Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2139วาจาอันชอบธรรม
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2139วาจาอันชอบธรรม
“ฮ่าฮ่าฮ่า” จักรพรรดิขนทองหัวเราะ “เจ้าคิดผิดแล้วสาวน้อย”
ซื่อจงกล่าวเสริม“มันไม่มีปัญหาที่จะบอกพวกเจ้าว่าวูหยงผู้นํากองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะภาคใต้ของพวกเจ้าทําธุรกรรมกับพวกเรามาหลายครั้งแล้วเขาได้รับทรัพยากรอมตะระดับเก้าบน
เส้นทางแห่งวายุจากพวกเราและยังมอบวิญญาณอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งวายุให้พวกเรา
ช่วยยกระดับเป็นวิญญาณอมตะระดับแปดอีกด้วย”
“กระไรนะ!?” หัวใจของผู้อมตะตระกูลชายสั่นไหว
ปิงหยวนยิ้ม“ฝ่ายธรรมะฝ่ายปีศาจความแตกต่างของมันคือสิ่งใด? หากเจ้านายของข้าก้าวเข้าสู่ฝ่ายธรรมะผู้ใดจะกล้าไม่ยอมรับเขา แท้จริงแล้วไม่เพียงตระกูลวูแต่ตระกูลฟางของทะเลทรายตะวันตกก็ร่วมงานกับพวกเราอย่างลับๆปัจจุบันตระกูลฟางกําลังจัดหาแก่นแท้อสูรวิญญาณ
จากทะเลทรายผีเขียวให้กับนายท่านของเราด้วยกําลังทั้งหมด”
หัวใจของผู้อมตะตระกูลชายสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง
พวกเขาเคยได้ยินชื่อเสียงของตระกูลฟางและรู้การเคลื่อนไหวล่าสุดของพวกเขา แต่สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนตระกูลช่ายมากที่สุดคือตระกูลวูลอบทํางานร่วมกับฟางหยวนอย่างลับๆ
“เป็นไปไม่ได้!”ชายเค่อชิงกรีดร้อง“อย่าพยายามโกหกท่านวูหยงเป็นผู้นํากองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของภาคใต้ท่านจะร่วมมือกับพวกเจ้าได้อย่างไร? ทุกคนอย่าฟังเรื่องไร้สาระของมนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้พวกเขากําลังหลอกลวงพวกเรา!”
แต่คราวนี้ผู้อมตะตระกูลชายทั้งหมดกลับเงียบ
ช่ายเค่อชิงพึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้แม้นางจะมีพรสวรรค์และได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากผู้อมตะมาตลอด แต่นางยังไม่รู้ว่าโลกใบนี้ทํางานอย่างไร
ความเข้าใจเกี่ยวกับโลกผู้อมตะของนางยังด้อยกว่าเฉิงซินซื่ออยู่มากตั้งแต่ผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้กล่าวออกมา ผู้อมตะตระกูลชายก็เชื่อแล้ว
ว่ามันเป็นเรื่องจริง
พวกเขาสามารถตรวจสอบและค้นหาความจริง เมื่อฝ่ายตรงข้ามกล้ากล่าวอย่างออกมาโดยไม่กลัวถูกตรวจสอบ มันจึงกลายเป็นหลักฐานของเรื่องนี้
ช่ายเค่อชิงไม่เชื่อว่าวูหยงจะทําเช่นนั้น แต่ผู้อมตะตระกูลชายที่มีประสบการณ์สามารถบอกได้
ว่ามันเป็นเรื่องจริง แท้จริงแล้วไม่นานมานี้พวกเขาเองก็ทําข้อตกลงกับลั่วเว่ยหยินอย่างลับๆเพื่อ หลีกหนีปัญหาเช่นกัน
ปิงหยวนกล่าวต่อ “นายท่านของข้ามุ่งมั่นที่จะสร้างแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพทะเลมนุษย์ข้าคิดว่าทุกคนรู้จักธรรมชาติของนายท่านของข้าแม้ทุกคนบนโลกใบนี้จะต่อต้านแต่เขาก็จะทํามัน เขาจะไม่ยอมแพ้เพียงเพราะบางคนกีดขวางเส้นทางของเขา!”
