Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2158 โหดร้ายเกินไป
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2158 โหดร้ายเกินไป
หลังจากผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนได้รับวิญญาณอมตะพวกเขาก็สามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะนั่นทําให้พลังการต่อสู้ของพวกเขาพุ่งสูงขึ้น
ผู้อมตะของทุ่งบัวเขียวถูกบังคับให้วิ่งหนีด้วยกําลังทั้งหมด
มีเพียงสามผู้อมตะระดับแปดที่สามารถหลบหนี ส่วนคนอื่นๆพวกเขาถูกสังหารโดยกลุ่มของจักรพรรดิผลึกน้ำแข็ง
“โดยปราศจากเขตแดนอมตะ เราก็ไม่สามารถฆ่าผู้อมตะได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ปิงหยวน
ถอนหายใจ
“ไม่สามารถฆ่าได้อย่างมีประสิทธิภาพงั้นหรือ?” ผู้อมตะของปฐพีสีเหลืองมองซากศพของผู้
อมตะด้วยหัวใจสั่นไหว
“ขี้ขลาดนัก!” ซื่อจงเย้ยหยัน “พวกมันหนีไปจริงๆ พวกมันเป็นความอัปยศของผู้อมตะระดับ แปด!”
ผู้อมตะของปฐพีสีเหลืองมองหน้ากันและลอบพูดคุยอย่างลับๆ “แม้ข้าจะมีการบ่มเพาะระดับ
แปดแต่ข้าก็คงหนีในสถานการณ์เช่นนี้”
“เราจะเผชิญหน้ากับนายท่านด้วยผลลัพธ์เช่นนี้ได้อย่างไร?” จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งกัดฟัน
ตัดสินใจ “ไล่ล่าและฆ่าพวกมัน!”
ผู้อมตะของปฐพีสีเหลืองตกใจ พวกเรารีบกล่าว “ทุกท่าน อย่าใจร้อนเกินไป ยังมีผู้อมตะระดับ แปดของทุ่งบัวเขียวอีกจํานวนหนึ่ง พวกเขายังไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้”
“แท้จริงแล้วเราแทบไม่สามารถเอาชนะการต่อสู้ครั้งนี้ เราควรตั้งรับ”
“ทุ่งบัวเขียวมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะจํานวนมาก ผู้อมตะของเราถูกสังหารเพราะพวกมัน
จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งมองผู้อมตะของปฐพีสีเหลืองอย่างเฉยเมย “เราเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ของนักปราชญ์ฟางหยวน เราเชื่อฟังคําสั่งของนายท่านเท่านั้น พวกเจ้าสามารถอยู่ที่นี่และ ทําความสะอาดสนามรบ”
ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณอมตะหรือมิติช่องว่างของศัตรู กลุ่มของจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งไม่ได้ฉกชิง
พวกมัน
นั่นเป็นคําสั่งของฟางหยวน
ผู้อมตะและวิญญาณอมตะของที่นี่เกิดจากการจัดเตรียมของเทพปีศาจไร้ขอบเขต
ซากศพของพวกเขาจะสนับสนุนการก่อตัวของโลกใบสุดท้าย
ในเวลาเดียวกันที่สนามรบอื่น
เซียวเหอเจี้ยนและคนอื่นๆพบไห่ลิ่วเปียวและเซียวลี่ตู่
“กําลังเสริมมากมายนัก!”
“วิเศษมาก เรารอดแล้ว!”
ผู้อมตะของปฐพีสีเหลืองเหลืออยู่เพียงสองคน
“ระวัง สองคนนี้เป็นผู้อมตะระดับแปดที่ทรงพลังของทุ่งปีศาจคลั่ง พวกเขาแข็งแกร่งมาก!”
“พวกเขาเชี่ยวชาญด้าน…
“หุบปาก!” เซียวเหอเจี้ยนตะโกนขัดจังหวะผู้อมตะของปฐพีสีเหลือง
ดวงตาของผู้อมตะร่างเล็กผู้นี้ราวกับเรืองแสงสีแดงขณะชี้นิ้วไปที่เสือดําาหกขาและตะโกน
“ชายผู้นี้เป็นของข้า!”
