Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2160 ภูเขาตํารา
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2160 ภูเขาตํารา
“เจ้าค่อนข้างฉลาด”เทพธิดาหมิงห่าว ม
แสงดาวยังพุ่งเข้าหาลั่วเว่ยหยินอย่างไม่หยุดยั้ง
ลั่วเว่ยหยินเข้าสู่การต่อสู้
แรกเริ่มเขาสามารถต่อสู้กับเทพธิดาหมิงห่าวได้อย่างเท่าเทียมแต่หลังจากไม่นานเขาก็กลายเป็นฝ่ายถูกสะกดข่ม
เทพธิดาหมิงห่าวใช้เพียงแสงดาวโจมตีศัตรู
แสงดาวเพิ่มจํานวนขึ้นและทําให้ลั่วเว่ยหยินรู้สึกถึงแรงกดดันที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
“ดูเหมือนมันจะเป็นท่าไม้ตายต่อเนื่องข้าจะถูกกดดันมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป’ ลั่วเว่ยหยินรู้สึกถึงความยากลาบาก
ลั่วเว่ยหยินต่อสู้และล่าถอยขณะที่เทพธิดาหมิงห่าวเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างชัดเจน
‘เทพธิดาหมิงห่าวผู้นี้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งดวงดาวนางมีพลังการต่อสู้กึ่งระดับเก้าอย่างแน่นอน ข้าควรถอย!”ลั่วเว่ยหยินต้องการถอย
ฟางหยวนสั่งให้พวกเขาล่าถอยในเวลาที่เหมาะสม จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและคนอื่นๆตัดสินใจล่าถอยในจังหวะนี้เช่นกัน
เทพธิดาหมิงห่าวยิ้ม“พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อแสวงหาความตาย เหตุใดพวกเจ้าไม่อยู่ต่อ?”
เทพธิดาหมิงห่าวหันไปโจมตีกลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์
“อย่าแม้แต่จะคิด!”ลั่วเว่ยหยินปิดกั้นการโจมตีของนาง
เทพธิดาหมิงห่าวหัวเราะคิกคักแสงลึกลับพุ่งออกจากดวงตาของนางไปยังหน้าผากของลั่วเว่ยหยินลั่วเว่ยหยินรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถอธิบายเขาสามารถรักษากลุ่มก้อนความคิดไว้ได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้นนอกจากนี้ดูเหมือนความคิดที่เหลืออยู่ของเขาจะกลายเป็นความโกรธลั่วเว่ยหยินตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลําบาก
เมื่อผู้อมตะใช้ท่าไม้ตายพวกเขาต้องใช้ความคิดยิ่งท่าไม้ตายซับซ้อนมากเท่าใดพวกเขาก็ยิ่งต้องใช้ความคิดมากเท่านั้น
แต่ตอนนี้ความคิดของลั่วเว่ยหยินเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวดังนั้นมันจึงกลายเป็นเรื่องที่ยากล่ามากท่าไม้ตายของลั่วเว่ยหยินล้มเหลวในที่สุดเขาได้รับผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรง
‘วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญา!’ลั่วเว่ยหยินทําได้เพียงป้องกันตัวเองและไม่สามารถดูแลคนอื่นๆ
เทพธิดาหมิงห่าวออกคําสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาของนางให้ไล่ล่าสังหารศัตรูทันทีจักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและเซียวเหอเจี้ยนถอยกลับพร้อมกับความสูญเสียครั้งใหญ่
ระหว่างทาง พวกเขาสูญเสียผู้อมตะเก้าคน ท่ามกลางคนเหล่านี้มีผู้อมตะระดับแปดจํานวนสามคน
มิติช่องว่างของพวกเขาตกลงบนพื้นและถูกดูดซับโดยทุ่งบัวเขียว
ฟางหยวนเฝ้าสังกตและไม่เห็นการถือกําเนิดของจิตวิญญาณสวรรค์หรือจิตวิญญาณแผ่นดินหลังจากผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนกลับเข้าสู่ปฐพีสีเหลืองเทพธิดาหมิงห่าวตัดสินใจหยุดไล่ล่า
ลั่วเว่ยหยินนํากลุ่มผู้อมตะกลับไปพบฟางหยวน
จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและเซียวเหอเจี้ยนรีบคุกเข่าลงขออภัย
แต่ฟางหยวนกลับปลอบพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน“การสูญเสียครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดของพวกเจ้าข้าสามารถบอกได้ว่าเทพธิดาหมิงห่าวผู้นี้ไม่ธรรมดานางมีพลังการต่อสู้ที่โดดเด่นผู้ใดจะคิดว่าสถานที่แห่งนี้จะสามารถหล่อเลี้ยงผู้เชี่ยวชาญระดับนี้”
จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและคนอื่นๆรู้สึกโล่งอกและสงบจิตใจลง
เดิมทีพวกเขากังวลว่าฟางหยวนจะโกรธและระบายอารมณ์กับพวกเขา
หลังจากนั้นฟางหยวนก็ส่งผู้อมตะเหล่านี้ไปประจําการอยู่ในแนวป้องกันต่างๆของปฐพีสีเหลือง
“ข้ารู้สึกละอายใจนักผู้ใดจะคิดว่าวังสวรรค์จะมีผู้อมตะหญิงเช่นนี้ นางมีระบบการต่อสู้ที่น่าเหลือเชื่อข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง”ลั่วเว่ยหยินกล่าวด้วยความรู้สึกผิดฟางหยวนปลอบโยนเขาเช่นกัน
เขารู้ว่าลั่วเว่ยหยินทําเต็มที่แล้ว
“นี่เป็นสงคราม แน่นอนว่ามันย่อมต้องมีการสังเวย บางทีในอนาคต เจ้ากับข้าก็อาจเสียชีวิต
เช่นกัน นี่คือโลกของผู้อมตะ เราไม่จําเป็นต้องคร่ําครวญกับมัน”
ในความเป็นจริงฟางหยวนค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์นี้
การสูญเสียของเขาน้อยกว่าวังสวรรค์และถ้ำสวรรค์นิรันดรนี่ถือเป็นชัยชนะ
นอกจากนี้จักรพรรดิผลึกน้ำแข็งและเซียวเหอเจี้ยนยังสามารถบังคับให้คนเช่นเทพธิดาหมิงห่าวเคลื่อนไหวด้วยตนเองนี่ทําให้ฟางหยวนได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับนางฟางหยวนเลี้ยงดูผู้อมตะมาเพื่อจุดประสงค์นี้ตั้งแต่ต้น
หากเหยื่อสังเวยสามารถแสดงคุณค่ามันก็ไม่ถือเป็นการสูญเสีย
“น่าเสียดาย ท่านฟางหยวนสูญเสียผู้อมตะไปมากมาย”ลั่วเว่ยหยินกล่าวเสริม “แต่ตอนนี้มรดกที่แท้จริงสวรรค์พิภพของภาคเหนืออยู่ตรงหน้าเราแล้วท่านอาจได้รับประโยชน์จากมัน”
ลั่วเว่ยหยินกําลังกล่าวถึงสุสานของเทพอมตะสวรรค์พิภพ
แม้ลั่วเว่ยหยินจะไม่อธิบายฟางหยวนก็รู้อยู่แล้ว
“สุสานของเทพอมตะสวรรค์พิภพลึกลับเกินไป ข้ายังไม่พบเบาะแสใดๆ”ฟางหยวนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “เจ้ารู้สิ่งใดหรือไม่?”
ลั่วเว่ยหยินเผยรอยยิ้มขมขื่น “ข้ารู้สึกละอายใจนัก ข้าไม่รู้สิ่งใดเกี่ยวกับมันเลย”
ฟางหยวนพยักหน้า“ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่โจมตีเจ้าก่อนหน้านี้เป็นกุญแจสําคัญที่ทําให้เจ้าพ่ายแพ้เจ้าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้”
ลั่วเว่ยหยินคิดก่อนกล่าวอย่างไม่แน่ใจ“ดูเหมือนแกนกลางของมันจะเป็นวิญญาณอมตะความภาคภูมิใจ?”
ฟางหยวนพยักหน้าอีกครั้ง“นั่นคือสิ่งที่ข้าอนุมานได้เช่นกัน”
ลั่วเว่ยหยินสูดหายใจลึก “เทพธิดาหมิงห่าวไม่ใช่คนธรรมดานางครอบครองสุดยอดกายาหัวใจแห่งปัญญาไร้กังวลนางมีวิญญาณความอ่อนน้อมถ่อมตนและวิญญาณความภาคภูมิใจนี่ทําให้ข้านึกถึงนํานานมนุษย์คนแรก”
“เท่าที่ข้ารู้ ไม่มีบุคคลดังกล่าวในประวัติศาสตร์ของวังสวรรค์ดูเหมือนนางจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเทพอมตะกลุ่มดาว”
ต่านานมนุษย์คนแรก
มนุษย์คนแรกและต้าลี่เจิ้นอู่เดินทางไปถึงกําแพงเฉียนคุนในที่สุด
กําแพงคริสตัลตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า มันเหมือนกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้
มนุษย์คนแรกและต้าลี่เจิ้นอู่เดินเข้าไปในกําแพงเฉียนคุน
ต้าลี่เจิ้นอู่เห็นทิวทัศน์ที่งดงาม มันเป็นป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยสัตว์น้อยใหญ่
“ท่านพ่อ ท่านอยู่ที่ใด?” ต้าลี่เจิ้นอู่ตะโกนเรียก
แต่มนุษย์คนแรกไม่ได้ยินเสียงและมองไม่เห็นต้าลี่เจิ้นอู่ ในวิสัยทัศน์ของเขามีเพียงมิติสีขาวอันไร้ขอบเขตเท่านั้น
“บุตรของข้า เจ้าอยู่ที่ใด?” มนุษย์คนแรกตามหาต้าลี่เจิ้นอู่เช่นกัน
เขาวิ่ง วิ่ง และวิ่ง เมื่อเวลาผ่านไปเขามองเห็นจุดสีดําาที่อยู่ห่างออกไปจนสุดสายตาแรกเริ่มเขาคิดว่ามันเป็นบุตรชายของเขาแต่เมื่อเขาเข้าไปใกล้เขากลับพบว่ามันเป็นภูเขาขนาดใหญ่
ภูเขาลูกนี้เป็นสีดําและขาวเหมือนภาพวาดพู่กันนี่คือภูเขาตำรา
ที่เชิงเขามีหมู่บ้านของเผ่ามนุษย์หมึกตั้งอยู่
มนุษย์คนแรกเข้าไปในหมู่บ้านและทําให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่
“นี่เป็นภาพที่หาได้ยากจริงๆ”มนุษย์หมึกผู้หนึ่งกล่าว“เมื่อสิ่งมีชีวิตเข้าสู่กําแพงเฉียนคุนพวกเขาจะหลงทางพวกเขาจะไม่สามารถต่อต้านสิ่งล่อลวงจิตใจและไม่สามารถมาถึงที่นี่เจ้าเป็นคนแรกที่มาถึงที่นี่”
มนุษย์คนแรกสับสน“เพราะเหตุใด?”
มนุษย์หมึกอาวุโสตอบ “มนุษย์ร่างกายของเจ้าเหลือเพียงโครงกระดูกเจ้ามองไม่เห็นเจ้าไม่ได้ยินเสียงเจ้าไม่รับรู้รสชาติเจ้าไม่ได้กลิ่นเจ้าสัมผัสสิ่งของไม่ได้นั่นทําให้เจ้าสามารถท่องเที่ยวไปในกําแพงเฉียนคุนได้อย่างอิสระ”
กําแพงเฉียนคุนสะท้อนทุกสิ่งของโลกใบนี้มันเก็บความลับทั้งหมดของโลกใบนี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเอาไว้เมื่อบางคนเข้ามาพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับข้อมูลจํานวนนับไม่ถ้วนหลังจากไม่นานพวกเขาจะเสียชีวิตจากข้อมูลที่ได้รับมากเกินไป
หลังจากมนุษย์คนแรกได้ยินเรื่องนี้เรารู้สึกเป็นห่วงบุตรชายของเขาเขาถามมนุษย์หมึกอาวุโสเกี่ยวกับวิธีเอาตัวรอดดังนั้นมนุษย์หมึกอาวุโสจึงนํามนุษย์คนแรกขึ้นไปบนภูเขาบนภูเขาตํารามีน้ำตกหมึกขนาดใหญ่ขณะที่ด้านล่างเป็นสระน้ำลึกมนุษย์หมึกเรียกมันว่าสระวรรณกรรม
น้ำตกหมึกไหลลงสู่สระวรรณกรรมอย่างต่อเนื่องละอองน้ำที่ลอยขึ้นสู่อากาศก่อตัวเป็นข้อความหมึก
“หากบางคนต้องการอยู่ในกําแพงเฉียนคุนข้อความหมึกเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดเหตุผล
ที่เผ่ามนุษย์หมึกของเราสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ก็เป็นเพราะข้อความหมึกเหล่านี้เช่นกัน”มนุษย์หมึกอาวุโสบอกความลับที่ยิ่งใหญ่แก่มนุษย์คนแรก
มนุษย์คนแรกได้รับคําแนะนําและเริ่มรวบรวมข้อความหมึกก่อนจะออกจากภูเขา
ทุกครั้งที่เขาเดินทางไปได้ระยะหนึ่งเขาจะทิ้งข้อความหมึกเอาไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์
ในโลกสีขาวอันกว้างใหญ่ ข้อความหมึกเหล่านี้ดูโดดเด่นมาก
ไม่จ่าเป็น
แต่ข้อความหมึกจะหายไปตามกาลเวลา ดังนั้นมนุษย์คนแรกจึงไม่สามารถเดินบนเส้นทางที่ในที่สุดมนุษย์คนแรกก็พบบุตรชายของเขา
ต้าลี่เจิ้นอู่เห็นข้อความหมึกที่มนุษย์คนแรกทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง
เขาเดินตามบิดาของเขาไปจนถึงภูเขาตําราและเข้าไปในหมู่บ้านเผ่ามนุษย์หมึกอีกครั้งมนุษย์คนแรกถามมนุษย์หมึกอาวุโส“ผู้อาวุโส ข้าจะหาวิญญาณสติปัญญาในกําแพงเฉียนคุนได้อย่างไร?”