Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2187 วายร้ายฟางหยวน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2187 วายร้ายฟางหยวน

ฟางหยวนก่อกวนนางขณะที่ผีดิบอมตะตะวันเดือดกําลังรวบรวมแดนแรกกําเนิดแม้เทพอมตะ

กลุ่มดาวจะได้รับบางสิ่งอย่างยากลําบากแต่โอกาสของนางก็ลดลงเรื่อยๆ

หลังจากสถานการณ์นี้ดําเนินไปชั่วครู่ เทพอมตะกลุ่มดาวต้องตัดสินใจ

นางใช้ท่าไม้ตายโจมตีแดนแรกกําาเนิดและทําให้มันพังทลายลงอย่างรวดเร็ว

ผีดิบอมตะตะวันเดือดปลดปล่อยแสงสีทองออกมา

เขาประสบความสําเร็จในการหยุดท่าไม้ตายของเทพอมตะกลุ่มดาว อย่างไรก็ตามนางยังกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายของนางต่อไป

“ฟางหยวน!” ผีดิบอมตะตะวันเดือดตะโกนเรียก

แม้จะไม่ได้รับการแจ้งเตือนจากผีดิบอมตะตะวันเดือดแต่ฟางหยวนก็โจมตีเทพอมตะกลุ่มดาว

ไปแล้วและบังคับให้นางต้องหยุดทําลายแดนแรกกําเนิด

อย่างไรก็ตามเทพอมตะกลุ่มดาวยังสามารถยิงแสงดาวออกมาจากดวงตาด้วยความเร็วสูง

สุดท้ายแดนแรกกําเนิดก็ถูกทําลายลงอย่างสมบูรณ์

“สมกับเป็นเทพอมตะกลุ่มดาว!” ผีดิบอมตะตะวันเดือดต้องเอ่ยปากชมเชยอย่างช่วยไม่ได้

เทพอมตะกลุ่มดาวไม่สามารถแข่งขันกับผีดิบอมตะตะวันเดือดและฟางหยวนในการรวบรวม

แดนแรกกําาเนิด เมื่อนางไม่ได้รับมัน นางก็ไม่อนุญาตให้ผู้ใดได้รับ

นี่คือความเด็ดขาดของเทพอมตะในตํานานของวังสวรรค์

“หือ…ที่นี่คือ…” การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไปเล็กน้อย

แดนแรกกําาเนิดถูกทําลายไปแล้วแต่เขากลับไม่เห็นท้องฟ้าหรือภูเขา เขาพบว่าตนเองอยู่ในมิติที่ว่างเปล่า

ไม่ปรากฏร่องรอยชั้นที่แปด

“นี่คือชั้นที่เก้าของถ้ำปีศาจคลั่ง!” ผีดิบอมตะตะวันเดือดกล่าว

แดนแรกกําเนิดไม่ได้ถูกยึดครองโดยวังสวรรค์ แท้จริงแล้วมันยังอยู่ในชั้นที่เก้าของถ้ำปีศาจคลั่งช่วงเวลาที่เทพอมตะกลุ่มดาว ผีดิบอมตะตะวันเดือดฟางหยวนและตัวตนกึ่งระดับเก้าเข้าสู่แดนแรกกําเนิดพวกเขาก็เข้ามาในชั้นที่เก้าของถ้ำปีศาจคลั่งเรียบร้อยแล้ว

‘ชั้นที่เก้ามีพื้นที่เล็กกว่าชั้นที่แปดมาก สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือน้ำแข็งลอยในตํานานมนุษย์คนแรกงั้นหรือ?”

