตะ ค่ายกลวิญญาณอมตะ คฤหาสน์วิญญาณอมตะยุคปัจจุบันและคฤหาสน์วิญญาณอมตะรูปแบบการต่อสู้โบราณอา…ท่าไม้ตายรอยสักคือสิ่งใด? ข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งนี้มาก่อน”ผู้อมตะหลายคนอุทานด้วยความตกใจ
“วิญญาณอมตะเหล่านี้ก็สามารถแลกเปลี่ยนได้งั้นหรือ?”
“ข้ากําลังฝันไปหรือไม่?”
“การหลอมรวมวิญญาณอมตะเป็นเรื่องยาก แต่ที่นี่ เราจําเป็นเพียงต้องสะสมแต้มผลงาน
จํานวนหนึ่งเพื่อแลกกับมันงั้นหรือ?”
ผู้อมตะทั้งหมดถูกล่อลวง
พวกเขาตระหนักได้ทันทีว่าการเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนคือโชคดีของพวกเขา
“อนาคตของพวกเราสดใสมากหลังจากติดตามนายท่าน”
“มันยอดเยี่ยมเกินไป ดูเหมือนท่านฟางหยวนจะต้องการเลี้ยงดูพวกเราจริงๆ”
“ข้าไม่เคยเห็นกองกําลังใดมีทรัพย์สมบัติมากเท่านี้มาก่อน รากฐานของนายท่านไม่สามารถประเมินได!”
ดวงตาของกลุ่มผู้อมตะส่องประกายด้วยความตื่นเต้นใบหน้าของพวกเขากลายเป็นสีแดงบางคนถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจ
หลายคนรีบมองไปที่หอคอยภารกิจ
ก่อนหน้านี้งานที่พวกเขาทําเป็นงานภาคบังคับดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีความกระตือรืนร้นมากนักแต่ตอนนี้มันแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
“อา…ภารกิจแรกแปลกมาก!มันคือการขอให้ท่านฟางหยวนปกป้องพวกเราจากภัยพิบัติจากนั้นเราจะได้รับแต้มผลงานจํานวนมากงั้นหรือ?”