Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2217 สุราไร้รสชาติ
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2217 สุราไร้รสชาติ
ผู้อาวุโสสูงสุดลําาดับที่หนึ่งตระกูลเฉินหลั่งน้ำตา
ส่วนหนึ่งคือความหวาดกลัวที่เฉินกงเจิ้งมีต่อฟางหยวน แต่มันมีความนัยที่ลึกกว่านั้นด้วยการประกาศร่วมกันของวังสวรรค์และถ้ำสวรรค์นิรันดรข่าวดังกล่าวไม่สามารถเป็นเรื่อง
ฟางหยวนกลายเป็นเทพปีศาจหลอมรวมสวรรค์ขณะที่บรรพชนทะเลปราณเป็นร่างแยกของฟางหยวน
ก่อนหน้านี้กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกเข้าร่วมกองกําลังพันธมิตรทะเลปราณเพื่อต่อสู้กับกองกําลังเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ของฟางหยวน
แต่ปรากฏว่าผู้นําทั้งสองคือคนๆเดียวกันอาจกล่าวได้ว่ากองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกทั้งหมดอยู่ในกํามือของฟางหยวน
หลังจากเฉินกงเจิ้งรู้ความจริงเขารู้สึกโกรธและอับอายแต่ไม่นานมันก็เปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวและกังวล
ตระกูลเฉินเป็นมหาอํานาจของทะเลตะวันออกพวกเขามีธุรกิจและทะเลเจ็ดแห่งแต่พวกเขาจะเผชิญหน้ากับฟางหยวนอย่างไร
ย้อนกลับไปเมื่อฟางหยวนยังเป็นตัวตนกึ่งระดับเก้ากองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออก
ต้องรวมตัวกันภายใต้การนําของบรรพชนทะเลปราณเพื่อรักษาเสถียรภาพ
ตอนนี้ฟางหยวนกลายเป็นเทพขณะที่กองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกไม่สามารถหนีไปที่อื่น
แม้พวกเขาจะต้องการย้ายถิ่นฐานแต่พวกเขาจะไปที่ใด
พวกเขาไม่สามารถไปภาคใต้และทะเลทรายตะวันตกทั้งสองภูมิภาคไม่มีเทพปกครองนั่นหมายความว่าฟางหยวนสามารถไล่ล่าพวกเขา
นอกเหนือจากภาคใต้และทะเลทรายตะวันตก ภาคกลางและภาคเหนือต่างมีเทพของตนเอง
ซึ่งสามารถต่อต้านฟางหยวนแต่พวกเขามีกองกําลังเป็นของตนเองอยู่แล้วตระกูลเฉินและตระกูลอื่นของทะเลตะวันออกจะเติบโตได้ดีในสถานที่เหล่านั้นได้อย่างไรหากพวกเขาอยู่ใน
ทะเลตะวันออกฟางหยวนจะรักแกพวกเขาแต่หากพวกเขาไปภาคกลางหรือภาคเหนือเทพ
อมตะกลุ่มดาวและเทพอมตะตะวันเดือดจะไม่ปราบปรามพวกเขางั้นหรือ? สงครามห้าภูมิภาคกําลังจะปะทุขึ้นหากตระกูลเฉินเข้าร่วมกับเทพคนใดคนหนึ่งเมื่อสงครามมาถึงพวกเขาจะถูกใช้เป็นเหยื่อสังเวย
ดังนั้นเฉินกงเจิ้งจึงต้องเรียกประชุมกลุ่มผู้อมตะของตระกูล การตัดสินใจเข้าร่วมกับฟางหยวนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสําหรับพวกเขา
แม้มันจะเป็นเรื่องที่น่าอับอายแต่ตอนนี้ฟางหยวนเป็นเทพไปแล้ว ทุกคนย่อมเข้าใจการกระท่าของพวกเขา
เมื่อเฉินกงเจิ้งตัดสินใจเข้าร่วมกับฟางหยวนเขาก็ต้องนําตระกูลเฉินเข้าร่วมเป็นตระกูลแรกสิ่งนี้จะทําให้พวกเขาได้เปรียบมากขึ้น หากตระกูลเฉินเป็นผู้นําและทํางานร่วมกับลั่วเว่ยหยินเพื่อ
