Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2174 ข้าหล่อมากข้าแข็งแกร่งมาก
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2174 ข้าหล่อมากข้าแข็งแกร่งมาก
“เหตุใดกำแพงภูมิภาคถึงมาอยู่ที่นี่!?”
“นี่เป็นการจัดเตรียมของเทพปีศาจปล้นสวรรค์งั้นหรือ?”
“ไม่ นี่คือปราณแสงห้าสีของฟางหยวนเขาทําให้มันเหมือนกําแพงภูมิภาค”เทพธิดาอวี่ซิ่วอนุมานอย่างรวดเร็ว
ฟางหยวนเคยใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาคในสงครามชะตากรรมด้วยเบาะแสนี้มันจึงไม่ใช่ปัญหาในการอนุมานของผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาเช่นเทพธิดาอวี่ซิ่ว“บึม!”
ฟางหยวนโจมตีหอพิพากษาปีศาจอย่างกะทันหัน
หอพิพากษาปีศาจถูกส่งลอยเข้าไปในกลุ่มหมอกหนาทึบ
“เราไม่สามารถต่อสู้ที่นี่ฟางหยวนมีร่างทารกอมตะเขาไม่ถูกจํากัดด้วยสิ่งนี้!”ฟางเจิ้งตะโกน“ผู้ใดจะคิดว่าฟางหยวจะสามารถสร้างกําแพงภูมิภาคขึ้นมาได้จริงๆดูเหมือนเขาจะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี”เทพธิดาหมิงห่าวกัดฟันแน่น“ค้นหาแกนกลางของค่ายกลและทําลายมัน!”
ย้อนกลับไปเต๋าจูค้นคว้าเกี่ยวกับกําแพงภูมิภาคและสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะรวมถึงท่าไม้ตายอมตะที่ส่งผลกระทบเช่นเดียวกับกําแพงภูมิภาค
ฟางหยวนเรียนรู้งานวิจัยของเต๋าจูและทําให้มันก้าวเข้าสู่ระดับใหม่ที่เต๋าจูไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตของเขา
ฟางหยวนมีร่างทารกอมตะเขาไม่ได้รับอิทธิพลใดๆจากกําแพงภูมิภาค อย่างไรก็ตามผู้อมตะคนอื่นๆจะได้รับอิทธิพลจากมันทุกครั้งที่พวกเขาใช้วิญญาณพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรงด้วยความแตกต่างนี้ฟางหยวนจึงมีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”
ฟางหยวนโจมตีเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และทําให้เมืองขนาดใหญ่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงแต่เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ใหญ่โตเกินไปฟางหยวนไม่สามารถทําลายมันได้ในครั้งเดียวผู้อมตะหญิงผู้หนึ่งบินออกมาจากเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์นางก็คือเทพธิดาอวี่ซิ่ว
นางพุ่งเข้าหาฟางหยวน“ฟางหยวน เจ้ากล้าสู้กับข้าหรือไม่?”
เป็นเพียงเวลานี้ที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกหลังบินเข้ามาในโลกใบเล็กของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
มันคือแท่นบูชาแห่งโชคของถ้ำสวรรค์นิรันดร
เสียงของปิงชายฉวนดังมาจากภายใน“ฟางหยวนเหตุใดเราไม่ร่วมมือกับรื้อถอนเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก่อน”
ฟางหยวยเผยรอยยิ้มบาง “ไม่ ตอนนี้หอพิพากษาปีศาจถูกโยนเข้าไปในกําแพงภูมิภาคขณะที่เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ใหญ่โตเกินไปและยากที่จะส่งมันออกไปพวกเจ้าหยุดเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ขณะที่ข้าจะไปทําลายหอพิพากษาปีศาจ!”
