Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2194 การรวมตัวของสามโลก

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2194 การรวมตัวของสามโลก

ละอองแสงสีทองจํานวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าปกคลุมแขนหลายสิบข้างของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

มันทะลุเข้าไปในแขนและกลายเป็นเส้นเลือดสีทองอยู่บนแขนเหล่านั้น

แขนยักษ์สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

แรงกดดันของฟางหยวนลดลงอย่างรวดเร็ว แขนยักษ์เหล่านั้นไม่สามารถขยับได้อีก

เทพปีศาจจิตวิญญาณโกรธจัดและส่งแขนนับพันข้างพุ่งลงมา

แสงสีทองพุ่งกลับออกมาและกลายร่างเป็นผีดิบอมตะตะวันเดือดอีกครั้ง

เทพปีศาจจิตวิญญาณคํารามเสียงดัง

พายุหมุนสีเทาก่อตัวขึ้นและพุ่งเข้าหากลุ่มของฟางหยวน

พายุหมุนสีเทาไม่มีแรงดูดแต่มีแรงผลักมหาศาล มันแหลมคมเหมือนสายลมของหุบเขาเหล่าโปและสามารถตัดดวงวิญญาณ

ผีดิบอมตะตะวันเดือดและฟางหยวนเร่งล่าถอย อสูรวิญญาณจํานวนนับไม่ ถ้วนถูกพายุสีเทาแยกร่างออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

หลังจากอสูรวิญญาณเสียชีวิต พวกมันถูกพายุหมุนสีเทากลืนกินและกลาย เป็นระเบิดวิญญาณสีเทา

ระเบิดวิญญาณโจมตีลั่วเว่ยหยินและทําให้ดวงวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บทันที

สําหรับผู้อมตะคนอื่นๆเช่นปีศาจอมตะฉีเจียและเฉินซาน สภาพของพวกเขายิ่งน่าอนาถมากกว่า ดวงวิญญาณของพวกเขาอาจถูกลบออกไปแล้วหากพวกเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากฟางหยวน

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณในประตูแห่งชีวิตและความตายมีมากเกินไป นั่นทําให้พลังการต่อสู้ของพวกเขาลดลงอย่างมาก

ตอนนี้ตัวตนกึ่งระดับเก้าเหล่านี้สามารถใช้พลังได้เพียงยี่สิบส่วนขณะที่ฟาง
หยวนและผีดิบอมตะตะวันเดือดใช้พลังได้ห้าสิบส่วน

“เกิดสิ่งใดขึ้น? เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นปรมาจารย์สูงสุดงั้นหรือ?”

“แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะสูญเสียร่างกายแต่เขาสามารถเปลี่ยนตนเองให้เป็นอสูรวิญญาณ”

“ด้วยสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ท่าไม้ตายของเขาจะทรงพลังขึ้นไปอีกมาก นี่คือ พลังอ่านาจของจักรพรรดิเต๋า!”

“เราควรทําอย่างไร?”

กลุ่มผู้อมตะรู้สึกกังวลและลังเล

พลังการต่อสู้ของเทพปีศาจจิตวิญญาณเหนือความคาดหมายของพวกเขาไปไกลมาก

สิ่งสําคัญอีกประการก็คือประตูแห่งชีวิตและความตายมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณมากเกินไป

หลังจากทั้งหมดดวงวิญญาณของคนตายจะกลับมายังประตูแห่งชีวิตและความตายแม้วิญญาณชะตากรรมจะถูกทําลายไปแล้วก็ตาม

ดวงวิญญาณเหล่านั้นทําให้ประตูแห่งชีวิตและความตายกลายเป็นสถานที่ที่มี เก็บสะสมร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเอาไว้มากที่สุด

ในช่วงเวลาสําคัญ ฟางหยวนและผีดิบอมตะตะวันเดือดร่วมมือกันทําลายพายุ หมุนสีเทา

เทพปีศาจจิตวิญญาณฟาดแขนนับพันข้างมาจากทุกทิศทาง

ฟางหยวนและผีดิบอมตะตะวันเดือดต้องใช้กําลังทั้งหมดเพื่อต่อต้านพวกมัน

แขนยักษ์ถูกทําลายทีละข้าง ชิ้นส่วนของพวกมันตกลงบนพื้นและกลายเป็น อสูรวิญญาณพุ่งเข้าโจมตีศัตรูอีกครั้ง

ลั่วเว่ยหยินและตัวตนกึ่งระดับเก้าคนอื่นๆทําหน้าที่กําจัดอสูรวิญญาณเหล่านี้

หลังจากอสูรวิญญาณตาย ชิ้นส่วนของพวกมันยังสามารถรวมตัวกันและกลาย เป็นอสูรวิญญาณตัวใหม่

ฝ่ายของฟางหยวนและผีดิบอมตะตะวันเดือดตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด

พวกเขากําลังดิ้นรนต่อสู้อย่างสิ้นหวัง

“ตาย! พวกเจ้าต้องตายทั้งหมด!” เทพปีศาจจิตวิญญาณคํารามราวกับสัตว์ป่า ที่คลุ้มคลั่ง

เทพอมตะกลุ่มดาวยิ้ม เสียงของนางดังขึ้นในหูของกลุ่มผู้อมตะ “ทุกคน ความ สามารถของพวกเจ้าทําให้ข้ารู้สึกชื่นชมนัก ฟางหยวน ตะวันเดือด ข้าขอตัวก่อน”

หลังกล่าวจบคํา นางก็บินออกจากประตูแห่งชีวิตและความตายไปอย่างง่ายดาย

ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มต้น นางยืนอยู่บนศีรษะของเทพปีศาจจิตวิญญาณมาตลอด แม้นางจะจากไปอย่างเปิดเผย แต่นางกลับไม่ดึงดูดความสนใจของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

สถานการณ์นี้น่ากลัวมาก

เทพปีศาจจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่กลายเป็นหุ่นเชิดของเทพอมตะกลุ่มดาว!

ทันใดนั้นลั่วเว่ยหยินพลันส่งเสียงตะโกนด้วยใบหน้าซีดเผือด “ไม่ ท่านฟางหยวน! เทพอมตะกลุ่มดาวจะรวมสามโลกและทําลายสุสานของเทพอมตะสวรรค์ พิภพ เราต้องหยุดนาง!”

อย่างไรก็ตามพูดง่ายกว่าทํา

เทพปีศาจจิตวิญญาณคือจักรพรรดิเต๋าที่แท้จริงในประตูแห่งชีวิตและความตาย

เขาเป็นผู้อมตะระดับเก้าพร้อมกับความสําเร็จระดับปรมาจารย์สูงสุดบนเส้น
ทางแห่งจิตวิญญาณ

ในทางตรงข้าม ฟางหยวนยังเป็นเพียงผู้อมตะระดับแปด แม้ผีดิบอมตะตะวัน เดือดจะเป็นจักรพรรดิเต๋า แต่เขายังถูกสะกดข่มโดยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่อยู่ในประตูแห่งชีวิตและความตาย

ท่าไม้ตายอมตะท่องสวรรค์พิภพงั้นหรือ?

ฟางหยวนทดลองใช้มันแล้วแต่ไม่สําเร็จ

วังสวรรค์รู้ว่าฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะท่องสวรรค์พิภพ แล้วพวกเขาจะไม่เตรียมพร้อมสําหรับมันได้อย่างไร

โลกใบใหญ่ทั้งสามกําลังจะรวมเป็นหนึ่ง

พวกมันหดตัวลงอย่างรวดเร็ว

มิติอันกว้างใหญ่ของชั้นที่แปดหดตัวลงจนมีอาณาเขตติดกับขอบโลกทั้งสามใบ

เทพอมตะกลุ่มดาวกลับมาที่นี่และจัดตั้งค่ายกลวิญญาณอมตะทันที

กองกําลังส่วนใหญ่ของโลกทั้งสามใบเสียชีวิตในการต่อสู้ ผู้อมตะและผู้ใช้
วิญญาณที่รอดชีวิตไม่เหลือพลังการต่อสู้อีก

วังสวรรค์ยึดครองพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ

พวกเขาจัดตั้งค่ายกลย่อยเอาไว้ในตําแหน่งต่างๆและเชื่อมต่อกับค่ายกลหลักที่ถูกควบคุมโดยเทพอมตะกลุ่มดาว

ทุ่งบัวเขียวกลืนกินโลกอีกสองใบเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

พายุใหญ่ก่อตัวขึ้นรอบๆ

“การหลอมรวมสวรรค์พิภพของเทพปีศาจไร้ขอบเขตมาถึงจุดสําคัญแล้ว หากข้าเดาไม่ผิด สายลมเหล่านี้จะเติบโตต่อไปจนกลายเป็นลมมรณะ!

เทพอมตะกลุ่มดาวใช้ค่ายกลของนางช่วยให้โลกทั้งสามใบรวมตัวกันเร็วขึ้นดังนั้นนางจึงได้รับข้อมูลในเชิงลึกมากมายจากกระบวนการนี้

ในความเป็นจริงเทพอมตะกลุ่มดาวเข้าใจค่ายกลของถ้ําปีศาจคลั่งเกือบครึ่ง

เหตุใดเทพปีศาจไร้ขอบเขตจึงไปที่วังสวรรค์และเล่นเกมส์หมากรุกกับเทพ
อมตะกลุ่มดาว

เหตุผลง่ายมาก

เทพอมตะกลุ่มดาวหลอมรวมกับเจตจํานงสวรรค์ ท่าไม้ตายอมตะมนุษย์
ทํางานแทนสวรรค์ทําให้นางเข้าใจเส้นทางสวรรค์มากขึ้น

เทพปีศาจไร้ขอบเขตเล่นเกมส์หมากรุกกับเทพอมตะกลุ่มดาวเพราะต้องการทําความเข้าใจความลับของเส้นทางสวรรค์

มีเพียงการร่วมมือกับเทพอมตะกลุ่มดาวเท่านั้นที่จะทําให้เทพปีศาจไร้
ขอบเขตสามารถพัฒนาค่ายกลของถ้ําปีศาจคลั่ง

เทพปีศาจไร้ขอบเขตบรรลุเป้าหมายของตนขณะที่เทพอมตะกลุ่มดาวก็ได้รับประโยชน์มากมายเช่นกัน

ความสามารถในการควบคุมเทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นหนึ่งในผลงานวิจัย
เกี่ยวกับเส้นทางสวรรค์ของเทพอมตะกลุ่มดาว แน่นอนว่ามันเป็นเพราะร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณมีข้อบกพร่องอยู่แล้ว

“เมื่อสามโลกรวมเป็นหนึ่ง ผลลัพธ์จะถูกตัดสิน” เทพอมตะกลุ่มดาวถอน หายใจขณะที่ดวงตาของนางส่องประกายขึ้น

นางทําสําเร็จ

ความร่วมมือระหว่างฟางหยวนกับผีดิบอมตะตะวันเดือดเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ แต่เทพอมตะกลุ่มดาวใช้สติปัญญาวางแผนชิงความได้เปรียบไปทีละขั้น

แม้วังสวรรค์จะอ่อนแอ แต่เทพอมตะกลุ่มดาวใช้ประโยชน์จากภูเขาตํารา แดนแรกกําเนิด ค่ายกลของถ้ําปีศาจคลั่ง และประตูแห่งชีวิตและความตายเพื่อให้ได้รับชัยชนะ

นี่คือความสามารถของเทพอมตะกลุ่มดาว

นี่คือพลังอํานาจของเส้นทางแห่งปัญญา

วังสวรรค์แทรกซึมเข้าสู่ถ้ําปีศาจคลั่งมานานแล้ว ตอนนี้พวกเขาสามารถรวมโลกใบใหญ่ทั้งสาม นี่เหมือนกับค่ายกลครึ่งหนึ่งของถ้ําปีศาจคลั่งตกอยู่ในกํามือของนางแล้ว

“ถึงคราวของเจ้าแล้ว เทพอมตะสวรรค์พิภพ” ดวงตาของเทพอมตะกลุ่มดาวกลายเป็นเย็นเยียบ

นางไม่ชอบเทพอมตะสวรรค์พิภพ

แม้เทพอมตะสวรรค์พิภพจะมีชื่อเทพอมตะและมีชื่อเสียงสูงมาก แต่เขาให้ความสําคัญกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอย่างเท่าเทียมโดยไม่มีทางแบ่งแยก เขาปกป้องเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์

สิ่งที่ทําให้เทพอมตะกลุ่มดาวเกลียดชังเทพอมตะสวรรค์พิภพมากขึ้นก็คือตัวตนของเขา

เทพอมตะสวรรค์พิภพผ่านการเผชิญหน้าโดยบังเอิญมาหลายครั้งในชีวิต มันสามารถเปลี่ยนอัตลักษณ์ของเขาให้เป็นมนุษย์ที่แท้จริง แต่เขาไม่ได้ทําเช่นนั้นเขาเลือกที่จะเป็นมนุษย์เลือดผสมที่วังสวรรค์จะไม่มีวันยอมรับ

ทันใดนั้นค่ายกลย่อยของวังสวรรค์ก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

พื้นดินแตกแยก ร่องลึกพุ่งไปทางสุสานของเทพอมตะสวรรค์พิภพ

สุสานของเทพอมตะสวรรค์พิภพถูกแยกออก

เทพอมตะกลุ่มดาวกรีดร้องและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

จากนั้นแสงดาวก็ควบแน่นกลายเป็นอุกกาบาตจํานวนมากตกลงจากท้องฟ้าและพุ่งชนสุสานของเทพอมตะสวรรค์พิภพ

“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”

เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสงดาวและเศษหินกระจัดกระจายไปทั่ว
หลังจากไม่นาน สุสานของเทพอมตะสวรรค์พิภพก็กลายเป็นซากปรักหักพัง