Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2197 ฆ่าเทพปีศาจจิตวิญญาณ
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2197 ฆ่าเทพปีศาจจิตวิญญาณ
“เป็นวิธีที่ดี”ฟางหยวนยกย่อง
หากเขาสามารถใช้โชคร้ายทั้งหมดของตนเพื่อโจมตีฝ่ายตรงข้าม โชคดีของเขาจะอยู่ในระดับสูงสุดเสมอ
ผีดิบอมตะตะวันเดือดมีระบบการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม ท่าไม้ตายนี้เป็นส่วนสําคัญในระบบการต่อสู้ของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
ด้วยความช่วยเหลือจากผีดิบอมตะตะวันเดือดเทพอมตะสวรรค์พิภพจึงสามารถเตรียมท่าไม้ตายของเขาได้สําเร็จ
ท่าไม้ตายอมตะสวรรค์พิภพไร้อารมณ์!
คลื่นแสงสีขาวพุ่งออกจากกลางหน้าผากของเทพอมตะสวรรค์พิภพและแผ่กระจายออกไป
ปกคลุมร่างกายทั้งหมดของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
ในไม่ช้าเจตนาสังหารในดวงตาสีแดงเลือดของเทพปีศาจจิตวิญญาณก็ลดลงและเผยให้เห็นถึงร่องรอยของความคิดอย่างมีเหตุมีผล
แต่ในจังหวะนี้เงาร่างสายหนึ่งกลับปรากฏขึ้นบนหน้าท้องของเทพปีศาจจิตวิญญาณร่างลึกลับกล่าว“สวรรค์พิภพไร้อารมณ์แต่มนุษย์มีอารมณ์”
หลังกล่าวจบค่าร่างลึกลับหัวเราะ
ดวงตาของเทพปีศาจจิตวิญญาณเต็มไปด้วยเจตนาสังหารอีกครั้ง ร่องรอยของการฟื้นคืนสติก่อนหน้านี้หายไปอย่างสมบูรณ์
“ผู้ใด?” กลุ่มผู้อมตะประหลาดใจ
เห็นได้ชัดว่าร่างนี้ทําให้ท่าไม้ตายของเทพอมตะสวรรค์พิภพล้มเหลว
“มันคือหยางเมิ่งงั้นหรือ?” ฟางหยวนคาดเดา
ในตํานานมนุษย์คนแรกดวงวิญญาณของหยางเนิ้งบุตรชายคนโตของมนุษย์คนแรกนอนอยู่ริมทะเลสาบวิญญาณสงบแต่ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดอยู่รอบๆทะเลสาบวิญญาณสงบ
มีความเป็นไปได้ที่ดวงวิญญาณของหยางเมิ้งจะถูกกลืนกินโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ
แต่ด้วยเหตุผลบางประการเทพปีศาจจิตวิญญาณกลับไม่สามารถย่อยดวงวิญญาณของหยางเมิ้งในทางตรงข้ามเขาเป็นฝ่ายถูกควบคุมมีความเป็นไปได้ที่เทพอมตะกลุ่มดาวจะมีบทบาทสําคัญในเรื่องนี้เทพอมตะสวรรค์พิภพรู้สึกอึดอัดใจเมื่อท่าไม้ตายของเขากลายเป็นไร้ประโยชน์
เทพปีศาจจิตวิญญาณโจมตีอีกครั้งฟางหยวนและผีดิบอมตะตะวันเดือดชําเลืองมองกันและกันก่อนที่ฝ่ายหลังจะเปิดปากกล่าว“ฟางหยวนมีความคืบหน้าหรือไม่?”
