Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2204 ฟางหยวนปะทะสองเทพ
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2204 ฟางหยวนปะทะสองเทพ
การโจมตีของเทพอมตะตะวันเดือดถูกหยุดฟางหยวนฉวยโอกาสสวนกลับแต่ในจังหวะนี้แสง
ดาวกลับพุ่งเข้ามาที่หน้าผากของฟางหยวนด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อศีรษะของฟางหยวนเอนไปด้านหลังเล็กน้อยจากการโจมตีนี้เขารีบหลบออกไปเมื่อการป้องกันของเขาลดลงสามสิบส่วน
เทพอมตะกลุ่มดาวร่วมมือกับเทพอมตะตะวันเดือดโจมตีฟางหยวน
ฟางหยวนเผชิญหน้ากับการโจมตีที่รุนแรงจากสองเทพ
กลุ่มผู้อมตะกลายเป็นพูดไม่ออก
ไม่ว่าฟางหยวนจะแข็งแกร่งหรือมีชื่อเสียงมากเพียงใด แต่เทพอมตะสองคนต้องร่วมมือกันต่อสู้กับเขางั้นหรือ?
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบกลุ่มผู้อมตะก็เข้าใจเหตุผล
ฟางหยวนเป็นตัวตนกึ่งระดับเก้าที่แข็งแกร่งที่สุดนอกจากร่างหลัก เขายังมีบรรพชนทะเลปราณและเจิ้งปู้ตู่กระทั่งปีศาจอมตะฉีเจียก็ดูเหมือนจะมีข้อตกลงบางอย่างกับฟางหยวน
ด้วยแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นฟางหยวนจึงต้องให้ความสําคัญกับการหลบเลี่ยงเขาตะโกนไปทางเทพอมตะสวรรค์พิภพและผู้อมตะคนอื่นๆ“เราต้องร่วมมือกันเทพทั้งสองจะไม่ปล่อยให้พวกเราได้รับประโยชน์จากงานวิจัยชีวิตนิรันดร์พวกเขาจะฆ่าพวกเราก่อน!”
ตาย
โดยไม่ลังเลเฉินซานเทพอมตะสวรรค์พิภพปีศาจอมตะฉีเจียและคนอื่นๆเคลื่อนไหวทันทีแต่ความพยายามของพวกเขาไม่สามารถขจัดแรงกดดันของฟางหยวน
ผู้อมตะของวังสวรรค์พยายามกีดขวางกลุ่มตัวตนกึ่งระดับเก้าเหล่านี้โดยไม่เกรงกลัวต่อความฟางหยวนหนีไปทุกหนทุกแห่งและตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย
เทพอมตะกลุ่มดาวใช้กระดานหมากรุกกลุ่มดาวเพื่อชะลอความเร็วของฟางหยวนขณะที่เทพอมตะตะวันเดือดฉวยโอกาสโจมตีด้วยมือแสงสีทอง
ในช่วงเวลาสําคัญฟางหยวนต้องใช้ท่าไม้ตายสายป้องกันที่มีชื่อเสียงของเขาเกราะหวนคืน!
สิ่งนี้สามารถสะท้อนการโจมตีของเทพอมตะตะวันเดือดและการโจมตีของเทพอมตะกลุ่มดาวในที่สุดฟางหยวนก็สามารถถอนหายใจแต่เขายังไม่กล้าผ่อนคลาย
เขายื่นฝ่ามือทั้งสองข้างออกไป
มือข้างซ้ายปล่อยปราณแสงห้าภูมิภาค
มือข้างขวาส่งพลังงานลึกลับออกไปทําลายท่าไม้ตายของศัตรู มันเป็นท่าไม้ตายผสมที่สามารถกัดกร่อนทุกสิ่ง
เขาไม่ได้โจมตีเทพอมตะกลุ่มดาวหรือเทพอมตะตะวันเดือดแต่เป้าหมายของเขาคือค่ายกลของกระดานหมากรุกกลุ่มดาว
เขาต้องทําลายค่ายกลนี้เป็นอันดับแรก
ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางสวรรค์ สวรรค์พิภพสงบสุข!
