Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2208 ชีวิตนิรันดร์ที่แท้จริง
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2208 ชีวิตนิรันดร์ที่แท้จริง
คนที่ตกใจที่สุดคือเทพอมตะกลุ่มดาว
นางแทรกซึมเข้ามาในถ้ําปีศาจคลั่งนานที่สุด หลังจากตรวจสอบมาแล้วนับ
ครั้งไม่ถ้วน นางไม่พบวิธีการฟื้นคืนชีพของเทพปีศาจไร้ขอบเขตในถ้ําปีศาจคลั่งแห่งนี้
ผลการตรวจสอบของเทพอมตะตะวันเดือดเป็นเช่นเดียวกันกับนาง
แต่ความจริงอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว เทพปีศาจไร้ขอบเขตสามารถฟื้นคืนชีพได้จริงๆ
“อย่าบอกว่าเมื่อน้ําแข็งลอยก้อนสุดท้ายถูกแกะสลักสําเร็จ เทพปีศาจไร้ ขอบเขตจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาพร้อมกับชีวิตนิรันดร์?” หัวใจของฟางหยวนสั่นไหว
ฟางหยวนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเทพปีศาจไร้ขอบเขตที่เหนือกว่าเทพอมตะอีกสองคน
เทพอมตะกลุ่มดาวและเทพอมตะตะวันเดือดรู้สึกถึงความแตกต่างนี้เช่นกัน
พวกเขารู้สึกราวกับกําลังเผชิญหน้าอยู่กับภูเขาสูงตระหง่านและมหาสมุทรอันกว้างใหญ่
“เทพปีศาจไร้ขอบเขตสามารถก้าวข้ามขีดจํากัดของผู้อมตะระดับเก้าและได้รับชีวิตนิรันดร์มาครองงั้นหรือ?” ดวงตาของเทพอมตะตะวันเดือดเรืองแสงสีทอง
“สภาพปัจจุบันของเขาแปลกมาก กลิ่นอายของเขาแข็งแกร่งจนแม้แต่ท่าน อาจารย์ยังไม่สามารถเปรียบเทียบ!” เทพอมตะกลุ่มดาวตกตะลึงและสงสัย
เทพอมตะตะวันเดือดและเทพอมตะกลุ่มดาวมองหน้ากันก่อนจะเปิดฉาก
โจมตีเทพปีศาจไร้ขอบเขตทันที
เทพปีศาจไร้ขอบเขตเผยรอยยิ้มบาง โซ่เหล็กพุ่งออกมาทําลายการโจมตี
ของสองเทพอย่างง่ายดาย
เทพอมตะทั้งสองตกตะลึงแต่พวกเขายังเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้พวกเขาปลดปล่อยท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อตอบโต้
เทพปีศาจไร้ขอบเขตป้องกันแต่ไม่โต้กลับ หลังจากสองสามรอบ เทพอมตะกลุ่มดาวและเทพอมตะตะวันเดือดก็ยังไม่สามารถแม้แต่สัมผัสเส้นผมของเทพปีศาจไร้ขอบเขต
ด้วยการโบกมือเบาๆของเทพปีศาจไร้ขอบเขต เทพอมตะกลุ่มดาวและเทพ อมตะตะวันเดือดถูกส่งลอยกลับหลังทันที
เทพอมตะสวรรค์พิภพและฟางหยวนไม่กล้าอ้อยอิ่ง พวกเขาหลบออกไปอย่างรวดเร็ว
ในรัศมีประมาณหนึ่งพันก้าวจากเทพปีศาจไร้ขอบเขต นอกจากผู้อมตะปู้และนักวางแผน ไม่มีผู้ใดอยู่อีก
ใบหน้าของเทพอมตะตะวันเดือดกลายเป็นไม่น่ามอง
ดวงตาของเทพอมตะกลุ่มดาวส่องประกายระยิบระยับ ดูเหมือนนางกําลัง
อนุมานอย่างเต็มที่
เทพปีศาจไร้ขอบเขตยิ้ม “ข้าไม่ต้องการเป็นศัตรูกับพวกเจ้า ข้าได้รับงานวิจัยชีวิตนิรันดร์มาแล้วแต่ข้ายังไม่ได้ทดสอบมัน”
“เจ้าจะทดสอบอย่างไร?” เทพอมตะตะวันเดือดถาม
“ดู” เทพปีศาจไร้ขอบเขตหันหลังกลับ
กลุ่มผู้อมตะเฝ้ามองอย่างใกล้ชิด
มีรูเล็กๆปรากฏขึ้นด้านหน้าเทพปีศาจไร้ขอบเขต
หากมองผ่านรูนี้ ทุกคนสามารถมองเห็นบางสิ่ง มันดูเหมือนมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ที่โกลาหล!
