Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2179 การต่อสู้บนภูเขาตํารา
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2179 การต่อสู้บนภูเขาตํารา
การต่อสู้ปะทุขึ้นรอบๆภูเขาตํารา
ท่าไม้ตายอมตะมือปราณใหญ่!
ปีศาจอมตะฉีเจียสร้างมือปราณขึ้นกีดขวางการโจมตีของภูเขาตํารา
เทพธิดาหมิงห่าวใช้ภูเขาตําราเพื่อปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะการตอบแทนอย่างอ่อนน้อม
ถ่อมตนด้วยวิธีนี้นางจึงสามารถหยุดกองทัพของฟางหยวนและถ้ำสวรรค์นิรันดร
ท่าไม้ตายนี้สามารถบันทึกข้อมูลไว้ในภูเขาตําราและปลดปล่อยออกมาเพื่อโจมตีศัตรูปีศาจอมตะฉีเจียเผชิญหน้ากับการโจมตีที่รุนแรงและถูกบังคับให้ล่าถอยหลังจากที่เขาได้รับความช่วยเหลือจากผีดิบอมตะวันเดือดเขาไม่ได้เข้าร่วมกับถ้ำสวรรค์
นิรันดรหรือฟางหยวน เขาเรียนรู้สถานการณ์ปัจจุบันและเคลื่อนไหวด้วยความต้องการของตนเองปีศาจอมตะฉีเจียไม่ต้องการเห็นวังสวรรค์ได้รับแดนแรกกําเนิด
ในความเป็นจริงเขาต้องการเข้าสู่แดนแรกกําเนิดเพื่อยกระดับความสําเร็จบนเส้นทางแห่งพลังปราณของตนเขาไม่ยินดีให้ผู้อื่นแย่งชิงมันไป
ปีศาจอมตะฉีเจียตระหนักว่าตัวเขาเองเพียงลําพังไม่สามารถเอาชนะวังสวรรค์ดังนั้นเขาจึงใช้ประโยชน์จากสถานการณ์โจมตีวังสวรรค์พร้อมกับถ้ำสวรรค์นิรันดรและฟางหยวนคิ้ว
“ผู้ใดจะคิดว่าภูเขาตําราจะอันตรายนักข้าไม่สามารถขึ้นไปบนภูเขา”ปีศาจอมตะฉีเจียขมวด
ในช่วงเวลาที่เขาถูกขังอยู่ในภาพวาดของเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ เขาสูญเสียร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งพลังปราณไปเป็นจํานวนมากนอกจากนั้นแดนซี่ยังหดเล็กลงจนเหลือเพียงสามสิบส่วนหลังจากการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวน
คลื่นการโจมตีพุ่งออกมาจากภูเขาตําราและบังคับให้ปีศาจอมตะฉีเจียต้องล่าถอยอีกครั้ง
“ไป!” คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดพุ่งผ่านปีศาจอมตะฉีเจียไปโดยไม่สนใจเขามันคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะป้อมปราการทองคําาไร้พ่ายของฟางหยวนเมื่อเห็นป้อมปราการทองคําาไร้พ่ายพุ่งออกไปต่อต้านการโจมตีของศัตรูปีศาจอมตะฉีเจีย
ทําได้เพียงเฝ้ามองด้วยความอิจฉา
ในการต่อสู้ครั้งนี้คฤหาสน์วิญญาณอมตะมีความสําคัญมาก
หลังจากทั้งหมดพวกมันเป็นปราการป้องกันที่แข็งแกร่งสําหรับผู้อมตะ
เมื่อป้อมปราการทองคําไร้พ่ายไปถึงกลางภูเขาตําราแสงสีแดงเลือดก็ปรากฏขึ้นมันคือหอพิพากษาปีศาจ!
“อย่าคิดว่าจะสามารถก้าวต่อไป!”ฟางเจิ้งตะโกนออกมาจากหอพิพากษาปีศาจ
“บึม!”
คฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังพุ่งชนกัน
ป้อมปราการทองคําาไร้พ่ายถูกบังคับให้ออกจากภูเขาตํารา แม้มันจะเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดแต่มันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับหอพิพากษาปีศาจที่เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดบนจุดสูงสุด
ฟางเจิ้งสูดหายใจอย่างหนักหน่วง
วังสวรรค์มีคฤหาสน์วิญญาณอมตะไม่มาก
นับรวบเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์หอคอยดวงตาสวรรค์ และหอพิพากษาปีศาจพวกเขามีคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพียงหกหลัง
ตอนนี้คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งหกหลังของวังสวรรค์ถูกใช้เพื่อป้องกันการโจมตีของศัตรูถ้าสวรรค์นิรันดรไม่ได้น่าวังสวรรค์แห่งโชคออกมาแต่พวกเขายังมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดรวมทั้งสิ้นหกหลัง
ขณะที่ฟางหยวนนําคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดออกมาถึงเจ็ดหลัง
สิ่งนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของทุกคน
คฤหาสน์วิญญาณอมตะเหล่านี้ทําให้วังสวรรค์รู้สึกกดดันมาก
วังสวรรค์มีคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพียงครึ่งเดียวของศัตรูขณะที่วังสวรรค์แห่งโชคของถ้ำสวรรค์นิรันดรและป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขของฟางหยวนยังไม่ได้เข้าร่วมในการต่อสู้เรื่องนี้ทําให้หัวใจของสมาชิกวังสวรรค์จมดิ่งลง
ภายใต้การควบคุมของฟางเจิ้งหอพิพากษาปีศาจบินไปรอบๆเพื่อต่อต้านคฤหาสน์วิญญาณอมตะของฝ่ายตรงข้าม
“ศัตรูแข็งแกร่งมากเราสามารถรักษาสถานการณ์ได้เนื่องจากการคงอยู่ของเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และหอคอยดวงตาสวรรค์หอพิพากษาปีศาจเป็นเพียงส่วนสนับสนุนหากเรื่องนี้ยังดําเนินต่อไป เราอาจทนได้ไม่นาน”ฟางเจิ้งเข้าใจเรื่องนี้
เขารู้สึกว่าตนเองมาถึงขีดจํากัดแล้ว
ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป
ฟางเจิ้งใช้จ่ายพลังงานอมตะไปมากมายในการต่อสู้ครั้งนี้
ขณะเดียวกันหอพิพากษาปีศาจก็ได้รับความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ
หากฟางเจิ้งอยู่เพียงลําพังเขาอาจไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ โชคดีที่หอพิพากษาปีศาจมีเจตจํานงของเจ้าของคนก่อนคอยให้ความช่วยเหลือ
“ตั้งแต่เมื่อใดที่รากฐานของวังสวรรค์พ่ายแพ้ผู้อื่น” เทพธิดาหมิงห่าวถอนหายใจกับตนเองสถานการณ์ของวังสวรรค์ค่อนข้างแย่ แนวป้องกันของพวกเขาอาจพังทลายได้ทุกเมื่อบนยอดเขาตารา เทพธิดาเฟิงหยาใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อยึดครองแดนแรกกําเนิดนางไม่สามารถถูกขัดจังหวะเทพธิดาหมิงห่าวและเทพธิดาอวี่ซิ่วมองหน้ากันก่อนที่คนหลังจะโบกมือ“ไป!”
เสียงคารามของพยัคฆ์และนกกระเรียนดังขึ้น
สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานสองตัวของวังสวรรค์พุ่งออกจากภูเขาตําราพวกมันก็คือพยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าและกระเรียนหยกเขียวหร่านตัน
พยัคฆ์ปีศาจและกระเรียนหยกเขียวพุ่งเข้าหาเมืองเมฆาล่องจากด้านซ้ายและขวาเมืองเมฆาล่องอยู่ภายใต้การควบคุมของเทพธิดาเมี่ยวหยิน นางกําลังจะพุ่งเข้าสู่ภูเขาตําราแต่กลับถูกขัดขวางโดยสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานสองตัวเทพธิดาเมี่ยวหยินใช้ท่าไม้ตายอมตะของเมืองเมฆาล่องเพื่อเคลื่อนที่ขึ้นไปด้านบนด้วย
ความเร็วสูง
แต่กระเรียนหยกเขียวหร่านตันยังสามารถใช้ขาของมันฟาดเมืองเมฆาล่องและทําให้วิญญาณระดับมนุษย์จํานวนมากตกตายทันที
ในเวลาต่อมาพยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าก็พุ่งกระแทกเมืองเมฆาล่องและทําให้มันถูกส่งออกจากภูเขาต่ารา
เทพธิดาเมี่ยวหยินต้องการนําเมืองเมฆาล่องบุกขึ้นไปบนภูเขาตําราอีกครั้งแต่เมืองเมฆาล่องกลับไม่ตอบสนอง
ปีศาจอมตะฉีเจียเห็นสิ่งนี้และรีบบินเข้าไป
แดนซี่ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเขา
ท่าไม้ตายอมตะซี่ซี่!
แดนซี่ดูดกลืนพลังปราณที่ปิดผนึกเมืองเมฆาล่องเข้าไปทันที
เมืองเมฆาล่องได้รับอิสรภาพกลับคืน
“ขอบคุณ!” เทพธิดาเมี่ยวหยินขอบคุณและกําลังจะนําเมืองเมฆาล่องกลับเข้าสู่สนามรบแต่นางกลับได้รับคําสั่งจากฟางหยวนอย่างกะทันหันเทพธิดาเมี่ยวหยินตกตะลึง
แต่นางยังตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและส่งผู้อมตะทั้งหมดออกจากเมืองเมฆาล่อง
“ท่านฉีเจียนายท่านของข้าสั่งให้ข้ามอบเมืองเมฆาล่องให้ท่าน!” เทพธิดาเมี่ยวหยินกล่าว“กระไรนะ!?”ปีศาจอมตะฉีเจียตกตะลึงก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“ฟางหยวนช่างใจกว้างนักข้าจะรับมันไว้ด้วยความเต็มใจ
ปีศาจอมตะฉีเจียเข้าไปในเมืองเมฆาล่องและนํามันบุกโจมตีภูเขาตําราอีกครั้งบนภูเขาตาราพยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าและกระเรียนหยกเขียวหร่านตันร่วมมือกันผลักวังมังกรดาออกมาภูเขา
เทพธิดากระต่ายขาวเป็นผู้ควบคุมวังมังกรดํานางกลับมาที่เชิงเขาเพื่อรับกลุ่มของเทพธิดาเดี่ยวหยิน
ในที่สุดปีศาจอมตะฉีเจียก็น่าเมืองเมฆาล่องมาถึงกลางภูเขาตําราและพบกับพยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้า“เป็นสัตว์ร้ายที่ดีข้ายังไม่มีพาหนะเป็นของตนเอง”
ปีศาจอมตะฉีเจียเก็บเมืองเมฆาล่องและต่อสู้กับพยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าด้วยตนเอง
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันเพียงสองสามรอบก่อนที่พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบและต้องขอความช่วยเหลือ
สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานตัวนี้เป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งพลังปราณดังนั้นมันจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบต่อปีศาจอมตะฉีเจียตั้งแต่แรก
“อย่ากังวล ข้าอยู่นี่แล้ว!”กระเรียนหยกเขียวหร่านตันเข้ามาช่วย มันพ่นเม็ดยาสีแดงสดออกมา
“นี่คือเส้นทางใด?”ปีศาจอมตะฉีเจียสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายลึกลับจากเม็ดยาเขาไม่กล้าประมาทเขาน่าเมืองเมฆาล่องออกมาและเข้าไปภายใน
“บึม!”
เม็ดยาตกกระทบพื้นผิวของเมืองเมฆาล่องและระเบิดตัวเองคลื่นกระแทกที่รุนแรงพุ่งออกไปทุกทิศทางและหาให้เมืองเมฆาล่องได้รับความเสียหายอย่างหนัก
เส้นทางแห่งเม็ดยามีพลังโจมตีไม่สูงนักแต่มันเป็นเส้นทางใหม่ที่เมืองเมฆาล่องไม่สามารถป้องกัน
“ฮ่าฮ่าฮ่าเก้าสิบห้าเจ้าติดหนี้บุญคุณข้าแล้ว!”กระเรียนหยกเขียวหร่านตันหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจ
พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าก่นเสียงไม่พอใจแต่ทันใดนั้นการแสดงออกของมันกลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน “ระวัง!”
หัวใจของกระเรียนหยกเขียวหร่านตันแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก
มันรีบบินขึ้นไปด้านบนแต่ศัตรูลึกลับเร็วกว่า
“เจ้าจะหนีไปที่ใด?”เมื่อเสียงสายหนึ่งดังขึ้นกระเรียนหยกเขียวหร่านตันก็ถูกมือเล็กๆของบางคนคว้าล่าคอของมันเอาไว้
เปรียบเทียบกับร่างกายของกระเรียนหยกเขียวมือของมนุษย์มีขนาดเล็กมาก
อย่างไรก็ตามกระเรียนหยกเขียวหร่านตันกลับรู้สึกเจ็บปวดเมื่อถูกมือเล็กๆข้างนี้จับลําคอของมันนี่ทําให้มันกรีดร้องเสียงแหลม
กระเรียนหยกเขียวหร่านตัวพยายามหันหน้าไปด้านหลังเพื่อพบกับชายที่สวมผ้าคลุมสีแดงเลือดยืนอยู่ที่นั่น
คนผู้นี้ไม่ใช่ผู้ใดนอกจากร่างแยกบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของฟางหยวนเจิ้นปู้ตู!
ด้วยท่าไม้ตายอมตะการเปลี่ยนแปลงเสรีเจิ้นปู้ตู้กลายเป็นตัวตนกึ่งระดับเก้าไปแล้ว
“รอก่อน!”กระเรียนหยกเขียวหร่านตันกรีดร้องแต่เจิ้นปู้ตู้หัวเราะและออกแรงบีบในเวลาต่อมา…
“บึม!”
เสียงระเบิดดังราวกับฟ้าร้องภูเขาตําราสั่นสะเทือนหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้นสีดําขาว
กระเรียนหยกเขียวหร่านตันถูกเจิ้นปู้ตู้ทุบตีจนหมดสติร่างของมันฝังอยู่ในหลุมลึกโดยไม่เคลื่อนไหวปากของมันอ้ากว้างและมีเลือดไหลออกมา
แต่ไม่นานแสงสว่างก็ส่องประกายขึ้นบนร่างของมัน อาการบาดเจ็บของมันหายไปอย่างรวดเร็วมันฟื้นคืนสติอีกครั้ง
“โชคดีที่ข้ามีท่าไม้ตายอมตะเม็ดยารักษาชีวิต!”กระเรียนหยกเขียวหร่านตัวตื่นขึ้นและพยายามดิ้นรนออกมาจากหลุมลึก
แต่หมัดของเจิ้นปู้ตู้กลับพุ่งเข้ามาอีกครั้ง
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม…”
เจิ้นปู้ตู้กระหน่ำหมัดกระแทกศีรษะของกระเรียนหยกเขียวหร่านตัวทําให้ภูเขาตําราสั่น
สะเทือน กระทั่งศีรษะของกระเรียนหยกเขียวหร่านตัวแตก สมองระเบิดออกมาเขาจึงหยุดโจมตี