Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2181 ราชันเหม่ยกับราชันตง
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2181 ราชันเหม่ยกับราชันตง
ข้อมูลสําคัญถูกถ่ายทอดเข้าสู่จิตใจของราชันเหม่ยกับราชันตงอย่างรวดเร็วนั่นทําให้พวกเขาเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน
ราชันเหม่ยถอนหายใจ “ราชันมังกร….
ย้อนกลับไปราชันมังกรเข้าร่วมกับวังสวรรค์และได้พบกับราชันเหม่ย แม้ราชันเหม่ยจะอาวุโสกว่าราชันมังกรแต่เขายังทักทายฝ่ายหลังอย่างสุภาพ“สหายเจ้าคือผู้พิทักษ์เต๋าความสุขของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอยู่บนบ่าของเจ้า”
ราชันมังกรตอบอย่างเคร่งขรึม “ข้าจะทําอย่างดีที่สุดเพื่อโลกใบนี้แม้ข้าต้องเสียสละชีวิตก็ไม่เสียใจ!”
เวลาผ่านไป ราชันมังกรตื่นขึ้นจากสุสานอมตะก่อนจะเสียชีวิตในที่สุด
“ราชันมังกรจงนอนหลับอย่างสงบสุขเจ้าทําตามสัญญาที่ให้ไว้แล้ว”ราชันเหม่ยกล่าวด้วยอารมณ์ความรู้สึกก่อนจะบินไปข้างหน้า “ตอนนี้ถึงคราวของเราแล้ว”
ภายในแท่นบูชาแห่งโชค ดวงตาของปิงช่ายฉวนส่องประกายขึ้น “สุสานอมตะ ดังนั้นมันก็อยู่ที่นี่มาตลอด เราไม่พบมันแม้จะตรวจสอบซ้ําแล้วซ้ําอีก”
การตื่นขึ้นของผู้อมตะจากสุสานอมตะไม่ได้อยู่นอกเหนือการคาดเดาของถ้ำสวรรค์นิรันดรและฟางหยวน
“ดู ฝ่ายของฟางหยวนกําลังเคลื่อนไหว!” หนึ่งในแปดเจ้าเกาะของถ้ำสวรรค์นิรันดรตะโกนปิงชายฉวนเห็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดสี่หลังได้แก่คฤหาสน์น้ำแข็งสัมบูรณ์วังมังกรดําศาลาแม่น้ำแดงและแท่นบูชาแห่งสวรรค์สีแดงบินลงมาจากภูเขา
ปิงชายฉวนรู้สึกตกใจ “ดูเหมือนฟางหยวนจะมีแผนการบางอย่าง แต่การระดมคฤาสน์วิญญาณอมตะสี่หลังในครั้งเดียวมันไม่มากเกินไปงั้นหรือ?”
ฟางหยวนมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งหมดเจ็ดหลัง ตอนนี้เมืองเมฆาล่องถูกมอบให้ปีศาจอมตะฉีเจียหลังจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะสี่หลังถูกนําออกมามันจึงเหลือเพียงป้อมปราการ ทองคําไร้พ่ายและพระราชวังแดงเท่านั้นที่อยู่บนภูเขา
ปัจจุบันสิ่งสําคัญที่สุดคือการทําลายท่าไม้ตายของวังสวรรค์เพื่อหยุดพวกเขาจากการยึดครองแดนแรกก่าเนิด
แต่ตอนนี้ฟางหยวนกลับนํากองทัพของเขาบุกโจมตีผู้อมตะที่ตื่นขึ้นจากสุสานอมตะนี่ค่อนข้างประหลาด
แต่ในเวลาต่อมา คฤหาสน์วิญญาณอมตะสี่หลังกลับแยกทางกัน คฤหาสน์น้ำแข็งสัมบูรณ์และพระราชวังแดงไปช่วยเจิ้นปู้ตู้ต่อสู้กับชิงโจว
วังมังกรดําและแท่นบูชาแห่งสวรรค์สีแดงพุ่งเข้าหาผู้อมตะที่ตื่นขึ้นจากสุสานอมตะ
ปิงชายฉวนเข้าใจในที่สุด“ดังนั้นฟางหยวนก็พยายามปลดปล่อยเจิ้งปู้ตู่!”
