Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2173 พินาศไปพร้อมกับสายลม
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2173 พินาศไปพร้อมกับสายลม
เนี่ยกวงเฟิงกรีดร้องเสียงดังขณะที่กลิ่นอายของมันพุ่งสูงขึ้นถึงระดับที่น่าตกใจ“บึม!”
เสียงดังขึ้นพร้อมกับกรงขังเถาวัลย์ที่ถูกระเบิดทําลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเนิ่นกวงเฟิงได้รับอิสรภาพ
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่พายุหมุนสีเขียวเข้มอีกต่อไปมันกลายเป็นพายุหมุนสีแดง
มันพุ่งผ่านระยะทางหลายพันก้าวเข้าไปอยู่ด้านหน้านักพรตป่าเขียว
นักพรตป่าเขียวใช้ท่าไม้ตายสายป้องกันแต่พายุหมุนสีแดงยังกลืนกินเขาเข้าไปและสังหารเป้าหมายในพริบตา
พายุหมุนสีแดงราวกับฉลามกระหายเลือดมันพุ่งต่อไปยังราชาตั๊กแตนทมิฬที่อยู่ใกล้ๆ
“ระวัง!” เซียวเหอเจี้ยนรีบเข้าไปช่วย
แต่หลังจากต่อสู้สองสามรอบพายุหมุนสีแดงยังสามารถสังหารราชาตั๊กแตนทมิฬ
ในที่สุดพายุหมุนสีแดงก็พุ่งเข้าโจมตีเซียวเหอเจี้ยน
เซียวเหอเจี้ยนเร่งล่าถอยด้วยความตื่นตระหนก
เขาเริ่มรู้สึกถึงกลิ่นอายแห่งความตายที่ใกล้เข้ามา
“เปรี้ยง!”
ทันใดนั้นสายฟ้าภัยพิบัติก็พุ่งลงมาที่เนี่ยกวงเฟิงแต่มันไม่สนใจอีกด้านหนึ่ง
“หยุด!” ลั่วเว่ยหยินตะโกน
แต่หมัดของปู้เทียนกงยังทุบลงบนกะโหลกศีรษะของนักรบแรดเขาเหล็กอย่างแรง
หลังจากนั้นปู้เทียนกงก็คํารามดวงวิญญาณของนักรบแรดเขาเหล็กแดกเป็นเสี่ยงๆ
นักรบแรดเขาเหล็กไม่สามารถตายได้มากกว่านี้ศพไร้หัวของเขาตกลงจากท้องฟ้าราวกับตุ๊กตาผ้า
ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือมิติช่องว่างของเขาพวกมันถูกดูดซับโดยโลกใบใหญ่ในฐานะสารอาหาร
“ผู้ใดอีก?” ปู้เทียนกงเงยหน้าคํารามมันเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เมื่อถึงจุดนี้สี่ผู้อมตะที่ปิดล้อมมันจากก่อนหน้าก็ตกตายไปจนหมดสิ้นพวกเขาถูกสังหารอย่างไร้ปรานีและน่าสะพรึงกลัว
ลั่วเว่ยหยินถอนหายใจขณะที่เขาบินเข้าไปหาวานรหินตัวนี้
วานรหินปู้เทียนกงมองลั่วเว่ยหยิน“เจ้าเป็นคนต่อไปงั้นหรือ?ดีมาก ข้าจะฆ่าเจ้าแม้เจ้าจะเป็นนักปราชญ์ของปฐพีสีเหลืองก็ตาม!”