อีกด้านหนึ่งเทพอมตะสวรรค์พิภพกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายของเขาอีกครั้ง เขาตั้งใจทําเช่นเดียวกับฟางหยวนเขาต้องการรื้อถอนค่ายกลเช่นกัน
พลังอํานาจของท่าไม้ตายบนเส้นทางสวรค์ไม่ธรรมดาทุกที่ที่มันเคลื่อนผ่านแสงดาวจะอันตรธานหายไปและกลายเป็นความว่างเปล่า
“สวรรค์พิภพ…”เทพอมตะกลุ่มดาวขมวดคิ้วนางยิงแสงดาวออกมาอย่างไม่หยุดยั้งส่วนใหญ่พุ่งไปยังฟางหยวนส่วนเล็กๆโจมตีเทพอมตะสวรรค์พิภพ
แม้เทพอมตะสวรรค์พิภพในเวลานี้จะเป็นตัวตนกึ่งระดับเก้าแต่เขาเปลี่ยนเข้าสู่เส้นทางสวรรค์เทพอมตะกลุ่มดาวไม่สามารถตรวจสอบวิธีการของเขาดังนั้นนางจึงต้องระวังตัว
เทพอมตะกลุ่มดาวควบคุมสถานการณ์และสงบอยู่เสมอ ตราบเท่ที่มีสิ่งแปลกปลอมนางจะหยุดมันทันที
“เกราะหวนคืนยากที่จะจัดการแต่ฟางหยวนเจ้าจะทนได้นานเท่าใด?” เทพอมตะตะวันเดือดใช้ท่าไม้ตายที่ทรงพลังออกมาทีละทำกัน
การไม้ตายเหล่านี้ล้วนถูกสะท้อนกลับ แต่ระดับน้ำของแม่น้ำหวนคืนก็ลดลงอย่างรวดเร็วเช่น
เกราะหวนคืนของฟางหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วโลกไม่ใช่ว่าเทพอมตะตะวันเดือดจะไม่เตรียมตัวรับมือมันแต่มันได้รับการดัดแปลงมาอย่างต่อเนื่องดังนั้นเทพอมตะตะวันเดือดจึงไม่สามารถจัดการมันได้อย่างเหมาะสม
เทพอมตะกลุ่มดาวขมวดคิ้วเล็กน้อย
นางเปลี่ยนความคิดและส่งคฤหาสน์วิญญาณอมตะออกมา
มันคือเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!
ภายในเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เจตจํานงของเทพอมตะบัวสวรรค์กระตุ้นใช้ท่าไม้ตายที่เตรียมเอาไว้นานแล้ว
ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งภาพวาดภาพเหมือน!
ทันใดนั้นภาพเหมือนของฟางหยวนก็ปรากกขึ้นในโลกภาพวาดของเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
ภาพเหมือนของฟางหยวนยืนอยู่ต่อหน้าเจตจํานงของเทพอมตะบัวสวรรค์เขายืนปิดเปลือกตาอยู่อย่างสงบนิ่ง
เจตจํานงของเทพอมตะบัวสวรรค์กระตุ้นใช้ท่าไม้ตายต่อไปที่เรียกว่าเส้นแบ่ง
น้ำหมึกพุ่งออกมาเฉือนแก้มภาพเหมือนของฟางหยวน
แทบจะในเวลาเดียวกัน ร่างของฟางหยวนที่กําลังต่อสู้อยู่กับเทพอมตะตะวันเดือดพลันสั่น
สะท้านขึ้น
แก้มซ้ายของเขาถูกกีดเฉือน บาดแผลเส้นบางๆปรากฏขึ้นพร้อมกับน้ำหมึกสีดําที่ไหลออกมา “เกิดสิ่งใดขึ้น?” รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลงก่อนที่เขาจะหันหน้าไปทางเมืองจักรพรรดิ ศักดิ์สิทธิ์
“นี่เป็นวิธีการบนเส้นทางแห่งภาพวาด มันเป็นการเคลื่อนไหวของเทพอมตะบัวสวรรค์!” ความ คิดของฟางหยวนเคลื่อนที่ราวกับสายฟ้า
เขากล่าวได้ถูกต้อง
เทพอมตะกลุ่มดาวเป็นนักวางแผน นางเตรียมท่าไม้ตายเสี่ยงโชคไว้สําหรับเทพอมตะตะวัน
เดือด แล้วเหตุใดนางจะไม่เตรียมบางสิ่งไว้สําหรับฟางหยวน
แม้ฟางหยวนจะมีเกราะหวนคืน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่มีวิธีตอบโต้
แน่นอนว่าเทพอมตะกลุ่มดาวย่อมไม่ลืมเกราะหวนคืนของฟางหยวน
ท่าไม้ตายอมตะภาพเหมือนถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะบัวสวรรค์ แต่เทพอมตะกลุ่มดาวใช้มัน
เพื่อตอบโต้เกราะหวนคืนของฟางหยวน
ความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นทางแห่งภาพวาดของฟางหยวนแทบเป็นศูนย์ ดังนั้นเกราะหวนคืนจึง
ไม่สามารถป้องกันมัน
ฟางหยวนตระหนักถึงข้อบกพร่องนี้ ดังนั้นเขาจึงรวบรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่ง
ภาพวาด อย่างไรก็ตามมันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับความลึกลับของท่าไม้ตายบนเส้นทาง
แห่งภาพวาดระดับนี้
นี่เป็นเหตุผลที่เทพส่วนใหญ่เลือกบ่มเพาะสองเส้นทาง
เทพอมตะกลุ่มดาวบ่มเพาะเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งดวงดาว เทพอมตะบัวสวรรค์ บ่มเพาะเส้นทางแห่งไม้และเส้นทางแห่งภาพวาด เทพอมตะตะวันเดือด บ่มเพาะเส้นทางแห่งโชค และเส้นทางแห่งเลือด เทพอมตะสวรรค์พิภพบ่มเพาะเส้นทางแห่งปฐพีและเส้นทางสวรรค์ เทพ
ปีศาจคลั่งบ่มเพาะเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงและเส้นทางความแข็งแกร่ง เทพปีศาจปล้น
สวรรค์บ่มเพาะเส้นทางแห่งการโจรกรรมและเส้นทางแห่งห้วงมิติ
พวกเขามีเส้นทางหลักและเส้นทางรอง
เส้นทางหลักของพวกเขาถูกเผยแพร่ออกไปในวงกว้างขณะที่เส้นทางอีกสายถูกเก็บเป็น
ความลับ ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางเหล่านั้นจะถูกปิดผนึกเอาไว้
ตัวอย่างเช่นเทพอมตะกลุ่มดาว นางบ่มเพาะเส้นทางแห่งปัญญาเป็นหลักโดยมีเส้นทางแห่ง ดวงดาวเป็นความเชี่ยวชาญพิเศษของนาง เทพอมตะบัวสวรรค์บ่มเพาะเส้นทางแห่งไม้เป็นหลัก
โดยมีเส้นทางแห่งภาพวาดเป็นความสามารถพิเศษ
สถานการณ์ปัจจุบันของฟางหยวนแสดงให้เห็นถึงข้อดีของการทําเช่นนี้
ฟางหยวนสามารถสะท้อนการโจมตีของเส้นทางส่วนใหญ่ แต่เขาไม่สามารถป้องกันการโจมตี
จากเส้นทางที่แปลกใหม่เช่นเส้นทางแห่งภาพวาด
สถานการณ์ของเทพอมตะตะวันเดือดค่อนข้างพิเศษ เดิมทีเขาวางแผนที่จะใช้เส้นทางแห่ง เลือดเป็นเส้นทางหลักและเส้นทางแห่งโชคเป็นความเชี่ยวชาญพิเศษ
เทพอมตะตะวันเดือดสร้างเส้นทางแห่งโชคเมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ เขาเป็นคนเดียวที่มีวิธีการนี้
ดังนั้นเขาจึงเก็บมันเป็นความลับ แต่เพื่อช่วยฟางหยวนและเติมเต็มความทะเยอทะยานของ
ตนเอง เขาต้องทิ้งมรดกบนเส้นทางแห่งโชคไว้ในวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงและจิต
วิญญาณแผ่นดินหลางหยา
หลังจากเสียชีวิต เทพอมตะตะวันเดือดพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ร่างแยกของเขาสร้างเส้น ทางแห่งเลือด เขาวางแผนที่จะทําให้เส้นทางแห่งเลือดเป็นเส้นทางทั่วไป ดังนั้นร่างแยกบรรพ
ชนบ่อเลือดจึงเผยแพร่เส้นทางแห่งเลือดออกไปทุกหนทุกแห่ง เขาต้องการให้คนอื่นๆช่วย
สนับสนุนและส่งเสริมเส้นทางสายนี้ แต่มันกลับเกิดความผิดพลาดบางอย่าง
ภายในเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ เจตจํานงของเทพอมตะบัวสวรรค์ใช้ท่าไม้ตายต่อไปที่เรียกว่า
สบัดพู่กัน
น้ำหมึกถูกสบัดออกไปและทิ้งร่องรอยไว้บนภาพเหมือนของฟางหยวน
ในเวลาเดียวกัน บาดแผลสีดําก็ปรากฏขึ้นบนร่างจริงของฟางหยวน
ท่าไม้ตายอมตะบุรุษคนก่อนหน้า!