ฟางหยวนสังเกตเห็นน้ำแข็งลึกลับที่ลอยอยู่กลางอากาศด้านหลังเทพอมตะกลุ่มดาว น้ำแข็งเหล่านั้นมีสีขาวอมฟ้าพวกมันมีขนาดที่แตกต่างกัน ตอนนี้พวกมันกําลังลอยไปรอบๆจุดศูนย์กลางอย่างช้าๆ

ฟางหยวนรู้สึกวิงเวียนเพียงแค่ช่าเลืองมองพวกมัน

ดูเหมือนค่ายกลนี้จะเป็นรากฐานของถ้ำปีศาจคลั่ง ภูเขาตําราและแดนแรกกําเนิดเป็นแกนกลางของมันเช่นกัน
ยอดเยี่ยม น่าเหลือเชื่อนัก!’

‘มันเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะระดับเก้า ผู้อมตะที่เสียชีวิตในชั้นที่แปดเป็นเชื้อเพลิงให้กับน้ำแข็งลอยและค่ายกลนี้’

เทพปีศาจไร้ขอบเขตใช้ค่ายกลนี้เพื่อค้นหาคําตอบของชีวิตนิรันดร์งั้นหรือ?”

ขณะที่ฟางหยวนกําลังคิดเรื่องนี้ ผีดิบอมตะตะวันเดือดก็คํารามเสียงดังและปลดปล่อยท่า ไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งโชคออกมา
ร่างของเทพอมตะกลุ่มดาวสลายกลายเป็นฟองสบู่

ร่างจริงของนางปรากฏขึ้นแต่ตอนนี้นางไม่ได้อยู่ตรงหน้าฟางหยวนอีกต่อไป นางอยู่ในค่ายกล

วิญญาณอมตะระดับเก้า

ใบหน้าของผีดิบอมตะตะวันเดือดซีดลงเล็กน้อย “เป็นวิธีที่ดีข้าไม่สามารถตรวจพบร่างปลอมของเจ้าได้ในครั้งเดียวหากไม่ใช่เพราะโชคที่ผันผวนข้าคงไม่พบเบาะแสเราต้องรีบเคลื่อนไหวเทพปีศาจไร้ขอบเขตทุ่มเททุกสิ่งเพื่อถ้ำปีศาจคลั่งมันถูกอนุมานมานานกว่าล้านปีแล้วเราไม่สามารถปล่อยให้วังสวรรค์รับผลประโยชน์!”

ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงมุ่งหน้าไปยังค่ายกลวิญญาณอมตะพร้อมกับผีดิบอมตะตะวันเดือดทั้งสองหยุดอยู่บริเวณรอบนอกของค่ายกล

“ช่างเป็นค่ายกลที่น่าเกรงขามนักน้ำแข็งลอยเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดพื้นที่อื่นล้วนอันตรายหากเราเคลื่อนที่ไปยังตําแหน่งอื่นเราจะถูกโจมตีอย่างรุนแรงโดยค่ายกล”

หัวใจของฟางหยวนเต้นแรงเมื่อเห็นสิ่งนี้

พลังอํานาจของค่ายกลวิญญาณอมตะระดับเก้านี้มาจากการเสียสละของผู้อมตะและการหลอมรวมโลกจํานวนนับไม่ถ้วนกระทั่งฟางหยวนก็ไม่สามารถต่อต้านมัน

ผีดิบอมตะตะวันเดือดตรวจสอบก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนน้ำแข็งลอยก้อนหนึ่ง

ไม่ว่าจะเป็นเทพอมตะกลุ่มดาวหรือผีดิบอมตะตะวันเดือด ทั้งคู่เลือกวิธีเดียวกันดังนั้นฟางหยวนจึงไม่ลังเลที่จะติดตามไป

เขากระโดดขึ้นไปบนน้ำแข็งลอยที่มีขนาดเท่าช้างก้อนหนึ่ง

เมื่อเท้าของเขาเหยียบลงบนน้ำแข็งลอยจิตใจของเขาถูกโจมตีอย่างหนักราวกับกองโจรบุกสู่หมู่บ้านที่สงบสุข

การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไปเล็กน้อยขณะที่เขาพยายามต่อต้านอารมณ์ที่ปะทุขึ้น