เจิ้งปู้ตู้มีท่าไม้ตายอมตะการเปลี่ยนแปลงเสรีเขาเป็นกําลังสําคัญในการต่อสู้ครั้งนี้
แม้ท่าไม้ตายอมตะการตอบแทนอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนของเทพธิดาหมิงห่าวจะถูกทําลายแต่บนยอดเขาตํารายังมีตัวตนกึ่งระดับเก้าสามคน คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดไม่สามารถต่อต้านพวกนาง
เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นอุปสรรคที่ยากลําบากเช่นกัน
มันมีท่าไม้ตายอมตะบ้านแตกครอบครัวตายที่ส่งอิทธิพลต่อคฤหาสน์วิญญาณอมตะ
ดังนั้นการปล่อยให้เจิ้งปู้ตู้เป็นแกนนําในการบุกโจมตีจึงถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ฉลาดที่สุด
วังมังกรดําและพระราชวังแดงเผชิญหน้ากับราชันเหม่ยและราชันตงในที่สุด
ราชันเหม่ยสูดหายใจลึกก่อนจะยกแขนทั้งสองข้างขึ้น
ทันใดเนั้นเถาวัลย์ก็ปรากฏขึ้นรอบๆคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองหลังและพันธนการพวกมันเอาไว้
“โอ้ ไม่ พลังงานอมตะของคฤหาสน์วิญญาณอมตะถูกดูดกลืนโดยเถาวัลย์เหล่านี้!”ผู้อมตะที่อยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะตกใจมาก
คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองหลังเริ่มตอบโต้
แท่นบูชาแห่งสวรรค์สีแดงปลดปล่อยแสงสีแดงออกมาทําให้เถาวัลย์ที่อยู่รอบๆละลายเสียงคํารามของมังกรดังออกมาจากวังมังกรดําและทําให้เถาวัลย์ที่อยู่รอบๆแตกหัก
แต่ตอนนี้ท่าไม้ตายอมตะของราชันตงพร้อมใช้งานแล้ว
วงแหวนทองคําสองวงก่อตัวขึ้นพวกมันหมุนอยู่รอบๆคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองหลังและหยุดการเคลื่อนไหวของพวกมัน
ราชันเหม่ยและราชันตงพึ่งตื่นขึ้นจากสุสานอมตะแต่พวกเขาสามารถหยุดคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดสองหลังได้ทันที
แต่ช่วงเวลาดีๆมักอยู่ไม่นานจิตวิญญาณมังกรปรากฏตัวขึ้นในวังมังกรดํามันใช้ความพยายามหลายครั้งก่อนจะสามารถทําลายวงแหวนทองคํา
จากนั้นเทพธิดาเมี่ยวหยินและเทพธิดากระต่ายขาวก็บินออกมาจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะและโจมตีราชันเหม่ยกับราชันตง
เทพธิดาเมี่ยวหยินใช้แขนแปดข้างของนางปลดปล่อยเสียงดนตรีออกไป
เทพธิดากระต่ายขาวปลดปล่อยแสงสีขาวออกไป
ราชันเหม่ยรับการโจมตีทั้งสองนั่นทําให้เทพธิดากระต่ายขาวสังเกตเห็นจุดอ่อน นางหันไปโจมตีราชันตง
ราชันตงที่กําลังเตรียมท่าไม้ตายถูกบังคับให้หยุดมือและต้องต่อสู้กับเทพธิดากระต่ายขาวสี่ผู้อมตะต่อสู้กันอย่างดุเดือดและต่อเนื่อง
ความแข็งแกร่งของราชันเหม่ยและราชันตงเทียบเท่ากับฉินติงหลิง พวกเขาไม่ใช่ตัวตนกึ่งระดับเก่าเช่นราชันมังกร
วังมังกรดําและแท่นบูชาแห่งสวรรค์สีแดงได้รับอิสรภาพพวกมันพุ่งไปยังสุสานอมตะและเริ่มทําลายล่างมัน
อย่างไรก็ตามพวกมันกลับถูกหยุดโดยผู้อมตะบางคน
“มีข้า ท่านลุงเฟิง อยู่ที่นี่ อย่าคิดว่าจะสามารถทําลายสุสานอมตะ!” ผู้ที่เรียกตนเองว่าท่านลุงเฟิงตะโกนเสียงดัง
ผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนไม่ยอมแพ้พวกเขานําคฤหาสน์วิญญาณอมตะพุ่งเข้าโจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เกรงกลัว
แต่ลุงเฟิงผู้นี้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันเช่นเดียวกับลั่วเว่ยหยินดังนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองหลังจึงถูกหยุด
“ตอนนี้เราควรทําอย่างไร?”ผู้อมตะที่อยู่ในแท่นบูชาแห่งสวรรค์สีแดงถาม
ปัจจุบันเทพธิดาเมี่ยวหยินและเทพธิดากระต่ายขาวกําลังต่อสู้อยู่กับราชันเหม่ยและราชันตงภารกิจทําลายสุสานอมตะจึงตกเป็นของคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสอง
“อย่ากังวล เขาถูกโจมตีด้วยวิธีการของเราแล้ว”ผู้อมตะที่อยู่ในวังมังกรดําหัวเราะใบหน้าของลุงเฟิงกลายเป็นมืดครึ้มขณะที่เขาพ่นบางสิ่งออกมาจากปาก
“วิธีการบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณงั้นหรือ?” ลุงเฟิงขมวดคิ้ว
ในยุคของเขาไม่มีเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ
ดังนั้นในเวลานี้ผู้อมตะอีกคนจึงถูกบังคับให้ตื่นขึ้นจากสุสานอมตะ
“ดูเหมือนข้าจะตื่นขึ้นได้ทันเวลา” ผู้อมตะหญิงผู้นี้มีเพียงดวงวิญญาณ นางไม่มีร่างกายภาพนางเป่าร่างของลุงเพิ่งเบาๆ
ลมหายใจสีเทาพุ่งเข้าสู่จิตวิญญาณของเป้าหมาย
ลุงเฟิงรู้สึกผ่อนคลายลง อาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณของเขาได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว
“โอ้ ไม่ นี่คือผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณจากยุคของเทพปีศาจจิตวิญญาณ นางคือเทพธิดาจิตวิญญาณพิสุทธิ์ที่ทัดเทียมกับจักรพรรดินีอสูรสายฟ้านางเชี่ยวชาญด้านการ
รักษา!” ผู้อมตะที่อยู่ในวังมังกรดําาตกใจ
‘
ผู้อมตะที่อยู่ในแท่นบูชาแห่งสวรรค์สีแดงกัดฟันแน่น “ฆ่านางก่อน มิฉะนั้นความพยายามทั้งหมดของเราจะกลายเป็นสูญเปล่า”
ด้วยเหตุนี้คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองจึงพุ่งเป้าไปที่เทพธิดาจิตวิญญาณพิสุทธิ์ลุงเพิ่งพยายามป้องกันการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามอย่างสิ้นหวัง
สถานการณ์กลายเป็นชะงักงันขณะที่ผู้อมตะอีกคนตื่นขึ้นจากสุสานอมตะ
เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ
“รับท่าไม้ตายนี้ ปราณปีศาจไร้เทียมทาน!”
ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณตะโกนและปลดปล่อยพลังปราณที่ชั่วร้ายออกมา
ปราณปีศาจปิดผนึกคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสองหลังเอาไว้
แม้วังมังกรดําาและแท่นบูชาแห่งสวรรค์สีแดงจะพยายามทําลายมัน แต่พลังปราณที่ชั่วร้ายก็ยังก่อตัวขึ้นและปิดผนึกพวกมันเอาไว้อีกครั้ง
“นี่คือ…จักรพรรดิเจ็ดปราณปีศาจ!” ลุงเฟิงและเทพธิดาจิตวิญญาณพิสุทธิ์รู้สึกประหลาดใจจักรพรรดเจ็ดปราณปีศาจเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งพลังปราณที่มีชื่อเสียงใน
ประวัติศาสตร์ หลังจากที่เขากลายเป็นผู้อมตะระดับแปด เขาเดินทางไปทั่วโลกเพื่อค้นหาน้ำพุ
ปราณปีศาจและสร้างกองทัพพยัคฆ์ปีศาจ เขาสร้างพยัคฆ์ปีศาจเก้าสิบเก้าตัวพวกมันกลายเป็นไพ่ตายของเขาในยุคนั้นแทบไม่มีผู้ใดสามารถแข่งขันกับเขา
พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าเป็นหนึ่งในนั้น เมื่อเวลาผ่านไป มันจึงกลายเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิดในตานาน
ด้วยความช่วยเหลือของจักรพรรดิเจ็ดปราณปีศาจ วังสวรรค์จึงสามารถปกป้องสุสานอมตะ
ผู้อมตะค่อยๆตื่นขึ้นจากสุสานอมตะ นั่นทําให้วังสวรรค์รอดพ้นจากสถานการณ์อันตราย
“เทพอมตะตะวันเดือด! เจ้าอยู่ที่นั่นงั้นหรือ? ออกมาสู้กับข้า!” ผู้อมตะห่วงทองคําราม
“เก้าสิบห้ามานี่!” จักรพรรดิเจ็ดปราณปีศาจกวักมือเรียกพยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้า“นายท่าน!” พยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้ากระโดดเข้าไปหาจักรพรรดิเจ็ดปราณปีศาจด้วยความหวาดกลัวและชื่นชม
จักรพรรดิเจ็ดปราณปีศาจลูบศีรษะพยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าเบาๆและทําให้อาการบาดเจ็บของมันหายเป็นปกติ
ใบหน้าของปีศาจอมตะฉีเจียกลายเป็นมืดครึ้ม ด้วยการปรากฏตัวของจักรพรรดิเจ็ดปราณปีศาจ แผนการจับพยัคฆ์ปีศาจหมายเลขเก้าสิบห้าของเขาจึงถูกทําลาย
“หยุดเขา!” เทพธิดาหมิงห่าวตะโกน
เจิ้งปู้ตู้เคลื่อนไหวราวกับมังกรคลั่ง เขาไปถึงกลางภูเขาตําราจากทิศตะวันออกเฉียงใต้
ชิงโจวพยายามไล่ล่าเขามาจากด้านหลังแต่มันถูกกีดขวางโดยคฤหาสน์น้ำแข็งสัมบูรณ์และศาลาแม่น้ำแดง
จักรพรรดิเจ็ดปราณปีศาจสูดหายใจลึก“เจ้าเป็นหนึ่งในร่างแยกของจักรพรรดิปีศาจยุคปัจจุบัน
ฟางหยวนงั้นหรือ? ให้ข้าดูพลังของเจ้า”
เขากําลังจะเข้าไปหาเจิ้งปู้ตู่แต่กลับถูกหยุดโดยปีศาจอมตะฉีเจีย
ฝ่ายหลังหัวเราะคิกคัก “คิดว่าสามารถจากไปงั้นหรือ?”
จักรพรรดิเจ็ดปราณปีศาจแสดงออกอย่างเคร่งขรึม “เช่นนั้นข้าก็จะต่อสู้กับเจ้าที่นี่”
“เจ้ากําลังจะไปที่ใด!?” ฟางเจิ้งตะโกนเสียงดัง
หอพิพากษาปีศาจพุ่งเข้าหาเจิ้งปู้ตู้แต่ถูกส่งกลับหลังโดยป้อมปราการทองคําไร้พ่าย
“ช่วยเจิ้งปู้ตู่!”ผู้อมตะคนอื่นๆพยายามปิดกั้นศัตรูเพื่อเปิดทางให้เจิ้งปู้ตู่ขึ้นไปบนยอดเขาตําราเทพธิดาหมิงห่าวถอนหายใจนางไม่มีทางเลือกนอกจากต้องบินออกมาเผชิญหน้ากับเจิ้งปู้ตู้
ด้วยตนเอง “หยุดอยู่ที่นั่น…”
“หลีกไป!” เจิ้งปู้ตู้คํารามและส่งหมัดออกไป
“บึม!”
ร่างของเทพธิดาหมิงห่าวระเบิดแสงดาวออกมาเพื่อปิดกั้นการโจมตีของเจิ้งปู้ตู่แต่นางยังถูกส่งกลับหลังราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่และกระแทกภูเขาตําราอย่างแรง