ฟางหยวนต้องกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายนี้เพื่อรักษาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
แต่ด้วยเหตุนี้ เขาจึงต้องหยุดใช้ท่าไม้ตายผสมจากมือข้างขวาและสามารถใช้เพียงปราณแสง
ห้าภูมิภาคจากมือซ้ายเพื่อตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น
การกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายหลายท่าในครั้งเดียวไม่ได้เกินขีดความสามารถของฟางหยวน แต่
ตอนนี้เขาต้องการความสามารถในการคิดคํานวนเพื่อจัดการกับสถานการณ์มากกว่า
มิฉะนั้นเมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เขาจะรับมือได้ไม่ทันเวลา
ท้ายที่สุดศัตรูของเขาก็เป็นเทพอมตะระดับเก้า พวกเขาไม่เหมือนฉินติงหลิงหรือปิงชายฉวน
ยิ่งไปกว่านั้นสองเทพยังเป็นพันธมิตรกัน
แรงกดดันราวกับภูเขากดทับฟางหยวนอย่างไม่สิ้นสุด มันจะไม่หยุดจนกว่าเขาจะตาย
ฟางหยวนเป็นฝ่ายเสียเปรียบมาตลอดและตอนนี้เขายิ่งมีปัญหามากขึ้น
นี่เป็นการต่อสู้ที่ยากลําบากมากที่สุดในชีวิตของเขา
การต่อสู้ในสงครามชะตากรรมยังไม่ยากลําบากและดุเดือดเท่าเวลานี้
“ฟางหยวนตกอยู่ในอันตราย!” เทพอมตะสวรรค์พิภพและคนอื่นๆต้องการช่วยแต่ถูกปิดกั้นโดย
เทพอมตะกลุ่มดาวและเทพอมตะตะวันเดือด
การโจมตีของสองเทพอมตะมุ่งเป้าไปที่ฟางหยวน พวกเขาใช้พลังงานส่วนน้อยเพื่อสกัดกั้น
ตัวตนกึ่งระดับเก่าที่เหลือ
ในที่สุดแม่น้ำหวนคืนของฟางหยวนก็ถูกใช้จนหมด เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหยุดใช้ท่า
ไม้ตายเกราะหวนคืน
โดยปราศจากสิ่งกีดขวาง เทพอมตะตะวันเดือดหัวเราะและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายที่เตรียมไว้
ฟางหยวนถูกโจมตีทันที
มิติช่องว่างจักรพรรดิสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เมฆภัยพิบัติลอยเข้ามารวมตัวกัน
เทพอมตะตะวันเดือดยิ้ม “ฟางหยวน แก่นกลางของท่าไม้ตายนี้คือแท่นบูชาแห่งโชค มัน
สามารถเปลี่ยนโชคของเป้าหมายให้กลายเป็นโชคร้าย มิติช่องว่างของเจ้ามีทรัพยากรมากเกินไป
ภัยพิบัติจะรุนแรงเพียงใดเมื่อโชคของเจ้ากลายเป็นโชคร้าย?”
การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนแปลงไป
ภายในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ภาคเหนือน้อย
เมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์
เมฆภัยพิบัติก่อตัวขึ้น ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นมืดมิด
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ชาวเมืองเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า หลังจากไม่นาน เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นจากเมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์
“เมฆภัยพิบัติ มีเมฆภัยพิบัติที่นี่!”
“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?”
“เร็วเข้า ขอความช่วยเหลือจากท่านเจ้าเมือง”
ชาวเมืองตื่นตระหนก พวกเขารีบวิ่งไปยังคฤหาสน์เจ้าเมือง
ชาวเมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่เป็นมนุษย์ที่มาจากถ้ําสวรรค์นักรบอสูร
ในชีวิตนี้ ฟางหยวนกําหราบถ้ําสวรรค์นักรบอสูรโดยการสร้างภัยพิบัติและทําให้ผู้คนล้มตาย
เป็นจํานวนมาก
ผู้คนของถ้ําสวรรค์นักรบอสูรมีประสบการณ์ที่เจ็บปวดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็น เมฆภัยพิบัติที่เหมือนกับในความทรงจํา พวกเขาจึงรู้สึกตื่นตระหนก กรีดร้อง และหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง
ภายในคฤหาสน์เจ้าเมือง ผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงมองขึ้นไปบน
ท้องฟ้า ใบหน้าของเขาปรากฏให้เห็นถึงความขมขื่น
เขาคือเจ้าเมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์ที่พึ่งได้รับตําแหน่ง เดิมทีเขาเป็นผู้อมตะระดับหก แต่ด้วย ความช่วยเหลือจากฟางหยวน การบ่มเพาะของเขาจึงก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ด หลังจากรับภารกิจ เขา
กลายเป็นเจ้าเมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์
“ภัยพิบัติครั้งนี้ทรงพลังเกินไป เราอาจไม่สามารถหยุดมัน เราควรขอความช่วยเหลือจากภูเขา ผลึกน้ำแข็ง” เจ้าเมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์ส่งคําร้องขอกําลังเสริมทันที
ภูเขาผลึกน้ำแข็งเป็นพื้นที่หลักของภาคเหนือน้อย มันเป็นอาณาเขตของเผ่ามนุษย์หิมะที่อยู่
ภายใต้การปกครองของเซี่ยเอ๋อคู่หมั้นของฟางหยวน
เมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์ได้รับการดูแลและช่วยเหลือจากเซี่ยเอ๋อและเผ่ามนุษย์หิมะมาตลอด
ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกดีและคุ้นเคยกับเผ่ามนุษย์หิมะ
มิติช่องว่างจักรพรรดิแตกต่างจากห้าภูมิภาค สิ่งมีชีวิตทุกเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเท่า
เทียมและเป็นหนึ่งเดียว
เจ้าเมืองอินทรีย์ศักดิ์สิทธิ์ไม่มีสิ่งกีดขวางทางจิตใจใดๆในการขอกําลังเสริมจากเผ่ามนุษย์
หิมะ ในเวลาเดียวกันเขาก็เชื่อว่าเซี่ยเอ๋อจะให้ความช่วยเหลือ
ทะเลทรายตะวันตกน้อย
เมืองสีดําตั้งตระหง่านอยู่ในส่วนลึกของทะเลทราย
มันคือเมืองหมึก
ไม่ตันซานกลายเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดไปแล้ว เขามีผู้อมตะระดับหกอีกแปดคนอยู่ภายใต้การ
บังคับบัญชา
“ภัยพิบัติครั้งนี้รุนแรงมาก มันไม่เคยปรากฏมาก่อน” การแสดงออกของโม่ตันซานกลายเป็น
เคร่งขรึม เขารู้สึกกดดันมาก
เขาเร่งออกค่าสั่ง
ผู้อมตะระดับหกสองคนถูกส่งไปรักษาความปลอดภัยและรักษาความสงบของเมืองหมึก
ผู้อมตะระดับหกอีกสี่คนถูกส่งออกไปปกป้องแหล่งทรัพยากร
สถานะของโม่ตันซานคล้ายกับเซี่ยเอ๋อ เขาเกือบจะเป็นผู้รับผิดชอบทะเลทรายตะวันตกน้อย
ทั้งหมด
สวรรค์สีนํ้าเงินน้อย
เมืองใหญ่ตั้งอยู่บนพื้นเมฆ
ในห้องโถงที่คล้ายเปลือกหอย
ผู้อมตะสูงอายุระดับแปดนั่งอยู่ด้านในและฟังรายงานด้วยการแสดงออกที่เคร่งเครียด
เขาคือราชาอสูรจากถ้ําสวรรค์นักรบอสูร เขาได้รับมอบหมายจากฟางหยวนให้เป็นผู้ดูแล
กิจการทั้งหมดภายในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
“ภัยพิบัติครั้งนี้กะทันหันเกินไป!”
“มันน่ากลัวมากและยังครอบคลุมมิติช่องว่างจักรพรรดิทั้งหมด!
“ท่านเจ้าเมือง พวกเราควรทําอย่างไร?”
“ผู้อมตะระดับแปดเกือบทั้งหมดเสียชีวิตไปแล้ว แม้พวกเขาจะสามารถฟื้นคืนชีพ แต่การบ่ม
เพาะของพวกเขายังไม่กลับมา พวกเรามีกําลังคนน้อยเกินไป พวกเราจะจัดการภัยพิบัตินี้ได้
อย่างไร!?”
“ข้าคิดว่าอาจมีเพียงตัวตนเช่นนายท่านเท่านั้นที่สามารถปกป้องพวกเราจากภัยพิบัติครั้งนี้…”
ราชาอสูรยกมือขึ้นทําให้ห้องโถงค่อยๆเงียบลง “นายท่านฉลาดและทรงพลัง ท่านต้อง เคลื่อนไหวอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เราควรปกป้องบ้านของเราอย่างเต็มความสามารถ! แม้เราจะ
ตาย มันก็ไม่สามารถทําลายเจตจํานงของเรา ทุกคน นี่เป็นการทดสอบที่ยากล่ามาก นายท่าน กําลังดูพวกเราอยู่ ในฐานะผู้อมตะ หากเราไม่สามารถปกป้องผู้คนและบ้านของเรา หากเรากลัว
ตาย แล้วเราจะสามารถเงยหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจได้อย่างไร!”
“พวกเราจะสู้อย่างสุดกําลัง!” กลุ่มผู้อมตะตะโกนพร้อมกันทําให้ขวัญกําลังใจของพวกเขาพุ่ง
สูงขึ้น
ความตายไม่น่ากลัว
แม้พวกเขาจะตาย แต่พวกเขายังสามารถฟื้นคืนชีพผ่านทะเลมนุษย์ สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวกว่าคือการหลบหนีจากอันตรายและทิ้งความประทับใจที่ไม่ดีไว้ให้กับฟางหยวนในถ้ําาปีศาจคลั่ง
แสงสีทองส่องประกายสว่างไสวราวกับคลื่นสมุทร
ฟางหยวนล่าถอยด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม
เมื่อปราศจากเกราะหวนคืน การเผชิญหน้ากับสองเทพอมตะเต็มไปด้วยอันตราย
สิ่งที่เลวร้ายกว่าก็คือภัยพิบัติในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
“นี่เป็นการโจมตีจากโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด…” ฟางหยวนมองเทพอมตะตะวันเดือดด้วย
เจตนาสังหารอันแรงกล้า
เทพอมตะตะวันเดือดสังเกตกลิ่นอายของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในร่างของฟางหยวนก่อนจะสงบ
จิตใจลง
ฟางหยวนครอบครองหม้อปรุงโชค เขาสามารถหยุดวิธีการบนเส้นทางแห่งโชคเกือบทั้งหมด
ของเทพอมตะตะวันเดือด อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับเทพอมตะตะวัน
เดือดในแง่ของรากฐานบนเส้นทางแห่งโชค
เทพอมตะตะวันเดือดถอนหายใจเบาๆ “ฟางหยวน เจ้ามีความสามารถและฉลาดมาก แท้จริง แล้วข้าไม่ต้องการฆ่าเจ้า น่าเสียดายที่ตัวตนของเจ้ากําหนดผลลัพธ์ของเจ้าเอาไว้แล้ว ข้าต้อง
กําจัดเจ้า หากเจ้าได้รับอนุญาตให้พัฒนาต่อไป วันหนึ่งเมื่อเจ้าเข้าใจเส้นทางแห่งโชคอย่างลึก
ซึ้ง การกําจัดเจ้าจะกลายเป็นเรื่องยาก”
เทพอมตะตะวันเดือดชื่นชมความสามารถของฟางหยวน ในเวลาเดียวกันเขาก็ต้องระวังคนผู้นี้
ให้มากขึ้น
ฟางหยวนถูกบังคับให้ล่าถอยอย่างต่อเนื่อง
แต่ท่าไม้ตายผสมของฟางหยวนยังสามารถสร้างความยากลําบากให้กับฝ่ายตรงข้าม
เทพอมตะตะวันเดือดยิ้ม “เจ้าทําให้ข้ารู้สึกประทับใจมากขึ้นเรื่อยๆ ท่าไม้ตายผสมของเจ้า ทําให้ข้าได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ น่าเสียดายที่ระบบการต่อสู้ของเจ้ายังไม่ดีพอ!”
“แต่นี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า”
“ข้าใช้เวลาเกือบหนึ่งพันปีเพื่อสร้างระบบการต่อสู้ในปัจจุบัน”
“ยิ่งไปกว่านั้นการสร้างระบบการต่อสู้ไม่ใช่เรื่องของเวลาเท่านั้นแต่ยังต้องมีคู่ต่อสู้ที่คู่ควรจึงจะ
ประสบความสําเร็จ”
“ฟางหยวน เจ้ามีชีวิตอยู่เพียงไม่กี่ปี มันยอดเยี่ยมมากแล้วที่เจ้ามาถึงจุดนี้”
เทพอมตะตะวันเดือดยิ้มและโจมตีอีกครั้ง
ฟางหยวนไม่พูด
เทพอมตะตะวันเดือดเผยรอยยิ้มกว้างขึ้นเมื่อตระหนักถึงภัยพิบัติในร่างของฟางหยวนที่ทวี
ความรุนแรงขึ้นเป็นสองเท่า “ฟางหยวน เจ้าจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัตินับไม่ถ้วนในเวลาเดียวกัน
ข้าจะไม่ให้โอกาสเจ้าดูแลตัวเอง” หลังกล่าวจบค่า เทพอมตะตะวันเดือดก็โจมตีอีกครั้ง
การโจมตีของเขาทาให้ฟางหยวนไม่มีเวลาจัดการมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ในมิติช่องว่างจักรพรรดิกลายเป็นฉากของขุมนรก
ภาคกลางน้อย
อุกกาบาตจํานวนมากตกลงสู่พื้น ทะเลเพลิงลุกไหม้ขึ้นทุกหนทุกแห่ง
อสูรเพลิงลุกขึ้นจากทะเลเพลิงและทําลายล้างทุกสิ่ง
ในจังหวะนี้ผู้อมตะผู้หนึ่งบินเข้ามา
มันคือร่างแยกมนุษย์มังกรของฟางหยวน อู๋ส่วย
ด้วยหนึ่งความคิด ฝูงมดบินออกไปต่อสู้กับฝูงอสูรเพลิง
ภาคใต้น้อย
ฝนสีดําากําลังสาดเทลงมา
น้ำฝนกัดกร่อนและสร้างความเสียหายไปทั่ว
ผู้อมตะเผ่ามนุษย์หินต้องใช้กําลังทั้งหมดเพื่อปกป้องแหล่งทรัพยากรของพวกเขา
เมืองหลอมรวมดาราตกอยู่ในความโกลาหล
“แหล่งทรัพยากรทั้งหมดในห้าภูมิภาคน้อยและเก้าสวรรค์น้อยถูกโจมตีโดยภัยพิบัติทุกประเภท”
“ผู้อมตะบนภูเขาวิหคเพลิงขอกําลังเสริม!”
“เพลิงภูตผีกําลังเผาทําลายทุ่งหิมะหากเราไม่หยุดมันทุ่งหิมะจะถูกทําลายล้าง“ทวีปเมฆาของมนุษย์ขนกําลังถูกฟ้าผ่าหนึ่งในเมืองหลักของพวกเขาจมอยู่ใต้น้ำแล้ว!”“สัตว์อสูรที่น่ากลัวปรากฏตัวขึ้นที่สวรรค์สีดําน้อยภูตราชสีห์กําลังออกล่าอสูรวิญญาณ!”
ข่าวร้ายถูกส่งมาอย่างต่อเนื่อง
ราชาอสูราหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวแม้เขาจะเตรียมใจไว้แล้วแต่ภัยพิบัติครั้งนี้ยังทําให้เขาไม่สามารถสงบจิตใจ
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ต้นจนจบเขายังแสดงออกด้วยท่าทางสงบนิ่ง เขาเป็นกระดูกสันหลังของผู้คนที่นี่เขาไม่สามารถแสดงอาการตื่นตระหนกออกมาเขาส่งคําสั่งต่างๆออกไปทุกคนทํางานอย่างหนัก แต่ภัยพิบัติเกิดขึ้นทุกหนทุกแห่งและยังมีหลากหลายประเภทมันเป็นเรื่องท้าทายและยากลำบากสําหรับผู้อมตะที่ประจําการอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
วันนี้มีหนึ่งตอน