มันไม่ด่าไม่ขาว ไม่หนักไม่เบา หากบางคนบอกว่ามันเป็นความมืด มันก็เป็นความมืด
อาจกล่าวได้ว่าแทบไม่มีคําใดที่สามารถอธิบายสิ่งนี้ได้อย่างถูกต้อง
เพราะความโกลากลก็คือความโกลาหล
ความโกลาหลคือภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!
“เจ้าบ้าไปแล้วงั้นหรือ? เจ้าทําลายกําแพงมิติของขอบโลกอีกครั้ง เจ้าไม่กลัว ว่าโลกทั้งใบจะถูกทําลายงั้นหรือ?” เทพอมตะตะวันเดือดกรีดร้อง
เทพอมตะกลุ่มดาวกล่าวด้วยน้ําเสียงที่เคร่งขรึม “ไร้ขอบเขต ข้าเข้าใจความ ทะเยอทะยานของเจ้า แต่หากเจ้ายังทําเรื่องนี้ต่อไปและทําลายโลกใบนี้ แม้ต้อง สละชีวิต ข้าก็จะกําจัดเจ้า!”
“พวกเจ้าสงบจิตใจลงก่อน รูไม่ใหญ่ ข้าเพียงต้องการทดสอบผลลัพธ์ของ ชีวิตนิรันดร์ พวกเราเป็นเทพของโลกใบนี้ แต่เรายังถูกคุกคามด้วยความโกลาหลนี้”
“เทพทุกคนที่อยู่ที่นี่ ผู้ใดไม่เคยได้รับบาดเจ็บจากความโกลาหล? ผู้ใดไม่ ต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งนี้?”
“ถ้ําปีศาจคลั่งถูกสร้างขึ้นมานับล้านปีแล้ว นี่คือสิ่งชี้วัดที่ชัดเจนที่สุด มันจะ ทําให้เรารู้ว่างานวิจัยชีวิตนิรันดร์ประสบความสําเร็จหรือไม่?”
หลังกล่าวจบคํา เทพปีศาจไร้ขอบเขตก็ยื่นแขนเข้าไปในรู
เทพทั้งหมดและกลุ่มผู้อมตะกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัวขณะจ้องมองเทพปีศาจไร้ขอบเขต
เทพปีศาจไร้ขอบเขตไม่ได้ใช้ท่าไม้ตายใดๆ เขาใช้เพียงร่างกายของตนเพื่อทําการทดลองนี้
เขากล้าหาญและบ้าบิ่นมาก
กระทั่งเทพอมตะตะวันเดือดและเทพอมตะกลุ่มดาวก็ไม่เคยคิดที่จะทําการ
ทดลองเช่นนี้
แม้พวกเขาจะสามารถต่อต้านความโกลาหลได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่นั่นก็เป็น ผลมาจากการใช้กําลังอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องร่างกายของพวกเขาเอาไว้
หากพวกเขาทําตัวเหมือนเทพปีศาจไร้ขอบเขตโดยไม่มีมาตรการป้องกันใดๆเทพอมตะตะวันเดือดและเทพอมตะกลุ่มดาวจะถูกกําจัดอย่างสมบูรณ์หากพวกเขาสัมผัสความโกลาหล เว้นเพียงพวกเขาจะตัดบางส่วนของร่างกายทิ้งได้ทันเวลา
หลังจากไม่นานเทพปีศาจไร้ขอบเขตก็ดึงแขนกลับมา
แขนของเขาดําสนิทและดูเหมือนถ่านที่ถูกเผา
แต่เมื่อเขากําหมัด ถ่านสีดําบนพื้นผิวก็อันตรธานหายไปในอากาศและเผยให้ เห็นแขนของเขาอีกครั้ง
ปากของเทพอมตะตะวันเดือดอ้าค้างก่อนที่เขาจะอุทาน “นี่คือ….ชีวิตนิรันดร์ที่แท้จริง!?”
เทพอมตะกลุ่มดาวถอนหายใจ “ข้าเข้าใจแล้วว่าเหตุใดข้าจึงไม่สามารถ
อนุมานสิ่งนี้ มันกลายเป็นว่าเจ้าใช้ประโยชน์จากความโกลาหลมาตลอด คนบ้า!”
