Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2206 การต่อสู้เพื่อชีวิตนิรันดร์
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2206 การต่อสู้เพื่อชีวิตนิรันดร์
เปลือกตาของฟางหยวนกระตุก
หัวใจของตัวตนกึ่งระดับเก้าทั้งหมดจมดิ่งลง
ในทางตรงข้าม ขวัญกําลังใจของสมาชิกวังสวรรค์พุ่งสูงขึ้น
ฟางหยวนสูญเสียเจิ้งปู้ตู้หนึ่งในร่างแยกของเขามิติช่องว่างของเจิ้งปู้ตู้ถูกดูดซับโดยค่ายกลของถ้าปีศาจคลั่งเวลา
โชคดีที่ภายใต้การควบคุมของเจิ้งปู้ตู่วิญญาณอมตะของเขาถูกส่งไปยังสวรรค์สีเหลืองได้ทัน
อย่างไรก็ตามเพลิงดํายังสร้างความเสียหายให้กับมิติช่องว่างจักรพรรดิอย่างต่อเนื่อง
เทพอมตะตะวันเดือดโจมตีอีกครั้ง
ฟางหยวนกัดฟันสั่งให้บรรพชนทะเลปราณปิดกั้นการโจมตีของเทพอมตะตะวันเดือด
แต่ในเวลาสําคัญ แสงดาวกลับพุ่งเข้ามาและก่อตัวเป็นกรงแสงดาวสีฟ้าปิดผนึกบรรพชนทะเลปราณเอาไว้
ท่าไม้ตายของเทพอมตะตะวันเดือดปะทะกรงแสงดาวและระเบิดทําลายมัน
เทพอมตะตะวันเดือดหันหน้ากลับไปมองเทพอมตะกลุ่มดาวขณะที่ฝ่ายหลังถอนหายใจลั่วเว่ยหยินและคนอื่นๆตกตะลึงนี่เป็นความขัดแย้งครั้งแรกในความร่วมมือของสองเทพบรรพชนทะเลปราณรอดพ้นจากความตายเขายังปกป้องฟางหยวนอยู่ด้านข้าง
สถานการณ์ในมิติช่องว่างจักรพรรดิดีขึ้นเพียงเล็กน้อย ตราบเท่าที่ฟางหยวนหยุดมือเพลิงด่าจะปะทุขึ้นอีกครั้งเป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงระเบิดดังขึ้น
ชั้นที่แปดของถ้ำปีศาจคลั่งหลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์ก่อนจะแตกสลายกลายเป็นความว่างเปล่า
ประตูแห่งชีวิตและความตายและสุสานอมตะบินเข้ามาที่ชั้นเก้าขณะที่เทพอมตะกลุ่มดาวเก็บมันไวในมิติช่องว่างของนาง
ถ้ำปีศาจคลั่งมีเก้าชั้น เจ็ดชั้นแรกถูกฟางหยวนเก็บกวาดชั้นที่แปดหายไปอย่างสมบูรณ์ตอนนี้มันเหลือเพียงชั้นที่เก่า
และในค่ายกลของชั้นที่เก้าก็เหลือน้ำแข็งลอยก้อนสุดท้ายเท่านั้น
สามปีศาจอมตะที่อยู่บนน้ำแข็งลอยก้อนสุดท้ายกระตุ้นใช้งานวิญญาณการฝึกฝนอย่างเต็มที่ราวกับพวกเขากําลังแกะสลักน้ำแข็งลอยเป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อเห็นฉากนี้ หัวใจของกลุ่มผู้อมตะกลายเป็นสั่นไหว ขณะที่ฟางหยวนลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
อันตรายผ่านไปแล้ว!
ในที่สุดเขาก็ผ่านช่วงเวลาที่ยากลําบากที่สุดไปแล้ว!