ไห่ลิ่วเปียวถูกกระตุ้น “แมลงตัวน้อย เจ้ากําลังรนหาที่ตาย ข้าจะฆ่าเจ้า ไม่เคยมีผู้ใดปฏิบัติต่อ ข้าด้วยทัศนคติเช่นนี้!”
ไห่ลิ่วเปียวพุ่งเข้าหาเซียวเหอเจี้ยนอย่างบ้าคลั่ง
ผู้อมตะของปฐพีสีเหลืองรู้สึกหวาดกลัวและตกใจมาก
“จํานวนไม่ใช่ทุกสิ่ง!” เซี่ยลี่ตู่เผยรอยยิ้มเย็นชาและพุ่งเข้าหากลุ่มผู้อมตะ
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม…”
ดอกไม้ไฟจํานวนมากปะทุขึ้นและสร้างเป็นฉากที่งดงาม
“ตูม!” ไห่ลิ่วเปียวพุ่งกระแทกพื้นและทําให้เกิดหลุมขนาดใหญ่
มันจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง
เซียวเหอเจี้ยนบินลงไปราวกับดาวตก
ผู้อมตะระดับแปดอีกห้าคนที่อยู่ด้านหลังเซียวเหอเจี้ยนปลดปล่อยการโจมตีออกมาพร้อมกัน
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม…”
พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งขึ้นสู่อากาศ หลุมลึกยิ่งลึกมากขึ้น
ไห่ลิ่วเปียวนอนอยู่ในหลุมและรับการโจมตีอย่างน่าอนาถ
“ข้าบอกแล้วว่าอย่าเข้ามายุ่ง!” เซียวเหอเจี้ยนตะโกน
“เจ้ามีสิทธิออกค่าสั่งงั้นหรือ?”
“ผู้ใดที่สามารถฆ่ามันจะได้รับแต้มผลงาน!”
กลุ่มผู้อมตะตอบโต้
เซียวเหอเจี้ยนกลอกตา “พวกเราโจมตีพร้อมกัน แล้วผู้ใดเป็นคนฆ่าเขา ผู้ใดสามารถบอกได้!” “ง่ายมาก เราสามารถแบ่งปันแต้มผลงาน ผู้ใดก็ตามที่ได้รับชิ้นส่วนของศพมากที่สุดจะได้รับ แต้มผลงานมากที่สุด”
บางคนแนะนํา
เปียว
ในเวลาต่อมาผู้อมตะระดับแปดหลายคนก็บินลงไปในหลุมและแยกชิ้นส่วนซากศพของไห่ลิ่ว
“มาเป็นของข้า”
“อืม ข้ามีหางเท่านั้น เอาก้นคืนมา!”
“หัวเสือเป็นของข้า ฮ่าฮ่าฮ่า”
กลุ่มผู้อมตะระดับแปดตะโกนเสียงดัง บางคนมีความสุข บางคนรู้สึกหดหู่
ผู้ที่ได้รับชิ้นส่วนร่างกายของไห่ลิ่วเปียวไม่เพียงพอหันหน้าไปทางอินทรีย์หิมะเซี่ยลี่ตู่
แต่เซี่ยลี่ตู่ถูกฆ่าตายไปแล้วเช่นกัน มันยังตายเร็วกว่าไห่ลิ่วเปียว
ศพของมันถูกแยกส่วนและยึดครองโดยกลุ่มผู้อมตะระดับแปดอีกกลุ่มหนึ่ง
ผู้อมตะของปฐพีสีเหลืองเฝ้ามองด้วยความงุนงง
โหดร้ายเกินไป!
พวกเขาไม่เพียงฆ่าผู้อมตะ พวกเขายังแยกส่วนซากศพ!
พวกเขามีความสุขที่ได้แยกส่วนซากศพงั้นหรือ?
โหดร้ายเกินไป!
ปฐพีสีเหลืองถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะสวรรค์พิภพ ผู้คนของที่นี่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและให้
ความสําคัญกับความรักความสามัคคี แม้ปฐพีสีเหลืองจะมีความขัดแย้งภายในแต่มันก็ไม่รุนแรง
มากนัก
แต่การกระทําของผู้อมตะเหล่านี้กลับตรงข้ามกับทัศนคติและความคาดหวังของพวกเขาอย่าง
สิ้นเชิง
“ยังมีผู้อมตะเหลืออยู่บ้าง” ดวงตาของผู้อมตะระดับแปดส่องประกายขึ้น
แต่ผู้อมตะระดับเจ็ดเร่งตะโกน “ก่อนมาที่นี่เราตกลงกันแล้วว่าผู้อมตะระดับเจ็ดเป็นของพวก
เรา พวกท่านผู้อมตะระดับแปดจะไม่ทิ้งสิ่งใดไว้ให้พวกเราเลยงั้นหรือ?”
ผู้อมตะระดับแปดหงุดหงิด “เช่นนั้นก็รีบลงมือ อย่าเสียเวลา มิฉะนั้นเราจะช่วยพวกเจ้าและรับ
แต่มผลงานบางส่วน”
“สมปรารถนา!” กลุ่มผู้อมตะระดับเจ็ดเร่งสังหารผู้อมตะของทุ่งปีศาจคลั่งทั้งหมด “ฮ่าฮ่าฮ่า ผู้อมตะเหล่านี้ช่างโง่เขลานัก ไม่มีผู้ใดวิ่งหนีเลย”
“แท้จริงแล้วข้าเกรงว่าเราจะไม่สามารถหยุดพวกเขาจากการหลบหนี”
กลุ่มผู้อมตะเริ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
ผู้อมตะของปฐพีสีเหลืองมองหน้ากันด้วยการแสดงออกที่แปลกประหลาด
ผู้อมตะของทุ่งปีศาจคลั่งหลงใหลการต่อสู้ พวกเขาดุร้ายมากและทําให้ผู้อมตะของปฐพีสี
เหลืองกับทุ่งบัวเขียวต้องระวังตัวอยู่เสมอ พวกเขาเป็นคนบ้าที่คลั่งไคล้การต่อสู้และไม่สนใจชีวิต
ของตนเอง
แต่ในมุมมองของลูกน้องนักปราชญ์ พวกเขาเป็นคนโง่งั้นหรือ?
“เจ้าได้เท่าใด?”
“ข้าได้เพียงเท่านี้”
“เท่านี้งั้นหรือ? เจ้ายังได้มากกว่าข้า!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ต้องขอบคุณนายท่านที่มอบภารกิจที่ร่ํารวยเช่นนี้ให้กับพวกเรา”
กลุ่มผู้อมตะรวบรวมผลประโยชน์ของพวกเขาก่อนจะโยนซากศพในมือทิ้งไป
ฟางหยวนไม่อนุญาตให้พวกเขาเก็บสิ่งเหล่านี้
เมื่อเห็นซากศพที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น เปลือกตาของสองผู้อมตะจากปฐพีสีเหลืองกระตุก หากพวกเขาจะโยนพวกมันทิ้ง แล้วพวกเขารีบร้อนคว้าพวกมันมาก่อนหน้านี้เพื่อสิ่งใด?
มันเป็นเพียงการเล่นสนุกงั้นหรือ?
ผู้อมตะเหล่านี้เป็นสัตว์ประหลาดเช่นไร?
ผู้อมตะของปฐพีสีเหลืองรวบรวมความกล้าและต้องการกล่าวขอบคุณแต่ทันใดนั้นการแสดงออกของเซียวเหอเจี้ยนและคนอื่นๆกลับเปลี่ยนแปลงไป
“นายท่านมีคําสั่งเราต้องไปรวมกลุ่มและบุกโจมตีทุ่งบัวเขียว”
“ไปกันเถอะอย่าปล่อยให้กลุ่มของจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งชิงลงมือ”
“งิ้ว นิ้ว นิ้ว นิ้ว…”
กลุ่มผู้อมตะบินจากไปอย่างรวดเร็วโดยทิ้งสองผู้อมตะของปฐพีสีเหลืองเอาไว้ข้างหลังด้วยเหตุผลบางอย่างสองผู้อมตะของปฐพีสีเหลืองเริ่มรู้สึกสงสารผู้อมตะของทุ่งบัวเขียว
ฟางหยวนมองจากระยะไกลและตรวจสอบสนามรบด้วยดวงตาของตนเอง
หลังจากศพตกลงบนพื้น พวกมันถูกดูดซับโดยพื้นโลกอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นมิติช่องว่างหรือวิญญาณไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่
ฟางหยวนรู้สึกปั่นป่วนอยู่ภายใน
“นี่คือการหลอมรวม!
