Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2205 เพลิงดํา
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2205 เพลิงดํา
ข่าวของผู้อมตะที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและใกล้เสียชีวิตรายแรกมาถึง
หัวใจของราชาอสูรกระตุกทันที ‘เร็วนัก!
ความกังวลของเขาทวีความรุนแรงมากขึ้น
ยิ่งผู้อมตะได้รับบาดเจ็บล้มตายมากเท่าใดประสิทธิภาพในการป้องกันภัยพิบัติของพวกเขาก็ยิ่งลดลงเท่านั้นหากสิ่งนี้ยังดําเนินต่อไปสถานการณ์จะไม่สามารถควบคุม
ราชาอสูรกัดฟันแน่น“ถ่ายทอดคำสั่งหยุดช่วยสวรรค์สีดําน้อย ละทิ้งฝูงอสูรวิญญาณเราจะปกป้องเมืองใหญ่ก่อนจากนั้นก็เป็นแหล่งทรัพยากรที่สําคัญผลการอนุมานของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเป็นอย่างไร?”
เมืองหลอมรวมดาราย่อมมีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาโดยธรรมชาติ
“เรายังอนุมานได้ไม่ถึงครึ่ง มีภัยพิบัติมากเกินไป”ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญากล่าวด้วยเหงื่อที่ไหลลงมาจากศีรษะเขา
“ใช้ผลลัพธ์ทั้งหมดที่เจ้าได้รับจัดการสถานการณ์ตอนนี้ก่อน!” ราชาอสูรเกือบกระทืบเท้าของในไม่ช้าผลของการอนุมานก็ทําให้ราชาอสูรตัดสินใจระดมกําลังผู้อมตะ
“โอ๋?” อู๋ส่วยเป็นคนแรกที่ได้รับข่าว
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดก่อนที่เขาจะล่าถอยออกจากสนามรบในช่วงเวลาสั้นๆของการต่อสู้กับอสูรเพลิง แหล่งทรัพยากรบุปผาสุดขั้วถูกทําลายไปอย่างสมบูรณ์ขณะที่อสูรเพลิงส่วนใหญ่ยังอยู่
พวกมันมีจํานวนมากเกินไปแม้อู๋ส่วยจะใช้กําลังทั้งหมดแต่เขาก็สามารถกําจัดอสูรเพลิงส่วนเล็กๆเท่านั้น
เป้าหมายของฝูงอสูรเพลิงถูกทําลายไปแล้วดังนั้นความมันจึงรวมตัวกันต่อสู้กับอู๋ส่วย
เมื่อเห็นอู๋ส่วยล่าถอย ฝูงอสูรเพลิงเร่งไล่ล่า
อู๋ส่วยนําพวกมันไปทางทิศตะวันตกและพบกับผู้อมตะอีกคนที่กําลังถูกอสูรปราณไล่ล่าเช่นกัน
ผู้อมตะทั้งสองอยู่ตรงกลางขณะที่อสูรเพลิงและอสูรปราณเริ่มต่อสู้กันเอง
“มันเป็นไปได้จริงๆ!”
“ภัยพิบัติเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติแต่เกิดจากท่าไม้ตายของเทพอมตะตะวันเดือด”
“เนื่องจากพวกมันถูกสร้างขึ้นโดยวิธีบนเส้นทางแห่งโชคและไม่ได้ถูกควบคุมโดยเจตจํานง
สวรรค์ พวกมันจึงเหมือนกองทัพที่ไร้ผู้นําเราสามารถใช้ภัยพิบัติต่อต้านภัยพิบัติ”
อู๋ส่วยมีความสุขเล็กน้อย
นี่คือผลการอนุมานของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา
ด้วยวิธีนี้ ในที่สุดสถานการณ์ของมิติช่องว่างจักรพรรดิก็คลี่คลายลง
“เราทําได้ สถานการณ์เกิดเสถียรภาพแล้ว!” ราชาอสูรสูดหายใจลึกด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ
ภัยพิบัติครั้งนี้รุนแรงมากหากพวกเขาล่าช้าเพียงเล็กน้อย ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะโชคดีที่พวกเขาใช้เวลาทุกนาทีรับมือกับมันอย่างเต็มที่และสามารถสร้างเสถียรภาพได้ในที่สุด
แต่นี่ยังไม่เพียงพอ
ภัยพิบัติยังดําเนินอยู่ในหลายสถานที่ ภัยพิบัติที่ทําลายกันเองเป็นเพียงส่วนน้อย
มิติช่องว่างจักรพรรดิยังถูกทําลายโดยภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง
“เมฆภัยพิบัติเหนือทุ่งบุปผาสุดขั้วหายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว”
“เมฆภัยพิบัติส่วนใหญ่เหนือทุ่งหิมะสลายไปแล้ว”
“เหมืองหินด่าถูกทําลายอย่างสมบูรณ์แต่เมฆภัยพิบัติก็หายไปแล้วเช่นกัน”
“บางสิ่งไม่ถูกต้อง! สถานการณ์ไม่ปกติ!”
