Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2192 เข้าสู่ประตูแห่งชีวิตและความตาย
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2192 เข้าสู่ประตูแห่งชีวิตและความตาย
ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญอสูรปี!
ฟางหยวนสบัดมือส่งอสูรปีแรกกําเนิดจํานวนมากออกไป
เพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณอมตะสนามรบสิบสองราศีฟางหยวนต้องรวบรวมอสูรปีแรกกําเนิดจํานวนมากสําหรับอสูรปีแรกกําเนิดฝูงนี้ พวกมันเป็นของเหลือใช้
อสูรปีแรกกําเนิดคํารามและพุ่งเข้าหาสุสานอมตะ
ราชันเหม่ยและราชันตงพยายามปิดกั้นฟางหยวน
ในเวลาเดียวกันผู้อมตะจํานวนมากก็ปรากฏตัวขึ้นจากสุสานอมตะ พวกเขาคือผู้เสียชีวิตในการต่อสู้ก่อนหน้านี้
กลุ่มผู้อมตะของวังสวรรค์หยุดฝูงอสูรปีแรกกําเนิด
ฟางหยวนตระหนักถึงบางสิ่ง ‘ดูเหมือนผู้อมตะที่ฟื้นคืนชีพจากสุสานอมตะจะมีสภาพที่สมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นระดับการบ่มเพาะร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าสําหรับมิติช่องว่างเทียมและวิญญาณอมตะ พวกมันถูกนํากลับสู่สุสานอมตะเมื่อพวกเขาเสียชีวิต’
วิธีฟื้นคืนชีพของวังสวรรค์แทบไร้ข้อบกพร่องง
“โชคดีที่ฟางหยวนค้นพบการซุ่มโจมตีนี้ได้ทันเวลา!’ลั่วเว่ยหยินถอนหายใจด้วยความโล่งอกหากพวกเขาถูกขังไว้ในความมืดเมื่อการต่อสู้สิ้นสุดสวรรค์นิรันดรและฝ่ายของฟางหยวนจะถูกซุ่มโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวเทพอมตะกลุ่มดาวถอนหายใจ
เหตุผลที่นางเก็บผู้อมตะเหล่านี้เอาไว้เพราะนางต้องการซุ่มโจมตีในจังหวะที่เหมาะสมและรักษาความแข็งแกร่งของวังสวรรค์
ถ้ำปีศาจคลั่งไม่ใช่สนามรบที่จะต้องต่อสู้จนตัวตายของทั้งสามฝ่ายพวกเขาเพียงต้องการฉกฉวยผลประโยชน์จากถ้ำปีศาจคลั่งเท่านั้น
นอกจากนี้เมื่อเทพอมตะกลุ่มดาวกลับสู่วังสวรรค์ นางก็ยังต้องการกําลังคนเพื่อควบคุมภาคกลางนางไม่สามารถเป็นผู้นําที่ไร้ผู้ติดตามแต่ตอนนี้ฟางหยวนค้นพบคนเหล่านั้นแล้ว
เทพอมตะกลุ่มดาวรู้จักฟางหยวน เมื่อฟางหยวนค้นพบสิ่งนี้เขาย่อมต้องใช้ประโยชน์จากมันเทพปีศาจจิตวิญญาณปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมเขาเข่นฆ่าคนอ่อนแอสังหารคนแข็งแกร่งการฆ่าเป็นธรรมชาติของเขา
แต่ฟางหยวนแตกต่างออกไปเขาจงใจรังแกคนอ่อนแอแต่จะซ่อนตัวจากคนแข็งแกร่งก่อน
