Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2214 เจ้าชนะ

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2214 เจ้าชนะ

พยัคฆ์ปีกทมิฬมีความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ มันยากที่จะจัดการ

สิ่งสําคัญก็คือไห่ลั่วหลันมีเวลารักษาอาการบาดเจ็บของนางและสามารถกลับเข้าสู่การต่อสู้อีกครั้ง

นางทํางานร่วมกับพยัคฆ์ปีกทมิฬได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งสองโจมตีชูตู้จากด้านซ้ายและขวาพร้อมกัน

ชูตู้ตกอยู่ในสภาพที่น่าสงสาร ในไม่ช้าเลือดก็ไหลออกมาจากริมฝีปากของเขาอาการบาดเจ็บของเขาค่อยๆสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ

ตอนนี้ทุกคนไม่เห็นความหวังที่ชูตู่จะพลิกสถานการณ์ได้อีก พยัคฆ์ปีกทมิฬทําให้ไห่ลั่วหลันมีความได้เปรียบมากเกินไป

“เจ้าแพ้แล้ว!”ไห่ลั่วหลันตะโกนขณะใช้ท่าไม้ตายหมัดแปดทิศ

ชูตู้ถูกปิดล้อมด้วยเงาหมัดทั้งแปดในเวลาเดียวกันเงาดําก็พุ่งลงมาจากด้านบน มันคือพยัคฆ์ปีกทมิฬ

ในช่วงเวลาวิกฤต ชูตู้กลับหัวเราะเสียงดัง “ในที่สุดข้าก็จับเจ้าได้

จากนั้นกําปั้นยักษ์บนเส้นทางความแข็งแกร่งก็ปรากฏขึ้นและคว้าร่างพยัคฆ์ปีกทมิฬเอาไว้พยัคฆ์ปีกทมิฬดิ้นรนอย่างหนักแต่มันยังถูกกําปั้นยักษ์จับกระแทกพื้น

“บึม!”

เสียงระเบิดดังขึ้น ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งขึ้นสู่อากาศ

ท่าไม้ตายอมตะปลดปล่อยความแข็งแกร่ง!

ร่างกายของชูตู้ขยายใหญ่ขึ้นและกลายเป็นยักษ์สูงสิบเมตร

ร่างกายของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและพ่นไอน้ําออกมา

ท่าไม้ตายอมตะสวรรค์พิภพรวมพลัง!

ชูตู้ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นและประกบฝ่ามือของเขาไว้กลางหน้าอก

การแสดงออกของไห่ลั่วหลันเปลี่ยนไป กลุ่มผู้อมตะอ้าปากค้าง

พื้นที่รัศมีหนึ่งพันลี้ถูกห่อหุ้มด้วยพลังงานไร้รูปลักษณ์ กลุ่มผู้อมตะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดายพวกเขารู้สึกเหมือนแมลงที่ตกลงไปในน้ํามัน

ท่าไม้ตายนี้ทําให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของพยัคฆ์ปีกทมิฬลดลงอย่างมาก การคุมคามของมันต่อชูตู้ลดลงจนถึงจุดต่ําสุด

“นี่คือท่าไม้ตายกึ่งเขตแดน!” ไห่ลั่วหลันกัดฟันแน่น ท่าไม้ตายของชูตูยอดเยี่ยมเกินความคาดหมายของนาง

“ข้าไม่ต้องการใช้สิ่งนี้” ไห่ลั่วหลันก่นเสียงเย็นและกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งของนางอย่างลับๆ

นางยืมวิญญาณอมตะระดับเจ็ดดวงนี้มาจากถ้ำสวรรค์นิรันดร์ มันเป็นแกนกลางของท่าไม้ตาย

ที่เรียกว่าความแข็งแกร่งที่สูญหาย

ในช่วงเวลาสําคัญ ไห่ลั่วหลันกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายนี้ทันที

คลื่นพลังงานพุ่งออกมาจากร่างของไห่ลั่วหลัน

ชูตู้เร่งหลบเลี่ยงแต่ไม่สําเร็จ

หลังจากถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายนี้ ทุกการเคลื่อนไหวของเขาต้องใช้ความพยายามมากขึ้น
มากกว่าห้าสิบส่วน

ไห่ลั่วหลันสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้อีกครั้ง

การต่อสู้ดําาเนินไปอย่างดุเดือด ทั้งสองติดอยู่ในทางตัน

กลุ่มผู้อมตะต้องล่าถอยออกไป

“ไม่ว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นอย่างไร พวกเขาก็เป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุด
ของภาคเหนือทั้งคู่!”