ปลุกระดมกองกําลังอื่นของทะเลตะวันออกให้เข้าร่วมกับฟางหยวนพวกเขาจะสามารถทิ้งความประทับใจที่ดีให้กับฟางหยวน
เฉินกงเจิ้งลอบบอกแผนการนี้กับเฉินซาน หลังจากครุ่นคิดเฉินซานเห็นด้วยและเริ่มโน้มน้าวลั่วเว่ยหยินเป็นอันดับแรกเฉินซานรู้สึกว่าพวกเขามีโอกาสประสบความสําเร็จ
แม้เขาจะพบลั่วเว่ยหยินเพียงไม่นานแต่พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเฉินซานได้รับคํา
แนะนําจากเทพอมตะสวรรค์พิภพขณะที่ลั่วเว่ยหยินเป็นผู้สืบทอดของเทพอมตะสวรรค์พิภพในภาคใต้
หากพิจารณาตามระบบนิกายของภาคกลางพวกเขาก็คือศิษย์พี่น้อง
นอกจากนี้ระหว่างการต่อสู้ในถ้ำปีศาจคลั่งพวกเขายังทํางานร่วมกันโดยไม่มีความขัดแย้งภายในใดๆหลังจากกลับมาเฉินซานยังใช้วิธีบนเส้นทางมนุษย์ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของลั่วเว่ยหยินหากลัวเว่ยหยินใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปฐพีเขาต้องใช้เวลานานในการรักษาอาการบาดเจ็บของตน
เฉินกงเจิ้งร้องไห้ขณะที่เฉินซานดื่มชาและกําลังรอฟังคําตอบของลั่วเว่ยหยินลั่วเว่ยหยินถอนหายใจ
เขาเข้าใจว่าเฉินซานมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับฟางหยวน พวกเขาทํางานร่วมกันใน
สงครามชะตากรรม ในถ้ำปีศาจคลั่งเมื่อเฉินซานสามารถหลบหนีออกจากเมืองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
เขาร่วมมือกับฟางหยวนทันทีหลังจากได้ยินคํากล่าวของฟางหยวนสําหรับลั่วเว่ยหยินเขาควรหาเช่นไร?
ลั่วเว่ยหยินพิจารณาคําถามนี้เป็นเวลานาน
หลังการต่อสู้ในถ้ำปีศาจคลั่ง สถานการณ์ของโลกทั้งใบเปลี่ยนไปมาก
เทพสามคนมีความขัดแย้งกันขณะเดียวกันมันยังมีความเป็นไปได้ที่เทพคนอื่นๆจะฟื้นคืนชีพทุกอย่างต้องถูกพิจารณาใหม่ทั้งหมด
ลั่วเว่ยหยินเป็นตัวตนกึ่งระดับเก้า เขาเข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจนการต่อต้านเทพเป็นการรนหาที่ตายแต่ในบางสถานการณ์ ตัวตนกึ่งระดับเก้ายังมีอิทธิพลต่อการต่อสู้ของเหล่าเทพการต่อสู้ในถ้ำปีศาจคลั่งเป็นข้อพิสูจน์เรื่องนี้
เมื่อเทพอมตะตะวันเดือดและเทพอมตะกลุ่มดาวติดอยู่ในทางตัน พวกเขาต้องเชิญฟางหยวน
เข้าร่วม เพื่อให้ได้รับชัยชนะ
ในถ้ำปีศาจคลั่ง เทพทั้งสองไม่ได้กําจัดลั่วเว่ยหยินและคนอื่นๆ
เหตุผลเป็นเพราะเทพทั้งสองอยู่ในสภาพที่ไม่ดีนักหากพวกเขาเสี่ยงกําจัดตัวตนกึ่งระดับเก้าและล้มเหลวคนเหล่านั้นอาจเข้าร่วมกับฝ่ายตรงข้าม
ดังนั้นลั่วเว่ยหยินและคนอื่นๆจึงสามารถกลับมาอย่างปลอดภัย
ลั่วเว่ยหยินครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเปิดปากกล่าว“หากเทพอมตะสวรรค์พิภพยังอยู่ข้าจะติดตามเขาอย่างแน่นอน เหตุผลที่ข้าช่วยฟางหยวนจากการไล่ล่าของเทพปีศาจจิตวิญญาณก็
เพราะต้องการหยิบยืมพลังของเขาเพื่อช่วยเทพอมตะสวรรค์พิภพฟื้นคืนชีพ แต่ตอนนี้เทพอมตะ
สวรรค์พิภพถูกฟางหยวนสังหารไปแล้ว…”
ลั่วเว่ยหยินกัดฟันด้วยความโกรธ
หากเทพอมตะสวรรค์พิภพถูกเทพอมตะตะวันเดือดหรือเทพอมตะกลุ่มดาวสังหารลั่วเว่ยหยินอาจรู้สึกดีกว่านี้
แต่ฟางหยวนกลับเป็นคนฆ่าเทพอมตะสวรรค์พิภพ
เฉินซานเข้าใจความรู้สึกของลั่วเว่ยหยินเขาไม่พูดแม้เขาจะเคยได้รับความช่วยเหลือจากเทพอมตะสวรรค์พิภพแต่มันไม่เหมาะสมที่จะกล่าวสิ่งใดในเวลานี้
เฉินกงเจิ้งกล่าว“ในความคิดเห็นของข้าท่านลั่วเว่ยหยินท่านไม่จําเป็นต้องรู้สึกไม่ดีมากนักย้อนกลับไปเหตุผลส่วนใหญ่ที่ท่านช่วยฟางหยวนเป็นเพราะความตั้งใจของเทพอมตะสวรรค์พิภพ”
เขาหยุดก่อนกล่าวต่อ “นอกจากนี้แม้ฟางหยวนจะลงมือกับเทพอมตะสวรรค์พิภพแต่นั่นก็เป็นการโจมตีครั้งสุดท้ายคนร้ายที่สําคัญที่สุดคือเทพอมตะกลุ่มดาวและเทพอมตะตะวันเดือด”ลั่วเว่ยหยินถอนหายใจและเงยหน้าขึ้นเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพยักหน้า“เจ้าพูดถูก”
เขาเผยรอยยิ้มขมขื่น“สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปหากปราศจากเทพอมตะสวรรค์พิภพข้าลั่วเว่ยหยินก็เป็นเพียงคนเร่ร่อนแม้ถ้ำสวรรค์คุณธรรมจะยังอยู่แต่เผ่ามนุษย์เห็ดก็ย้ายไปยังมิติช่องว่างจักรพรรดิแล้วพี่เฉินเราเป็นสหายร่วมรบข้าสงสัยว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?”
เฉินซานไอก่อนพูด “ข้าจะไม่โกหกเจ้าข้าต้องการเข้าร่วมกับเทพปีศาจหลอมรวมสวรรค์ความจริงก็คือย้อนกลับไปที่ถ้ำสวรรค์วาฬมังกรฟ้า เราก็เริ่มทํางานร่วมกับท่านฟางหยวนแล้ว
หลังจากนั้นเรายังร่วมมือกันในสงครามชะตากรรมและถ้ำปีศาจคลั่ง ในการร่วมมือหลายครั้งท่านฟางหยวนไม่เคยทําให้เราผิดหวังอาจมีคําถามว่าเราสามารถเชื่อถือท่านฟางหยวนได้หรือไม่? นั่นเป็นเรื่องไร้สาระอย่างสมบูรณ์หลังจากทั้งหมดเขาเป็นเทพปีศาจ แต่รากฐานของตระกูลเฉินอยู่ที่นี่มันเสี่ยงเกินไปที่เราจะย้ายถิ่นฐานหลังจากพิจารณาข้อดีข้อเสียแล้วนี่เป็นทางเลือกเดียว สําหรับเรา”
เพาะผู้อมตะไม่สามารถบ่มเพาะหากปราศจากทรัพยากร
ตระกูลเฉินเป็นตระกูลใหญ่และมีผู้อมตะเป็นจํานวนมาก พวกเขาต้องการทรัพยากรในการบ่ม
แน่นอนว่าผู้อมตะแต่ละคนมีทรัพยากรอยู่ในมิติช่องว่างของตนแต่การพึ่งพาเพียงสิ่งนั้นยังไม่เพียงพอมิฉะนั้นสวรรค์สีเหลืองจะไม่ได้รับความนิยมมาตลอด
เมื่อได้ยินค่ากล่าวของเฉินซานใบหน้าของลั่วเว่ยหยินก็กลายเป็นเคร่งขรึมเขาพยักหน้า“พี่เฉินช่วยข้าได้มากหากนั่นเป็นการตัดสินใจของท่านข้าก็จะทําตามเช่นกัน”เฉินกงเจิ้งกับเฉินซานชําเลืองมองกันและลอบพึมพําอยู่ในใจว่า‘จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์!’
ลั่วเว่ยหยินต้องการใช้การตัดสินใจครั้งนี้เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เฉินซานช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้เขา
เฉินซานไอก่อนกล่าว“มันเป็นเรื่องที่ดีที่เจ้าตัดสินใจเช่นนี้ เราจะสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันในอนาคต”
เฉินกงเจิ้งรีบใช้ประโยชน์จากสถานการณ์โดยขอให้เฉินซานและลั่วเว่ยหยินเป็นผู้นําในการ
ชักชวนกองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกทั้งหมดเข้าร่วมกับฟางหยวน
ลั่วเว่ยหยินท่านายสิ่งนี้ไว้แล้วดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและตอบตกลงทันที
เฉินกงเจิ้งชงชาหกเสียงอีกครั้ง
หลังจากเพลิดเพลินกับชาเรียบร้อยแล้วเฉินซานก็น่าลั่วเว่ยหยินกลับไปยังห้องลับเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บอีกครั้ง
อาการบาดเจ็บของเฉินซานและลั่วเว่ยหยินรุนแรงมาก
การรักษาเพียงรอบเดียวยังไม่พอ
ในเช้าของวันที่สอง เฉินกงเจิ้งออกเดินทางไปเยี่ยมกองกําลังอื่น
แผนการของเขาประสบความสําเร็จเป็นอย่างมาก
ท่ามกลางตัวตนกึ่งระดับเก้า เฉินซานและลั่วเว่ยหยินกําลังจะเข้าร่วมกับฟางหยวนบรรพชน
ทะเลปราณเป็นร่างแยกของฟางหยวนขณะที่ปีศาจอมตะฉีเจียเสียชีวิตในถ้ำปีศาจคลั่ง
มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่กองกําลังใหญ่อื่นๆของทะเลตะวันออกจะต้องการเข้าร่วมกับฟางหยวนเช่นกัน
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกกองกําลังที่ต้องการเข้าร่วมกับฟางหยวน ตระกูลเซี่ยตัดสินใจออกจากทะเลตะวันออก
“ปีศาจฟางหยวนทําลายตระกูลเซียของเรา ความแค้นนี้ใหญ่หลวงนัก!”
“ทะเลตะวันออก วันหนึ่งเราจะกลับมา!”
“ไปกันเถอะ ซุ้ยเซียนหวังกําลังจะมาลาดตะเวนที่นี่ในไม่ช้า”
“ฮ่าฮ่า อย่ากังวล เพื่อที่จะหลบหนีข้าเตรียมสุราหายากไว้สําหรับซุ้ยเซียนหวังโดยเฉพาะ
ด้วยธรรมชาติของเขา วันนี้เขาต้องเมาอย่างแน่นอน”
ผู้อมตะตระกูลเซี่ยพูดคุยกันขณะลอบบินออกจากทะเลตะวันออกไปยังภาคกลาง
ซุ้ยเซียนหวังเฝ้ามองกระทั่งพวกเขาหายตัวไปที่เส้นขอบฟ้า
ผู้อมตะเฒ่าผู้นี้ถอนหายใจและแสดงออกด้วยความกังวล
เขาเสียใจที่ทําข้อตกลงกับฉินติงหลิงตอนนี้เขาเป็นสายลับของวังสวรรค์ที่แทรกซึมอยู่ในกองกําลังพันธมิตรทะเลปราณ
เมื่อไม่กี่วันก่อนวังสวรรค์สั่งให้เขาปล่อยสมาชิกตระกูลเซียไป
“ข้าทําสําเร็จในครั้งนี้เพราะมันเป็นภารกิจง่ายๆแต่ครั้งต่อไปจะเป็นเช่นไร?”
ซุ้ยเซียนหลังนึกถึงฟางหยวนที่กลายเป็นเทพปีศาจและรู้สึกว่าสุราเลิศรสกลายเป็นไร้รสชาติ
“เขากลายเป็นเทพได้อย่างไร?”