Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2202 อันตรายของ ตู่
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2202 อันตรายของ ตู่
ภาคเหนือ
ฐานทัพใหญ่เผ่าชู
“ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งยังไม่ออกมาจากการปิดประตูฝึกตนงั้นหรือ? วันนี้เป็นวันแห่งการต่อสู้”เชาเหลาอู๋กล่าวด้วยความกังวล
“ผ่อนคลายเถอะเมื่อผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่หนึ่งตกลงรับคําท้าของเทพธิดาจันทร์ทมิฬเหตุใดเขาต้องหลีกเลี่ยงการต่อสู้?เราเพียงต้องรออย่างอดทน”ห่าวเจิ้นแสดงออกอย่างสงบนิ่งเชาเหลาอู๋และห่าวเจิ้นเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองและสามของเผ่าชูหนึ่ง
“แท้จริงแล้วการหลีกเลี่ยงการต่อสู้ก็เป็นทางเลือกหนึ่งเช่นกัน” หวังอู่หมิงกล่าวมาจากอีกด้าน
“เจ้ากล่าวสิ่งใด!?” ห่าวเจิ้นโกรธจัด“ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้ อย่างไร?เขาคือจักรพรรดิอมตะชูตู้ผู้แข็งแกร่ง เจ้าพยายามทําลายชื่อเสียงของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งงั้นหรือ?”
ห่าวเจิ้นพุ่งเข้าคว้าคอเสื้อของหวังอู่หมิงและยกเขาลอยขึ้นสู่อากาศ
หวังอู่หมิงตะโกนด้วยความโกรธ “ปล่อย! สัตว์เดรัจฉาน หากเจ้าไม่ปล่อยอย่าโทษที่ข้าทําร้ายเจ้า!”
มิง
เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดีเชาเหลาอูรีบดึงห่าวเจิ้นออกมาขณะที่หลี่ซื่อจุนเข้าไปหยุดหวังอู่หหลี่ซื่อจุนเป็นชายที่สวมกระโปรงลายดอกไม้ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงของผู้หญิง“อย่าเถียงกันตกลงหรือไม่?ข้ารู้สึกไม่สบายใจหากเกิดการต่อสู้ภายในเผ่าชูเราจะเผชิญหน้ากับวิกฤตจริงๆ”หวังอู่หมิงก่นเสียงเย็น“นี่คือวิกฤตของเผ่าชู เราควรรับมือมันอย่างระมัดระวัง!หากผู้อาวุโสสูงสุดลําาดับที่หนึ่งยังเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษมันไม่สําคัญว่าเขาจะต่อสู้หรือไม่แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเผ่าชูเจ้ารู้หรือไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรหากเขาแพ้?”
ห่าวเจิ้นก่นเสียงเย็นแต่ไม่โต้ตอบ
เพราะเขารู้ว่าคํากล่าวของหวังอู่หมิงถูกต้อง
แม้ชูตู่จะก้าวเข้าสู่ฝ่ายธรรมะและสร้างเผ่าชูขึ้นมาแต่พวกเขายังถูกกดดันและสงสัยการเข้าร่วมสงครามชะตากรรมของชูตู่ทําให้สถานะของเผ่าชูเกิดเสถียรภาพ
แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปอีกครั้ง
วิญญาณชะตากรรมถูกทําลาย เทพอมตะตะวันเดือดมีโอกาสฟื้นคืนชีพถ้ำสวรรค์นิรันดร ต้องการรวมโลกผู้อมตะของภาคเหนือ แต่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่อต้านเรื่องนี้ พวก เขารู้สึกรังเกียจตระกูลฮวงจิน
เลย”
ด้วยเหตุนี้เผ่าไป่ซูและเผ่าชูจึงมีคนเข้าร่วมมากขึ้น
ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีสาจอมตะเลือกเข้าร่วมกับพวกเขาแทนตระกูลฮวงจิน
นี่ทําให้ถ้ำสวรรค์นิรันดรต้องจับตามองพวกเขาอย่างใกล้ชิด
“เห้อ…เทพธิดาจันทร์ทมิฬมาจากที่ใด? นางลึกลับมาก เราไม่สามารถสืบประวัติของนางได้
“ภาคเหนือกว้างใหญ่ มีผู้เชี่ยวชาญซ่อนเร้นอยู่มากมาย มันไม่ใช่เรื่องแปลก แต่นางท้าทายผู้ อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเรา นี่เป็นเพียงการร้องขอความอัปยศเท่านั้น!”
“กล่าวตามตรง คนผู้นี้แข็งแกร่งมาก หลังจากที่นางปรากฏตัว นางท้าทายผู้เชี่ยวชาญหลาย คนและยังไม่เคยแพ้ ในการท้าทายครั้งล่าสุด นางยังเอาชนะหลิวจาง เทพธิดาจันทร์ทมิฬเปิด เผยวิธีใหม่ในการต่อสู้ครั้งก่อน ท่าไม้ตายรอยสักคือไพ่ตายของนาง มีข่าวลือว่านางเป็นผู้ สืบทอดของเทพปีศาจคลั่ง”
โจวเหลาอู่และคนอื่นๆพูดคุยกัน
ปัจจุบันไห่ลั่วหลันมีชื่อเสียงโด่งดังมาก นางชนะการต่อสู้ซ้ําแล้วซ้ําอีก นางเป็นผู้อมตะระดับ เจ็ดที่มีพลังการต่อสู้เทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปด ข่าวลือที่ว่านางเป็นผู้สืบทอดของเทพปีศาจ
คลั่งยิ่งทําให้นางดูเหนือกว่าชูตู่
“ข้ามองเห็นเป้าหมายของเทพธิดาจันทร์ทมิฬแล้ว นางมีความทะเยอทะยานสูงมาก นาง รวบรวมผู้คนและสร้างชื่อเสียง ตอนนี้นางกลายเป็นผู้นําของผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะไป
แล้ว มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่นางจะท้าทายท่านชูตู่ แม้นางจะไม่ท้าทายเขาในเวลานี้ นาง ก็จะทําในไม่ช้า เมื่อนางชนะ ชื่อเสียงของนางจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเท่า นางจะเป็นผู้นํากลุ่มผู้ บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะของภาคเหนือที่แท้จริง!”ห่าวเจิ้นวิเคราะห์
ภายใต้แรงกดดันผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะที่เต็มใจยอมจํานวนต่อฝ่ายธรรมะเข้าร่วมกับพวกเขาไปแล้ว
สําหรับส่วนที่เหลือ คนเหล่านี้จะติดตามบุคคลที่แข็งแกร่งเท่านั้น
เผ่าชูและเผ่าไป่ซูเหมือนสุนัขรับใช้ของถ้ำสวรรค์นิรันดร ดังนั้นผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะที่ดื้อรั้นจึงไม่ต้องการเข้าร่วมกับพวกเขา
หากเทพธิดาจันทร์ทมิฬชนะชูตู้นางจะชนะใจคนกลุ่มนี้
ในเวลาเดียวกันเผ่าชูจะต้องพึ่งพาถ้ำสวรรค์นิรันดรมากขึ้น
ชูตู่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับสมาชิกเผ่าของตนเอง หากเขาแพ้ สมาชิกเผ่าชูจะเอาใจออกห่าง เผ่าชูจะร่วงหล่นลงอย่างรวดเร็ว
“เห้อ….หากเราสามารถขอความช่วยเหลือจากท่านฟางหยวนคงจะดีมาก”หลี่ซื่อจุนถอนหายใจ
หวังอู่หมิงส่ายศีรษะ “ไม่มันเสี่ยงเกินไปท่านฟางหยวนแข็งแกร่งมากแต่หากเทพอมตะ ตะวันเดือดฟื้นคืนชีพในอนาคตแม้ท่านฟางหยวนจะแข็งแกร่งเขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพอมตะหากเราท่าเช่นนั้นมันจะเป็นเพียงความสุขระยะสั้นแท้จริงแล้วมันเป็นวิธีการที่โง่เขลาหากเรา
แยกตัวออกจากฝ่ายธรรมะของภาคเหนือ”
“เงียบ พวกเขามาแล้ว!” เชาเหลาอู๋เตือน
ผู้อมตะมากกว่าสิบคนปรากฏตัวขึ้น
ครึ่งหนึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของชูตู้พวกเขาบ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง
ส่วนที่เหลือเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่เผ่าชูรับเข้ามาเมื่อเร็วๆนี้
แม้พวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าบุตรบุญธรรมของชูตู้ แต่ความจงรักภักดีของพวกเขายังไม่สามารถยืนยันได้ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะไว้ใจและใช้งานคนกลุ่มนี้
“ผู้อาวุโสสูงสุดนอก ท่านพ่อบุญธรรมอยู่ที่ใด?”
“ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งอยู่ที่ใด?”
“ถึงเวลาแล้ว เหตุใดผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งยังไม่ปรากฏตัว?”
คนเหล่านั้นตั้งคําถาม
“ผู้ใดอนุญาตให้พวกเจ้ามาที่นี่?”ห่าวเจิ้นเดินออกมาขณะที่เชาเหลาอู๋หวังอู่หมิงและหลี่ซื่อ
จุนยืนอยู่ด้านหลังและจ้องมองกลุ่มคนที่พึ่งมาถึงด้วยสายตาเย็นชา
สี่ผู้อมตะระงับความขัดแย้งภายในและยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียว
“ผู้อาวุโสสูงสุดนอก โปรดอย่าตําหนิพวกเราพวกเราเพียงเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านพ่อบุญธรรมเท่านั้น”
“ถูกต้อง ตั้งแต่พวกเราเข้าร่วมเผ่าชูท่านชูตู้ก็เป็นผู้นําของพวกเรา มันผิดงั้นหรือที่พวกเราจะรู้สึกกังวล?”
ความวิตกของพวกเขาชัดเจนมาก
ห่าวเจิ้นกําลังจะตําหนิแต่กลิ่นอายที่ทรงพลังกลับพวยพุ่งออกมาจากด้านหลังประตูทองแดงของห้องลับเปิดออกชูตู้เดินออกมาอย่างช้าๆด้วยใบหน้าที่ไม่แยแส
“ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่ง!”
“ท่านพ่อบุญธรรม!”
“อืม” ชูตู่พยักหน้าเล็กน้อยด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม
สถานการณ์ร้ายแรงกว่าที่ทุกคนพูดคุยกันมาก
ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะเหล่านี้พึ่งเข้าร่วมกับเผ่าชู บางทีอาจมีสายลับอยู่ในกลุ่มพวกเขา
บุตรบุญธรรมของชูตู้แสดงออกด้วยความเคารพและถ่อนตมแต่แท้จริงแล้วพวกเขามีความขุ่นเคืองต่อชูตู้มานานแล้วพวกเขาไม่พอใจที่ชูตูบังคับให้พวกเขาบ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่งที่ไร้อนาคต เมื่อพวกเขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะชูตู่ยังใช้ประโยชน์จากพวเขาเพื่อซึมซับความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งทําให้พวกเขาพบความสูญเสียครั้งใหญ่
ชูตู้ตระหนักดีว่าเผ่าชูอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเสื่อมถอย
หากเขาสามารถเอาชนะเทพธิดาจันทร์ทมิฬชูตู่จะสามารถรักษาสถานะเดิม หากเขาแพ้ เผ่าชูจะร่วงหล่นลงมีแนวโน้มว่ามันจะเกิดหายนะครั้งใหญ่ผู้คนจะดูแคลนพวกเขาไม่มีผู้ใดต้องการอยู่กับพวกเขา พวกเขาจะอ่อนแอลงเรื่อยๆกระทั่งเผ่าชูกลายเป็นเหยื่อสังเวยในสงครามห้าภูมิภาค
“ผู้อาวุโสสูงสุดลําาดับที่หนึ่งคนจํานวนมากจากไปแล้วเราจะปกป้องอาณาเขตของเราอย่างไร?”เชาเหลาอู๋ถาม
ชูตูโบกมือและกล่าวอย่างไร้กังวล“ไม่มีปัญหาเรามีแหล่งทรัพยากรที่มีค่าจริงๆมากเท่าใด?สําหรับฐานทัพใหญ่ให้ผู้อมตะบางคนรักษาการอยู่ที่นี่”
แม้เผ่าชูจะถูกก่อตั้งขึ้นแล้วแต่พวกเขามีแหล่งทรัพยากรไม่มาก
ด้วยเหตุนี้ผู้อมตะผู้โชคร้ายสองสามคนจึงถูกเลือกให้อยู่ปกป้องฐานทัพใหญ่ของเผ่าชูขณะที่ชูตู่น่าสมาชิกเกือบทั้งหมดไปยังสนามรบ
ชูตู้ไม่แสดงความตื่นตระหนกออกมาแม้แต่น้อย
ระหว่างทาง ผู้อมตะของตระกูลฮวงจินปรากฏตัวขึ้นและรวมกลุ่มกับชูตุ๋
ในช่วงเวลาปกติผู้อมตะเหล่านี้อาจต่อต้านเผ่าชูและเผ่าไป่ซูแต่เมื่อชูตู้เผชิญหน้ากับคนนอกเช่นเทพธิดาจันทร์ทมิฬพวกเขาจึงต้องยืนอยู่ข้างชูตู
เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงครึ่งทางจักรพรรดิสวรรค์ไปซูก็ปรากฏตัวขึ้นนี่ทําให้ชูตู้สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างแท้จริง