ฟางหยวนส่ายศีรษะ “ไม่มีความคืบหน้า”
“ข้ามีความคิดบางอย่าง”เฉินซานกล่าว“ตั้งแต่สงครามชะตากรรม ข้าซ่อนตัวอยู่ในเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มาตลอดและลอบฝึกฝนเส้นทางมนุษย์ข้ามีแนวคิดบางอย่างเกี่ยวกับเส้นทางมนุษย์ข้าอนุมานไปได้เก้าสิบส่วนแล้วหลังจากเห็นท่าไม้ตายบนเส้นทางสวรรค์ของเทพอมตะสวรรค์พิภพสัญชาตญาณบอกข้าว่านี่คือสิบส่วนสุดท้ายที่ข้าต้องการด้วยสิ่งนี้ท่าไม้ตายของข้าจะสําเร็จ”
“นี่…” กลุ่มผู้อมตะพึมพํา
ความตั้งใจของเฉินซานก็คือเขาต้องการงานวิจัยบนเส้นทางสวรรค์ของเทพอมตะสวรรค์พิภพนี่เป็นคำขอที่ค่อนข้างมาก
เรื่องนี้เหมือนกับการครอบครองแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพทั้งสามของฟางหยวนที่แม้แต่ผีดิบอมตะตะวันเดือดก็ยังไม่กล้าเอ่ยปากขอยืมพวกมันเพื่อหาวิธีหลบหนีออกจากประตูแห่งชีวิตและความตาย
แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันคําขอที่เอาแต่ใจของเฉินซานกลับมีเหตุผลบางอย่างอยู่เบื้องหลัง
สิ่งสําคัญคือเขากับเทพอมตะสวรรค์พิภพมีความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาด
เฉินซานเป็นผู้อมตะของทะเลตะวันออกเขาเคยทําบาปมามากเพื่อบ่มเพาะเส้นทางมนุษย์หลังจากเทพอมตะสวรรค์พิภพรู้เรื่องนี้ เขาลงมือจัดการเฉินซานทันที
เฉินซานไม่สามารถต่อต้านเทพอมตะสวรรค์พิภพและถูกขังไว้ในถ้ำสวรรค์วาฬมังกรฟ้า
แต่ด้วยความช่วยเหลือจากเทพอมตะสวรรค์พิภพ มันทําให้เฉินซานมีความก้าวหน้าบนเส้นทางมนุษย์
สุดท้ายฟางหยวนปล่อยเฉินซานออกมาจากถ้ำสวรรค์วาฬมังกรฟ้า
เฉินซานร่วมมือกับฟางหยวนและเข้าร่วมในสงครามชะตากรรม ในช่วงเวลาคับขันเขามีบทบาทสําคัญที่ทําให้ฟางหยวนได้รับชัยชนะเหนือวังสวรรค์
อาจกล่าวได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเฉินซานกับเทพอมตะสวรรค์พิภพค่อนข้างใกล้ชิด
ย้อนกลับไปเมื่อเฉินซานบ่มเพาะอยู่ในถ้ำสวรรค์วาฬมังกรฟ้าเขาได้รับคําแนะนําจากเทพอมตะสวรรค์พิภพ
ดังนั้นเฉินซานจึงกล้าเอ่ยคําร้องที่หยิ่งผยองเช่นนี้ออกมา
เป็นดังที่เฉินซานคาดไว้เทพอมตะสวรรค์พิภพส่งข้อมูลให้เขาโดยไม่ลังเล
“ขอบคุณเทพอมตะ!”เฉินซานโค้งคํานับด้วยความตื่นเต้น
เทพอมตะสวรรค์พิภพพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้ม“เฉินซาน การปรากฏตัวของเจ้าถือเป็นพรเราจะออกจากที่นี่ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้าแล้ว”
“ผู้น้อยจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเติมเต็มความคาดหวังของเทพอมตะ!” เฉินซานรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น
เขาเป็นตัวตนกึ่งระดับเก้าแต่ต่อหน้าเทพอมตะสวรรค์พิภพเขายังวางตัวเป็นผู้น้อยและแสดงออกอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
หลังจากทั้งหมดเขาติดหนี้บุญคุณเทพอมตะสวรรค์พิภพ!
ในความเป็นจริงผู้คนและกองกําลังมากมายต่างติดหนี้บุญคุณเทพอมตะสวรรค์พิภพ
เทพอมตะสวรรค์พิภพเป็นเทพอมตะที่ได้รับความเคารพบูชามากที่สุดท่ามกลางเทพทั้งสิบกระทั่งผู้คนของภาคกลางยังเทิดทูนเขาชาน
ความดีที่เขาทํามาตลอดชีวิตและจํานวนคนที่เขาช่วยเอาไว้ไม่สามารถประเมินได้
หลังจากได้รับการอนุมัติและกําลังใจจากเทพอมตะสวรรค์พิภพ ทุกคนจึงเริ่มคาดหวังกลับเฉิน
แต่ความหวังส่วนใหญ่ของพวกเขายังอยู่ที่ฟางหยวน
ฟางหยวนสามารถพัฒนาตนเองระหว่างการต่อสู้ เขาสร้างท่าไม้ตายอมตะเกราะหวนคืนในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืนเขาเป็นคนที่สามารถเอาชนะวังสวรรค์
สถานะของฟางหยวนในใจของทุกคนเหนือกว่าเฉินซาน
กลุ่มผู้อมตะต่อสู้และหลบเลี่ยงการโจมตีของเทพปีศาจจิตวิญญาณ
หัวข้างหนึ่งของเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกผ่าแยกออกเป็นสองส่วนแต่หลังจากนั้นมันกลับเติบโตขึ้นอีกครั้งและกลายเป็นสองหัว
แขนที่ถูกตัดออกของเขางอกออกมาใหม่และเพิ่มจํานวนขึ้น
เทพปีศาจจิตวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นทุกขณะ
หลังจากทั้งหมดเขามีความได้เปรียบมากในประตูแห่งชีวิตและความตาย
อสูรวิญญาณมีมากเกินไปไม่มีประโยชน์ที่จะฆ่าพวกมันท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณทุกประเภทบังคับให้กลุ่มผู้อมตะต้องรักษาความแข็งแกร่งและสมาธิของตนเอาไว้
“หือ?” การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นแปลกประหลาด
การเปลี่ยนแปลงนี้ดึงดูดสายตาของทุกคน
ผีดิบอมตะตะวันเดือดถามอย่างมีความหวัง “ฟางหยวน มีความคืบหน้างั้นหรือ?”
ฟางหยวนพยักหน้าก่อนจะส่ายศีรษะ“ถูกต้องมีความคืบหน้าแต่มันไม่ใช่เส้นทางแห่งชีวิต
ให้ข้าลองสิ่งนี้!”
หลังกล่าวจบคํา กลิ่นอายของฟางหยวนก็เปลี่ยนเป็นน่าขนลุกและมืดมน
ภายในมิติช่องว่างจักรพรรดิภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปสั่นสะเทือนเล็กน้อย
หลังจากการเตรียมการเสร็จสิ้นฟางหยวนก็ผลักฝ่ามือส่งผลึกสี่เหลี่ยมสีเทาขาวลอยออกไป
ผลึกสี่เหลี่ยมสีเทาขาวไม่เร็วนักแต่ทุกที่ที่มันเคลื่อนผ่าน อสูรวิญญาณทั้งหมดจะสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน
อสูรวิญญาณจํานวนมากถูกกวาดล้างทันทีแม้แต่อสูรวิญญาณแรกกําเนิดก็ไม่สามารถต่อต้านผลึกสี่เหลี่ยมสีเทาขาวนี้
แม่น้ำภูตผีพังทลายลงเช่นกัน
ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณส่วนใหญ่ถูกทําลายหรืออ่อนแอลงต่อหน้าผลึกสี่เหลี่ยมสีเทาขาว
ผู้อมตะที่อยู่รอบๆรู้สึกหนาวเย็นไปถึงดวงวิญญาณ
สนามรบกลายเป็นเงียบกริบ
ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เทพปีศาจจิตวิญญาณหยุดโจมตี
ท่าไม้ตายอมตะตราประทับตงฮันเหล่าโป!
“ทรงพลังนัก…ทรงพลังเกินไปแล้ว…” เฉินซานกล่าวเสียงสั่น
“ท่าไม้ตายนี้น่ากลัวจริงๆมันเป็นศัตรูตัวฉกาจของเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ!” ผีดิบอมตะตะวัน
เดือดตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะกล่าวชมเชย
ผลึกสี่เหลี่ยมสีเทาขาวลอยขึ้นไปและทําลายแขนของเทพปีศาจจิตวิญญาณอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าในที่สุดผลึกสี่เหลี่ยมสีเทาขาวจะสลายไปแต่แขนนับร้อยข้างของเทพปีศาจจิต
วิญญาณก็ถูกทําลายและกลายเป็นความว่างเปล่าราวกับความสามารถในการงอกใหม่ของมันหมดลง
ท่าไม้ตายอมตะภัยพิบัติที่ไม่คาดคิดของผีดิบอมตะตะวันเดือดทรงพลังมากแต่ฝูงอสูร
วิญญาณยังสามารถต่อต้านมันได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งอย่างไรก็ตามเปรียบเทียบกับตราประทับตงฮันเหล่าโป พวกมันไม่แม้แต่จะสามารถต่อต้าน
ฟางหยวนถอนหายใจ “ข้ารู้สึกละอายใจนักข้าไม่สามารถอนุมานเส้นทางแห่งชีวิตและกลับได้รับสิ่งนี้แทน”
“ท่าไม้ตายนี้เรียกว่าตราประทับตงฮันเหล่าโปมันใช้แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองเป็นแกนกลาง
รากฐานของมันคือท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโปที่ข้าเคยสร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้”
“เทพปีศาจจิตวิญญาณเคยกล่าวไว้ว่าภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์สําหรับการบ่มเพาะจิตวิญญาณน่าเสียดายที่ข้าไม่มีทะเลสาบวิญญาณสงบมิฉะนั้นข้าอาจสามารถ
ตอบโต้วิธีการบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณทั้งหมด”
เปลือกตาของปีศาจอมตะฉีเจียกระตุกฟังจากน้ำเสียงของฟางหยวน ดูเหมือนเขาจะยังไม่พอใจกับท่าไม้ตายนี้
“ยอดเยี่ยม!” ผีดิบอมตะตะวันเดือดชมเชยอีกครั้ง“ฟางหยวนเจ้ารวมสองแดนศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วหากเจ้าสามารถเพิ่มแม่น้ำหวนคืนเข้าไปเจ้าจะสามารถสร้างเส้นทางแห่งชีวิต”เจิ้งปู้ตู้เสนอวิธีอื่น “จากที่ข้าเห็ ตราบเท่าที่เราใช้ท่าไม้ตายนี้และร่วมมือกันบางทีเรา อาจสามารถฆ่าเทพปีศาจจิตวิญญาณ!”
กลุ่มผู้อมตะตระหนักได้ทันทีว่าพื้นที่ที่ถูกทําลายโดยตราประทับตงฮันเหล่าโปไม่สามารถ
ฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็วเหมือนเช่นก่อนหน้า
แม้แขนนับร้อยข้างของเทพปีศาจจิตวิญญาณจะกําลังฟื้นตัวขึ้น แต่ความเร็วของมันลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ท่าไม้ตายอมตะตราประทับตงฮันเหล่าโปเป็นท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์
มันยังถูกขยายพลังอํานาจโดยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่อยู่ใน
ประตูแห่งชีวิตและความตาย ดังนั้นมันจึงทรงพลังมาก
ผีดิบอมตะตะวันเดือดขมวดคิ้ววิเคราะห์“แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะเป็นจักรพรรดิเต๋าและสามารถควบคุมร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของที่นี่แต่เขาไร้สติเขาพึ่งพาเพียงสัญชาตญาณดังนั้นตราประทับตงฮันเหล่าโปจึงสามารถทําร้ายเขา”
ดวงตาของทุกคนส่องประกายขึ้นด้วยความคิดใหม่ฆ่าเทพปีศาจจิตวิญญาณ!?