“พวกเจ้าสามารถตรวจสอบเหตุการณ์ล่าสุดในทะเลตะวันออก”
“เราส่งผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ออกไปรอบๆและสังหารมนุษย์เพื่อรวบรวมปราณมนุษย์ให้กับทะเลมนุษย์”
“กองกําลังใหญ่ฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกทั้งหมดไม่มีฝ่ายใดต่อต้านพวกเราในเรื่องนี้”“กองกําลังพันธมิตรทะเลปราณมีบรรพชนทะเลปราณที่เป็นตัวตนกึ่งระดับเก้าแต่เขายังแสร้ง มองไม่เห็นโดยไม่จําเป็นต้องกล่าวถึงกองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะภาคใต้ของพวกเจ้า”
เจตจํานงของผู้อมตะตระกูลชายสั่นคลอน พวกเขาลอบสนทนากันอย่างลับๆ“มีโศกนาฎกรรมมากมายเกิดขึ้นที่ทะเลตะวันออกจริงๆ”
“ถูกต้อง ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์เหล่านี้น่ารังเกียจแต่พวกเขากล่าวเรื่องจริง”“กองกําลังพันธมิตรทะเลปราณมีบรรพชนทะเลปราณแต่มันยังจบลงเช่นนี้โดยไม่ต้องกล่าวถึง
กองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของภาคใต้ที่ไม่มีตัวตนระดับดังกล่าว”
“สิ่งที่แย่ที่สุดคือวูหยงยังลอบร่วมมือกับฟางหยวน”
“อิทธิพลของฟางหยวนช่างน่ากลัวนัก”
“ศัตรูแข็งแกร่งขณะที่พวกเราอ่อนแอเราควรเก็บรักษาความแข็งแกร่งของเราเอาไว้”
ตระกูลชายรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวน พวกเขาไม่แม้แต่จะสามารถเอาชนะผู้อมตะ
ระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสามที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาในเวลานี้ สิ่งที่ทําให้พวกเขายิ่งสิ้น
หวังมากขึ้นก็คือแม้พวกเขาจะต้องการต่อสู้แต่กองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของภาคใต้จะไม่ปกป้องพวกเขา
ภูเขาควันมนุษย์มีมนุษย์อาศัยอยู่นับไม่ถ้วน
หากพวกเขาต่อสู้กันคนเหล่านี้จะกลายเป็นจุดอ่อนของตระกูลชาย ตระกูลช่ายจะไม่สามารถปกป้องพวกเขาหากมนุษย์เหล่านี้ถูกกวาดล้างมันก็ไม่ต่างจากการสูญเสียรากฐานของตระกูลเช่นก้น
ในประวัติศาสตร์เมื่อตระกูลปาและตระกูลเซี่ยสร้างปัญหาให้กับตระกูลช่ายตราบเท่าที่ฝ่ายตรงข้ามคุกคามภูเขาควันมนุษย์ตระกูลชายต้องดําเนินการอย่างระมัดระวังเสมอ
ถึงตอนนี้ผู้อมตะตระกูลเซี่ยก็ถูกโน้มน้าวให้ร่วมมือกับฟางหยวนแล้วตระกูลชายไม่มีทางเลือกพวกเขาไม่สามารถทําสิ่งใดนอกจากต้องร่วมมือกับฟางหยวน
ศัตรูแข็งแกร่งขณะที่พวกเขาอ่อนแอ
มีเพียงช่ายเค่อชิงเท่านั้นที่ยังกล่าวต่อ “ทุกคน ฟังข้า…”
“หุบปาก!” ช่ายกังไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เขาโบกมือผนึกช่ายเค่อชิงเอาไว้ นั่นทําให้นางไม่สามารถขยับเขยื้อนหรือกล่าวสิ่งใด
ช่ายเค่อชิงตกใจมากนางไม่เคยคาดหวังว่าผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งจะทําเช่นนี้กับนาง
การเคลื่อนไหวนี้ทําให้ผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสามรู้สึกประหลาดใจ
เมื่อช่ายกังใช้ท่านี้ไม่มีกลิ่นอายใดๆเล็ดลอดออกมาตั้งแต่ต้นจนจบเมื่อไม่สามารถสัมผัสกลิ่นอายสามผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์จึงไม่สามารถตัดสินได้ว่ามันเป็นท่าไม้ตายบนเส้นทางสายใดดี”
หลังจากทั้งหมดตระกูลชายเป็นหนึ่งในกองกําลังใหญ่ของภาคใต้ พวกเขามีรากฐานอยู่บ้างช่ายกังมองผู้อมตะตระกูลชายผู้หนึ่งด้วยสายตาเย็นชา“ชายกุ้ยเฉินดูแลลูกหลานของเจ้าให้
“ทราบแล้ว” ช่ายกุ้ยเฉินเดินเข้าไปหาช่ายเค่อชิงและวางมือลงบนไหล่ของนางทันใดนั้นผนึกของชายเค่อชิงก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้น
หัวใจของชายเค่อชิงสั่นไหวอย่างรุนแรง นางรู้สึกไม่อยากจะเชื่อดวงตาของนางกลายเป็นสี
แดงเมื่อมองไปยังบรรพบุรุษที่เคยสูงส่งและยิ่งใหญ่ในหัวใจของนาง
เมื่อเห็นสิ่งนี้สามผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์มีความคิดคล้ายกันผลลัพธ์ปรากฎแล้ว!
