Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2211 ฟางหยวนกลายเป็นเทพ
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2211 ฟางหยวนกลายเป็นเทพ
ท่าไม้ตายของฟางหยวนพุ่งออกไปมันบังคับให้เทพอมตะตะวันเดือดและเทพอมตะกลุ่มดาวต้องล่าถอย
“เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“ฟางหยวนกลายเป็นเทพตั้งแต่เมื่อใด!?”
ลั่วเว่ยหยินและเฉินซานเฝ้ามองฟางหยวนต่อสู้กับเทพอมตะทั้งสองพวกเขามีอารมณ์ที่ซับซ้อนและเร่งถามบรรพชนทะเลปราณ
บรรพชนทะเลปราณเผยรอยยิ้มขมขื่น“ข้าไม่รู้เรื่องนี้เช่นกัน”
ลั่วเว่ยหยินและเฉินซานรู้สึกพูดไม่ออกฟางหยวนซ่อนสิ่งนี้แม้แต่ร่างแยกของเขาเองเทพอมตะตะวันเดือดและเทพอมตะกลุ่มดาวยังนิ่งเงียบเพราะทั้งคู่พบว่าความแข็งแกร่งของฟางหยวนเหนือกว่าพวกเขา!
ก่อนหน้านี้ฟางหยวนยังเป็นตัวตนกึ่งระดับเก้าเหตุใดเขาถึงกลายเป็นผู้อมตะระดับเก้าอย่างกะทันหัน?
เทพอมตะทั้งสองรู้สึกสับสนและสงสัย
“แปลก แปลกมาก!” เทพอมตะตะวันเดือดโจมตีอย่างรุนแรงด้วยสายฝนสีทอง
ฟางหยวนตอบโต้ด้วยวิธีการที่เตรียมไว้และสามารถจัดการสายฝนสีทองทั้งหมด“ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของฟางหยวนเหนือกว่าเทพอมตะตะวันเดือด!”เมื่อเห็นสิ่งนี้ลั่วเว่ยหยินและคนอื่นๆรู้สึกหัวใจเต้นแรง
เทพอมตะตะวันเดือดสูดหายใจลึก เขาเบิกตากว้างและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายต่อไป
ในเวลาต่อมาวิสัยทัศน์ของเขาก็เปลี่ยนไปเขาตรวจสอบโชคที่อยู่เหนือศีรษะของฟางหยวนแรกเริ่มโชคของฟางหยวนถูกซ่อนไว้อย่างสมบูรณ์เทพอมตะตะวันเดือดสามารถมองเห็นเพียงหม้อปรุงโชคเท่านั้น
แต่หลังจากไม่นานเทพอมตะตะวันเดือดก็เพิ่มพลังการตรวจสอบกระทั่งเขาสามารถมองผ่านการป้องกันของหม้อปรุงโชคและเห็นโชคของฟางหยวน
เขาเห็นเสาแสงสีเงินขนาดใหญ่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าฐานของเสาแสงสีเงินมีสุสานสีน้ําตาลที่เหลืออยู่เพียงส่วนเล็กๆ
เทพอมตะตะวันเดือดครุ่นคิดและถอนหายใจกับตนเอง‘นี่คือโชคของเทพอมตะสวรรค์พิภพด้านหนึ่งมันสามารถรักษารากฐานของเสาแสงสีเงินให้มั่นคงในทางกลับกัน มันเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟางหยวนแต่ตอนนี้เขาฆ่าเทพอมตะสวรรค์พิภพไปแล้ว ภัยคุกคามนี้จึงถูกลบออกไปส่วนที่เหลือเป็นรากฐานของเทพอมตะสวรรค์พิภพที่ฟางหยวนยังไม่ได้กลืนกิน’
เทพอมตะตะวันเดือดเงยหน้ามองขึ้นไปบนยอดเสาแสง
ตอนนี้เสาแสงสีเงินของฟางหยวนไม่ได้ถูกปิดกั้นด้วยเมฆสามก้อนอีกต่อไป
มันยิงทะลุเมฆทั้งสามก้อนขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับกําลังแบกรับโลกทั้งใบเอาไว้
เมฆทั้งสามสามารถเคลื่อนที่อยู่รอบๆเสาเงินเท่านั้น
นี่หมายความว่าเทพทั้งสามไม่สามารถกดขี่ฟางหยวนได้อีกต่อไป
ท่ามกลางเมฆทั้งสามเมฆของเทพอมตะตะวันเดือดอยู่ด้านบนสุด เมฆของเทพอมตะกลุ่มดาวและเทพปีศาจจิตวิญญาณอยู่ต่ำลงมาและดูเหมือนพวกมันมีแนวโน้มที่จะแยกออกจากกัน
หัวใจของเทพอมตะตะวันเดือดสั่นไหว“สิ่งนี้บอกใบ้ว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณจะหลุดพ้นจากการควบคุมของเทพอมตะกลุ่มดาวในไม่ช้า!