สงครามชะตากรรมวังสวรรค์ค้นหาเขาซ้ำแล้วซ้ำอีกแต่เขายังสามารถซ่อนตัวจากฝ่ายตรงข้ามเทพอมตะกลุ่มดาวไม่มีทางเลือกนอกจากต้องให้การสนับสนุนสุสานอมตะผีดิบอมตะตะวันเดือดพยายามหยุดนางด้วยวิธีการทั้งหมดของเขา
เทพอมตะกลุ่มดาวใช้ภาพลวงตาอีกครั้งแม้ผีดิบอมตะตะวันเดือดจะค้นพบร่างจริงของนางแต่เขายังต้องใช้เวลาตรวจสอบเล็กน้อย
เทพอมตะกลุ่มดาวประสบความสําเร็จในการไปยังสุสานอมตะ
แต่ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ ราชันเหม่ยและราชันตงก็ตายไปอีกครั้งอย่างน่าอนาถด้วยน้ำมือของฟางหยวน
ฟางหยวนพยายามจับมิติช่องว่างเทียมของพวกเขาแต่ไม่สําเร็จ
“หากสุสานอมตะไม่ถูกทําลาย ผู้อมตะเหล่านี้จะกลับมาอย่างไม่รู้จบสิ้น นี่เป็นปัญหาใหญ่!”ลั่วเว่ยหยินรู้สึกถึงความเร่งด่วน
สถานการณ์กลายเป็นการโจมตีและป้องกันอีกครั้ง วังสวรรค์ยังคงเป็นฝ่ายตั้งรับอย่างไรก็ตามคราวนี้พวกเขาไม่ได้ปกป้องภูเขาตําราแต่เป็นสุสานอมตะ
“อืม เมื่อเรากําจัดผู้อมตะเหล่านี้และทําลายสุสานอมตะ วังสวรรค์จะเหลือเพียงเทพอมตะกลุ่มดาวฮ่าฮ่าฮ่า”เจิ้งปู้ตู้หัวเราะและปลดปล่อยเจตนาสังหารออกมาแต่ดูเหมือนวังสวรรค์จะคาดเดาสถานการณ์นี้ไว้แล้ว
สุสานอมตะได้รับการดัดแปลงมาแล้ว ตอนนี้มันเปลี่ยนตัวเองเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะและปลดปล่อยกลุ่มหมอกควันออกมารอบๆ
นอกจากนี้ยังมีร่างแยกของผู้อมตะเหล่านั้นปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับพลังการต่อสู้เท่ากับร่างหลักหลังจากพวกมันถูกกําจัด พวกมันยังปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ผีดิบอมตะตะวันเดือดอนุมานก่อนกล่าว“นี่คือค่ายกลบนเส้นทางแห่งภาพวาดและเส้นทางมนุษย์มันใช้เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ผู้อมตะของวังสวรรค์รวมถึงเทพอมตะกลุ่มดาวเป็นแกนกลางมันเป็นเรื่องยากที่จะทําลายเจ้ามีแผนการที่ดีหรือไม่?”
ฟางหยวนส่ายศีรษะและแสดงออกอย่างเย็นชา
ตอนนี้พวกเขาตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
วังสวรรค์แทรกซึมเข้าสู่ถ้ำปีศาจคลั่งมานานแล้วหากพวกเขาสามารถถ่วงเวลาจนถึงที่สุดพวกเขามีโอกาสที่จะคว้าผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของถ้ำปีศาจคลั่ง
วังสวรรค์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวนกับผีดิบอมตะตะวันเดือดแต่ภายใต้กลยุทธ์ของเทพอมตะ