ทบลั่วเว่ยหยินส่ายศีรษะ“ข้าไม่ใช่นักปราชญ์ปู่เทียนกงเจตนาสังหารของเจ้าเข้มข้นเกินไป”
ลั่วเว่ยหยินต้องการจัดการปู้เทียนกงด้วยตนเอง
ปู้เทียนกงสังหารผู้อมตะมากเกินไปหากมันไม่ถูกหยุด สถานการณ์โดยรวมจะได้รับผลกระ“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม…”
ลั่วเว่ยหยินปะทะปู้เทียนกง
คราวนี้ปู้เทียนกงถูกหยุดในที่สุด
แม้มันจะแข็งแกร่งและสามารถสังหารผู้อมตะระดับแปดหลายคน แต่มันยังไม่ใช่ตัวตนกึ่งระดับเก้าในทางตรงข้ามแม้ลั่วเว่ยหยินจะขาดวิธีโจมตีที่ทรงพลังแต่การป้องกันของเขาแข็งแกร่งมาก
ลั่วเว่ยหยินอดทนรับการโจมตีที่รุนแรงของปู่เทียนกง
“เจ้าไม่ใช่นักปราชญ์แต่เจ้าก็แข็งแกร่งมาก ดี ดี”
“โจมตีข้าฆ่าข้าข้าไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามมานานแล้ว”
“เหตุใดเจ้าไม่โจมตี?เหตุใดเจ้าเพียงป้องกันตัว?”
“พลังโจมตีของเจ้าอ่อนแองั้นหรือ? ช่างน่าผิดหวังนัก!”
วานรหินตะโกนขณะเคลื่อนที่ราวกับสายฟ้าและระเบิดพลังออกมาอย่างไม่รู้สิ้นสุดแต่ตอนนี้จิตใจของลั่วเว่ยหยินกลับฟุ้งซ่าน
เพราะเขาได้ยินว่าฟางหยวนเดินทางออกมายังพื้นที่เก็บมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
“โอ้ ไม่!”
“แม่โลกใบเล็กนั่นอาจมีมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ แต่มันก็เป็นเป้าหมายของวังสวรรค์และถ้ำสวรรค์นิรันดรเช่นกัน”
“วังสวรรค์ส่งกองกําลังหลักของพวกเขาออกมาแล้วมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะและผู้อมตะมากมายถ้ำสวรรค์นิรันดรก็ส่งแท่นบูชาแห่งโชคออกมา”
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสําหรับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายหากเทพอมตะกลุ่มดาวโจมตีสุสานของเทพอมตะสวรรค์พิภพขณะที่พวกเราไม่อยู่ พวกเราจะทําอย่างไร?”
ลั่วเว่ยหยินถ่ายทอดเสียงไปหาฟางหยวนแต่ฝ่ายหลังไม่ตอบสนอง
ลั่วเว่ยหยินกัดฟันแน่น ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นไม่น่ามอง
“ไม่ว่าฟางหยวนจะแข็งแกร่งเพียงใดเขาก็เป็นเพียงกึ่งระดับเก้า เขาไม่ใช่เทพที่แท้จริง’ข้าต้องช่วยเขา!
‘หากเทพอมตะกลุ่มดาวปรากฏตัวและฆ่าเขาผู้ใดจะปกป้องสุสานของเทพอมตะสวรรค์พิภพผู้ใดจะช่วยถ่วงเวลา?’
ขณะคิดเรื่องนี้ใบหน้าของลั่วเว่ยหยินก็เปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม
หมัดของวานรหินปู้เทียนกงพุ่งไปที่ใบหน้าของลั่วเว่ยหยินโดยตรง
“เจ้ากล้าเหม่อลอยระหว่างการต่อสู้งั้นหรือ?เจ้ากําลังดูถูกข้าเจ้าต้องชดใช้อย่างแสนสาหัส!”
ปู้เทียนกงตะโกนปู้เทียนกงบังคับให้ลั่วเว่ยหยินล่าถอย
ลั่วเว่ยหยินกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายของเขา
ฝนเริ่มตก
ฝนภัยพิบัติทําให้การเคลื่อนไหวของปู้เทียนกงช้าลงมากและยังกัดกร่อนการป้องกันของมันอีกด้วยในเวลาเดียวกัน ท่าไม้ตายของลั่วเว่ยหยินก็แสดงผลลัพธ์
ฝุ่นสีเหลืองปรากฏขึ้นด้านล่างปู้เทียนกงพวกมันเคลื่อนที่ไปรอบๆและค่อยๆปิดผนึกเป้าหมาย
“หายไป!” ปู้เทียนกงตะโกนมันพยายามกําจัดฝนและฝุ่นที่อยู่รอบๆ
แต่ฝนและฝุ่นกลับรวมตัวกันปิดผนึกมันมากขึ้นเรื่อยๆ
ปู้เทียนกงติดอยู่ในก้อนดินก่อนจะหล่นลงบนพื้นและกลายเป็นภูเขาดินขนาดใหญ่
“อยู่นิ่งๆ” ลั่วเว่ยหยินบินไปยังโลกใบเล็กของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
“ข้าไม่ยอมแพ้ สิ่งเหล่านี้จะรั้งข้าไว้ได้อย่างไร!”