วันต่อมา
ภูเขาควันมนุษย์ถูกโจมตีโดยคลื่นสัตว์อสูรครั้งใหญ่ในรอบหลายร้อยปี
ในเวลานั้นผู้อมตะส่วนใหญ่ของตระกูลชายออกไปต่อสู้แย่งชิงมรดก แดนศักดิ์สิทธิ์และช่ายเค่อชิงนํากลุ่มผู้อมตะระดับหกออกไปจัดการคลื่นสัตว์อสูร นางใช้ท่าไม้ตายโดยไม่สนใจ
ความสูญเสียของตระกูลชาย
ท่าไม้ตายของนางสร้างความเสียหายให้กับทั้งศัตรูและฝ่ายของตนเอง แม้สัตว์อสูรเดียวดาย
จะตายแต่ภูเขาคว้นมนาย์ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักเช่นกัน
โชคดีที่พวกนางสามารถปกป้องบางหมู่บ้าน
“แม้มันจะมีความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับผู้อมตะแต่ตระกูลชายของข้าไม่มีความแตกต่างดังกล่าว”
“ชีวิตมนุษย์เป็นสิ่งสําคัญที่สุด ชีวิตมนุษย์มีค่าเท่ากับชีวิตของผู้อมตะ!แม้เราจะต้องสละชีวิตมันก็คุ้มค่าหากเราสามารถรักษาชีวิตของผู้คนได้มากขึ้น”
“นี่คือหลักการของตระกูลช่าย มันเป็นหลักการของเราในฐานะฝ่ายธรรมะ!”
ช่ายกังประกาศวาจาที่เต็มไปด้วยความชอบธรรมต่อโลกผู้อมตะของภาคใต้หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้
สามผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ลอบเดินทางกลับอย่างลับๆ
ตระกูลชายขายภูเขาควันมนุษย์ให้กับฟางหยวนรวมถึงมนุษย์ส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บนภูเขา
ควันมนุษย์ มีเพียงสมาชิกตระกูลชายเท่านั้นที่รอดชีวิต
สามผู้อมตะระดับแปดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์จากไปโดยทิ้งมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งไฟและวิญญาณอมตะระดับแปดจํานวนสามดวงเอาไว้เบื้องหลัง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ขีดจํากัดของนายท่านคือวิญญาณอมตะระดับแปดจํานวนห้าดวง ข้าไม่คิดว่าเราจะใช้เพียงสามดวงในภารกิจนี้”ซื่อจงหัวเราะ
“แม้ตระกูลชายจะเป็นกองกําลังใหญ่ของภาคใต้มานาน แต่พวกเขากลับไร้ความสามารถวิญญาณอมตะระดับแปดเพียงสามดวงก็ทําให้พวกเขายอมแพ้แล้ว”จักรพรรดิขนทองเย้ยหยัน
ปัจจุบันมีวิญญาณอมตะระดับแปดมากกว่ายี่สิบแปดดวงอยู่ในรายการสมบัติบนหอคอยสมบัติ
วิญญาณอมตะระดับแปดเหล่านี้มาจากเส้นทางที่หลากหลายและสามารถแลกเปลี่ยนด้วย
แต่มผลงาน
ฟางหยวนช่วยผู้อมตะจํานวนมากก้าวข้ามภัยพิบัติ เมื่อผู้อมตะระดับแปดในมิติช่องว่าง
จักรพรรดิเพิ่มมากขึ้น ฟางหยวนจึงต้องวางวิญญาณอมตะระดับแปดไว้ในรายการแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะระดับแปดทําให้ผู้อมตะระดับแปดตื่นเต้นจนแทบบ้า
แม้ผู้อมตะเหล่านี้จะรู้ว่าฟางหยวนใช้แครอทเพื่อล่อลวงให้พวกเขาทํางาน แต่แครอทชิ้นนี้ใหญ่โตและเงางามเกินไป มันทําให้พวกเขาน้ําลายไหลจริงๆ
มันเป็นเรื่องยากที่จะครอบครองวิญญาณอมตะระดับแปดและยากยิ่งกว่าในการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปด
แน่นอนว่าผู้อมตะเหล่านี้ไม่สามารถต่อต้านสิ่งล่อลวงนี้
“ยินดีกับท่านปิงหยวนด้วยที่สามารถรักษาวิญญาณอมตะระดับแปดสองดวงเอาไว้ เมื่อเรากลับไป ท่านจะได้รับรางวัลเป็นแต้มผลงานจํานวนมากอย่างแน่นอน” จักรพรรดิขนทองยกยอ ปิงหยวนหัวเราะ “แท้จริงแล้วข้าไม่ได้สนใจแต้มผลงานมากนัก ข้าหาทุกอย่างเพื่อครอบครัวของข้าพวกท่านรู้หรือไม่ว่าเซี่ยเอ๋อหลานสาวของข้าเป็นคู่หมั้นของท่านฟางหยวน”
‘มันมาอีกแล้ว!’