เทพอมตะตะวันเดือดไม่แปลกใจกับเรื่องนี้
เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นตัวตนระดับเดียวกับเทพอมตะกลุ่มดาว มันเป็นความสําเร็จที่น่าตกใจมากแล้วที่นางสามารถควบคุมเขา แต่มันจะไม่เป็นเช่นนี้ตลอดไป
‘หากเทพปีศาจจิตวิญญาณสามารถหลบหนีจากการควบคุมของเทพอมตะกลุ่มดาวสิ่งใดจะเกิดขึ้น?’
แต่ไม่ว่าอย่างไรหากพิจารณาในแง่ของโชคเพียงอย่างเดียวฟางหยวนก็น่าจะกลายเป็นเทพแล้วจริงๆ’
เทพอมตะตะวันเดือดเชื่อในวิธีการบนเส้นทางแห่งโชคของตน
เขามองฟางหยวนด้วยความโกรธ
ฟางหยวนกลายเป็นเทพอย่างกะทันหันได้อย่างไร?
เมื่อพิจารณาจากทัศนคติของเขาแล้วดูเหมือนเขาจะไม่แยแสต่อการบ่มเพาะระดับเก้าเขาคิดว่าสถานะของเทพคือสิ่งใด?
หากผู้อมตะระดับเก้าสามารถปรากฏตัวขึ้นอย่างง่ายดายสถานะของเทพอมตะตะวันเดือดจะมีความหมายใด?
เทพทั้งหมดในอดีตจะมีคุณค่าใด?
เทพอมตะกลุ่มดาวคิดอย่างรวดเร็ว‘ฟางหยวนกลายเป็นผู้อมตะระดับเก้าไปแล้วจริงๆข้าประเมินความฉลาดและไหวพริบของเขาต่ำเกินไปเขากลายเป็นเทพตั้งแต่เมื่อใด?การบ่มเพาะ ของเขาบรรลุระดับเก้าตั้งแต่เริ่มต้นหรือไม่?สัญญาณทั้งหมดไม่ได้บ่งชี้ไปที่ความเป็นไปได้นั้น
เขาลอบก้าวเข้าสู่ระดับเก้าอย่างลับๆระหว่างการต่อสู่ในถ้ำปีศาจคลั่ง! แต่…เห็นได้ชัดว่าเขาขาดระดับความสําเร็จ
ในแดนแรกกําาเนิดเทพอมตะกลุ่มดาวและเทพอมตะตะวันเดือดร่วมมือกันทําลายพื้นที่ส่วนที่เก็บความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเอาไว้
“เดี๋ยว!” เทพอมตะตะวันเดือดถามฟางหยวน“มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์เกี่ยวกับเส้นทางแห่งการหลอมรวมใช่หรือไม่? ดังนั้นความสําเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของเจ้าก็บรรลุระดับปรมาจารย์สูงสุดมานานแล้ว!”
ฟางหยวนยิ้มและโจมตีรุนแรงขึ้น
เทพอมตะตะวันเดือดถูกส่งลอยกลับหลังอย่างต่อเนื่อง
เทพอมตะกลุ่มดาวยิงแสงดาวจํานวนนับไม่ถ้วนออกมาโจมตีแผ่นหลังของฟางหยวนฟางหยวนเสียการทรงตัวและล้มไปข้างหน้า
แต่เขาก็ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วนอกจากนั้นแสงดาวที่ปะทะแผ่นหลังของเขายังถูกปรับแต่งและกลายเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของเขาเอง!
นี่คือพลังอ่านาจของเทพบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม!
หัวใจของเทพอมตะกลุ่มดาวเต้นแรง
เป็นเรื่องเลวร้ายสําหรับนางที่ฟางหยวนมีวิธีการดังกล่าวระบบการต่อสู้ของเทพอมตะกลุ่มดาวไม่โดดเด่นด้านการโจมตีนางอาศัยการโจมตีต่อเนื่องของแสงดาวเป็นหลักและกุญแจของการโจมตีต่อเนื่องนี้ก็คือร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดวงดาวที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง
ด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดวงดาวที่ถูกทิ้งไว้จะทําให้ความเสียหายของศัตรูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แต่ฟางหยวนสามารถปรับแต่งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดวงดาวให้เป็นของตนเองดังนั้นท่าไม้ตายนี้จึงถูกทําลายอย่างง่ายดาย
หากเทพอมตะกลุ่มดาวยังใช้ท่าไม้ตายนี้ต่อไปนางจะไม่สามารถทําร้ายฟางหยวนและยังเป็นการมอบผลประโยชน์ให้เขาอีกด้วย
ฟางหยวนท่าลายท่าไม้ตายของฝ่ายตรงข้ามและเปิดฉากโจมตีทันที
เทพอมตะกลุ่มดาวถูกบังคับให้ล่าถอยออกไป
เขาคุ้นเคยกับท่าไม้ตายนี้มากนี่แสดงว่าเขาเตรียมพร้อมมาแล้วแต่เขาเก็บมันไว้และรอจนถึงช่วงเวลาสุดท้ายของการต่อสู้ในถ้ำปีศาจคลั่งเมื่อเขากลายเป็นผู้อมตะระดับเก้าเขาจึงใช้ไพ่ใบนี้
ออกมา!’
เป็นเพียงเวลานี้ที่เทพอมตะกลุ่มดาวเข้าใจระดับความฉลาดแกมโกงที่แท้จริงของฟางหยวน
วิธีการโต้ตอบถูกเตรียมไว้นานแล้ว มิฉะนั้นฟางหยวนจะไม่สามารถตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากกลายเป็นผู้อมตะระดับเก้า หากเขาใช้มันก่อนหน้านี้ ผลลัพธ์อาจดีเช่นกันแต่เขาปฏิเสธ ที่จะใช้มันและทําให้เทพอมตะกลุ่มดาวคิดว่าเขาไม่สามารถตอบโต้วิธีการของนาง
เมื่อการต่อสู้ครั้งสุดท้ายมาถึง เขาจึงใช้มันกําหราบเทพอมตะกลุ่มดาวโดยไม่เปิดโอกาสให้
นางมีเวลาตั้งตัว
เทพอมตะกลุ่มดาวตระหนักถึงบางสิ่ง “ฟางหยวน ท่าได้ดีมาก เจ้าตั้งใจยอมแพ้ในแดนแรก กําเนิดและปล่อยให้ข้ากับตะวันเดือดทําลายมัน เจ้าแสร้งทําตัวอ่อนแอเพื่อให้เราดูแคลนและให้
ความสนใจเจ้าน้อยลง!”
เมื่อถ้อยคําเหล่านี้ถูกกล่าวออกมา เทพอมตะตะวันเดือดก็ตระหนักได้ทันที นี่ทําให้เขาโกรธ
ฟางหยวนมากขึ้นไปอีก
ฟางหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “กลุ่มดาว เจ้าประเมินข้าสูงเกินไปแล้ว”
เทพอมตะกลุ่มดาวเผยรอยยิ้มเย็นชา “ฟางหยวน อย่าคิดจะหลอกพวกเราอีก ไม่ว่ามรดกที่แท้ จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์จะเกี่ยวกับเส้นทางแห่งการหลอมรวมหรือไม่ ก่อนที่เจ้าจะเข้าสู่ แดนแรกกําเนิด เจ้าก็เข้าใกล้ระดับปรมาจารย์สูงสุดมากแล้ว หลังจากเข้าสู่แดนแรกกําเนิด เจ้า
ตระหนักว่าแม้เจ้าจะไม่ได้รับความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของแดนแรก กําเนิด เจ้าก็ยังสามารถเป็นปรมาจารย์สูงสุดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมได้ด้วยตนเอง” “ดังนั้นเจ้าจึงปล่อยให้ข้าและตะวันเดือดทาลายโอกาสที่เจ้าจะกลายเป็นเทพ”
“มีประโยชน์มากมายในเรื่องนี้”
“ประการแรก การเป็นเทพหมายถึงการทําลายแนวป้องกันของเต่าสวรรค์ เจ้าต้องก้าวข้าภัย พิบัติ เจ้าต้องหาจังหวะที่เหมาะสมในการทําเช่นนั้น เมื่อเจ้ากลายเป็นปรมาจารย์สูงสุดอย่างเปิด
เผย เราจะระวังเจ้า”
“ประการที่สอง แม้เจ้าจะกลายเป็นเทพอย่างรวดเร็ว ก่อนที่สามโลกจะรวมกัน งานวิจัยชีวิตนิ รันดร์ก็ยังอยู่ห่างไกล ทุกคนต้องรอ นอกจากนี้ด้วยการจัดเตรียมของเทพปีศาจไร้ขอบเขต แม้เจ้า จะกลายเป็นเทพแต่เจ้าก็ไม่สามารถใช้กําลังทั้งหมดของเจ้า”
“ประการที่สาม หากเจ้าไม่ใช่เทพ เราจะเพิกเฉยต่อเจ้าโดยไม่รู้ตัว ในความคิดของเรา แม้เทพ อมตะสวรรค์พิภพจะเป็นตัวตนกึ่งระดับเก้า แต่เขายังถือเป็นภัยคุกคามมากกว่าเจ้า”
“ประการสุดท้าย ทุกคนต่างหยุดยั้งตนเองระหว่างการต่อสู้ในถ้ำปีศาจคลั่งไม่มีการเปิดเผยไพ่ตายมากนักตัวอย่างเช่นเจ้าไม่รู้ว่าข้าแทรกซึมเข้ามาในค่ายกลของถ้ำปีศาจคลั่งได้มากเพียงใด
ดังนั้นเจ้าจึงปกปิดวิธีการของเจ้าและรอให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น หลังจากที่เราเปิดไพ่ทั้งหมดเจ้าจึงจะก้าวออกมาเพื่อคว้าชัยชนะไปครอง!”
เทพอมตะกลุ่มดาวเปิดเผยแผนการของฟางหยวนขณะที่ป้องกันการโจมตีของเขาไม่ว่าจะเป็นเทพอมตะกลุ่มดาวหรือเทพอมตะตะวันเดือดไม่มีฝ่ายใดต้องการเห็นเทพคนที่
สามเข้ามาเป็นคู่แข่งของพวกเขา
เทพอมตะสวรรค์พิภพเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด
เทพอมตะกลุ่มดาวและเทพอมตะตะวันเดือดร่วมมือกันและพยายามกําจัดเขาออกไปเมื่อได้ยินค่าอธิบายของเทพอมตะกลุ่มดาว เทพอมตะตะวันเดือดจึงเข้าใจทุกสิ่ง
เขาคารามและยิงล่าแสงสีทองขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาฟางหยวนด้วยความโกรธ
ในเวลาเดียวกัน เทพอมตะกลุ่มดาวก็โจมตีฟางหยวนจากอีกทิศทางหนึ่ง