“รายงาน! เมฆภัยพิบัติกว่ายี่สิบแห่งในห้าภูมิภาคน้อยเริ่มเปลี่ยนแปลงไป”
“นี่คือ…ภัยพิบัติแสงสวรรค์แผ่นดินสะเทือน!”
ราชาอสูรได้รับข่าวร้ายอีกครั้ง
“ไม่ดีแล้ว!” ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาว จากการรวบรวมข้อมูล ภัยพิบัติแสงสวรรค์แผ่น
ดินสะเทือนเกิดขึ้นในพื้นที่สําคัญทั้งสิ้น
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”
เสาแสงสีเหลืองพุ่งลงมาจากเมฆภัยพิบัติและเจาะทะลวงลงไปใต้พื้นดิน
มันทําให้แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง
“วิธีบนเส้นทางแห่งโชคนี้กําหนดเป้าหมายไปที่แหล่งทรัพยากรโดยเฉพาะตอนนี้แหล่งทรัพยากรหลายแห่งถูกทําลายหรือได้รับความเสียหายอย่างหนักตอนนี้เส้นโลหิตปฐพีกลายเป็น
เป้าหมายใหม่ของมัน!”
“นั่นเป็นสาเหตุที่ภัยพิบัติแสงสวรรค์แผ่นดินสะเทือนปรากฏขึ้นทุกหนทุกแห่งพวกมันกําลังโจมตีจุดชีพจรของเส้นโลหิตปฐพี”
ใบหน้าของอู๋สวยกลายเป็นเย็นเยียบ
แม้ภัยพิบัติเหล่านี้จะเกิดขึ้นจากเทพอมตะตะวันเดือดและไม่ถูกควบคุมโดยเจตจํานงสวรรค์แต่มันยังพุ่งเป้าไปที่แหล่งทรัพยากรสําคัญของมิติช่องว่างจักรพรรดิ
“อย่างไรก็ตามเจ้าคิดว่าเส้นโลหิตปฐพีที่เราสร้างขึ้นมาอย่างยากลําบากจะถูกทําลายง่ายๆงั้นหรือ?”
อู๋ส่วยเย้ยหยันและกระตุ้นใช้งานค่ายกลวิญญาณอมตะ
ค่ายกลของเส้นโลหิตปฐพีถูกกระตุ้นใช้งาน แผ่นดินไหวหยุดลงทันที
จากนั้นกลุ่มผู้อมตะที่ถูกส่งมาจากเมืองหลอมรวมดาราก็มาถึงพื้นที่ภัยพิบัติและเริ่มโจมตีเสาแสงสีเหลือง
เสาแสงสีเหลืองพังทลายลงทีละต้นด้วยความร่วมมือกันของกลุ่มผู้อมตะ
เมฆภัยพิบัติเปลี่ยนไปอีกครั้ง คราวนี้พวกมันส่งสัตว์อสูรไปยังพื้นที่ต่างๆ ฝูงหนูปฐพีสีทองปรากฏตัวขึ้นและปิดล้อมจุดชีพจรของเส้นโลหิตปฐพีเอาไว้
จุดชีพจรของเส้นโลหิตปฐพีเจ็ดจุดถูกทําลายก่อนที่ฝูงหนูปฐพีสีทองจะถูกกําจัด
เมฆภัยพิบัติยังมุ่งเป้าโจมตีเส้นโลหิตปฐพีอย่างไม่ลดละ
กลุ่มผู้อมตะปกป้องเส้นโลหิตปฐพีด้วยกําลังทั้งหมดของพวกเขา
แม้จุดชีพจรของเส้นโลหิตปฐพีจะถูกทําลายไปหลายจุดแต่สถานการณ์โดยรวมเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
ภัยพิบัติส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่เส้นโลหิตปฐพี มันจึงกลายเป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ซึ่งนําความสะดวกสบายมาสู่กลุ่มผู้อมตะเมื่อเวลาผ่านไป เมฆภัยพิบัติส่วนใหญ่ก็ถูกทําลาย
อย่างไรก็ตามหัวใจของกลุ่มผู้อมตะกลับสั่นสะท้านขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง
แรกเริ่มมันมีขนาดเล็กมากแต่ในไม่ช้ากลิ่นอายของมันก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ในส่วนลึกของเมฆภัยพิบัติ
ท่ามกลางสายตาที่งุนงงและหวาดกลัวของกลุ่มผู้อมตะเปลวเพลิงสีดําเริ่มลุกไหม้ขึ้นในส่วนเล็กของเมฆภัยพิบัติเพลิงด่า!