ย้อนกลับไป เทพปีศาจปล้นสวรรค์เกือบทําลายล้างโลกใบนี้ เหตุผลเป็น เพราะรูขนาดใหญ่ที่เขาสร้างขึ้น
แม้เทพปีศาจไร้ขอบเขตจะสร้างรูเล็กๆ แต่หากมันขนาดใหญ่ขึ้น โลกทั้งใบอาจถูกทําลายเช่นกัน
เทพอมตะกลุ่มดาวเรียกเทพปีศาจไร้ขอบเขตว่าคนบ้า นี่ไม่ใช่เรื่องผิด
ตลอดหนึ่งล้านปีที่ผ่านมา โลกใบนี้อาจถูกทําลายล้างลงเมื่อใดก็ได้ สาเหตุ มาจากรูที่เทพปีศาจไร้ขอบเขตสร้างขึ้น
เทพปีศาจไร้ขอบเขตมองแขนของตนและถอนหายใจเบาๆก่อนจะตอบกลับเทพอมตะกลุ่มดาว “ชีวิตก่อนหน้านี้ข้ามาสุดทางแล้ว แม้ข้าจะถามเต๋าสวรรค์ มัน ก็ไม่มีคําตอบของชีวิตนิรันดร์ ข้าถูกวิญญาณชะตากรรมควบคุมอย่างน่าสมเพชหลังจากทํางานหนักมตลอด ข้าจึงสามารถสร้างถ้ําปีศาจคลั่งและวางแผนการอันยาวนานนี้ ข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้วิธีนี้”
“แต่ข้ายังระวังเสมอ นี่เป็นเหตุผลที่ข้าเข้าหาวังสวรรค์”
“หากมีพวกเจ้าอยู่ ตราบเท่าที่เกิดเหตุร้ายขึ้นในถ้ําปีศาจคลั่ง พวกเจ้าจะ
พยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ปัญหา”
เป็นเพียงเวลานี้ที่เทพอมตะกลุ่มดาวตระหนักว่าเหตุผลที่เทพปีศาจไร้
ขอบเขตเดิมพันกับนางในเกมส์หมากรุกไม่เพียงเพราะเขาต้องการงานวิจัยบนเส้นทางสวรรค์แต่ความตั้งใจที่แท้จริงของเขาคือการใช้วังสวรรค์เป็นหลักประกัน
หากถ้ําปีศาจคลั่งเกิดปัญหา วังสวรรค์ต้องเก็บกวาดสิ่งที่เทพปีศาจไร้
ขอบเขตท่าไว้
แต่ในมุมมองของวังสวรรค์ พวกเขาเต็มใจทําสิ่งนี้จริงๆ
“แต่…” เทพปีศาจไร้ขอบเขตกล่าวเสริม “นี่ยังไม่ใช่ชีวิตนิรันดร์ที่แท้จริง เจ้าไม่คิดเช่นนั้นหรือสวรรค์พิภพ?”
เทพอมตะสวรรค์พิภพพยักหน้าแต่ไม่พูด
ฟางหยวนตระหนักถึงบางสิ่ง ชีวิตนิรันดร์ไม่ใช่สิ่งที่ความโกลาหลจะสามารถทําลายได้ เห็นได้ชัดว่าเทพปีศาจไร้ขอบเขตยังไม่บรรลุสิ่งนี้
“อีกนิดเดียว ข้ายังขาดอยู่อีกนิด” เทพปีศาจไร้ขอบเขตส่ายศีรษะและถอนหายใจ
เขาหันหน้าไปทางปีศาจอมตะฉีเจีย “ฉีเจีย เจ้าช่วยข้าได้หรือไม่?”
ปีศาจอมตะฉีเจียก่นเสียงเย็น “เหตุใดข้าต้องช่วยเจ้า?” เทพปีศาจไร้ขอบเขตถือวิญญาญการฝึกฝนไว้ในมือและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“วิญญาณดวงนี้เตรียมไว้สําหรับเจ้า ฉีเจีย ข้ารอเจ้ามานานกว่าล้านปีแล้ว”
ปีศาจอมตะฉีเจียหัวเราะ “ดังนั้นการฟื้นคืนชีพของข้าก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการของเจ้า ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างน่าขันนัก ช่างน่าผิดหวังจริงๆ”
เขาไม่ได้เย้ยหยันเทพปีศาจไร้ขอบเขตแต่กําลังหัวเราะเยาะตัวเอง
เขารู้สึกขุ่นเคืองและไม่เคยยอมจํานนต่อเทพปีศาจไร้ขอบเขต หลังจากฟื้น
คืนชีพ เขายังต้องการแก้แค้น
แต่เวลานี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่ามีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเขากับเทพปีศาจไร้ขอบเขต
เทพปีศาจไร้ขอบเขตเงียบขณะเฝ้ามองปีศาจอมตะฉีเจียหัวเราะ หลังจากนั้นเขาก็โยนวิญญาณการฝึกฝนให้กับฝ่ายหลัง
ปีศาจอมตะฉีเจียแสดงออกด้วยความรู้สึกซับซ้อน
เขานึกถึงฉากเหตุการณ์ในความทรงจํา
“ไร้ขอบเขต เจ้าต้องการเป็นเทพอมตะงั้นหรือ? ถามข้าดูก่อน! หากข้ายังอยู่ อย่าฝันว่าเจ้าจะได้เป็นเทพ!” ปีศาจอมตะฉีเจียประสบความสําเร็จในการลอบ โจมตีเทพปีศาจไร้ขอบเขต
เพราะเขารู้ว่าหากเทพปีศาจไร้ขอบเขตบรรลุระดับเก้า เขาจะไม่มีโอกาสชนะอีกต่อไป
การต่อสู้ครั้งนี้กินเวลาเก้าวันเก้าคืน
ปีศาจอมตะฉีเจียเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ดวงตาของเขาเป็นสีเลือดขณะที่เขากล่าว “เจ้ากลายเป็นเทพไปแล้ว เหตุใดเจ้าถึงผนึกระดับการบ่มเพาะของตนเองเอาไว้?”