“ฟางหยวน…” ปิงชายฉวนต้องการกระตุ้นต่อ
แต่ฟางหยวนไม่ฟังและพุ่งเข้าสู่ปราณแสงห้าสีโดยไม่ลังเล
“ไม่ต้องสนใจเขา เป้าหมายของเราคือเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!” ผีดิบอมตะตะวันเดือดออกคำสั่ง
“รับทราบ!”ปิงชายฉวนนําแท่นบูชาแห่งโชคพุ่งเข้าหาเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ราวกับดาวหางเทพธิดาอวี่ซิ่งกัดฟันแน่น นางต้องปกป้องมันลั่วเว่ยหยินมาถึงในเวลานี้
“ท่านฟางหยวน!”เขาทําได้เพียงมองฟางหยวนหายไปในกลุ่มหมอกควันเท่านั้น
“เห้อ…” ลั่วเว่ยหยินถอนหายใจเขาไม่กล้าตามฟางหยวนเข้าไปในกําแพงภูมิภาคเขาติดต่อปิงชายฉวนและรวมมือกันโจมตีเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
ภายในกลุ่มหมอกควัน หอพิพากษาปีศาจพยายามค้นหาแกนกลางของค่ายกลนอกกลุ่มหมอกควันเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์กําลังต่อสู้กับแท่นบูชาแห่งโชคอย่างดุเดือด
“พบแล้ว!”ภายในหอพิพากษาปีศาจเทพธิดาหมิงห่าวเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างกะทันหันนางเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญานางมีความสามารถที่ไม่ธรรมดาแต่การอนุมานในครั้งนี้ทําให้นางได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกันนี่เป็นเพราะนางใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาในกําแพงภูมิภาค
“ดี หากเราสามารถทําลายค่ายกลนี้ฟางหยวนจะสูญเสียหนึ่งในไพ่ตายของเขา!” ฟางเจิ้งเต็มไปด้วยขวัญกําลังใจ
กลุ่มหมอกควันที่หมาแน่นขึ้นทําให้ฟางเจิ้งกระอักเลือดออกมาจากปากขณะที่ใบหน้ากลายเป็นซีดขาว
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”
ฟางหยวนโจมตีหอพิพากษาปีศาจอย่างรุนแรง
หอพิพากษาปีศาจได้รับความเสียหายครั้งใหญ่
“อย่าสนใจเขา ทําลายค่ายกล!”เทพธิดาหมิงห่าวเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นหอพิพากษาปีศาจหยุดชั่วคราวก่อนจะยิงล่าแสงสีเลือดออกไป
ล่าแสงสีเลือดปะทะพื้นผิวของค่ายกลวิญญาณอมตะและทําให้มันสั่นสะเทือนเล็กน้อยแต่ไม่พังทลาย
“นี่เป็นไปได้อย่างไร?” ฟางเจิ้งตกใจมาก
เขารู้จักพลังอํานาจของการโจมตีนี้เป็นอย่างดี แม้หอพิพากษาปีศาจจะอยู่ในกําแพงภูมิภาคมันก็ไม่ควรอ่อนแอเช่นนี้
เทพธิดาหมิงห่าวเข้าใจเหตุผลทันทีรูม่านตาของนางหดเล็กลง “ฟางหยวนลงทุนครั้งใหญ่กับค่ายกลนี้มันมีวิญญาณอมตะระดับแปดนั่นทําให้พลังป้องกันของมันค่อนข้างสูงพวกเราไม่สามารถทําลายมันได้ในระยะเวลาสั้นๆ”
ในสงครามชะตากรรมวิญญาณอมตะที่เป็นแกนกลางของค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาคล้วนเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด แต่ปัจจุบันฟางหยวนยกระดับวิญญาณอมตะทั้งหมดเป็นวิญญาณอมตะระดับแปดเรียบร้อยแล้วความมั่งคั่งของเขาไม่สามารถจินตนาการได้
การโจมตีอย่างเต็มกําลังของหอพิพากษาปีศาจไม่สามารถทําลายการป้องกันของค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาคนอกจากนี้พวกเขายังได้รับผลกระทบย้อนกลับ
“ตอนนี้เราควรทําอย่างไร?” ฟางเจิ้งกลายเป็นตื่นตระหนก
การโจมตีของฟางหยวนทําให้ฟางเจิ้งรู้สึกกดดันนอกจากนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาคได้ในเวลานี้
“เราควรถอย!” ฟางเจิ้งแนะนําเทพธิดาหมิงห่าว
เทพธิดาหมิงห่าวพยักหน้า“ที่นี่ไม่เอื้ออํานวยต่อการต่อสู้ของพวกเราแต่การโจมตีค่ายกลก่อนหน้านี้เป็นเพียงความพยายามครั้งแรกแม้เราจะล้มเหลวแต่มันยังไม่สามารถตัดสินผลลัพธ์สุดท้ายไปกันเถอะ”
เทพธิดาหมิงห่าวบินออกมาจากหอพิพากษาปีศาจและเก็บมันเข้าไปในมิติช่องว่างของนางจากนั้นนางก็หายตัวไปโดยไม่คาดคิดและทําให้ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจในไม่ช้าจั่วเว่ยหยินก็ส่งข่าวบอกฟางหยวนว่าเทพธิดาหมิงห่าวปรากฏตัวขึ้นข้างกายเทพธิดาอวี่ซิ่ว
“เทพธิดาหมิงห่าวกับเทพธิดาอวี่ซิ่วสามารถเคลื่อนย้ายข้ามมิติไปหากันงั้นหรือ?” ฟางหยวนคาดเดา
เทพธิดาหมิงห่าวไม่ประสบความสําเร็จในการทําลายค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาคขณะที่ฟางหยวนก็ไม่สามารถทําลายหอพิพากษาปีศาจสถานการณ์ติดอยู่ในทางต้น
