Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2133 ภัยพิบัติของซื่อจง
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2133 ภัยพิบัติของซื่อจง
ฟางหยวนลอบสังเกตปฏิกิริยาของผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
เขาสร้างหอคอยสมบัติหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว
ก่อนหน้านี้ฟางหยวนคิดว่าความโกลาหลในมิติช่องว่างจักรพรรดิจะสงบลงและผ่านพ้นไปตามเวลาแต่ความจริงคือมันรุนแรงขึ้น
สถานการณ์แปลกประหลาดยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องบางครั้งมันรุนแรงจนร่างหลักของฟางหยวนต้องจัดการด้วยตนเอง
หากเขาสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาเขาจะสามารถจัดการมิติช่องว่างจักรพรรดิได้ดีขึ้น
ฟางหยวนไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างสมบูรณ์เขาทําได้เพียงบรรเทาความรุนแรงของมันเท่านั้น
การเลี้ยงดูผู้อมตะต้องใช้ทรัพยากรมหาศาลแต่ฟางหยวนกลืนกินถ้ำสวรรค์และปล้นสะดม
ทรัพยากรจํานวนมากมาจากสองสวรรค์ เขาไม่ขาดแคลนทรัพยากรแล้ว
ด้วยวิธีนี้ มันอาจกล่าวได้ว่าฟางหยวนสร้างกองกําลังใหญ่ระดับแนวหน้าของโลกใบนี้ขึ้นมา
แม้วังสวรรค์และถ้าสวรรค์นิรันดรจะมีทรัพยากรมากกว่าฟางหยวน แต่พวกเขาไม่สามารถลอก
เลียนแบบวิธีการของเขา
ฟางหยวนครอบครองสระหลอมรวมสี่ธาตุแห่งความโศกเศร้า มันเป็นเรื่องง่ายสําหรับเขาใน การหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับหกและวิญญาณอมตะระดับเจ็ด นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสามารถ มอบวิญญาณอมตะทุกชนิดให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
หากฟางหยวนต้องการใช้วิญญาณอมตะเหล่านั้นในอนาคต เขาสามารถสร้างภารกิจบังคับที่
ไม่มีผู้ใดกล้าขัดคําสั่ง
ในเวลานั้นฟางหยวนจะมอบแต้มผลงานจํานวนมากเป็นการแลกเปลี่ยน ผู้อมตะที่สูญเสีย
วิญญาณอมตะจะมีความสุขมากกว่าความรู้สึกสูญเสีย
ปฏิกิริยาตอบสนองที่ร้อนแรงของผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นไปตามความคาดหมายของฟางหยวน
ผู้อมตะเหล่านี้ถูกกระตุ้นให้ทําภารกิจอย่างบ้าคลั่ง พวกเขาเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆและ จัดการปัญหาในมิติช่องว่างจักรพรรดิเหมือนผึ้งงาน
สําหรับภารกิจแรกบนหอคอยภารกิจ กลุ่มผู้อมตะกําลังคุยกันว่าฟางหยวนหมายความว่า อย่างไร เขาทําสิ่งใดผิดพลาดหรือไม่
แต่หลังจากผ่านไปสองสามวัน เนื้อหาของภารกิจก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
กลุ่มผู้อมตะเริ่มถูกดึงดูดด้วยแต้มผลงานจํานวนมาก
ซื่อจงเป็นคนที่ศึกษารายการสมบัตินานที่สุด
เมื่อเร็วๆนี้เขาประสบปัญหาใหญ่
เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเผ่ามนุษย์หินจากภาคเหนือ เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด
และกําลังจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติใหญ่ครั้งที่สาม
ผู้อมตะระดับเจ็ดต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติพิภพทุกสิบปี ภัยพิบัติสวรรค์ทุกห้าสิบปี และภัย
พิบัติใหญ่ทุกหนึ่งร้อยปี
ภัยพิบัติพิภพและภัยพิบัติสวรรค์ไม่ใช่ปัญหาสําหรับซื่อจง แต่ภัยพิบัติใหญ่เป็นปัญหาใหญ่ ภัยพิบัติใหญ่สองครั้งก่อนหน้านี้ทําลายความมั่นใจของซื่อจงจนเกือบหมด
ภัยพิบัติครั้งที่สามกําลังจะมาถึง ซื่อจงกําลังค้นหาวิธีชะลอภัยพิบัติดังกล่าว
แต่หลังจากตรวจสอบรายกายสมบัติที่สามารถแลกเปลี่ยน เขายังไม่พบร่องรอยของความหวัง
“รายการสมบัติไม่มีวิธีชะลอภัยพิบัติ!” ซ๊อจงขมวดคิ้ว
“นายท่านไม่มีวิธีการเช่นนั้นงั้นหรือ? ไม่อย่างแน่นอน!” ซื่อจงหันหน้าไปทางหอคอยการกิจ
“ดูเหมือนนายท่านต้องการให้เรารับภารกิจนี้”
ซื่อจงถูกล่อลวง
เดิมทีเผ่ามนุษย์หินของภาคเหนือถูกบังคับให้มาอาศัยอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ แต่ตอนนี้
ซื่อจงพบว่าการอยู่ที่นี่ถือเป็นความโชคลาภที่เหนือจินตนาการ มันทําให้พวกเขามีอนาคตที่สดใส
ด้วยการใช้ความเมตตาและกําลัง ฟางหยวนสามารถเปลี่ยนใจผู้คน
ซื่อจงไม่กล้าทรยศฟางหยวนและยังเห็นประโยชน์มากมายของการติดตามฟางหยวน เขาคิด
อยู่ชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจรับภารกิจ!