หลังจากปรับตัวได้แล้วฟางหยวนก็กระโดนไปยังน้ำแข็งลอยก้อนที่สอง

คราวนี้ความรู้สึกโศกเศร้าโจมตีจิตใจของเขามันยิ่งรุนแรงกว่าก่อนหน้า

ฟางหยวนกัดฟันและปรับอารมณ์ของตนเองอย่างยากลําบาก

เขามองไปข้างหน้า ผีดิบอมตะตะวันเดือดกระโดดไปยังน้ำแข็งลอยก้อนที่ห้าขณะที่เทพอมตะ

กลุ่มดาวไปถึงบริเวณใจกลางของค่ายกลเรียบร้อยแล้ว

“ข้าไม่มีเวลาแล้ว!”ฟางหยวนรีบกระโดดไปยังน้ำแข็งลอยก้อนที่สาม

ผลการต่อสู้ในแดนแรกกําเนิดไม่เป็นไปตามความต้องการของฟางหยวน

มีแนวโน้มที่ความสําเร็จของเทพอมตะกลุ่มดาวและผีดิบอมตะตะวันเดือดจะกลับสู่ระดับปรมาจารย์สูงสุดเรียบร้อยแล้วขณะที่ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของฟางหยวนยัง
ไม่ถูกเติมเต็ม

อย่างไรก็ตามหากพิจารณาถึงการต่อสู้กับเทพอมตะกลุ่มดาว ผลลัพธ์นี้ยังอยู่ในความคาดหวังของฟางหยวน

เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ฟางหยวนก็ไม่สามารถปล่อยให้เทพทั้งสองได้รับงานวิจัยเกี่ยวกับชีวิตนิรันดร์ของเทพปีศาจไร้ขอบเขตอีก

“ชีวิตนิรันดร์…ชีวิตนิรันดร์…” ฟางหยวนพึมพําา

ชีวิตนิรันดร์คือเป้าหมายและความฝันของเขา แม้เขาจะไม่ได้รับมันเขาก็ไม่สามารถปล่อยให้มันตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น

ความเข้มข้นของอารมณ์ที่ปะทุขึ้นในจิตใจรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

มันเป็นอารมณ์ทุกประเภท บางครั้งสุข บางครั้งเศร้า บางครั้งโกรธ…

เทพอมตะกลุ่มดาวเป็นผู้นําในการแข่งขันครั้งนี้

นางมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจน

ประการแรก เกมส์หมากรุกที่วังสวรรค์คือการต่อสู้ระหว่างเทพปีศาจไร้ขอบเขตกับเทพอมตะกลุ่มดาว

ประการที่สอง วังสวรรค์แทรกซึมเข้าสู่ถ้ำปีศาจคลั่งมานานกว่าสามแสนปีแล้ว ทุ่งบัวเขียวของเทพอมตะบัวสวรรค์เป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด

ประการสุดท้าย เทพอมตะกลุ่มดาวเป็นเทพอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

วิถีแห่งปัญญาคือความคิด เจตจํานง และอารมณ์ความรู้สึก

การรับมือกับอารมณ์ความรู้สึกเป็นความเชี่ยวชาญของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เทพอมตะกลุ่มดาวจะเป็นผู้นําในการแข่งขันครั้งนี้

ผีดิบอมตะตะวันเดือดพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเข้าใกล้เทพอมตะกลุ่มดาวมากขึ้นเรื่อยๆ

เทพอมตะกลุ่มดาวไม่แปลกใจกับเรื่องนี้

ผีดิบอมตะตะวันเดือดยึดครองทุ่งปีศาจคลั่งมาตั้งแต่ยุคของเขา

เทพปีศาจคลั่งทิ้งทุ่งปีศาจคลั่งไว้นานกว่าล้านปีมาแล้ว

นั่นทําให้ผีดิบอมตะตะวันเดือดค่อนข้างเข้าใจถ้ำปีศาจคลั่งแห่งนี้

วิธีบนเส้นทางแห่งโชคของเขาก็เป็นตัวช่วยชั้นยอดในการเลือกเส้นทางที่ดีที่สุด

แต่เหตุใดฟางหยวนจึงสามารถเข้ามาใกล้เช่นกัน?บางทีเขาอาจเหนือกว่าผีดิบอมตะตะวันเดือด?’ เทพอมตะกลุ่มดาวขมวดคิ้ว

เรื่องนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของนาง

วังสวรรค์ส่งข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับฟางหยวนให้กับเทพอมตะกลุ่มดาว ดังนั้นนางจึงรู้จักเขาเป็นอย่างดี

นางรู้ว่าฟางหยวนมีความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาสูงมากแต่ความเชี่ยวชาญของเขาไม่ใช่การอนุมาน ตรงข้าม มันเป็นการป้องกันการอนุมานของผู้อื่น

แม้วังสวรรค์จะพ่ายแพ้ให้กับฟางหยวนซ้ำแล้วซ้ำอีกแต่พวกเขาก็ได้รับกําไรบางอย่าง

อย่างน้อยที่สุดภายใต้แรงกดดันของวังสวรรค์ฟางหยวนก็ต้องละทิ้งแง่มุมอื่นของเส้นทางแห่งปัญญาและให้ความสําคัญกับการป้องกันการอนุมานเท่านั้น

เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เทพอมตะกลุ่มดาวจะใช้ประโยชน์จากกําไรนี้แต่สิ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือฟางหยวนสามารถติดตามพวกนางไปได้อย่างใกล้ชิด

ไม่เพียงเทพอมตะกลุ่มดาวที่ประหลาดใจแต่ผีดิบอมตะตะวันเดือดก็เช่นกัน

ผีดิบอมตะตะวันเดือดมองฟางหยวนกระโดดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและกระทั่งนําหน้าเขา

ผีดิบอมตะตะวันเดือดสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แปลกประหลาดจากร่างของฟางหยวนก่อนจะเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลัง

“วิญญาณความอดทน!”หัวใจของผีดิบอมตะตะวันเดือดสั่นไหวขณะที่เขากัดฟันแน่น

เขาจํากลิ่นอายของวิญญาณความอดทนได้

“เป็นเช่นนี้!”

ฟางหยวนไม่เชี่ยวชาญด้านการปกปิดกลิ่นอายและตอนนี้เขาก็ไม่จําเป็นต้องปกปิดมันเช่นกัน

ผีดิบอมตะตะวันเดือดเข้าใจในที่สุดว่าตัวการใหญ่ที่วางแผนต่อต้านไห่ลั่วหลันในถ้ำสวรรค์หมื่นอสูรก็คือฟางหยวน

“วายร้ายผู้นี้คว้าวิญญาณความอดทนและวิญญาณความสามารถไปจากถ้ำสวรรค์หมื่นอสูร

‘วิญญาณทั้งสองดวงเป็นวิญญาณอมตะระดับแปดบนเส้นทางความแข็งแกร่ง…

วิญญาณความอดทนสามารถต่อต้านอารมณ์ความรู้สึกไม่แปลกใจเลยที่เขามีช่วงเวลาที่ง่ายดายในค่ายกลนี้!

‘อย่าบอกว่าถ้ำสวรรค์หมื่นอสูรเป็นการจัดเตรียมของเทพปีศาจคลั่งเพื่อช่วยฟางหยวน?

ความคิดของผีดิบอมตะตะวันเดือดพุ่งปะทะกันอย่างดุเดือด

ทันใดนั้นเขาพลันรู้สึกไม่ดี

‘แม้ข้าจะสามารถยึดครองถ้ำสวรรค์หมื่นอสูรแต่เทพปีศาจคลั่งยังสามารถส่งมอบวิญญาณความอดทนและวิญญาณความสามารถให้กับฟางหยวน บางทีมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้น

สวรรค์ที่ขาขโมยออกมาก่อนหน้านี้อาจเป็นเพียงเหยื่อล่อของเทพปีศาจปล้นสวรรค์เช่นกัน!”