“ตราบเท่าที่ค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาคยังทํางาน ควันห้าสีจะกระจายออกไปและเติมเต็มพื้นที่ทั้งหมดในที่สุด”
ศัตรู
“แต่วิธีนี้ใช้เวลานานเกินไป วังสวรรค์และถ้ำสวรรค์นิรันดรจะไม่รออยู่ที่นี่จนถึงเวลานั้น”
ฟางหยวนไตร่ตรองอย่างรวดเร็ว
ค่ายกลวิญญาณอมตะเขตแดนห้าภูมิภาคไม่ใช่ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะมันไม่สามารถกักขังนอกจากนั้นมันยังใช้เวลานานเกินไปก่อนที่ควันห้าสีจะเติมเต็มโลกใบเล็กของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ ในช่วงเวลานี้มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์อาจถูกค้นพบโดยบางคนหรือบางทีมันอาจถูกทําลายเนื่องจากการต่อสู้ที่ดุเดือด
ฟางหยวนบินไปยังสนามรบของเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และแท่นบูชาแห่งโชคด้านหนึ่งเขาต้องระวังการอนุมานของวังสวรรค์ ฟางหยวนต้องหยุดพวกเขาจากการค้นหาตําแหน่งที่ตั้งมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์
อีกด้านหนึ่งฟางหยวนต้องเข้าร่วมการต่อสู้และอนุมานเช่นกัน
เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่กลางอากาศและปลดปล่อยแสงสีเขียวออกมา มันดูยิ่งใหญ่และงดงาม
แท่นบูชาแห่งโชคเหมือนดาวหางสีทองที่บินไปรอบๆเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และโจมตีมันอย่างต่อเนื่อง
ระหว่างคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองสี่ตัวตนกึ่งระดับเก้าได้แก่ฟางหยวน ลั่วเว่ยหยินเทพธิดาหมิงห่าวและเทพธิดาอวี้ซึ่งกําลังต่อสู้กัน
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างเท่าเทียมก่อนที่ฝ่ายของฟางหยวนจะเริ่มเสียเปรียบ
เทพธิดาหมิงห่าวและเทพธิดาอวี่ซิ่วทรงพลังมาก พวกนางมีระบบการต่อสู้ที่โดดเด่น
เทพธิดาหมิงห่าวโจมตีด้วยท่าไม้ตายต่อเนื่องทําให้ฟางหยวนได้รับความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ
เทพธิดาอวี่ซิ่วใช้ความสําเร็จของนางปราบปรามศัตรูนี่เป็นเรื่องยากสําหรับผู้อมตะทั่วไปที่จะต่อต้านนาง
ลั่วเว่ยหยินรู้สึกถึงความยากลําบากในการต่อสู้กับเทพธิดาอวี่ซิ่ว
ในเวลาเดียวกันฟางหยวนกําลังเผชิญหน้ากับพลังอํานาจของวิญญาณความภาคภูมิใจของเทพธิดาหมิงห่าว
สิ่งสําคัญที่สุดคือเทพธิดาหมิงห่าวและเทพธิดาอวี่ซิ่วสามารถร่วมมือกันได้ในระดับที่ไม่น่าเชื่อ
การประสานงานของพวกนางทําให้ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจ
ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงต้องร่วมมือกับลั่วเว่ยหยินต่อต้านเทพธิดาทั้งสอง
‘ความร่วมมือของเทพธิดาอวี่ซิ่วกับเทพธิดาหมิงห่าวทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ
หากข้าต่อสู้เพียงลําพัง ข้าคงแพ้ไปแล้ว!’ลั่วเว่ยหยินรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลฝ่ายตรงข้ามทํางานร่วมกันได้อย่างไร้ที่ติราวกับมันเป็นเรื่องธรรมชาติ
“ฟางหยวน เจ้าต้องการมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์งั้นหรือ?”เทพธิดาอวี่ซิ่วยิ้ม
“เช่นนั้นเจ้าต้องรู้ว่าเทพอมตะตะวันเดือดเคยมาที่นี่และใช้กําลังขโมยมรดกที่แท้จริงบางส่วนของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ไปแล้ว โชคดีที่พวกเจ้าเป็นพันธมิตรเจ้าสามารถขอจากเขา”
เทพธิดาอวี่ซิ่วพยายามหว่านความขัดแย้ง
ฟางหยวนกันเสียงเย็นก่อนจะกล่าวกับลั่วเว่ยหยิน “ไปจัดการเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ข้าจะจัดการสองคนนี้”
“ท่านฟางหยวน หากท่านต่อสู้เพียงลําพัง…” ลั่วเว่ยหยินลังเล
ฟางหยวนมองเขาอย่างเย็นชา “ไปเจ้ากําลังขวางมือขวางเท้าข้า”
ลั่วเว่ยหยินกัดฟันและบินจากไป
เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ เทพธิดาอวี่ซิ่วและเทพธิดาหมิงห่าวมองหน้ากันก่อนจะโจมตีฟางหยวนอย่างพร้อมเพรียง
ฟางหยวนน่าผู้อมตะหนุ่มออกมาจากมิติช่องว่างจักรพรรดิ
เขาเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เจิ้นปู้ตู!
ท่าไม้ตายอมตะการเปลี่ยนแปลงเสรี!
ชายหนุ่มตะโกนขณะที่ผ้าคลุมสีเลือดปรากฏขึ้นบนแผ่นหลังของเขา
“ข้าหล่อมาก! ข้าแข็งแกร่งมาก!” เจิ้งปู้ตู้กําหมัดแน่นและมองไปยังเทพธิดาทั้งสองด้วยดวงตาส่องประกาย