ปู้เทียนกงคํารามเสียงของมันดังออกมาก่อนที่ภูเขาดินจะแตกออก
มันกลับมาอีกครั้ง
“อันใด!?” ลั่วเว่ยหยินตะลึง
ปู้เทียนกงต่อต้านภัยพิบัติและออกไล่ล่าลั่วเว่ยหยิน
ทั้งสองต่อสู้กันอีกครั้งลั่วเว่ยหยินถูกรั้งไว้ที่นี่
‘ท่าไม้ตายของลิงตัวนี้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ”ลั่วเว่ยหยินตระหนักถึงสิ่งนี้
ของพลังงานแห่งเต๋ามากขึ้นนั่นคือสาเหตุที่มันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ปรากฎว่าภัยพิบัติช่วยเหลือปู้เทียนกงมาตลอดตราบเท่าที่มันไม่ถูกกําจัดมันจะได้รับร่องรอย
“สวรรค์ไม่สามารถปิดบังวิสัยทัศน์ของข้าได้อีกต่อไป!”ปู้เทียนกงตะโกนและปลดปล่อยสายวิ่งออกไปก่าจัดเมฆสีด่าบนท้องฟ้า
“ปฐพีไม่สามารถฝังหัวใจของข้าได้อีกต่อไป!”ปู้เทียนกงตะโกนและระเบิดทําลายภูเขาที่อยู่ด้านล่างปู้เทียนกงกําลังบ้าคลั่ง
เป็นเพียงเวลานี้ที่มันค้นพบฟางหยวนมันทิ้งลั่วเว่ยหยินและพุ่งเข้าหาฟงหยวนทันที
“ระวัง!” ลั่วเว่ยยินตะโกนเตือน “ลิงตัวนี้ไม่ธรรมดา!”
ฟางหยวนไม่แม้แต่จะหันหลังกลับเขาทําตัวราวกับไม่ได้ยินสิ่งใด เขายังบินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
“ข้าจะทําให้นักปราชญ์ผู้นี้พินาศไปพร้อมกับสายลม!” ปู้เทียนกงตะโกนและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของมันพื้นท้องฟ้าพลันเปลี่ยนสี
ฟางหยวนช่าเลืองมองและโบกมือไปด้านหลังอย่างแผ่วเบา
ในเวลาต่อมาปู้เทียนกงก็ถูกส่งกลับหลังราวกับดาวตกมันพุ่งกระแทกภูเขาหลายลูกที่อยู่บนหลังการระเบิดอย่างต่อเนื่องมันสร้างช่องเขาขนาดใหญ่เชื่อมต่อเป็นทางยาวมันนอนราบอยู่บนพื้นด้วยดวงตาเบิกกว้างแต่ไม่ขยับมันตายแล้ว!
การต่อสู้ที่วุ่นวายและสนามรบที่ร้อนระอุเงียบลงทันที
เนี่ยกวงเฟิงที่กวาดล้างทุกสิ่งที่ขวางหน้าตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์
ฟางหยวนมองมัน
จิตใจของเนี่ยกวงเฟิงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
ความหวาดกลัวพุ่งเข้าโจมตีทั้งร่างกายและจิตใจของมัน
ข้าจะตาย ขาจะตาย ข้าจะตาย!’
มันหลุดจากสภาวะปีศาจที่บ้าคลั่งกลับสู่สภาพเดิมทันที
‘หนี!’
มันบินออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจเซียวเหอเจี้ยน
เซียวเหอเจี้ยนได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาทําได้เพียงมองเนี่ยกวงเฟิงพยายามหลบหนีออกจานสนามรบเท่านั้นฟางหยวนหันกลับไปมองโลกใบเล็กของเทพปีศาจปล้นสวรรค์อีกครั้ง
เขายังเห็นกองทัพของวังสวรรค์นําโดยเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และหอพิพากษาปีศาจเคลื่อนที่ใกล้เข้ามา
เขามองไปอีกทาง
แท่นบูชาแห่งโชคของถ้ำสวรรค์นิรันดรกําลังมาเช่นกัน
ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นก่อนที่เขาจะกลายเป็นแสงสีขาวพุ่งเข้าสู่โลกใบเล็กของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
“ไป เราจะต่อสู้ด้านใน!” เทพธิดาอวี่ซิ่วออกคําสั่ง
คฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์พุ่งเข้าสู่โลกใบเล็กของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
พวกเขาไม่สามารถแสดงความแข็งแกร่งทั้งหมดออกมาที่ภายนอก มิฉะนั้นพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการจัดเตรียมของเทพปีศาจไร้ขอบเขต
แต่ในโลกใบเล็กของเทพปีศาจปล้นสวรรค์พวกเขาจะไม่ถูกจํากัดด้วยการจัดเตรียมของเทพปีศาจไร้ขอบเขตมันจะง่ายกว่าสําหรับพวกเขาที่จะทําลายมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
ฟางหยวนเข้าสู่โลกใบเล็กของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ที่อาจถือได้ว่าเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพเทียม
มันเป็นมิติที่ว่างเปล่ามีแสงสว่างแต่ไม่มีภูเขาแม่น้ำท้องฟ้าหรือพื้นดิน
มีเส้นสีดําทอดตัวยาวออกไปทุกหนทุกแห่งมันครอบคลุมพื้นที่ทุกตารางนิ้วของสถานที่แห่งนี้พวกมันยังปลดปล่อยกลิ่นอายที่ลึกลับและน่ากลัวออกมาฟางหยวนรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นอายนี้
มันทําให้เขานึกถึงเพลิงสีดําที่เขาพบในถ้ำสวรรค์วาฬมังกรฟ้า
แม้ฟางหยวนจะไม่รู้ว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นเมื่อสามแสนปีก่อน แต่หลังจากได้เห็นสิ่งนี้ เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่า“ดูเหมือนที่นี่กําลังจะพังทลายลงในไม่ช้า ข้าต้องค้นหามรดกที่แท้จริงของ
เทพปีศาจปล้นสวรรค์อย่างรวดเร็วที่สุด”
ครั้งสุดท้ายที่เขาเข้าสู่ด่านรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ เขาได้รับผนึกภูตผี
เวลานั้นฟางหยวนเดินเข้าไปผ่านวิญญาณประตูเขาพบลมมรณะที่นั่น มีเพียงปีศาจต่างโลกเท่านั้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากมัน
ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงช่วยชีวิตพ่งจิวเก้อเอาไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ
อย่างไรก็ตามโลกใบเล็กแห่งนี้แตกต่างออกไป
ไม่มีลมมรณะ หากมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์อยู่ที่นี่จริง มันย่อมต้องถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิด
แต่ฟางหยวนไม่รีบร้อนอนุมานหรือค้นหาตําแหน่งที่ซ่อนมรดก
เขาน่าค่ายกลวิญญาณอมตะออกมาจากมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ทันที
มันคือค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาค
ค่ายกลนี้จะทําหน้าที่เสมือนกําแพงภูมิภาค เมื่อมันปรากฏขึ้น มันปลดปล่อยควันห้าสีออกมาในเวลาไม่กี่ลมหายใจ ควันห้าสีก็กระจายออกไปหลายสิบลี้และปิดบังวิสัยทัศน์เอาไว้อย่างสมบูรณ์
เมื่อกองกําลังของวังสวรรค์เข้ามา พวกเขาก็ถูกหยุดโดยควันห้าสี
“นี่คือ….กําแพงภูมิภาคงั้นหรือ!?”