เขารับภารกิจอย่างเปิดเผยโดยไม่ปิดบัง
ในไม่ช้าข่าวนี้ก็เพื่อกระจายไปทั่วมิติช่องจักรพรรดิ
“ซื่อจงเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด หากเขาก้าวข้ามภัยพิบัติใหญ่ครั้งนี้ เขาจะกลายเป็นผู้อมตะระดับ
แปด!”
“มาดูกันว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป”
“เห้อ…แท้จริงแล้วข้าต้องการรับภารกิจนี้เช่นกัน แต่ข้าไม่คาดหวังว่าซื่อจงจะชิงรับภารกิจนี้
ไปก่อน นี่เป็นโอกาสที่ดีในการแสดงความภักดีต่อนายท่าน”
ไม่นานหลังจากซื่อจงรับภารกิจ เขาถูกเรียกพบโดยร่างแยกกาลเวลาของฟางหยวน
ร่างแยกกาลเวลาช่วยจัดการมิติช่องว่างของซือจงให้พร้อมสําหรับการเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ
ฟางหยวนยัดทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีจํานวนมหาศาลเข้าไปในมิติช่องว่างของ
ซื่อจงและทําให้ฝ่ายหลังรู้สึกพูดไม่ออก
ด้วยรากฐานบนเส้นทางแห่งปฐพีที่เพิ่มขึ้นของข้า ภัยพิบัติใหญ่ครั้งนี้จะรุนแรงมาก โดยปกติ แล้วผู้อมตะจะพยายามลดความรุนแรงของภัยพิบัติ แต่นายท่านกลับทําสิ่งตรงข้ามราวกับว่าเขา ต้องการให้ภัยพิบัติใหญ่กลายเป็นหมื่นภัยพิบัติ!’
หลายวันต่อมา มันก็ถึงเวลาที่ซื่อจงต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ
ร่างหลักของฟางหยวนมาถึงพื้นที่ทะเลธรรมดาแห่งหนึ่ง เขานําซื่อจงออกมาจากมิติช่องว่าง
จักรพรรดิ
ซื่อจงทักทายฟางหยวนก่อนจะวางมิติช่องว่างของเขาลง
มิติช่องว่างของเขาดูดซับปราณสวรรค์พิภพจากโลกภายนอกจํานวนมากเข้าไป
ฟางหยวนยืนอยู่ด้านนอก เขาเข้าไปไม่ได้เพราะเขามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ามากเกินไป ภัยพิบัติใหญ่มาถึงในที่สุด ใบหน้าของซื่อจงกลายเป็นซีดเผือด
“ภัยพิบัติละอองเมฆาสีเหลือง! โอ้ สวรรค์ มิติช่องว่างของข้ามีทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปฐพี มากเกินไป ดังนั้นภัยพิบัติครั้งนี้จึงรุนแรงและมุ่งเป้ามาที่ทรัพยากรเหล่านั้นโดยเฉพาะ”ที่สุด
ท่ามกลางภัยพิบัติใหญ่ทั้งหมด ภัยพิบัติละอองเมฆาสีเหลืองเป็นหนึ่งในไม่กี่ภัยพิบัติที่รุนแรง
ชื่อจงทดลองใช้ท่าไม้ตายอมตะหลายท่าแต่ไม่ได้ผล
“ตอนนี้ข้าทําได้เพียงพึ่งพานายท่านเท่านั้น!” ซื่อจงรู้สึกหดหู่
เป็นเพียงเวลานี้ที่ซื่อจงเห็นรอยสักหลากหลายสีสันพุ่งออกมาจากร่างของฟางหยวนและเข้า
สู่มิติช่องว่างของเขา
รอยสักจํานวนมากอยู่ในหลากหลายรูปลักษณ์ มันมีทั้งพยัคฆ์ ราชสีห์ กวาง กระต่าย ต้นไม้
ดาวตก และอื่นๆ
แต่ไม่ว่าจะเป็นรอยสักใด พวกมันล้วนปลดปล่อยกลิ่นอายระดับแปดออกมาทั้งหมด หัวใจของซื่อจงสั่นไหว ‘โอ้ สวรรค์! มีท่าไม้ตายอมตะมากกว่ายี่สิบท่า ทั้งหมดล้วนเป็นท่า ไม้ตายอมตะระดับแปด นายท่านช่างน่ากลัวนัก!’