เพลิงดําปรากฏขึ้นและเผาทําลายเมฆภัยพิบัติที่เหลืออยู่ทั้งหมด
เพลิงด่าลุกลามไปอย่างรวดเร็วและเริ่มตกลงจากท้องฟ้า ทุกที่ที่มันสัมผัสจะถูกเผาทําลายจนกลายเป็นความว่างเปล่า
กลุ่มผู้อมตะสูดหายใจลึก พลังของเพลิงดําน่าสะพรึงกลัวมาก มันเป็นศัตรูตัวฉกาจของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด!
“นี่ไม่ใช่เพลิงด่าเหมือนในถ้ำสวรรค์วาฬมังกรฟ้างั้นหรือ?มันปรากฏขึ้นที่นี่จริงๆ!เทพอมตะตะวันเดือดช่างน่าเกรงขามนัก!” หัวใจของอู๋ส่วยแทบกระโดดออกมาจากหน้าอกกระทั่งผู้
เชี่ยวชาญเช่นเขายังรู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรงจากเพลิงดําเหล่านี้
ไม่จําเป็นต้องกล่าวสิ่งใดอีกต่อไปทุกคนใช้วิธีการขอตนเพื่อต่อต้านเพลิงดํา
อย่างไรก็ตามวิธีการทั้งหมดกลับไร้ประโยชน์
แม้เทพธิดาเมี่ยวหยินและเทพธิดากระต่ายขาวจะใช้กําลังทั้งหมดแต่พวกนางยังดับเพลิงดําได้เพียงเล็กน้อย
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเพลิงดําถูกทําลายไปในระดับหนึ่งมันจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นสายฟ้าสีดําวารีสีด่าและอื่นๆ
ในช่วงเวลาสําคัญร่างแยกกาลเวลาเหอชุนชิวปรากฏตัวขึ้น
“อย่าตื่นตระหนก! ร่างหลักคาดเดาสิ่งนี้เอาไว้และสอนวิธีรับมือให้ข้าแล้ว”เหอชุนชิวกล่าว
ขณะกระตุ้นใช้ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางมนุษย์
ค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางมนุษย์มีต้นสมปรารถนาและแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพทะเลมนุษย์เป็นแกนกลาง
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”
ดวงแสงสีขาวพุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน
พวกมันบินไปทุกหนทุกแห่งในห้าภูมิภาคน้อยเพื่อกําจัดเพลิงดํา
เพลิงดําเปลี่ยนรูปแบบอีกครั้ง แต่ไม่ว่ามันจะเปลี่ยนเป็นสิ่งใด มันก็ยังถูกทําลายล้างโดยดวงแสงสีขาว
ดวงแสงสีขาวมีประสิทธิภาพสูงมากแต่เพลิงดํายังรวมตัวกันและเติบโตขึ้นอีกครั้ง
“สถานการณ์อันตรายมาก!”
“ค่ายกลบนเส้นทางมนุษย์ได้ผลแต่พวกมันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับการเติบโตของเพลิงด่า”
“เราควรทําอย่างไร?”
กลุ่มผู้อมตะยังตื่นตระหนก
“โอ้ ไม่ เพลิงดําปรากฏขึ้นบนภูเขาตงอันและหุบเขาเหล่าโป!”
“เส้นโลหิตปฐพีก็เช่นกัน!”
สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว เหอชุนชิว อู๋ส่วย และคนอื่นๆหน้าซีด
ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่แล้วแต่พวกเขาไม่สามารถทําสิ่งใดได้มากนัก
ตอนนี้พวกเขาต้องพึ่งพาร่างหลักของฟางหยวนเท่านั้น
ปัจจุบันร่างหลักของฟางหยวนกําลังต่อสู้กับสองเทพและตกอยู่ในสภาพที่น่าอนาถ
เขาไม่สามารถตอบโต้เทพทั้งสองปราณแสงห้าภูมิภาคถูกบังคับให้หยุดชีวิตของเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย
วิธีการของเทพอมตะน่าสะพรึงกลัวมากพวกมันสามารถทําลายรากฐานของฟางหยวน
กลุ่มผู้อมตะในมิติช่องว่างจักรพรรดิไม่สามารถทําสิ่งใดได้อีก ความหวังเดียวของพวกเขาอยู่ที่ฟางหยวน
แต่ฟางหยวนไม่มีเวลาช่วยเหลือพวกเขา
เทพอมตะทั้งสองโจมตีฟางหยวนราวกับพายุคลั่งและไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พักหายใจ
‘ข้าต้องจัดการเพลิงด่า!’ ฟางหยวนกัดฟันแน่น หากเขาเพิกเฉยต่อเพลิงดํา มิติช่องว่างของเขาจะถูกทําลาย
ท่าไม้ตายอมตะลมหายใจออก!
ไว้
ทันใดนั้นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณก็พุ่งเข้ามากีดขวางเทพอมตะทั้งสองเอา
มันคือร่างแยกบรรพชนทะเลปราณที่พึ่งหลุดจากการพันฒนาการ
“ข้ามาแล้ว!”เจิ้งปู้ตู่คํารามเขาได้รับอิสระจากการปกป้องบรรพชนทะเลปราณเช่นกันดังนั้น
เขาจึงพุ่งเข้าต่อสู้กับเทพอมตะตะวันเดือด
ร่างหลักของฟางหยวนฉวยโอกาสล่าถอย
ท่าไม้ตายอมตะควันมนุษย์!
เขาช่วยค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางมนุษย์เป็นอันดับแรก จากนั้นเขาก็ใช้มันจัดการเพลิงด่าที่กระจัดกระจายออกรอบๆมิติช่องว่างจักรพรรดิ
เพลิงดําค่อยๆดับมอดลงการเติบโตของมันถูกหยุดทันที
นี่คือความสามารถของร่างหลัก
อย่างไรก็ตามเจิ้งปู้ตู้และบรรพชนทะเลปราณถูกเทพอมตะทั้งสองจัดการอย่างรวดเร็ว
“สวรรค์พิภพ!” ฟางหยวนตะโกนไปทางเทพอมตะสวรรค์พิภพ
เทพอมตะสวรรค์พิภพสูดหายใจลึกขณะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะตาข่ายสวรรค์อีกครั้ง
ด้วยความช่วยเหลือจากเขาฟางหยวนจึงมีเวลาพักหายใจเล็กน้อยเมื่อสองเทพอมตะทําลาย
ตาข่ายสวรรค์เจิ้งปู้ตู่และบรรพชนทะเลปราณก็สามารถกลับมาเสริมกําลังให้เขาการต่อสู้ดําเนินมาเป็นเวลานานแต่สองเทพยังไม่สามารถสังหารฟางหยวนนั่นทําให้พวกเขาต้องขมวดคิ้ว
ค่ายกลของถ้ำปีศาจคลั่งหดตัวลงอย่างรวดเร็ว พลังอํานาจของเทพปีศาจไร้ขอบเขตลดลง
นั่นทําให้การโจมตีของพวกเขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ฟางหยวนทําได้เพียงหลบหนีอย่างน่าสังเวช
คฤหาสน์วิญญาณอมตะป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุข!
ในช่วงเวลาสําคัญฟางหยวนซ่อนตัวอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้และกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่มีวิญญาณความสามารถเป็นแกนกลางเพื่อดูดซับเพลิงดํา
สุดท้ายสถานการณ์ในมิติช่องว่างจักรพรรดิก็เริ่มดีขึ้น
ป้อมปราการบนภูเขาที่สงบสุขปกป้องฟางหยวนอยู่ชั่วครู่ก่อนที่มันจะพังทลายลงด้วยพลังอำนาจของสองเทพ “ตาย!” เทพอมตะตะวันเดือดใช้ท่าไม้ตายที่ทรงพลัง
“ปกป้องข้า!” ฟางหยวนตะโกน เขาไม่สามารถหลบได้ทันเวลา
ในช่วงเวลาวิกฤต เจิ้งปู้ตู่บินเข้ามาและใช้ร่างของเขาปิดกั้นท่าไม้ตายของเทพอมตะตะวันเดือด
“บีม!”
ร่างของเจิ้งปู้ตู้ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขาตายทันที