Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2180 ฉีเจียกับอวี่ซิ่ว
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2180 ฉีเจียกับอวี่ซิ่ว
สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานกระเรียนหยกเขียวหร่านตันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจิ้งปู้ตู่ต่ในพริบตา
แสงสว่างก็ส่องประกายขึ้นมาจากซากศพของมันอีกครั้ง
ท่าไม้ตายอมตะเม็ดยารักษาชีวิต!
กะโหลกศีรษะของกระเรียนหยกเขียวหร่านตันฟื้นฟูขึ้น ไม่นานมันก็ฟื้นคืนชีพ
“เส้นทางแห่งเม็ดยา…” เจิ้นปู้ตู่รู้สึกประหลาดใจ
ท่าไม้ตายอมตะเม็ดยารักษาชีวิตของหร่านตันน่าเกรงขามมาก มันสามารถฟื้นคืนชีพจากสถานะดังกล่าว
แม้เจิ้นปู้ตู่จะเป็นตัวตนกึ่งระดับเก้าแต่เขาก็ไม่สามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้โดยง่ายหลัง
จากทั้งหมดกระทั่งร่างหลักของฟางหยวนก็ยังไม่เข้าใจเส้นทางแห่งเม็ดยา
“เมื่อไม่สามารถคลี่คลาย เช่นนั้นข้าก็จะดูว่าเจ้าจะฟื้นคืนชีพได้กี่ครั้ง!” เจิ้งปู้ตู้แสดงออกอย่างโหดเหี้ยม
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม…”
เขาระดมหมัดทุบตีกระเรียนหยกเขียวหร่านตันอย่างหนักและฆ่ามันทันที
กระเรียนหยกเขียวหร่านตันที่พึ่งฟื้นคืนชีพไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลาก่อนที่กะโหลกศีรษะของมันจะถูกทําลายอีกครั้ง
ท่าไม้ตายอมตะเม็ดยารักษาชีวิต!
ไม่กี่ลมหายใจต่อมาวิธีกู้คืนชีวิตของมันก็ถูกใช้งานอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้แสงจากท่าไม้ตายลดความสว่างไสวลงจากก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด
“อดทนไว้ หร่านตันข้ามาช่วยแล้ว!”พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าตะโกน “อืมต้องการจากไป?คิดว่าข้าไม่อยู่ที่นี่งั้นหรือ?”ปีศาจอมตะฉีเจียตะโกนด้วยความโกรธ
ขณะปลดปล่อยท่าไม้ตายโจมตีแผ่นหลังของพยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าพยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าที่ถูกโจมตีคํารามด้วยความเจ็บปวดและร่วงลงจากท้องฟ้า
เมื่อเห็นกระเรียนหยกเขียวหร่านตันเสียชีวิตด้วยน้ำมือของเจิ้งปู้ตู้อีกครั้งเทพธิดาหมิงห่าวที่
อยู่บนยอดเขาตําราขมวดคิ้วลึก
เจิ้นปู้ตู้เป็นคู่ต่อสู้ที่ทําให้เทพธิดาทั้งสามได้แก่เทพธิดาเฟิงหยา เทพธิดาอวี่ซิ่วและเทพธิดาหมิงห่าวรู้สึกปวดหัว
เขามีพลังโจมตีและพลังป้องกันที่โดดเด่นพร้อมกับความสามารถในการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงของปลาไร้เหงือกความสามารถในการดูดกลืนพลังโจมตีของเสือดาวไร้ฟันและความสามารถในการปลดปล่อยสายฟ้าของนกไร้ปีกเขาไม่มีจุดอ่อนเทพธิดาทั้งสามไม่รู้ว่าควรรับมือกับเขาอย่างไร
หากเป็นการต่อสู้ปกติเทพธิดาทั้งสามยังสามารถเคลื่อนที่และโจมตีจากระยะไกลแต่ตอนนี้วังสวรรค์ถูกบังคับให้เป็นฝ่ายตั้งรับและต้องปกป้องภูเขาตําราทธิ์นี่เป็นฝันร้ายสําหรับคู่ต่อสู้ของเจิ้นปู้ตู่
เทพธิดาทั้งสามเร่งปรึกษาและวางแผนรับมือเจิ้นปู้ตุ๋
เทพธิดาหมิงห่าวส่งข้อความไปหาเจตจํานงของเทพอมตะบัวสวรรค์ในเมืองจักรพรรดิศักดิ์ศิในเวลาต่อมาเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็ส่องประกายขึ้นจากนั้นยักษ์ในชุดเกราะสีเขียวทองมือซ้ายถือโล่มือขวาถือหอกก็ปรากฏตัวขึ้นมันคือสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานชิงโจว!
ในการต่อสู้ไล่ล่าฟางหยวนชิงโจวตายไปพร้อมกับเทพปีศาจจิตวิญญาณร่างกายของมันระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแต่เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์รวบรวมเศษชิ้นส่วนร่างกายของมันและสร้างมันขึ้นมาอีกครั้งชิงโจวในปัจจุบันอยู่ในรูปลักษณ์ของนักรบมนุษย์ร่างกายใหญ่โตในชุดเกราะและดูแข็งแกร่งชิงโจวพุ่งเข้าโจมตีเจิ้นปู้ตู้ทันที
“เข้ามา!”เจิ้นปู้ตู้ไม่ถอยแต่ก้าวไปข้างหน้าเขาปรากฏตัวขึ้นที่หน้าผากของชิงโจวในเสี้ยวพริบตาตาราหมัดของเจิ้นปู้ตู้กระแทกหมวกเหล็กของชิงโจวและส่งร่างยักษ์ของมันพุ่งปะทะกลางภูเขา
จากนั้นเจิ้นปู้ตู้ยังพุ่งเข้าโจมตีมันอย่างต่อเนื่อง
หากชิงโจวไม่ป้องกัน มันจะจบลงในสภาพเดียวกับกระเรียนหยกเขียวหร่านตันแต่ในช่วงเวลาสําคัญต้นไม้ยักษ์กลับก่อตัวขึ้นเหนือศีรษะของชิงโจวและดูดซับพลังโจมตีของเจิ้นปู่ดู่
ท่าไม้ตายอมตะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชะตากรรม!
พลังโจมตีของเจิ้งปู้ตู้ถูกสะท้อนกลับมา
ชิงโจวฉวยโอกาสลุกขึ้นและโจมตีเจิ้นปู้ตู้ด้วยหอก
สองฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือดและสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่
ข้าเข้าใจแล้วนี่คือเป้าหมายของเทพอมตะบัวสวรรค์ชิงโจวตกเป็นทาสของเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อย่างสมบูรณ์ตอนนี้มันกลายเป็นนายพลของกองทัพทหารถั่วศักดิ์สิทธิ์นี่คือทหารถั่วศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุด!’เจิ้งปู้ตู้ตระหนักถึงเรื่องนี้
หลังจากต่อสู้ไม่กี่รอบเจิ้งปู้ตู้ก็กลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบอีกครั้ง
ชิงโจวไม่ใช่สัตว์อสูรแรกกําเนิดในตํานานธรรมดาแต่เจิ้งปู้ตู้กําลังใช้ท่าไม้ตายอมตะการเปลี่ยนแปลงเสรีของเทพปีศาจคลั่ง!
เขามีพลังการต่อสู้กึ่งระดับเก้าชิงโจวไม่สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้าม
แต่วังสวรรค์ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะได้รับชัยชนะพวกเขาเพียงต้องการถ่วงเวลาเท่านั้นตราบเท่าที่วังสวรรค์สามารถยึดครองแดนแรกกําเนิดพวกเขาจะได้รับชัยชนะในที่สุดท่าไม้ตายอมตะทะเลปราณไร้ขอบเขต!
ทันใดนนั้นร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับทะเลปราณไร้ขอบเขต
มันคือบรรพชนทะเลปราณ!
เจิ้นปู้ตู้ถูกหยุดดังนั้นบรรพชนทะเลปราณจึงเลือกโจมตีภูเขาตําราจากอีกทิศทางหนึ่งบนยอดเขาตําราเทพธิดาอวี่ซิ่วถอนหายใจ นางถูกบังคับให้ลงมือ นางต้องออกจากภูเขาตําราเพื่อต่อสู้กับบรรพชนทะเลปราณบรรพชนทะเลปราณปะทะเทพธิดาอวี่ซิ่ว
หนึ่งคือตัวตนกึ่งระดับเก่าบนเส้นทางแห่งพลังปราณ อีกหนึ่งคือตัวตนกึ่งระดับเก้าบนเส้นทางแห่งปัญญา
หนึ่งโจมตีอย่างดุเดือดและต้องการทําลายล้างวังสวรรค์ อีกหนึ่งตัดสินใจป้องกันฐานที่มั่นแม้ต้องแลกด้วยชีวิตของตนเองก็ตาม
พลังโจมตีของบรรพชนทะเลปราณน่าสะพรึงกลัวมากแต่เทพธิดาอวี่ซิ่วยังสามารถหลบเลี่ยงและพยายามใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งปัญญาโต้ตอบกลับไป
นางมีระบบการต่อสู้ที่โดดเด่นและมีท่าไม้ตายที่ใช้ระดับความสําเร็จของตนปราบปรามฝ่ายตรงข้ามกระทั่งผีดิบอมตะตะวันเดือดยังได้รับผลกระทบจากท่าไม้ตายนี้แต่ศัตรูของนางคือบรรพชนทะเลปราณ
บรรพชนทะเลปราณเป็นร่างแยกของฟางหยวนเขาแบ่งปันความสําเร็จกับร่างหลักเทพธิดาอวี่ซิ่วพยายามหลายครั้งแต่ไม่ประสบความสําเร็จฟางหยวนเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งความฝันเส้นทางแห่งห้วงมิติเส้นทางแห่งโลหะเส้นทางแห่งวายุเส้นทางแห่งเมฆาเส้นทางแห่งสายฟ้าเส้นทางแห่งข้อมูลเส้นทางแห่งแสง และเส้นทางแห่งเสียง
เขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือดเส้นทางความแข็งแกร่ง เส้นทางแห่งดวงดาวเส้นทางแห่งความมืดเส้นทางแห่งค่ายกล เส้นทางแห่งจิตวิญญาณเส้นทางแห่งดาบเส้นทางมนุษย์ เส้นทางแห่งไม้ เส้นทางอาหาร เส้นทางแห่งภูตผีเส้นทางแห่งโชคเส้นทางแห่งหิมะและน้ำแข็ง
เขาเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเส้นทางแห่งกฎเส้นทางแห่งพลังปราณเส้นทางแห่งไฟเส้นทางแห่งปัญญาเส้นทางแห่งวารีเส้นทางแห่งปฐพี และเส้นทางแห่งพิษ
เขายังเป็นกึ่งปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเส้นทางแห่งกาลเวลา และเส้นทางแห่งทาส!
ระดับความสําเร็จดังกล่าวจะถูกปราบปราบโดยเทพธิดาอวี้ซิวได้อย่างไร
เทพธิดาอวี่ซิ่วไม่มีทางเลือกนางต้องใช้วิธีการอื่นเพื่อต่อสู้กับบรรพชนทะเลปราณ
โชคดีที่นางคุ้นเคยกับวิธีการของบรรพชนทะเลปราณแม้บรรพชนทะเลปราณจะได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะแรกกําเนิดแต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถใช้วิธีการเหล่านั้นกับวังสวรรค์ลง
“ให้ข้าช่วยเจ้า!”ลั่วเว่ยหยินบินเข้าไปช่วยบรรพชนทะเลปราณ
เทพธิดาอวี่ซิ่วใช้ท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของนางกําหราบลั่วเว่ยหยินและทําให้เขาอ่อนแอ
แต่บรรพชนทะเลปราณมีความได้เปรียบมากขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากลั่วเว่ยหยินเป็นเพียงเวลานี้ที่แสงสีทองส่องประกายออกมาจากแท่นบูาแห่งโชค
แสงสีทองแผ่กระจายไปทั่วภูเขาตําราและทําให้ภัยพิบัติพุ่งเป้าไปยังจุดสูงสุดของภูเขาตําราภูเขาตําราสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ใบหน้าของเทพธิดาหมิงห่าวกลายเป็นซีดเผือด“นี่เป็นฝีมือของผีดิบอมตะตะวันเดือดผู้ใดจะคิดว่าเขาจะสามารถตอบโต้ท่าไม้ตายอมตะการตอบแทนอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนได้หลังจากเห็นมันเพียงสองครั้ง!”
นางกัดฟันแน่นและถูกบังคับให้ถอนท่าไม้ตายอมตะการตอบแทนอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนกลับไปมิฉะนั้นชีวิตของนางจะต้องจบสิ้น
ก่อนหน้านี้กองทัพของฟางหยวนถูกหยุดโดยท่าไม้ตายอมตะการตอบแทนอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนของเทพธิดาหมิงห่าว
แต่หลังจากท่าไม้ตายของเทพธิดาหมิงห่าวถูกตอบโต๋โดยผีดิบอมตะตะวันเดือดกองทัพศัตรูจึงสามารถบุกโจมตีภูเขาตําราจากทุกทิศทางเทพธิดาหมิงห่าวกัดฟันแน่นเทพธิดาเฟิงหยาไม่สามารถต่อสู้ได้ในเวลานี้ขณะที่เทพธิดาอวี่ซิ่วกําลังต่อสู้อยู่ด้านนอกดังนั้นวังสวรรค์จึงต้องพึ่งพาเทพธิดาหมิงห่าวเท่านั้นท่าไม้ตายอมตะรวมใจเป็นหนึ่ง!
ท่าไม้ตายอมตะความหวังของผู้คน!
ท่าไม้ตายอมตะวีรบุรุษท่ามกลางผู้คน!
ฉากการต่อสู้ในสงครามชะตากรรมปรากฏขึ้นอีกครั้ง
แสงสว่างส่องประกายขึ้นบนร่างของสมาชิกวังสวรรค์และทําให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นแต่นี่ยังไม่เพียงพอ
ผู้อมตะและคฤหาสน์วิญญาณอมตะของวังสวรรค์มีน้อยเกินไป
“เช่นนั้นก็จงตื่นขึ้น!”
“สหายของเรา!”
“วังสวรรค์ต้องการพวกเจ้าในเวลานี้!”
เทพธิดาหมิงห่าวตะโกนเสียงดัง
จากทิศตะวันตกเฉียงเหนือของภูเขาตําราสุสานอมตะของวังสวรรค์ส่องประกายขึ้นจากนั้นสองร่างก็เดินออกมาหนึ่งเป็นชายชราหน้าตาใจดีคิ้วของเขาเหมือนรากโสมสีน้ำตาลที่ยาวลงมาถึงหน้าอกอีกหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่มีร่างกายแข็งแกร่งเหมือนเหล็ก
“ข้ามาแล้ว”ผู้อมตะเฒ่านามว่าราชันเหม่ยกล่าว
“ศัตรูอยู่ที่ใด?”ผู้อมตะวัยกลางคนนามว่าราชันตงมองไปยังแท่นบูชาแห่งโชค