“ผู้ใดจะคิดว่าผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งจะน่ากลัวถึงเพียงนี้ ข้าเกรงว่าพวกเขาจะ
สามารถท้าทายแม้แต่ผู้อมตะระดับแปด!”

“ชูตู่ เทพธิดาจันทร์ทมิฬ พวกเขาเป็นเสาหลักบนเส้นทางความแข็งแกร่งในโลกยุคปัจจุบัน อย่างไม่ต้องสงสัย”

กลุ่มผู้อมตะถอนหายใจกับตนเอง ณ จุดนี้ไม่ว่าจะเป็นชูตูหรือไห่ลั่วหลันที่ได้รับชัยชนะ คนทั้ง สองก็ยังได้รับความเคารพและการยอมรับจากทุกคน

การต่อสู้ระหว่างตัวตนที่เท่าเทียมทําให้กลุ่มผู้อมตะรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นและต้องการเห็นผู้ชนะ

คนสุดท้าย

“ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม” ชูตู้หัวเราะอย่างเต็มที่

ไห่ลั่วหลันกัดฟันแน่นแต่ไม่พูด นางตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอีกครั้ง

เหตุผลก็คือความแตกต่างด้านประสบการณ์การต่อสู้

ชูตู่เหนือกว่าไห่ลั่วหลันในทุกรายละเอียด

ไห่ลั่วหลันพยายามทุกวิถีทาง แต่ยิ่งนางต่อสู้มากเท่าใด นางก็ยิ่งเผยจุดอ่อนมากเท่านั้น ‘เขาถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายอมตะความแข็งแกร่งที่สูญหายแต่เขายังทรงพลังถึงระดับนี้!’ ไห่

ลั่วหลันรู้สึกตกใจเล็กน้อย

ชูตู้แข็งแกร่งมาก แม้ไห่ลั่วหลันจะใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมด แต่นางก็ยังไม่สามารถล้มชูตู้

ตอนนี้นางทําได้เพียงคาดหวังว่าท่าไม้ตายอมตะความแข็งแกร่งที่สูญหายจะทําให้ชูตู่เหนื่อย

แต่ก่อนที่ชูตู้จะเหนื่อย ไห่ลั่วหลันกลับกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบและตกอยู่ในอันตราย

ไห่ลั่วหลันกัดฟันแน่น นางไม่เต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้ ในสถานการณ์เช่นนี้นางทําได้เพียง เสี่ยงและพยายามเท่านั้น

พยัคฆ์ปีกทมิฬคํารามและกระโดดเข้าหาไห่ลั่วหลัน

ไห่ลั่วหลันก้าวไปข้างหน้าและรวมร่างกับพยัคฆ์ปีกทมิฬ!

นางกลายร่างเป็นมนุษย์ครึ่งสัตว์อสูร!

นี่คือวิธีการใช้ท่าไม้ตายรอยสักระดับสูง!

เมื่อผู้อมตะรวมร่างกับรอยสัก พลังการต่อสู้ของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอีกมาก “ชูตู่ ถึงเวลาจบการต่อสู้แล้ว!” ไห่ลั่วหลันตะโกนก่อนจะทะยานร่างเข้าหาชูตู้ ชูตุ่ยกแขนขึ้น

หมัดของไห่ลั่วหลันปะทะแขนของชูตู่และส่งเขาลอยกลับหลังไปอย่างไม่สามารถควบคุม

แต่ชูตู้ยังสามารถใช้เท้ากดลงบนพื้นและประคองร่างของตนเองเอาไว้

อย่างไรก็ตามไห่ลั่วหลันกลับปรากฏตัวขึ้นเหนือศีรษะของเขาอย่างกะทันหัน

“ปัง!”

ไห่ลั่วหลันโจมตีชูตู้อีกครั้ง

“ปัง ปัง ปัง ปัง!”

ไห่ลั่วหลันส่งหมัดออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง

แผ่นดินสะเทือน ฝุ่นควันลอยขึ้นสู่อากาศ ความแข็งแกร่งของนางทําให้ผู้ชมหน้าซีด
“ท่านชูตู้!”

“ท่านพ่อบุญธรรม!”

ผู้อมตะเผ่าชูตะโกนด้วยความกังวล

ไห่ลั่วหลันแข็งแกร่งเกินไป นางโจมตีโดยไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามสามารถตอบโต้

“พอแล้ว” เสียงของชูตู้ดังขึ้นมาจากหลุมลึก

แต่ไห่ลั่วหลันไม่สน นางยังชกต่อ

“ชูตู่ยอมรับความพ่ายแพ้แล้วงั้นหรือ?” อู๋กวงกล่าวด้วยความตื่นเต้น

“บางอย่างไม่ถูกต้อง! นายท่านดูไม่ปกติ!” การแสดงออกของเฉินเฉิงเปลี่ยนไป

เมื่อได้ยินถ้อยค่านี้ ทุกคนก็ตระหนักได้ว่าไห่ลั่วหลันดูเหมือนจะเสียสติไปแล้ว นางสูญเสีย

เหตุผลและเคลื่อนไหวด้วยสัญชาตญาณสัตว์ป่าเท่านั้น

ผู้อมตะเผ่าชูมีความสุขกับเรื่องนี้

“ยังมีความหวัง!”

“ยอดเยี่ยม ตราบเท่าที่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งสามารถผ่านสิ่งนี้ เขาจะชนะ!” “ท่าไม้ตายนี้ทรงพลังเกินไป หากมันล้มเหลว เทพธิดาจันทร์ทมิฬต้องเผชิญหน้ากับฟันเฟือง ที่รุนแรงและอาจเสียชีวิต”

ในจังหวะนี้ร่างหนึ่งบินออกมา

มันคือช

แต่สิ่งที่ชูตู่ทํากลับเหนือความคาดหมายของทุกคน

เขาอดทนต่อการโจมตีอันบ้าคลั่งของไห่ลั่วหลันโดยไม่สนใจชีวิตของตนและคว้าไหล่ของ
นางเอาไว้

แรงสั่นสะเทือนถูกปล่อยออกไปขณะที่พยัคฆ์ปีกทมิฬถูกผลักออกจากร่างของไห่ลั่วหลัน

ไห่ลั่วหลันฟื้นคืนสติขณะที่รูม่านตาของนางหดเล็กลง

นางตกใจเมื่อพบว่าหมัดซ้ายของนางทะลุหน้าอกด้านขวาของชูตู่แต่ชูตู้กลับช่วยนางและ

ป้องกันไม่ให้นางเผชิญหน้ากับฟันเฟืองจากความล้มเหลวของท่าไม้ตาย

‘เพราะเหตุใด?” ไห่ลั่วหลันตะโกนอยู่ในใจและพยายามหยุดยั้งพยัคฆ์ปีกทมิฬ

หากชูตู้ถูกมันโจมตีในเวลานี้ เขาจะเสียชีวิตอย่างแน่นอน

แต่พยัคฆ์ปีกทมิฬไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของไห่ลั่วหลันอีกต่อไป

ขณะที่ไห่ลั่วหลันคิดว่าชูตู้กําลังจะตาย กลิ่นอายอันทรงพลังกลับปะทุออกมาจากร่างของเขา

ท่าไม้ตายถูกปลดปล่อยออกมา พยัคฆ์ปีกทมิฬถูกส่งลงสู่พื้นในการโจมตีเดียว

กลุ่มผู้อมตะตกตะลึง

“การบ่มเพาะระดับแปด!?”

“ชูตู้กลายเป็นผอมตะระดับแปดไปแล้วงั้นหรือ?”

“ผู้อาวุโสสูงสุดล่าดับที่หนึ่งของเราเป็นผู้อมตะระดับแปด? เขาเป็นเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”

ไห่ลั่วหลันจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง “เพราะเหตุใด?”

นางดึงมือออกจากหน้าอกของชูตู้และวางไว้บนไหล่ของเขา

ท่าไม้ตายถูกกระตุ้นใช้งาน มันไม่ใช่การโจมตีแต่ไห่ลั่วหลันกําลังรักษาอาการบาดเจ็บของชูตุ๋

ชูตู่เผยรอยยิ้มด้วยใบหน้าซีดขาว “ตั้งแต่เจ้าเริ่มท้าทายผู้คน ข้าก็สังเกตเห็นเจ้าแล้ว เทพธิดา

จันทร์ทมิฬ”

“แม้เจ้าจะไม่ท้าทาข่า ข้าก็จะท้าทายเจ้า”

“เพื่อการต่อสู้ที่ยุติธรรม!”

“เพราะเส้นทางความแข็งแกร่งเงียบเหงามานานเกินไป”

“การปรากฏตัวของเจ้าทําให้ข้ามีความสุข จงเดินบนเส้นทางสายนี้ต่อไป เทพธิดาจันทร์ทมิฬ”

“ฟื้นฟูเส้นทางความแข็งแกร่งและทําให้มันรุ่งโรจน์อีกครั้ง!”

ชูกล่าวความปรารถนาของตนออกมา

เมื่อมองเข้าไปในดวงตาที่ส่องประกายของเขา ไห่ลั่วหลันกลายเป็นเงียบงัน

พยัคฆ์ปีกทมิฬบินกลับมาหาไห่ลั่วหลันอีกครั้ง ตอนนี้มันกลับมาอยู่ในการควบคุมของนางแล้ว

พยัคฆ์ปีกทมิฬกลับเป็นรอยสักอยู่บนร่างของนาง

ไห่ลั่วหลันมองชูตู้อย่างลึกซึ้งก่อนจะจากไป

ก่อนจาก นางกล่าวว่า “ชูตู่ เจ้าชนะการต่อสู้ครั้งนี้”

การต่อสู้ครั้งนี้ทําให้เกิดความโกลาหลขึ้นในโลกผู้อมตะของภาคเหนือ มันจบลงด้วยชัยชนะ

ของชูตู่ แต่ผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้เกินความคาดหมายของทุกคน

หลังจากทั้งหมดชูตู้กลายเป็นผู้อมตะระดับแปด ไม่ว่าจะเป็นตัวเขาหรือเผ่าชู ชื่อเสียงของ

พวกเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก

ในการต่อสู้ที่ดุเดือด ชูตู้ผนึกระดับการบ่มเพาะที่แท้จริงของเขาเพื่อต่อสู้กับเทพธิดาจันทร์ ทมิฬอย่างยุติธรรม นอกจากนั้นเขายังไม่สนใจชีวิตของตนและช่วยชีวิตนาง บุตรบุญธรรมของเขาแนะนําให้จัดงานเลี้ยงฉลองที่ยิ่งใหญ่และเชิญกลุ่มผู้อมตะเข้าร่วมเพื่อ

ยกระดับชื่อเสียงของเผ่าชู

แต่ชูตู่ปฏิเสธโดยไม่ลังเล

วันต่อมา วังสวรรค์และถ้ำสวรรค์นิรันดร์ปล่อยข่าวที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าออกมา

เทพอมตะกลุ่มดาวและเทพอมตะตะวันเดือดฟื้นคืนชีพแล้วขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นผู้อมตะระดับเก่าบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม!

โลกตกสู่ความโกลาหล ผู้อมตะทั้งหมดตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์