‘ปิงหยวนโอ้อวดความสัมพันธ์ระหว่างนางกับนายท่านอีกแล้ว!’
ซื่อจงและจักรพรรดิขนทองลอบมองหน้ากันอย่างลับๆและสามารถมองเห็นความนัยที่ซ่อนอยู่
ในดวงตาของอีกฝ่าย
พวกเขาได้ยินปิงหยวนกล่าวถึงความสัมพันธ์นี้มานับครั้งไม่ถ้วนและเริ่มรู้สึกคลื่นไส้แต่ถึงกระนั้นทุกครั้งที่พวกเขาได้ยินเรื่องนี้พวกเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา
ซื่อจงเร่งเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ฝ่ายของเราแข็งแกร่งมาก พวกเจ้าคิดว่าเพราะเหตุใดนาย
ท่านจึงต้องจ่ายราคามหาศาลเพื่อทําธุรกรรมกับตระกูลชาย?”
จักรพรรดิขนทองรีบตอบ “ในความคิดเห็นของข้า นายท่านทําธุรกรรมที่ยุติธรรมกับตระกูลวและตระกูลชายเพราะนายท่านต้องการก้าวเข้าสู่ฝ่ายธรรมะ”
ซื่อจงถอนหายใจ “หากข้าแข็งแกร่งเช่นนายท่าน ผู้ใดจะสามารถหยุดข้าหากข้าวิ่งหนี’ฮ่าฮ่า
เพียงสะบัดนิ้วเบาๆ ตระกูลช่ายก็จะกลายเป็นกองขี้เถ้า ข้าจะเสียเวลาเจรจากับพวกเขาเพื่อสิ่งใด?”
ปิงหยวนก่นเสียงเย็น “นี่คือเหตุผลที่เจ้าจะไม่มีวันกลายเป็นเหมือนนายท่าน นายท่านมองการณ์ไกลเราจะสามารถหยั่งถึงความคิดของนายท่านได้อย่างไร หากเราพยายามคาดเดามันก็
ไม่ต่างจากมดที่พยายามประเมินดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์”
“ถูกต้อง” จักรพรรดิขนทองเร่งกล่าวเสริม “ไม่ว่าเราจะก้าวเข้าสู่ฝ่ายธรรมะหรือไม่เพียงได้มองเห็นตระกูลชายถูกบังคับให้ระงับความโกรธของพวกเขามันก็ทําให้ข้ารู้สึกดีจริงๆในที่สุดข้าก็ได้สัมผัสกับรสชาติของความเท่าเทียมแล้ว”
สามผู้อมตะมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม
ปิงหยวนกล่าว “ไม่ว่านายท่านจะอยู่ฝ่ายธรรมะหรือปีศาจ เราก็จะทําตามการตัดสินใจของนายท่านหากนายท่านต้องการเจรจาและทําธุรกรรมเราจะทําธุรกรรมหากนายท่านต้องการฆ่าบางคน เราจะฆ่าคนโชคร้ายผู้นั้น”
“แน่นอน!” จักรพรรดิขนทองตบหน้าอกของตนอย่างแรง
ซื่อจงพยักหน้าและกล่าวด้วยอารมณ์ที่เอ่อล้น “ในประวัติศาสตร์ นอกจากมนุษย์คนแรกข้าก็เคารพนายท่านเท่านั้น!”
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาลูกน้องของฟางหยวนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่การเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นได้ชัดคือระดับการบ่มเพาะของพวกเขาที่พุ่งสูงขึ้น แต่การ
เปลี่ยนแปลงที่สําคัญอีกประการก็คือการเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจ ตอนนี้พวกเขามีความภักดีต่อฟางหยวนสูงมาก