Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2216 ร้องไห้เพราะฟางหยวน
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2216 ร้องไห้เพราะฟางหยวน
ทะเลตะวันออก
ฐานทัพใหญ่ตระกูลเฉิน
ผู้อมตะสูงอายุยืนอยู่หน้าประตูหินและรอคอยอย่างอดทนผู้อมตะผู้นี้ปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะระดับแปดออกมาเขาคือผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิน เฉินกงเจิ้ง“ครืน…”
ประตูห้องลับถูกเปิดออก ผู้อมตะสองคนเดินออกมาจากภายใน
คนด้านหน้าสวมชุดคลุมสีเทาและมีเส้นผมสีดําสลับขาวยาวลงมาถึงไหล่เขาคือเฉินซานในฐานะผู้อมตะบนเส้นทางมนุษย์การอยู่ในเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นการเผชิญหน้าโดยบังเอิญของเขา หลังจากออกมาผลกระทบจากเพลิงดําก็ได้รับการเยี่ยวยาอย่างสมบูรณ์
ขณะที่เขากลายเป็นตัวตนกึ่งระดับเก้า
เฉินซานเดินออกมาจากประตูและยิ้มให้กับผู้อมตะที่เดินตามออกมา “เชิญ”ผู้อมตะผู้นี้อยู่ในชุดคลุมสีเทาที่ดูเรียบง่ายเขาสวมหมวกทรงกรวยที่ไม่สามารถปิดซ่อนใบหน้าที่ซีดขาวเขาก็คือลั่วเว่ยหยินที่รอดชีวิตมาจากถ้ำปีศาจคลั่ง
ลั่วเว่ยหยินโค้งค่านับเล็กน้อยและกล่าว“วิธีบนเส้นทางมนุษย์ของผู้อาวุโสเฉินไม่ธรรมดาจริงๆอาการบาดเจ็บสามสิบส่วนของข้าหายดีแล้ว”
เฉินซานหัวเราะ“ไม่ใช่ปัญหาและไม่จําเป็นต้องเรียกข้าว่าผู้อาวุโส เราต่อสู้ในถ้ำปีศาจคลั่งมาด้วยกันเราเป็นสหายที่ดีเจ้าสามารถปฏิบัติต่อข้าอย่างเท่าเทียม”นรันเฉินกงเจิ้งหัวเราะเช่นกัน“ผู้อาวุโส งานเลี้ยงถูกจัดเตรียมไว้แล้วโปรดมากับข้า”ก่อนที่ลั่วเว่ยหยินจะตอบเฉินซานก็คว้าเขาของเขาและลากเขาไปที่งานเลี้ยงอย่างกระตือรื
งานเลี้ยงจัดขึ้นกลางแจ้ง ณ จุดสูงสุดของเกาะ
เฉินซานนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหลัก ลั่วเว่ยหยินและเฉินกงเจิ้งนั่งอยู่ด้านข้าง
ลั่วเว่ยหยินมองไปในระยะไกลเขาเห็นทะเลที่สงบเหมือนกระจก ไร้คลื่นดวงอาทิตย์ยามเย็นส่องแสงเจิดจ้าเมฆถูกอาบย้อมด้วยสีแดงเพลิง
“เป็นภาพที่งดงามนัก” ลั่วเว่ยหยินชมเชย
เสียงนกผสานกับเสียงคลื่นทําให้ลั่วเว่ยหยินรู้สึกผ่อนคลายเขาปิดเปลือกตาและสูดหายใจลึกก่อนกล่าว“หลังจากรอดชีวิตมาจากถ้ำปีศาจคลั่งและได้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้จิตใจของข้ารู้สึกสงบลงมากเห้อ….ช่างโชคดีที่มีชีวิตอยู่”
ลั่วเว่ยหยินเป็นตัวตนกึ่งระดับเก้าด้านการป้องกันเขาอยู่ต่ำกว่าเพียงผู้อมตะระดับเก้าอย่างไรก็ตามการต่อสู้ในถ้ำปีศาจคลั่งทําให้เขารู้สึกถึงความอ่อนแอของตนเอง
เมื่อนึกถึงช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตายเหล่านั้น ลั่วเว่ยหยินยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้างเฉินกงเจิ้งถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “หากไม่ใช่เพราะการประกาศของวังสวรรค์และถ้ำสวรรค์นิรันดรทั้งห้าภูมิภาคคงยังอยู่ในความมืดเกิดสิ่งใดขึ้นในถ้ำปีศาจคลั่งกันแน่? ไม่เพียง เทพอมตะกลุ่มดาวและเทพอมตะตะวันเดือดจะฟื้นคืนชีพ กระทั่งฟางหยวนยังกลายเป็นเทพปีศาจหลอมรวมสวรรค์
วังสวรรค์และถ้ำสวรรค์นิรันดรเป็นผู้พ่ายแพ้ฟางหยวนเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดดังนั้นพวกเขาจึงไม่อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับถ้ำปีศาจคลั่งให้คนทั้งโลกรับรู้
ผู้อมตะทั้งหมดตกตะลึงในตอนแรกจากนั้นพวกเขาก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเฉินกงเจิ้งก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ลั่วเว่ยหยินและเฉินซานมองหน้ากันก่อนจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หลังจากเฉินกงเจิ้งได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นเขาก็นิ่งเงียบไปเป็นเวลานาน
การจัดเตรียมของเทพปีศาจไร้ขอบเขตแผนการของเทพอมตะกลุ่มดาวพลังอํานาจของเทพ
อมตะตะวันเดือดความน่าสงสารของเทพอมตะสวรรค์พิภพ และความเจ้าเล่ห์ของฟางหยวนนี่เป็นการต่อสู้ระดับใหม่ทั้งหมด!
ตัวตนเช่นปีศาจอมตะฉีเจียเจิ้งปู่ดู่บรรพชนทะเลปราณลั่วเว่ยหยิน และเฉินซานเป็นได้เพียงตัวละครรองราคาของการต่อสู้ครั้งนี้ก็น่าเหลือเชื่อมาก
ตัวตนกึ่งระดับเก้าเช่นเจิ้งปู้ตู่และปีศาจอมตะฉีเจียเสียชีวิต ฟางหยวนสูญเสียผู้ใต้บังคับบัญชา ประมาณห้าสิบคน เจ้าเกาะของถ้ำสวรรค์นิรันดรเหลือรอดเพียงครึ่งเดียวสิ่งมีชีวิตจํานวนนับไม่
ถ้วนในถ้ำปีศาจคลั่งกลายเป็นเหยื่อสังเวย
เทพปีศาจไร้ขอบเขตล้มเหลวในการไล่ล่าชีวิตนิรันดร์ขณะที่ฟาหยวนกลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เฉินกงเจิ้งขมวดคิ้วถาม“มีสามสิ่งที่ข้าไม่เข้าใจประการแรกหากข้าเป็นเทพปีศาจไร้ขอบเขตเหตุใดข้าต้องเสี่ยงในเวลานั้น?ด้วยความแข็งแกร่งอันเป็นที่สุดเขาสามารถปราบปรามโลกทั้ง
ใบ ค่ายกลในถ้ำปีศาจคลั่งยังไม่เพียงพอสําหรับเป้าหมายของเขางั้นหรือ?”
เฉินซานส่ายศีรษะเล็กน้อย“เทพปีศาจไร้ขอบเขตเป็นผู้ไล่ล่าเต๋า หลังจากเตรียมการและวางแผนมานานนับล้านปีเขาจะยอมผ่อนปรนโดยไม่ทําการทดสอบได้อย่างไร?”
ลั่วเว่ยหยินกล่าวเสริม“เขาไม่สามารถอยู่ในสภาพนั้นได้นานนักแม้เขาจะดูเหมือนฟื้นคืนชีพขึ้นมาแต่เขาไม่ใช่ผู้อมตะที่มีชีวิตจริงๆ อย่างน้อยหลังจากที่เขาเสียชีวิตเขาก็ไม่มีเลือดเนื้อไม่มีมิติช่องว่างในความเป็นจริงเขากลับเป็นน้ำแข็งลอย
“เป็นเช่นนั้น”เฉินกงเจิ้งพยักหน้าและถามอีกครั้ง“ประการที่สอง พวกเขาไม่สนใจเทพปีศาจจิตวิญญาณและปล่อยให้เขาอยู่ในชั้นที่เก้าของถ้ำปีศาจคลั่งงั้นหรือ?”
ลั่วเว่ยหยินครุ่นคิดก่อนกล่าว“แรกเริ่มเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกควบคุมโดยเทพอมตะกลุ่มดาวเขาเสียสติและจําได้เพียงเทพอมตะสวรรค์พิภพหลังจากเทพปีศาจจิตวิญญาณถูกปลดปล่อยจากประตูแห่งชีวิตและความตายเขาพุ่งเข้าไปปิดผนึกรูช่องโหว่ของขอบโลกด้วยความตั้งใจของตัวเขาเอง สิ่งนี้อยู่นอกเหนือจากความคาดหมายของพวกเรา”
“เขายังไม่ฟื้นคืนสติเหมือนที่พวกเราคิดไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเขามันเหมือนกับเขาสูญเสียความคิดไปอย่างสิ้นเชิง แต่เขาตระหนักว่ารูช่องโหว่ของขอบโลกเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดดังนั้นเขาจึงเพิกเฉยต่อทุกสิ่งและใช้ร่างของตนปิดผนึกมัน เขาทําตัวราวกับเป็นอสูรวิญญาณ”
เฉินซานกล่าว “พวกเราพูดคุยกันเกี่ยวกับสภาพของเทพปีศาจจิตวิญญาณมานานแต่ยังไม่มีข้อสรุปดูเหมือนเทพคนอื่นๆก็ไม่มีคําตอบสําหรับเรื่องนี้เช่นกันพวกเขาทําได้เพียงคาดเดาหลังจากฟางหยวนคว้าน้ำแข็งลอยก้อนสุดท้ายเหล่าเทพก็หยุดต่อสู้ ในเวลานั้นพวกเขาอ่อนแอมากเมื่อรูช่องโหว่ของขอบโลกถูกปิดผนึกการเพิกเฉยต่อเทพปีศาจจิตวิญญาณจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด”เฉินซานมองลั่วเว่ยหยินก่อนกล่าวต่อ“สําหรับเรื่องที่พวกเขาจะทําในอนาคตและเรื่องที่เทพ ปีศาจจิตวิญญาณจะฟื้นคืนสติหรือไม่ไม่มีผู้ใดสามารถคาดเดา”
ลั่วเว่ยหยินพยักหน้าด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม
หากเทพปีศาจจิตวิญญาณฟื้นคืนสติและกลับมาห้าภูมิภาคและสองสวรรค์จะตกสู่ความโกลาหลอย่างแน่นอน
เฉินกงเจิ้งถามคําถามสุดท้าย“ประการที่สามแผนการก้าวเข้าสู่ระดับเก้าของฟางหยวนถูกเปิดเผยโดยเทพอมตะกลุ่มดาวและเทพอมตะตะวันเดือดแต่ยังมีบางสิ่งที่ข้าไม่เข้าใจฟางหยวนมี
ท่าไม้ตายใหม่มากมายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร?เขามีท่าไม้ตายผสมจํานวนมากรวมถึงท่าไม้ตายรอยสักท่าไม้ตายอมตะตราประทับตงฮันเหล่าโปและท่าไม้ตายอมตะเส้นทางแห่งชีวิตข้าไม่เข้าใจจริงๆข้าคิดว่าความเชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวนคือการปิดกั้นการอนุมานของผู้อื่นวิญญาณสติปัญญาของเขาถูกใช้ไปแล้วในสงครามชะตากรรมเขาสามารถสร้างท่าไม้ตายมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร?”
“เว้นเพียงเขาจะมีความก้าวหน้าบางอย่างบนเส้นทางแห่งปัญญา? แต่การเติบโตนี้ไม่มากเกินไปงั้นหรือ?”
ลั่วเว่ยหยินและเฉินซานส่ายศีรษะพวกเขาไม่รู้เช่นกัน
ลั่วเว่ยหยินถอนหายใจ“หากฟางหยวนเป็นคนที่พวกเราสามารถคาดเดาเขาคงไม่กลายเป็นผู้
ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้”
เฉินซานกล่าว“เกี่ยวกับเรื่องนี้ข้าสามารถคาดเดาบางสิ่ง”
ผู้อมตะทั้งสามพูดคุยกันอย่างยาวนาน
หลังจากท้องอิ่ม เฉินกงเจิ้งก็ชงชาให้ลั่วเว่ยหยินกับเฉินซาน
ลั่วเว่ยหยินถาม“นี่คือชาหกเสียงของท่านงั้นหรือ?”
เฉินกงเจิ้งยิ้ม “มันไม่ถือเป็นสิ่งใด ข้ารู้สึกละอายใจนัก”
ลั่วเว่ยหยินกล่าวอย่างจริงจัง“ชาหกเสียงของตระกูลเฉินมีชื่อเสียงไปทั่วโลกข้าช่างโชคดีนักที่มีโอกาสได้ลิ้มลอง”
ชาหกเสียงคือชาหกถ้วยที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน
เมื่อเฉินกงเจิ้งชงชาถ้วยที่สามน้ำตาของเขาก็ไหลอาบแก้ม เขาล้มเหลวในการชงชา
“ข้ารู้สึกละอายใจนัก” เฉินกงเจิ้งรีบเช็ดน้ำตาและขอโทษ
ลั่วเว่ยหยินเร่งถาม “ผู้อาวุโสสูงสุดลําาดับที่หนึ่งตระกูลเฉิน เหตุใดท่านจึงร้องไห้?” เฉินกงเจิ้งตอบ “ขอบคุณสําหรับความห่วงใย ข้าเพียงรู้สึกผิด เป็นเวลานับพันปีมาแล้วที่ตระ กูลเฉินของข้าก่อตั้งขึ้น ผู้ใดจะคิดว่ามันจะเผชิญหน้ากับวิกฤตการถูกทําลายล้างในรุ่นของข้า ข้า เฉินกงเจิ้ง ไร้ความสามารถและไร้ประโยชน์ เกาะที่งดงามและพวกพ้องของเราอีกนับไม่ถ้วน
กําลังจะพบหายนะ”
เฉินซานถอนหายใจ
ลั่วเว่ยหยินถาม “พวกท่านกังวลเกี่ยวกับฟางหยวนงั้นหรือ?”
“ถูกต้อง ไม่นานมานี้มีข่าวแพร่กระจายออกมาว่าเทพปีศาจหลอมรวมสวรรค์กลับมายังทะเลตะวันออกเขาเลือกเกาะแห่งหนึ่งเป็นที่พักและใช้ควันห้าสีปิดล้อมเอาไว้ตอนนี้ข้ากังวลและหวาดกลัวจริงๆสมาชิกตระกูลเฉินทุกคนต่างหวาดกลัวแท้จริงแล้วผู้อมตะทั้งหมดของทะเลตะวันออกต่างกังวลและหวาดกลัวเช่นกัน!”เฉินกงเจิ้งกล่าวขณะที่น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มอีกครั้ง