เทพปีศาจไร้ขอบเขตต้องดิ้นรนหลบหนีจากความตายหลายครั้งระหว่างการต่อสู้อันดุเดือด
เขาเผยรอยยิ้มบาง “เพราะเจ้าคือผู้พิทักษ์เต๋าของข้า ความจริงปรากฏแล้ว
ข้าเดาไม่ผิด ข้าเข้าใจความลับที่อยู่เบื้องหลังผู้พิทักษ์เต๋าแล้ว”
ปีศาจอมตะฉีเจียเบิกตากว้าง “เพื่อพิสูจน์การคาดเดา เจ้าไม่สนใจชีวิตของ ตนเอง แม้เจ้าจะกลายเป็นเทพไปแล้ว แม้เจ้าจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกใบนี้ไปแล้วงั้นหรือ?”
เทพปีศาจไร้ขอบเขตตอบ “แม้ข้าจะกลายเป็นเทพ แต่นี่เป็นเพียงอีกระดับ หนึ่งของการบ่มเพาะเท่านั้น หากเปรียบเทียบกับสิ่งนี้ ข้าต้องการไล่ล่าเต๋าที่ยิ่งใหญ่มากกว่า”
“ไร้ขอบเขต ล้านปีผ่านไปแต่เจ้าก็ยังไม่เปลี่ยน เจ้ายังเป็นไร้ขอบเขตที่ข้า
รู้จัก!” ปีศาจอมตะฉีเจียตะโกน
เทพปีศาจไร้ขอบเขตยิ้ม “เจ้าก็ยังเป็นฉีเจียคนเดิมมิใช่หรือ?”
ปีศาจอมตะฉีเจียกัดฟันแน่น เขาถือวิญญาณการฝึกฝนไว้ในมือและบินเข้าไป หาเทพปีศาจไร้ขอบเขต “เจ้าพูดถูก ข้ายังเป็นข้า เช่นนั้นก็มาทํามัน!”
ดวงตาของเทพปีศาจไร้ขอบเขตส่องประกายขึ้น “ดี เจ้าคือผู้พิทักษ์เต๋าของ ข้า โชคชะตาของเราเชื่อมโยงถึงกัน ตามการอนุมานของข้า ด้วยความช่วยเหลือ จากผู้พิทักษ์เต๋า เทพจะสามารถทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแห่งชีวิตนิรันดร์!”
ปีศาจอมตะฉีเจียกัดฟันแน่น “เช่นนั้นก็ให้ข้าดูว่าชีวิตนิรันดร์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร?”
หลังกล่าวจบค่า เขาก็กระตุ้นใช้วิญญาณการฝึกฝน
แสงจากวิญญาณการฝึกฝนพุ่งเข้าปกคลุมร่างกายของเทพปีศาจไร้ขอบเขต
ร่างกายของเทพปีศาจไร้ขอบเขตขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว ในทางตรงข้าม กลิ่น อายของปีศาจอมตะฉีเจียกลับอ่อนแอลงเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดหนึ่งเขาก็ต้องหยุดใช้วิญญาณการฝึกฝน
สําหรับกลิ่นอายของเทพปีศาจไร้ขอบเขต มันถูกปกปิดไว้อย่างสมบูรณ์
แต่ทุกคนสามารถบอกได้ว่าเทพปีศาจไร้ขอบเขตในปัจจุบันทรงพลังจนไม่มีผู้ใดสามารถหยั่งถึง
เทพอมตะตะวันเดือด เทพอมตะกลุ่มดาว เทพอมตะสวรรค์พิภพ และคนอื่นๆ ไม่มีผู้ใดเคลื่อนไหว พวกเขาเพียงเฝ้ามองอยู่อย่างเงียบๆเท่านั้น
ในความเป็นจริงแม้พวกเขาจะต้องการหยุดแต่พวกเขาก็ไม่สามารถทําสิ่งใด
เทพปีศาจไร้ขอบเขตสูดหายใจลึกก่อนจะยื่นแขนเข้าไปในรูของขอบโลกอีกครั้ง
ครู่ต่อมาเขาก็ดึงแขนกลับมา มันไม่ได้รับความเสียหายใดๆทั้งสิ้น!