กลุ่มดาวฟางหยวนกับผีดิบอมตะตะวันเดือดกลับตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ฟางหยวนตระหนักถึงความรุนแรงของสถานการณ์“ข้ามีความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นทางมนุษย์อยู่บ้างแต่ข้าไม่รู้สิ่งใดเลยเกี่ยวกับเส้นทางแห่งภาพวาดตะวันเดือดเจ้ามีความเชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งภาพวาดเราต้องร่วมมือกันเพื่อถอดรหัสค่ายกลนี้”
ผีดิบอมตะตะวันเดือดพยักหน้าเล็กน้อยเขาเข้าใจความตั้งใจของฟางหยวน
ทั้งสองหยุดโจมตีแต่สั่งให้ลั่วเว่ยหยินเจิ้งปู้ตู้ ปิงชายฉวนและคนอื่นๆพยายามโจมตีค่ายกล เพื่อให้พวกเขาได้รับเบาะแสทุกประเภท
บรรพชนทะเลปราณ ปีศาจอมตะฉีเจียและคนอื่นๆโจมตีอย่างไม่หยุดยั้งแต่ยังไม่ประสบความสําเร็จ
ค่ายกลของวังสวรรค์ยังยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคง
ฟางหยวนเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันทะเลมนุษย์ในมิติช่องว่างจักรพรรดิถูกกระตุ้นใช้งานมันทําให้กลุ่มหมอกควันของค่ายกลเกิดความผันผวน
ผีดิบอมตะตะวันเดือดปลดปล่อยแสงสีทองออกมามันทําให้ค่ายกลของวังสวรรค์กลายเป็นไม่เสถียรสุสานอมตะเผยตัวออกมาในที่สุด
กองทัพของทั้งสองฝ่ายโห่ร้องด้วยความยินดี
แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นไม่นานก่อนที่กลุ่มหมอกควันจะกลับมาบดบังวิสัยทัศน์ของทุกคนเอาไว้อีกครั้ง
เจิ้งปู้ตู่และคนอื่นๆพยายามโจมตีค่ายกลแต่ยังล้มเหลว
ผีดิบอมตะตะวันเดือดเผยรอยยิ้มขมขื่น “ค่ายกลน่าจะถูกทําลายไปแล้วแต่แกนกลางของมันคือเทพอมตะกลุ่มดาวนางใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อทําให้ค่ายกลกลับมาอีกครั้งการคงอยู่ของเทพอมตะกลุ่มดาวเป็นปัญหาใหญ่สําหรับผีดิบอมตะตะวันเดือดและฟางหยวนสั้นๆ”
ฟางหยวนส่ายศีรษะอย่างช้าๆ“ดูเหมือนเราจะไม่สามารถทําลายค่ายกลนี้ได้ในระยะเวลาผีดิบอมตะตะวันเดือดไม่ตอบแต่เห็นด้วยกับความคิดนี้
ก่อนหน้านี้การร่วมมือระหว่างคนทั้งสองเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการตอบโต้ค่ายกลนี้แล้วแต่เมื่อมันไม่สามารถทําลายค่ายกลของฝ่ายตรงข้ามพวกเขาก็ต้องใช้เวลาอนุมานอีกอย่างน้อยครึ่ง
เดือดหากต้องการหาวิธีทําลายมัน
พิจารณาจากความเร็วในการรวมตัวของโลกใบใหญ่ทั้งสาม เวลาครึ่งเดือนเพียงพอที่จะทําให้มันสมบูรณ์แบบแล้ว
การแสดงออกของผีดิบอมตะตะวันเดือดกลับมาเป็นปกติเขาถามด้วยรอยยิ้ม“นี่เป็นค่ายกลที่ดีกลุ่มดาวช่วยบอกชื่อของมันได้หรือไม่?”
เสียงของเทพอมตะกลุ่มดาวดังออกมาจากค่ายกล“ค่ายกลนี้เรียกว่าเมืองเมฆาขาวปราบมารมันถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะบัวสวรรค์แต่เวลานั้นมันยังไม่สมบูรณ์เพียงเมื่อวังสวรรค์ศึกษาเส้น
ทางมนุษย์อย่างลึกซึ้งเราจึงประสบความสําเร็จและทําให้มันเสร็จสมบูรณ์ในที่สุด”
ในจังหวะนี้ฟางหยวนโจมตีอีกครั้งและทําให้กลุ่มหมอกควันเกิดความปั่นป่วน
ฟางหยวนกล่าวต่อ“ตะวันเดือดเนื่องจากเราไม่สามารถทําลายค่ายกลนี้เราก็ต้องทําให้เทพ
อมตะกลุ่มดาวอ่อนแอลง”
“มีเหตุผล”ผีดิบอมตะตะวันเดือดยิงล่าแสงสีทองออกไปทันที
ทุกที่ที่แสงสีทองเคลื่อนผ่านกลุ่มหมอกควันจะหายไป
แต่เทพอมตะกลุ่มดาวก็ยังสามารถรักษาสถานการณ์และทําให้สนามรบถูกปกคลุมด้วยกลุ่มเมฆหมอกอีกครั้ง
ฟางหยวนและผีดิบอมตะตะวันเดือดโจมตีซ้ำแล้วซ้ำอีกขณะที่เทพอมตะกลุ่มดาวถูกบังคับให้รักษาเสถียรภาพของค่ายกล
ทันใดนั้นการแสดงออกของผีดิบอมตะตะวันเดือดพลันเปลี่ยนแปลงไป เขารู้สึกถึงความผันผวนของโชค
หลังจากไม่นาน เมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็เกิดการสั่นสะเทือน ผู้อมตะผู้หนึ่งบินออกมาจากโลกภาพวาด
ผีดิบอมตะตะวันเดือดฉวยโอกาสยิงล่าแสงสีทองออกไป
ค่ายกลของวังสวรรค์เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ผู้อมตะของวังสวรรค์กระอักเลือดออกมาและได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที
เจิ้งปู้ตู้พุ่งเข้าเข่นฆ่าทุกคนที่กีดขวางเส้นทางมุ่งสู่สุสานอมตะและตะโกนไปยังผู้อมตะที่ออก
มาจากโลกภาพวาดก่อนหน้านี้“เฉินซานร่วมมือกับเราโจมตีวังสวรรค์!”
คนที่ทําให้ค่ายกลของวังสวรรค์พังทลายลงก็คือเฉินซาน
เฉินซานตกใจแต่เขาก็เข้าร่วมกับฟางหยวนและโจมตีวังสวรรค์ทันที
เทพอมตะกลุ่มดาวถอนหายใจก่อนจะสบัดมือน่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะและผู้อมตะของวังสวรรค์ทั้งหมดเข้าไปในสุสานอมตะ
ฟางหยวนและผีดิบอมตะตะวันเดือดไม่ยอมแพ้พวกเขาไล่ล่าและเห็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพตั้งอยู่ในส่วนลึกของสุสานอมตะ
มันคือประตูแห่งชีวิตและความตาย!
เทพอมตะกลุ่มดาวเข้าไปในประตูแห่งชีวิตและความตายแต่ฟางหยวนและคนอื่นๆยังลังเล
การเข้าสู่ประตูแห่งชีวิตและความตายไม่ใช่เรื่องง่าย
ในตํานานมนุษย์คนแรกวิญญาณสติปัญญาเคยแนะนําให้มนุษย์คนแรกเข้าสู่ประตูแห่งชีวิตและความตาย สิ่งมีชีวิตสามารถเข้าสู่ประตูแห่งชีวิตและความตาย แต่หากพวกเขาต้องการออกมาพวกเขาต้องเดินผ่านเส้นทางแห่งชีวิตที่เต็มไปด้วยวิญญาณความทุกข์ทรมานนอกจากนั้นยังมีอุปสรรคอีกสามอย่างคือภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโปและแม่น้ำหวนคืนในประตูแห่งชีวิตและความตายยังมีทะเลสาบวิญญาณสงบและอื่นๆ
ไม่เพียงเท่านั้นตามข้อมูลของฟางหยวนเขาแน่ใจว่าร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่หลังประตูแห่งชีวิตและความตายบานนี้
ตอนนี้ประตูแห่งชีวิตและความตายถูกยึดครองโดยวังสวรรค์มันกลายเป็นสถานที่อันตราย
เทพอมตะกลุ่มดาวเข้าไปโดยไม่ลังเลนี่แสดงให้เห็นว่านางจัดเตรียมบางสิ่งเอาไว้ภายใน