ดังคาด เทพอมตะกลุ่มดาวและเทพอมตะตะวันเดือดไม่ได้โจมตีเขาอีกทั้งสองหยุดนิ่งและมองหน้ากันบรรยากาศเปลี่ยนแปลงไป
เทพอมตะทั้งสองจับมือกันก่อนหน้านี้เพื่อกําจัดกลุ่มตัวตนกึ่งระดับเก้า แต่ฟางหยวนใช้ทุกวิธีเพื่อรักษาชีวิตของเขาเอาไว้
แผนการของสองเทพลัมเหลว
ตอนนี้งานวิจัยชีวิตนิรันดร์ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว สิ่งสําคัญที่สุดในเวลานี้คือการคว้าผลลัพธ์ดังกล่าวเอาไว้
เทพที่ต่อสู้ติดพันกับตัวตนกึ่งระดับเก้าจะเสียโอกาสให้แก่เทพอีกคน
“สําเร็จ! พวกเราทําสําเร็จ!” สามปีศาจอมตะทรุดตัวลงบนพื้นและตะโกนด้วยความตื่นเต้นท่าไม้ตายอมตะเสี่ยงโชค!
ในจังหวะนี้ฉินติงหลิงพุ่งเข้ามาทําลายทางตันของสองเทพ
นางใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งโชคโจมตีเทพอมตะตะวันเดือดอีกครั้ง
แทบจะในเวลาเดียวกันที่ผู้อมตะห่วงทองปรากฏตัวขึ้นและใช้ห่วงทองจับกุมเทพอมตะตะวันเดือด
หากเปรียบเทียบกับเทพอมตะตะวันเดือด เทพอมตะกลุ่มดาวมีความได้เปรียบอย่างชัดเจน
ตราบเท่าที่เทพอมตะตะวันเดือดติดพันอยู่กับผู้อมตะเหล่านี้ เขาจะไม่สามารถแข่งขันกับเทพ
อมตะกลุ่มดาวเพื่อให้ได้รับงานวิจัยชีวิตนิรันดร์
สุดท้ายเทพอมตะกลุ่มดาวจะสามารถคว้างานวิจัยชีวิตนิรันดร์และกลายเป็นผู้ชนะในศึกนี้
อย่างไรก็ตามเทพอมตะตะวันเดือดกลับเผยรอยยิ้ม “กลุ่มดาว เจ้ามีวิธีการที่ดี แต่ดูเหมือนเจ้าจะลืมบางสิ่ง?”
ในเวลาต่อมาคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดก็ปลดปล่อยแสงสีทองออกมา
มันคือวังสวรรค์แห่งโชค!
คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ซ่อนตัวอยู่อย่างลับๆมาตลอดตอนนี้มันถูกใช้งานโดยเทพอมตะตะวันเดือดและส่งผลกระทบต่อค่ายกลของถ้ำปีศาจคลั่งทันที
เดิมทีโซ่เหล็กของเทพปีศาจไร้ขอบเขตถูกควบคุมโดยแสงดาวของเทพอมตะกลุ่มดาวแต่การเคลื่อนไหวของเทพอมตะตะวันเดือดทําให้โซ่เหล็กของเทพปีศาจไร้ขอบเขตหลุดพ้นจาก
การควบคุมของเทพอมตะกลุ่มดาวดังนั้นมันจึงส่งผลกระทบต่อค่ายกลของกระดานหมากรุกกลุ่มดาวและท่าลายมันลงทันที
“พรวด!”
เทพอมตะกลุ่มดาวกระอักเลือดนางได้รับผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรง
เทพอมตะตะวันเดือดฉวยโอกาสนี้พุ่งไปข้างหน้า
เทพอมตะกลุ่มดาวไม่มีเวลารักษาอาการบาดเจ็บของตน นางน่าแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพที่เหมือนตะเกียงออกมาอีกครั้ง
นางใช้แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพโจมตีเทพอมตะตะวันเดือดและทําให้ความเร็วของฝ่ายหลังลดลง
เทพอมตะกลุ่มดาวเร่งติดตามไป
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”
สองเทพต่อสู้กันอย่างดุเดือด
โชคดีที่สถานที่แห่งนี้มีเพียงความว่างเปล่า มิฉะนั้นทุกสิ่งจะถูกทําลายล้าง
เทพอมตะทั้งสองเอื้อมมือไปยังน้ำแข็งลอยก้อนสุดท้ายพร้อมกัน
แต่ทันใดนั้นพวกเขากลับหยุดมือลงอย่างกะทันหัน ใบหน้าของพวกเขากลายเป็นแปลกประหลาด
เผิงซานยืนขึ้นในเวลานี้ เขาเคยมีร่างกายที่อ้วนกลมแต่ตอนนี้เขาผอมมากราวกับเขาใช้กําลังมากเกินไป
“เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“เหตุใดงานวิจัยชีวิตนิรันดร์ยังไม่ปรากฏ?”
“มันยังไม่สําเร็จงั้นหรือ?”
“แต่พวกเราไม่มีแรงเหลือแล้ว”
เผิงซาน มหาราวกับคนบ้า
เสียงของเขาปลุกปีศาจอมตะอีกสองคน
การแสดงออกของนักวางแผนดูไม่น่ามองเขาแทบไม่มีแรงแม้แต่จะป้องหมัดขึ้น “ท่านเทพงานวิจัยชีวิตนิรันดร์ยังไม่สมบูรณ์มันเหลืออีกไม่ถึงครึ่งก้าวตราบเท่าที่พวกท่านกระตุ้นใช้งาน
วิญญาณการฝึกฝนอีกสักครู่น้ำแข็งลอยก้อนนี้จะถูกแกะสลักอย่างสมบูรณ์”
เทพอมตะทั้งสองเงียบ
ภารกิจนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
หากฝ่ายใดลงมือทําสิ่งนี้ฝ่ายนั้นจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ตอนนี้ชั้นที่แปดของถ้ำปีศาจคลั่งซึ่งเป็นแหล่งเชื้อเพลิงของค่ายกลถูกใช้ไปจนหมดแล้ว หาก
พวกเขาต้องการแกะสลักน้ำแข็งลอยพวกเขาต้องพึ่งพากําลังของตนเท่านั้น
พวกเขาจะสูญเสียพลังงานจํานวนมากพลังการต่อสู้ของพวกเขาจะลดลงสุดท้ายงานวิจัยชีวิตนิรันดร์จะตกอยู่ในมือของอีกฝ่าย
ไม่ว่าจะเป็นเทพอมตะกลุ่มดาวหรือเทพอมตะตะวันเดือดทั้งสองต่างยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว
อีกด้านหนึ่ง การต่อสู้ระหว่างตัวตนกึ่งระดับเก้ากับสมาชิกวังสวรรค์ยังดําเนินต่อไป“ราชันตงไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการหยุดข้างั้นหรือ?” ปีศาจอมตะฉีเจียเผยรอยยิ้มขณะชี้นิ้วออกไป
“บึ้ม บึ้ม บึ้ม บึ้ม!”
ล่าแสงปราณระเบิดร่างของราชันตงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“หอกไร้สิ้นสุด!”เช่อเว่ยตะโกนและส่งหอกจํานวนนับไม่ถ้วนออกไป
ลั่วเว่ยหยินพุ่งผ่านป่าหอกและใช้มือยักษ์สีน้ำตาลคว้าร่างของเชื่อเว่ย
“ปราศจากค่ายกลของกระดานหมากรุกกลุ่มดาวแม้เจ้าจะมีพรสวรรค์สูงส่งเพียงใดเจ้าก็ไม่สามารถหยุดข้า!”ลั่วเว่ยหยินใช้มือยักษ์บีบร่างของเชอเว่ยจนกลายเป็นเนื้อบด
ผู้อมตะของวังสวรรค์ด้อยกว่าตัวตนกึ่งระดับเก้า
อย่างหนักจากตัวตนกึ่งระดับเก้า
ก่อนหน้านี้แม้พวกเขาจะอยู่ในค่ายกลของกระดานหมารกรุกกลุ่มดาว พวกเขาก็ยังถูกกดขี่
พวกเขาอาศัยสุสานอมตะเพื่อฟื้นคืนชีพและกลับเข้าสู่สนามรบอีกครั้ง กลยุทธ์นี้ทําให้พวกเขายังสามารถรักษาสถานการณ์
อย่างไรก็ตามตอนนี้ค่ายกลของกระดานหมากรุกกลุ่มดาวถูกทําลายไปแล้วดังนั้นพวกเขาจึงถูกสังหารอย่างรวดเร็ว
เทพอมตะกลุ่มดาวก่นเสียงเย็นเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้นางรีบเข้าไปสนับสนุนพวกเขาทันที
แต่เทพอมตะตะวันเดือดไม่ปล่อยให้นางทําสําเร็จเขาเร่งปิดกั้นเทพอมตะกลุ่มดาวเทพอมตะทั้งสองต่อสู้กันอีกครั้ง
เนื่องจากเทพอมตะทั้งสองมีพละกําลังที่เท่าเทียม ดังนั้นเทพอมตะตะวันเดือดจึงนําแท่นบูชาแห่งโชคออกมา
เขาตะโกน “ปิงชายฉวน ไป!”
ปิงชายฉวนน่าแท่นบูชาแห่งโชคพุ่งไปยังน้ำแข็งลอยก้อนสุดท้าย
เทพอมตะกลุ่มดาวก่นเสียงเย็นและเขย่าตะเกียงที่อยู่ในมือ
แท่นบูชาแห่งโชคหยุดเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันปิงชายฉวยยกมือขึ้นจับหน้าอกของตนเองก่อนจะคุกเข่าลงและเริ่มร้องไห้
เขาสะอื้นไห้และกล่าวโทษตนเองอย่างไม่รู้สิ้นสุด“มันเป็นความผิดของข้าทั้งหมด มันเป็นความผิดของข้า!ข้าผิดข้าขอโทษหากข้าแข็งแกร่งกว่านี้ข้าจะสามารถช่วยนายท่านเอาชนะวังสวรรค์และคว้างานวิจัยชีวิตนิรันดร์ข้ามีชีวิตอยู่เพียงสิ่งใด? ข้าทําให้นายท่านผิดหวังฮืม ฮืมข้า
สมควรตาย!”
หลังกล่าวจบคําปิงชายฉวนก็กระตุ้นใช้ท่าไม้ตายของเขาเพื่อฆ่าตัวตาย
เทพอมตะตะวันเดือดถอนหายใจเขาอดทนต่อการโจมตีของเทพอมตะกลุ่มดาวขณะเรียกวังสวรรค์แห่งโชคเข้ามา
แสงสีทองพุ่งเข้าสู่ร่างกายและจิตใจของปิงชายฉวน
ด้วยความช่วยเหลือนี้ปิงชายฉวนจึงรอดพ้นจากความตายและความรู้สึกผิด
ศีรษะของเขาปกคลุมไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบ เขารู้สึกหวาดกลัวมาก “หากไม่ใช่เพราะนายท่านข้าคงฆ่าตัวตายไปแล้ว!นี่คือวิธีการของเทพอมตะกลุ่มดาว!นายท่านอดทนต่อความรู้สึกที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาตลอดงั้นหรือ?”
ขณะที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาวเขาทรุดตัวลงด้วยร่างกายสั่นเทา
เขาอ้าปากและหอบหายใจอย่างหนักหน่วงแต่กลับรู้สึกหายใจไม่ออกเขากลัวตัวเองจะฆ่าตัวตาย!
เทพอมตะตะวันเดือดต้องช่วยชีวิตปิงชายฉวยอีกครั้ง
เทพอมตะกลุ่มดาวยิ้ม นางพบจุดอ่อนของเทพอมตะตะวันเดือด นั่นคือเทพอมตะตะวันเดือดไม่มีวิธีชุบชีวิตผู้ใต้บังคับบัญชา
เทพอมตะตะวันเดือดต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเทพอมตะกลุ่มดาวขณะที่ฝ่ายหลังส่ง
ฉินติงหลิงและคนอื่นๆออกมาจากมิติช่องว่างของนาง
ผู้อมตะเหล่านี้ถูกสังหารโดยกลุ่มของลั่วเว่ยหยินและฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากสุสานอมตะ
เมื่อคนกลุ่มนี้ออกมาจากมิติช่องว่างของเทพอมตะกลุ่มดาว พวกเขาก็บินไปยังน้ำแข็งลอยก่อนสุดท้ายทันที