Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2151 ภูเขาที่มีชื่อเสียง
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2151 ภูเขาที่มีชื่อเสียง
ภูเขาวูอี้ ฐานทัพใหญ่ของตระกูลวู
ในห้องโถง
เค่อซินหงเผยรอยยิ้มบางขณะทักทายอย่างสุภาพ “เค่อซินหงคารวะผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่หนึ่งตระกูลวู”
วูหยงยิ้ม “ท่านทูต ไม่จําเป็นต้องสุภาพมากนัก”
เค่อซินหงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามาที่นี่พร้อมกับวิญญาณอมตะพัดวายุระดับแปดโปรดตรวจสอบ”
วูหยงรู้สึกประหลาดใจเขาคิด “รวดเร็วนัก!ฟางหยวนมีวิธีหลอมรวมวิญญาณอมตะปลอมหรือไม่? เขามาที่นี่เพื่อหลอกลวงข้างั้นหรือ?”
เขาตรวจสอบและไม่พบข้อบกพร่อง
‘มันเป็นวิญญาณอมตะระดับแปดจริงๆแต่ฟางหยวนสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดในระยะเวลาสั้นๆได้อย่างไร?”วูหยงไม่แน่ใจ
ในความคิดของวูหยงฟางหยวนเป็นคนเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายไร้ยางอาย โหดเหี้ยมเขาเป็นจักรพรรดิปีศาจอันดับหนึ่งของโลกที่ไม่สามารถประเมินได้ด้วยสามัญสํานึก
“ท่านทูต โปรดรอสักครู่ผู้อมตะตระกูลวูของเรากําลังมาที่นี่เพื่อตรวจสอบมัน” วูหยงกล่าวตระกูลวูมีรากฐานบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเช่นกันแต่พวกมันไม่ได้ยอดเยี่ยมมากนัก
ตระกูลวูไม่มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งวายุอันดับหนึ่งของห้าภูมิภาค
เมื่อเวลาผ่านไปวูหยงก็ได้รับรายงานว่าวิญญาณอมตะระดับแปดดวงนี้เป็นของจริงวูหยงรู้สึกซับซ้อน
วิญญาณอมตะระดับแปดเป็นเรื่องยากที่จะหลอมรวมปีศาจอมตะเซี่ยหูเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของเรื่องนี้
‘แม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากระแสลมปราณทําให้ทรัพยากรทุกชนิดปรากฏขึ้น แต่มันยังเป็นเรื่องยากที่จะหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดโดยเฉพาะผู้บ่มเพาะสันโดษ’
‘ผู้ใดจะคิดว่าตระกูลวูของข้าจะได้รับวิญญาณอมตะระดับแปดดวงใหม่’
วูหยงมีความสุขแต่ก็ระแวงฟางหยวนมากขึ้นเช่นกัน
‘แม้ข้าจะรู้ว่าฟางหยวนกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาแต่มันยังยากที่จะเชื่อว่าความสามารถในการหลอมรวมวิญญาณของเขาจะยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้มันดูเหมือนเขาจะมีช่วงเวลาที่ง่ายดายในการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปด’
เค่อซินหงกล่าว “เมื่อท่านตรวจสอบเรียบร้อยแล้วข้าสงสัยว่าวิญญาณอมตะระดับแปดอีกสอง
ดวงที่ท่านต้องการให้เราหลอมรวมคือสิ่งใด?ครั้งต่อไปข้าจะนําพวกมันมาส่งมอบ”
วูหยงเริ่มลังเล
เขาควรส่งวิญญาณอมตะพายุเกียรติยศระดับเจ็ดให้เค่อซินหงหรือไม่
หากวูหยงได้รับวิญญาณอมตะพายุเกียรติยศระดับแปดพลังการต่อสู้ของเขาจะเพิ่มขึ้นมหาศาล
แต่หากฟางหยวนแย่งมันไป เขาจะทําอย่างไร
‘ข้าต้องคิดให้รอบคอบ มีทางเลือกมากมาย’ตอนนี้วูหยงเริ่มรู้สึกว่าโอกาสสามครั้งน้อยเกินไปเขาต้องการยกระดับวิญญาณอมตะทั้งหมด
“ผู้ใดจะคิดว่าพวกท่านจะทําได้รวดเร็วเช่นนี้ตอนนี้ข้ายังไม่สามารถเลือก ข้าต้องคิดให้รอบคอบท่านทูตเหตุใดท่านไม่พักที่นี่สักสองสามวัน”วูหยงถาม
วูป่าชงกล่าวเสริม “กล่าวถึงเรื่องนี้นี่เป็นครั้งที่สามที่ท่านมาที่ตระกูลวูโปรดให้เราเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงต้อนรับท่าน”
เค่อซินหงเผยรอยยิ้มบาง “เช่นนั้นข้าคงต้องรบกวนแล้วสําหรับการพิจารณาของผู้อาวุโสสูงสุดลําาดับที่หนึ่งข้าเข้าใจอย่างไรก็ตามข้ายังมีภารกิจอื่นข้าสงสัยว่าตระกูลวูของท่านต้องการทําธุรกรรมอื่นกับเราหรือไม่?”
“ธุรกรรมใด?” วูหยงเริ่มตื่นตัว
เค่อซินหงอธิบายรายละเอียดวูหยงคิดอย่างเงียบๆ
แต่วูป่าชงกลับตะโกนด้วยความตกใจ“อันใด?ฟางหยวนต้องการขุดภูเขาที่มีชื่อเสียงของตระกูลวออกไปแลกกับการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดงั้นหรือ?”
“ถูกต้อง” เค่อซินหงพยักหน้า
วูป่าชงเย้ยหยัน“มันจะเป็นไปได้อย่างไร?ภูเขาที่มีชื่อเสียงเป็นแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่
และขนาดยักษ์ พวกมันสามารถผลิตทรัพยากรอมตะระดับแปด! แม้พวกเจ้าจะสามารถหลอมรวม
วิญญาณอมตะระดับแปดแต่พวกเจ้ายังต้องใช้วิญญาณอมตะของเราเป็นพื้นฐานในการยกระดับพวกเจ้าไม่ได้มอบวิญญาณอมตะเพิ่มเติมให้เรา”
“นอกจากนี้อาหารของวิญญาณอมตะระดับแปดก็หายาก พวกมันต้องการอาหาร ในทางตรงข้าม ภูเขาที่มีชื่อเสียงสามารถผลิตทรัพยากรได้อย่างไม่มีวันสิ้นสุดพวกเจ้าต้องการยึดภูเขาที่มีชื่อเสียงของเรานี่เป็นการพยายามทําลายรากฐานของเราพวกเจ้ามีเจตนาใด!?”
ในตอนท้ายวป่าชงกรีดร้องด้วยความโกรธ
แต่เค่อซินหงเตรียมตัวมาแล้ว เขากล่าวอย่างใจเย็น “ไม่ ไม่ ไม่ ผู้อาวุโสวูป่าชงท่านมองโลกในแง่ร้ายเกินไปคิดให้ดีตระกูลของท่านมีเมล็ดพันธุ์อมตะจํานวนมากแต่พวกท่านกลับได้รับผู้อมตะใหม่เพียงหกคนส่วนใหญ่ยังเป็นคนนอก”
“แม้พวกท่านจะมีผู้อมตะมากขึ้นแต่อาณาเขตของตระกูลวูใหญ่โตเกินไปพวกท่านไม่สามารถดูแลพวกมันได้อย่างทั่วถึงดังนั้นพวกท่านสามารถพิจารณาขายบางส่วนในกรณีนั้นไม่เพียงตระกูลวูจะมีวิญญาณอมตะระดับสูงขึ้นพวกท่านยังจะมีกําลังคนเพียงพออีกด้วย”
เค่อซินหงกล่าวต่อ“นอกจากนี้ข้าแน่ใจว่าผู้อาวุโสวูป่าชงรู้ว่าวิญญาณอมตะระดับแปดเป็นสิ่งล้ำท่อค่าทรัพยากรอมตะสามารถซื้อขายแต่วิญญาณอมตะไม่สามารถพวกมันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
และสามารถแลกเปลี่ยนได้เท่านั้นแม้สวรรค์สีเหลืองจะเป็นตลาดการค้าอันดับหนึ่งแต่ข้าขอถามท่านว่ากี่ปีมาแล้วหลังจากการแลกเปลี่ยนวิญญาณอมตะครั้งสุดท้าย?”
“ตอนนี้ห้าภูมิภาครวมเป็นหนึ่งสงครามห้าภูมิภาคเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงพลังการต่อสู้ของผู้อมตะเป็นสิ่งสําคัญที่สุด ท่านสามารถพิจารณาส่วนที่เหลือหลังจากพลังการต่อสู้ของท่าน เพียงพอที่จะปกป้องตนเองวิญญาณอมตะระดับแปดสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตระกูลของพวกท่านได้อย่างรวดเร็วไม่เพียงพวกท่านจะสามารถป้องกันตัวเองพวกท่านยังสามารถโจมตีกองกําลังอื่นเพื่อรับความมั่งคั่งเพิ่มเติม”
“นี่…” วูป่าชงลังเล
เค่อซินหงชําเลืองมองวูหยงอย่างลับๆและยังโน้มน้าวต่อไป
“ภูเขาคว้นมนุษย์เป็นฐานทัพใหญ่ของตระกูลช่ายแต่พวกเขาพึ่งขายมันให้เราเมื่อเร็วๆนี้”
“กระไรนะ!? มีเรื่องเช่นนี้งั้นหรือ?”วูป่าชงตกตะลึง
เค่อซินหงไม่ได้บอกรายละเอียดเพิ่มเติมเขากล่าวต่อ “หากตระกูลวูไม่ต้องการทําธุรกรรมนี้เราจะไม่บังคับพวกท่านครั้งนี้นอกเหนือจากการนําวิญญาณอมตะกลับไปเพื่อหลอมรวมข้ายัง
ต้องไปตระกูลอื่นเพื่อทําธุรกรรมกับพวกเขา
การแสดงออกของวูป่าชงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หากตระกูลวูไม่ทําธุรกรรมกับฟางหยวนและปล่อยให้ฟางหยวนทําธุรกรรมกับตระกูลอื่นตระกูลอื่นจะได้รับผลประโยชน์แทนตระกูลวู
รังแก
เมื่อเวลานั้นมาถึง ตระกูลวูอาจตกจากบัลลังก์กองกําลังอันดับหนึ่งของภาคใต้ พวกเขาอาจถูกวูหยงครุ่นคิด
‘ฟางหยวนมีอํานาจเหนือกว่า แม้นี่จะเป็นการทําธุรกรรมแต่เขาไม่ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามปฏิเสธ!
อย่างไรก็ตามแม้เค่อซินหงจะพยายามโน้มน้าวพวกเราแต่เขาก็ไม่ได้กล่าวผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้’
มันเป็นการค้าที่ยุติธรรมเราเพียงต้องควบคุมขอบเขตของการทําธุรกรรมเท่านั้นในเวลาเดียวที่วังสวรรค์แห่งโชค
“กังหนี่คาวระนายท่าน!”ผู้อมตะคลื่นปฐพีกังหนี่หนึ่งในแปดเจ้าเกาะของถ้ำสวรรค์นิรันดรคุกเข่าลงต่อหน้าผีดิบอมตะตะวันเดือด
ผู้อมตะคลื่นปฐพีกังหนี่เป็นผู้อมตะหญิงนางบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปฐพีและเส้นทางแห่งการหลอมรวม
นางส่งมอบวิญญาณอมตะระดับแปดจํานวนสี่ดวง
ผีดิบอมตะตะวันเดือดตรวจสอบและรู้สึกพึงพอใจ“กังหนี่เจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่บนเส้น
ทางแห่งการหลอมรวมตั้งแต่สงครามชะตากรรมสิ้นสุดลงจนถึงตอนนี้เจ้าได้รับคําสั่งจากข้าให้
หลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดจํานวนสี่ดวงเจ้าทํางานได้ดีจริงๆ”
กังหนี่เร่งตอบกลับ“ทั้งหมดต้องขอบคุณวิธีบนเส้นทางแห่งโชคของนายท่านมิฉะนั้นด้วยพรสวรรค์ของข้าเราคงไม่สามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดจํานวนมากในช่วงเวลาที่ผ่านมาแต่ด้วยเหตุนี้โชคของถ้ำสวรรค์นิรันดรจึงลดลงอย่างมาก…”
ผีดิบอมตะตะวันเดือดโบกมือ “มีสูญเสียก็มีกําไรการหลอมรวมวิญญาณอมตะย่อมต้องมีการลงทุน”
ผีดิบอมตะตะวันเดือดหยิบหนึ่งในสี่วิญญาณอมตะระดับแปดขึ้นมา
มันดูเหมือนกล่องไม้สี่เหลี่ยม
นี่คือวิญญาณเลียนแบบ มันเป็นอันดับแปดในรายการวิญญาณที่ลึกลับที่สุดและมีต้นกําเนิดมาจากเทพปีศาจปล้นสวรรค์
หากผู้อมตะวางวิญญาณดวงนี้ไว้ใกล้กับวิญญาณอมตะอีกดวงเป็นระยะเวลาหนึ่ง เมื่อผู้อมตะใช้งานมัน มันจะเปลี่ยนตัวเองเป็นวิญญาณอมตะดวงนั้น
วิญญาณอมตะทุกดวงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแต่วิญญาณเลียนแบบสามารถก้าวข้ามขีดจํากัดนี้ได้ในระดับหนึ่ง
ย้อนกลับไปเทพอมตะตะวันเดือดเคยขอวิญญาณอมตะปราณมนุษย์จากวังสวรรค์แต่ล้มเหลว
ดังนั้นเทพอมตะตะวันเดือดจึงใช้วิญญาณเลียนแบบและเปลี่ยนมันให้เป็นวิญญาณอมตะ
ปราณมนุษย์เพื่อสร้างวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง
นอกจากวิญญาณเลียนแบบวิญญาณอมตะระดับแปดอีกสามดวงล้วนเป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งเลือด!
เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
แสงสว่างส่องประกายขึ้นบุตรแห่งมนุษยชาติทั้งสิบกลับจากโลกภาพวาดสู่โลกแห่งความเป็นจริง
“เรากลับมาในที่สุด”
“น่าเสียดายที่เราไม่สามารถพิชิตภาพวาดใหม่ทั้งสอง”
“เวลาของเราหมดแล้ว”
“เหตุใดต้องกังวล?แม้เราจะไม่สามารถพิชิตพวกมัน แต่ผลลัพธ์ถูกกําหนดไว้แล้วผู้ฝึกสอน
สัตว์อสูรปรากฏขึ้นมันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้นด้วยรากฐานที่เราสร้างขึ้นมัน
ไม่มีทางล้มเหลว”
“นั่นเป็นเรื่องจริง”
เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะจากสิบนิกายโบราณมารับพวกเขากลับไป
ฉินติงหลิงและคนอื่นๆปกปิดตัวตนขณะเฝ้ามองพวกเขา
“เด็กหนุ่มสาวทั้งสิบเป็นเมล็ดพันธุ์อมตะบนเส้นทางมนุษย์ของเรา ไม่ว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ที่ถ้ำปีศาจคลั่งจะเป็นเช่นไรเราก็ต้องเลี้ยงดูและลงทุนกับพวกเขาอย่างเต็มที่!”ฉินติงหลิง
ประกาศ
“รับทราบ!” ผู้อมตะที่รับผิดชอบเรื่องนี้ตอบรับ
“ไปกันเถอะ” ฉินติงหลิงหันหน้าไปทางเจตจํานงของเทพอมตะบัวสวรรค์
เจตจํานงของเทพอมตะบัวสวรรค์พยักหน้า
ในเวลาต่อมาเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้าและเดินทางออกจากภาคกลางเป้าหมายของมันคือถ้ำปีศาจคลั่ง!