ทั้งหมดคือท่าไม้ตายรอยสัก
ตั้งแต่ฟางหยวนได้รับวิธีการบ่มเพาะรอยสักจากเจิ้งปู่ดู่ เขาจะบ่มเพาะรอยสักทุกครั้งเมื่อเขามี
เวลาว่าง
ท่าไม้ตายรอยสักเป็นเรื่องยากที่จะสร้างขึ้นในโลกภายนอกที่ไม่มีสภาพแวดล้อมบนเส้นทาง
อาหาร
แต่ฟางหยวนแตกต่างออกไป
เขามีรากฐานบนเส้นทางอาหาร เขาสามารถดัดแปลงวิธีการบ่มเพาะรอยสัก
ด้วยวิธีนี้ ฟางหยวนจึงสามารถสร้างรอยสักมากกว่ายี่สิบรอย
รอยสักทั้งหมดล้วนเป็นรอยสักระดับแปดที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถันโดยฟางหยวน
พลังของพวกมันไม่ต่ํา สิ่งที่น่าทึ่งมากว่าก็คือเมื่อรอยสักถูกสร้างขึ้น มันจะง่ายและสะดวกในการ
ใช้งาน
ฟางหยวนใช้รอยสักมากกว่ายี่สิบรอยพร้อมกัน กล่าวอีกนัยคือเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะระดับ
แปดมากกว่ายี่สิบท่าในเวลาเดียวกัน!
เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะร่างทารกอมตะอนุญาตให้เขาบ่มเพาะรอยสักของทุกเส้นทาง หากเป็น
ผู้อมตะคนอื่นๆ พวกเขาจะไม่สามารถทําสิ่งนี้
ซือจงตกตะลึง
ภัยพิบัติละอองเมฆาสีเหลืองถูกทําลายล้างอย่างรวดเร็วโดยรอยสักเหล่านั้น
‘น่ากลัวเกินไป!’ จิตใจของซื่อจงกลายเป็นปั่นป่วน
อย่างไรก็ตามภัยพิบัติใหญ่ยังไม่จบ เจตจํานงสวรรค์ยังไม่ยอมแพ้ แต่รอยสักทรงพลังกว่านี่ทําให้ซื่อจงรู้สึกว่าภัยพิบัติใหญ่ค่อนข้างน่าสมเพช
ท่าไม้ตายอมตะมนุษย์สัมผัสสวรรค์!
ท่าไม้ตายอมตะมนุษย์ทํางานแทนสวรรค์!
ท่าไม้ตายอมตะปลดปล่อยพันธนาการสวรรค์!
ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะจากด้านนอกเพื่อปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสวรรค์จากภัยพิบัติใหญ่
ต่อมาเขาก็น่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะออกมามันคือรังโจรที่ได้รับการซ่อมแซมและดัดแปลงมาแล้ว
ท่าไม้ตายอมตะขโมยเต่า!
ด้วยวิธีนี้ ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่เกิดจากภัยพิบัติใหญ่ของซื่อจงจึงถูกยึดครองโดยคฤหาสน์วิญญาณอมตะรังโจร
อย่างไรก็ตามร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่รังโจรขโมยมาเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋
ที่หลากหลายมันเหมือนทรัพยากรอมตะไร้ค่าที่ไม่สามารถใช้งานในถ้ำปีศาจคลั่งแต่ฟางหยวนมีวิธีแก้ไข
ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางอาหารกลืนกินสวรรค์พิภพ!
นี่เป็นกําไรที่ฟางหยวนได้รับมาจากการฝึกฝนในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ความสําเร็จบนเส้นทางอาหารของฟางหยวนอยู่ในระดับปรมาจารย์เขามีท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางอาหารนับไม่ถ้วนเมื่อรวมกับระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญามันไม่ใช่เรื่องยาก
สําหรับเขาที่จะสร้างท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางอาหาร