Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2213 ชูตู้ปะทะไห่ลั่วหลัน
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2213 ชูตู้ปะทะไห่ลั่วหลัน
ทุ่งหญ้านิรนามที่แห้งแล้งและรกร้าง
ท้องฟ้าเป็นสีเทาและมองไม่เห็นแสงแดด
ลมเย็นพัดเข้ามาปะทะใบหน้าของกลุ่มผู้อมตะ
ที่นี่มีผู้อมตะมารวมตัวกันมากกว่าสิบคน
ความสนใจของทุกคนอยู่ที่คนสองคน
ชายในชุดคลุมหนังสีน้ำตาลเข็ดขัดหนังสีแดงและรองเท้าหนังสีดํามีใบหน้าธรรมดาแต่ไม่มีผู้ใดสามารถเพิกเฉยต่อเขาเพราะเขาคือจักรพรรดิอมตะชูตู่!
ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้อมตะหญิงที่สามหน้ากากครึ่งหน้าดวงตาของนางสดใสคิ้วแหลมคมและปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมา
นางคือเทพธิดาจันทร์ทมิฬผู้อมตะที่ท้าทายผู้คนมากมายและไม่เคยพ่ายแพ้ตั้งแต่นางปรากฏตัวขึ้น
สําหรับตัวตนที่แท้จริงในฐานะไห่ลั่วหลันมีผู้อมตะเพียงไม่กี่คนที่รู้
ไม่นานมานี้ไห่ลั่วหลันเอาชนะหนึ่งในสมาชิกที่โดดเด่นที่สุดของเผ่าหลิวหลังจากนั้นนางก็ท้าทายชูมาก
ชูตู่ตอบตกลงโดยไม่ลังเล
เมื่อข่าวการประลองแพร่กระจายออกไปผู้อมตะภาคเหนือให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่าง
ตอนนี้ถึงเวลาสําหรับการต่อสู้ของคนทั้งสองแล้ว
“ชูตู่ ในที่สุดเจ้าก็มา”เจตจํานงแห่งการต่อสู้ในดวงตาของไห่ลั่วหลันลุกโชนขึ้น“การต่อสู้บนเส้นทางความแข็งแกร่งข้าตั้งตารอสิ่งนี้อยู่”ชูตู่ตอบอย่างมีความสุข“ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ข้าก็จะเชิญเจ้ามาที่เผ่าชูของข้าในฐานะแขกเราสามารถแลกเปลี่ยน
ประสบการณ์ในการบ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง”
ไห่ลั่วหลันก่นเสียงเย็น“ชูตู้ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามานานแล้วแต่หากเจ้าต้องการแลกเปลี่ยนประสบการณ์มันต้องดูว่าเจ้ามีคุณสมบัติหรือไม่?”
ชูตู่ยิ้ม “เชิญลงมือ”
ไห่ลั่วหลันทะยานร่างขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างไม่ลังเล
ภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งจํานวนมากพุ่งลงมาจากก้อนเมฆและตรงเข้าหาชูตู่ราวกับอุกกาบาต
ชูตู้เงยศีรษะขึ้นและล่าถอยออกไปทันที
หลังจากสร้างระยะห่างออกมา เขาผลักฝ่ามือทั้งสองข้างออกไป
“บึม!”
พลังมหาศาลระเบิดทําลายภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งของไห่ลั่วหลันราวกับฟองสบู่ชูตู่ผลักฝ่ามือออกไปอีกครั้งเพื่อขจัดเมฆสีดําและเผยให้เห็นท้องฟ้าที่สดใส
ไห่ลั่วหลันที่ซ่อนตัวอยู่ถูกเปิดเผยเช่นกัน
แต่ท่าไม้ตายของไห่ลั่วหลันพร้อมใช้งานแล้วนางยกหมัดขึ้นเหนือศีรษะก่อนจะกระแทกลงไปยังทิศทางของชู
อากาศถูกบีบอัด เงาหมัดขนาดใหญ่มาถึงด้านหน้าของชูตู้อย่างรวดเร็ว
ชูตู่ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตี
“ปัง!”
เขาถูกบังคับให้ล่าถอยออกไปหนึ่งร้อยก้าวแต่เขาไม่ได้รับอันตรายใดๆทั้งสิ้นไห่ลั่วหลันไม่แปลกใจนางยังโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง
ชูตู้ปิดกั้นการโจมตีของนางซ้ำแล้วซ้ำอีกและตอบโต้เป็นครั้งคราว
ทั้งสองต่อสู้และใช้การโจมตีระยะไกล
“ช่างน่าตื่นเต้นนักผู้ใดจะคิดว่าผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งจะมีวิธีโจมตีระยะไกลที่โดดเด่นมากมายเช่นนี้”
“ปัจจุบันดูเหมือนเทพธิดาจันทร์ทมิฬและชูตู่จะมีความสามารถที่เท่าเทียม”
“อืม ยังเร็วเกินไปที่จะสรุป”เชาเหลาอู๋กล่าวเสียงเย็น“ผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ระยะประชิดตอนนี้พวกเขาใช้เพียงการโจมตีระยะไกลเพื่อตรวจสอบซึ่งกันและกันเท่านั้น”
ชูตู้มั่งคงราวกับภูเขาขณะที่ไห่ลั่วหลันแสดงวิธีการโจมตีระยะไกลที่โดดเด่นมากมายออกมาหลังจากต่อสู้มากกว่าสิบรอบทั้งสองก็พุ่งเข้าปะทะกันตรงกลาง
“ตอนนี้พวกเขากําลังจะต่อสู้กันอย่างจริงจัง!”
“นี่คือการประลองบนเส้นทางความแข็งแกร่งที่หาได้ยาก!”
“ผู้ใดที่ได้รับชัยชนะจะเป็นตัวตนอันดับหนึ่งบนเส้นทางความแข็งแกร่งของภาคเหนือ”
ในห้าภูมิภาคผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งมีน้อยมาก
หลังจากทั้งหมดเส้นทางความแข็งแกร่งเสื่อมถอยมานานแล้ว
ก่อนที่ไห่ลั่วหลันจะปรากฏตัวชูตู่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชนว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญแนวหน้าบนเส้นทางความแข็งแกร่งของห้าภูมิภาคเขามีชื่อเสียงค่อนข้างมาก การปรากฏตัวของไห่ลั่ว
หลันทําให้ผู้คนตกใจและคิดว่าอาจมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับเส้นทางความแข็งแกร่ง
ภายใต้การจ้องมองของทุกคนทั้งสองยังชกต่อยกันอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นชูตู้หรือไห่ลั่วหลันทั้งสองไม่มีเจตนาล่าถอย พวกเขาต่อสู้กันด้วยความแข็งแกร่งที่แท้จริง
การต่อสู้ระหว่างผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งอาจกล่าวได้ว่าเรียบง่าย มันไม่หรูหรา
เหมือนเส้นทางสายอื่นแต่หัวใจของผู้อมตะทั้งหมดกลับค่อยๆสั่นไหวมากขึ้นเรื่อยๆ“แม้เส้นทางความแข็งแกร่งจะตกต่ำลงแต่ผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งก็ไม่ควรถูกมองข้าม”
“หากข้าต้องต่อสู้กับชูตู้หรือเทพธิดาจันทร์ทมิฬผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”
การโจมตีแต่ละครั้งของชูตู่หรือไห่ลั่วหลันทําให้เกิดเสียงดังและอากาศบิดเบี้ยว
ข้อได้เปรียบของผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งคือความถี่ในการโจมตี
ไห่ลั่วหลันและชูตู้ต่อสู้กันด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ใกล้!”
“ในอนาคต หากข้าพบผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง ข้าต้องไม่ปล่อยให้พวกเขาเข้า
“หมัดและเท้าของพวกเขาถูกปล่อยออกมาบ่อยเกินไป มันไม่เปิดโอกาสให้เราเตรียมท่า
ไม้ตาย หากไม่ใช้ท่าไม้ตาย ผู้ใดจะสามารถป้องกันการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้”
สิบกว่ารอบผ่านไปอีกครั้ง
ชูตู้ค่อยๆได้เปรียบ
แม้ไห่ลั่วหลันจะแข็งแกร่งและมีวิธีการมากมาย แต่ประสบการณ์ของนางยังด้อยกว่าฝ่ายตรงข้าม
เวลาในการฝึกฝนของนางน้อยกว่าชูตู้มาก
ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนาน ชูตู้สามารถชิงความได้เปรียบจากไห่ลั่วหลัน
ใบหน้าของเฉินเฉิง หยินอู๋ชิว และคนอื่นๆเริ่มเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด
‘นี่ไม่ดีแล้ว ข้าต้องเสี่ยง!’สายตาของไห่ลั่วหลันกลายเป็นแหลมคม
หากนางไม่เปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้นางจะแพ้อย่างแน่นอน
ไห่ลั่วหลันตะโกนเสียงดังและโจมตีชูตู้ด้วยความเร็วสูง
แต่ชูตู้เหมือนแนวปะการังที่ไม่สั่นไหวแม้คลื่นจะรุนแรงสักเพียงใด
ไห่ลั่วหลันไม่แปลกใจขณะที่ชูตู้ป้องกันตัวนางรีบล่าถอยออกมาและเตรียมท่าไม้ตายชูตู่ยิ้มขณะพุ่งเข้าหานาง
“ไม่!” เฉินเฉิงอุทานด้วยความตกใจ
ทุกคนตระหนักว่าชูตู่รอโอกาสนี้มานานแล้ว
ชูตู้ระเบิดความเร็วพุ่งเข้าหาไห่ลั่วหลัน
ไห่ลั่วหลันไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหยุดท่าไม้ตายของนาง นางต่อสู้กับชูตู้ด้วยหมัดและเท้าอีกครั้ง
แต่ด้วยเหตุนี้ นางจึงได้รับผลกระทบย้อนกลับจากการหยุดใช้ท่าไม้ตายกลางคันไห่ลั่วหลันถูกบังคับให้ปกป้องตนเอง
ชูตู้กลายเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างสมบูรณ์
เสียงโห่ร้องให้กําลังใจดังขึ้น
เสียงเหล่านี้มาจากสมาชิกเผ่าชู
“อืม อย่าดีใจเร็วนัก!”
“เทพธิดาจันทร์ทมิฬยังไม่ได้ใช้ไพ่ตายของนาง!”
ผู้สนับสนุนของไห่ลั่วหลันแสดงออกด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
ท่าไม้ตายอมตะพยัคฆ์ปีกทมิฬ!
พยัคฆ์สีทองด่าสะบัดปีกบินเข้าไปหาชู
ชูตู้ปิดกั้นพยัคฆ์ปีกทมิฬแต่เขายังถูกส่งลอยกลับหลังราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่
“นี่คือไพ่ตายของเทพธิดาจันทร์ทมิฬ พยัคฆ์ปีกทมิฬ!” บางคนตะโกนด้วยความตื่นเต้นเชาเหลาอู๋กล่าวเสียงเย็น “ท่าไม้ตายรอยสักสะดวกเกินไปมันอยู่บนผิวหนังผู้ใช้งานสามารถปลดปล่อยมันออกมาได้ด้วยหนึ่งความคิด”
“เป็นเช่นนั้นจริงๆ” ห่าวเจิ้นกัดฟันแน่น“หากไม่ใช่เพราะสิ่งนี้ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเราคงได้รับชัยชนะไปแล้ว”