Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2190 แผนการของเทพอมตะกลุ่มดาว
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2190 แผนการของเทพอมตะกลุ่มดาว
“วิธีสู่ชีวิตนิรันดร์?” ดวงตาของผีดิบอมตะตะวันเดือดส่องประกายขึ้น
ผู้อมตะทู้ไม่ได้ปิดบัง ทุกคนได้ยินทั้งหมด
นี่ทําให้หัวใจของทุกคนเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น
ผู้อมตะมีชีวิตที่ยืนยาวแต่พวกเขายังถูกผูกมัดด้วยอายุขัย โชคชะตาและข้อจํากัดอื่นๆแม้วิญญาณชะตากรรมจะถูกทําลายไปแล้ว ข้อจํากัดด้านอายุขัยผ่อนคลายลงแต่พวกเขายังสามารถถูกสังหารโดยศัตรูที่แข็งแกร่ง
ดังนั้นชีวิตนิรันดร์จึงเป็นมากกว่าอายุที่ยืนยาว
แม้เต่าที่มีอายุหนึ่งหมื่นปีก็ยังไม่อาจเรียกว่ามีชีวิตนิรันดร์
ชีวิตนิรันดร์หมายความว่าทุกคนและทุกสิ่งไม่สามารถคุกคามการดํารงอยู่ของคนผู้นั้น
มันหมายถึงการอยู่ยงคงกระพันอย่างแท้จริง
ไม่ว่าจะเป็นเวลา มิติ หรือสิ่งมีชีวิต ไม่มีสิ่งใดสามารถคุกคามตัวตนที่ครอบครองชีวิตนิรันดร์ แนวคิดเรื่องชีวิตนิรันดร์เป็นสิ่งสําคัญ
แม้เทพอมตะจะอายุยืนแต่ไม่สามารถกล่าวได้ว่าพวกเขามีชีวิตนิรันดร์ ยิ่งในยุคสมัยที่มีเทพอมตะหลายคน เทพอมตะสามารถคุกคามซึ่งกันและกัน
หลังจากไม่นานนักวางแผนก็ออกมาจากน้ำแข็งลอยก้อนสุดท้าย
นักวางแผนเร่งกล่าว “เราสามคนต้องกระตุ้นการทํางานของวิญญาณการฝึกฝนตลอดเวลามันจะช่วยแกะสลักน้ำแข็งลอย”
“ตอนนี้ยังเร็วเกินไป”
“มันยังไม่พร้อม โลกในชั้นที่แปดยังไม่ถูกทําลาย สิ่งมีชีวิตจํานวนมากยังมีชีวิตอยู่”
นักวางแผนกระตุ้น “ฟางหยวน ข้ารู้เป้าหมายของเจ้า แต่ตอนนี้มันจะดีที่สุดหากเจ้าจะไม่เข้ามาเราสามคนทดลองวิธีต่างๆมามากแล้ว หลังจากที่เรามาที่นี่เราก็ไม่สามารถจากไปเว้นเพียงค่ายกลนี้จะทํางานเสร็จสิ้นหรือถูกทําลาย”
“เขาพูดถูก!” ผีดิบอมตะตะวันเดือดพยักหน้า
ตั้งแต่เขาหยุดเคลื่อนไหว เขาลอบตรวจสอบและอนุมานอย่างลับๆมาตลอด
เขายังพบว่าค่ากล่าวของนักวางแผนไม่ใช่เรื่องโกหก
นักวางแผนกล่าวต่อ “สิ่งสําคัญที่สุดในเวลานี้คือปกป้องค่ายกลนี้และเร่งการจัดเตรียมของเทพปีศาจไร้ขอบเขต ปล่อยให้ค่ายกลนี้ทํางานจนเสร็จสมบูรณ์ ฟางหยวนเรามีเป้าหมายเดียวกันโปรดปกป้องค่ายกลและป้องกันตัวตนที่อันตรายเหล่านี้พวกเราสามคนจะเดิมพันด้วย ทุกสิ่งรวมถึงชีวิตของเราเพื่อรักษาวิญญาณการฝึกฝนเอาไว้”
พวกเขาไม่รู้จักตัวตนของผีดิบอมตะตะวันเดือดและเทพอมตะกลุ่มดาวที่แยกร่างเป็นอวตารทั้งสามข้อมูลของพวกเขาดูเหมือนจะหยุดลงในช่วงก่อนสงครามชะตากรรม
ฟางหยวนพยักหน้าก่อนจะมองย้อนกลับไปทางอวตารทั้งสามของเทพอมตะกลุ่มดาวด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม
ผีดิบอมตะตะวันเดือดถอนหายใจและหันหน้าไปทางสามอวตารเช่นกัน “ข้าไม่ต้องการให้พวกเราถูกวางแผนต่อต้าน”
ทันทีที่เขากล่าวจบ เทพธิดาหมิงห่าว เทพธิดาอวี่ซิ่ว และเทพธิดาเฟิงหยาก็เปิดเปลือกตาขึ้น แสงดาวส่องประกายขึ้นก่อนที่พวกนางจะรวมร่างกันอีกครั้ง
ในเวลาต่อมาเทพอมตะกลุ่มดาวก็กลับมา
“ไป” เทพอมตะกลุ่มดาวกล่าวเบาๆ
เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างกะทันหัน น้ำแข็งลอยเคลื่อนที่เร็วขึ้นราวกับต้องการขังฟาง หยวนและผีดิบอมตะตะวันเดือดเอาไว้ด้านใน
วังสวรรค์แทรกซึมเข้าสู่ถ้ำปีศาจคลั่งมานานแล้ว พวกเขาสามารถดึงแกนกลางของค่ายกลเช่นภูเขาตําราและแดนแรกกําเนิดออกไป แล้วพวกเขาจะไม่รู้เรื่องค่ายกลในถ้ำปีศาจคลั่งได้อย่างไร
เทพอมตะกลุ่มดาวใช้ประโยชน์จากการขาดข้อมูลของฟางหยวนและผีดิบอมตะตะวันเดือดเพื่อล่อลวงให้ทั้งสองเข้าสู่ส่วนลึกของค่ายกล
เมื่อค่ายกลเกิดการเปลี่ยนแปลงฟางหยวนและผีดิบอมตะตะวันเดือดพยายามกลับออกไป
อย่างไรก็ตามค่ายกลกลายเป็นอันตรายกว่าก่อนหน้าน้ำแข็งลอยบางส่วนพุ่งชนกันหากประมาทเพียงเล็กน้อย พวกเขาอาจถูกบดขยี้จนกลายเป็นเนื้อบด
ฟางหยวนกระโดดข้ามน้ำแข็งลอยแต่ยังเปิดปากถาม “นักวางแผน พวกเจ้าทั้งสามสามารถควบคุมค่ายกลนี้หรือไม่?”
นักวางแผนส่ายศีรษะ“เราสามคนมีหน้าที่กระตุ้นใช้งานวิญญาณการฝึกฝนเท่านั้น”ผู้อมตะปู้หน้าซีด“สมกับเป็นเทพอมตะกลุ่มดาว นางแทรกซึมเข้ามาในค่ายกลจนถึงระดับนี้นี่ถือได้ว่านางยึดครองค่ายกลไปแล้วครึ่งหนึ่งนางกระตุ้นใช้งานค่ายกลแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อหน้าที่หลักของมัน”
นักวางแผนกล่าวต่อเสียงดัง“โปรดอย่าทําลายน้ำแข็งลอยเหล่านี้ พวกมันเป็นส่วนหนึ่งของ
ค่ายกล นอกจากนั้นหากพวกเจ้าลงมืออย่างรุนแรง พวกเจ้าจะกระตุ้นการจัดเตรียมของเทพปีศาจไร้ขอบเขต”
แปด
การแสดงออกของผีดิบอมตะตะวันเดือดกลายเป็นไม่น่ามอง
“สหาย พักผ่อนเถอะเราจะมาต่อสู้กันภายหลัง”เทพอมตะกลุ่มดาวยิ้มและล่าถอยออกไปลั่วเว่ยหยินและคนอื่นๆเตรียมตัวรับมือศัตรูตัวฉกาจผู้นี้
แต่เทพอมตะกลุ่มดาวไม่สนใจพวกเขา นางบินผ่านพวกเขาและหายตัวไปในความว่างเปล่าลั่วเวยหยินและคนอื่นๆไม่สามารถต่อต้านเทพอมตะกลุ่มดาวแม้พวกเขาจะรีบกลับไปยังชั้นที่
เทพอมตะกลุ่มดาวแทรกซึมเข้าสู่ค่ายกลของถ้ำปีศาจคลั่งได้ถึงระดับที่น่าตกใจเมื่อนางรวม
โลกทั้งหมดในชั้นที่แปดและได้รับเบาะแสมากพอ นางจะเข้าใจค่ายกลของถ้ำปีศาจคลั่งมากขึ้น
บางทีค่ายกลของถ้ำปีศาจคลั่งอาจเปลี่ยนเจ้าของ
ผีดิบอมตะตะวันเดือดมองฟางหยวน “สถานการณ์เร่งด่วน ข้าสงสัยว่าสหายฟางหยวนมีแผนการที่ดีหรือไม่?”
ฟางหยวนส่ายศีรษะและถอนหายใจ“การต่อสู้ในถ้ำปีศาจคลั่งจบลงด้วยชัยชนะของวังสวรรค์
พวกเขาเตรียมตัวมานานและด้วยการคงอยู่ของเทพอมตะกลุ่มดาว มันเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะได้รับชัยชนะดูเหมือนวังสวรรค์จะยังเป็นผู้นําของห้าภูมิภาคต่อไปอีกนานแต่ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเขามีช่วงเวลาที่ง่ายดาย”
ผีดิบอมตะตะวันเดือดพยายามอนุมานเขายังต้องการหลบหนีออกจากที่นี่
ผีดิบอมตะตะวันเดือดกัดฟันก่อนหัวเราะ“สหายฟางหยวนยังเร็วเกินไปที่จะท้อใจโปรดดูวิธีการของข้า!”
ในเวลาต่อมาแสงสีทองก็ส่องประกายขึ้นบนร่างของผีดิบอมตะตะวันเดือด
จากนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดก็ปรากฏขึ้น
มันคือวังสวรรค์แห่งโชค!
วังสวรรค์แห่งโชคหยุดอยู่ด้านนอกค่ายกลก่อนจะบินเข้าสู่ค่ายกลโดยตรง
ลั่วเว่ยหยินและคนอื่นๆอุทานด้วยความประหลาดใจ
วังสวรรค์แห่งโชคเคลื่อนที่เข้าไปในค่ายกลอย่างปลอดภัย มันท่าตัวราวกับเป็นน้ำแข็งลอยก้อนหนึ่ง
“สหายตะวันเดือดเจ้ามีวิธีการที่ยอดเยี่ยม”ฟางหยวนต้องเอ่ยปากชมอย่างช่วยไม่ได้
ผีดิบอมตะตะวันเดือดก่นเสียงเย็น“กลุ่มดาวสามารถแทรกซึมเข้ามาแต่วิธีการบนเส้นทางแห่งโชคของข้าก็ไม่ด้อยกว่าวิธีการของนาง พวกเรารีบไปกันเถอะ!”
วังสวรรค์แห่งโชคมีส่วนร่วมในการกระตุ้นการทํางานของค่ายกลในถ้ำปีศาจคลั่งดังนั้นผีดิบ
อมตะตะวันเดือดจึงสามารถส่งอิทธิพลต่อค่ายกล
ด้วยวิธีนี้ผีดิบอมตะตะวันเดือดและฟางหยวนจึงสามารถออกไปพร้อมกัน
สําหรับลั่วเว่ยหยินและคนอื่นๆพวกเขาถูกนําตัวออกไปยังชั้นที่แปดเช่นกัน
ในช่วงเวลานี้การต่อสู้ของชั้นที่แปดเกือบหยุดลงอย่างสมบูรณ์
วังสวรรค์ได้รับชัยชนะเจ้าเกาะทั้งแปดของถ้ำสวรรค์นิรันดรเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียวปิงชายฉวนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ฝ่ายของฟางหยวนยิ่งเลวร้ายกว่าผู้เชี่ยวชาญเช่นเซียวเหอเจี้ยนและจักรพรรดิผลึกน้ำแข็ง
เสียชีวิตไปแล้ว
“กลุ่มดาว!”ผีดิบอมตะตะวันเดือดตะโกนด้วยความโกรธและพุ่งไปข้างหน้า
เขาดูกระตือรืนร้นมากกว่าช่วงเวลาที่อยู่ในแดนแรกกําเนิด
ฟางหยวนติดตามไปด้านหลัง
เทพอมตะกลุ่มดาวไม่หลบ
ผู้อมตะคนอื่นๆรีบเปิดเส้นทางด้วยความตื่นตระหนก
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”การต่อสู้ของคนทั้งสามปะทุขึ้นอีกครั้ง