“มันไม่ใช่การหลอมรวมวิญญาณแต่เป็นการหลอมรวมโลกทั้งใบ!’
‘หากข้าต้องการเป็นเทพบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมนี่คือสิ่งที่ข้าขาดเช่นกัน!’
การรวมตัวของทุกสิ่งเป็นการจัดเตรียมของเทพปีศาจไร้ขอบเขต มันอาจมีวิธีสู่ชีวิตนิรันดร์ซ่อนอยู่ผู้อมตะที่ตกตายกลายเป็นเชื้อเพลิงและเหยื่อสังเวยเพื่อภารกิจนี้
ฟางหยวนตระหนักถึงเรื่องนี้ดังนั้นเขาจึงไม่เก็บศพของฝ่ายตรงข้ามและปล่อยให้พวกมันถูก
โลกใบนี้ดูดซับ
ฟางหยวนมองไปทางทุ่งบัวเขียว เขาเห็นกองกําลังของเขารวมตัวและเริ่มบุกโจมตีทุ่งบัวเขียว‘หากคนนอกเสียชีวิตที่นี่ มันจะเกิดสิ่งใดขึ้น?”ฟางหยวนเฝ้ามองอย่างสงบ
ผู้อมตะเหล่านี้เป็นเพียงตัวหมากเบี้ยของเขา
เมื่อถึงเวลาที่ต้องเสียสละเขาก็ไม่ตระหนี่ที่จะทํามัน
แต่ข้าควรป้องกันการตายที่ไม่จําเป็น
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฟางหยวนก็กล่าวกับลั่วเว่ยหยิน“สหายลั่วข้าต้องการให้เจ้าไปช่วยลูกน้องของข้า หากสถานการณ์เลวร้าย ชีวิตของเจ้าสําคัญที่สุด เจ้าสามารถเพิกเฉยต่อส่วนที่เหลือหากจำเป็น”
ลั่วเว่ยหยินพยักหน้าและบินออกไป
ลูกน้องของฟางหยวนดุร้ายมากลั่วเว่ยหยินค่อนข้างพอใจและประหลาดใจ
ในเวลาเดียวกันเขาก็เห็นด้วยกับแผนการของฟางหยวน
พวกเขาเป็นฝ่ายตามหลังดังนั้นพวกเขาจึงต้องทํางานหนักเพื่อชดเชยความแตกต่างทุ่งปีศาจคลั่งวังสวรรค์แห่งโชค
ปิงชายฉวนได้รับข่าวและแสดงออกด้วยท่าทางน่ากลัว“ผู้ใดจะคิดว่ากองกําลังของฟางหยวน
จะทรงพลังถึงเพียงนีไห่ลิ่วเปียวและเซี่ยลี่ตู่เป็นผู้อมตะระดับแปดที่ทรงพลังของทุ่งปีศาจคลั่งแต่พวกเขากลับเสียชีวิตอย่างง่ายดาย!”
“ตอนนี้กองกําลังสองกลุ่มของฟางหยวนรวมตัวกันเพื่อโจมตีทุ่งบัวเขียว”
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ ปิงชายฉวนรู้สึกมีความสุขเล็กน้อย
เขาดีใจที่ไม่ได้ส่งกําลังเสริมออกไปเนื่องจากวังสวรรค์ส่งกําลังเสริมออกมาโจมตีฟางหยวน
ดังนั้นฟางหยวนจึงส่งกองทัพของเขาเข้าเผชิญหน้าวันนี้มีหนึ่งตอน