Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2223 การปกป้องจากฟางหยวน
เทพปีศาจหวนคืนบทที่ 2223 การปกป้องจากฟางหยวน
ภาคใต้
ฐานทัพใหญ่ตระกูลวู
ผู้อมตะตระกูลวูมารวมตัวกันในห้องประชุมวูหยงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหลัก ผู้อมตะส่วนใหญ่มาด้วยตนเองมีเพียงไม่กี่คนที่ส่งเจตจํานงมาเข้าร่วม
“หลายวันมานี้เราได้รับจดหมายจากตระกูลปาตระกูลไท่ตระกูลถั่ว ตระกูลเฮาและตระกูลอื่นๆดูพวกมัน”วูหยงโบกมือส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลมากกว่าสิบดวงบินออกไป
เมื่อผู้อมตะตระกูลวูตรวจสอบพวกมันการแสดงออกของพวกเขาก็กลายเป็นมืดครึ้มเนื้อหาในจดหมายมีไม่กี่คําผู้เขียนใช้น้ําเสียงที่ชอบธรรมประณามและตั้งคําถามกับวูหยงว่า
เหตุใดเขาจึงทําธุรกรรมกับปีศาจฟางหยวน บางคนถึงกับขู่ว่าจะถอนตัวจากกองกําลังพันธมิตร
ฝ่ายธรรมะของภาคใต้โดยให้เหตุผลว่าวูหยงไม่มีคุณสมบัติที่จะรับตําแหน่งผู้นําบางคนเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวผู้นํากองกําลังพันธมิตร
“เจ้าพวกนี้…”
“อืม พวกไร้ยางอาย!”
“ข้าทนไม่ไหวแล้ว หลายกองกําลังเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเข้าร่วมกับลั่วเว่ยหยินงั้นหรือ?ตอนนี้พวกเขากลับกล้าประณามพวกเรา!”
“พวกเขาต้องการเปลี่ยนตัวผู้นํากองกําลังพันธมิตรงั้นหรือ?ฮ่าฮ่า มีผู้อมตะภาคใต้คนใดเหมาะสมกับตําแหน่งนี้มากกว่าท่านวูหยง!”ผู้อมตะตระกูลวูพูดคุยกันด้วยความโกรธวูหยงดื่มชาอย่างสงบขณะฟังบทสนทนาของกลุ่มผู้อมตะเสียงของกลุ่มผู้อมตะดังขึ้นเรื่อยๆ
วูหยงวางถ้วยชาลงก่อนจะยกมือขึ้นเล็กน้อย
ห้องประชุมเงียบลงทันทีผู้อมตะหลายคนที่ยืนขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมนั่งลงอย่างรวดเร็วสายตาของวูหยงกวาดมองไปรอบๆ
‘นี่คือตระกูลวูของข้า’วูหยงรู้สึกพอใจอยู่ภายใน
ตั้งแต่เขากลายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําาดับที่หนึ่งของตระกูลวูเขานําตระกูลวูผ่านวิกฤตมาแล้วหลายครั้งวูหยงมีทักษะทางการเมืองที่น่าเหลือเชื่อนั่นทําให้เขาได้รับความภักดีจากสมาชิกตระกูลวูไม่เพียงผู้อมตะดั่งเดิมของตระกูลแต่ยังรวมถึงผู้อาวุโสสูงสุดนอกและผู้อมตะระดับหกคนใหม่อีกด้วย
ในการประชุมครั้งนี้ไม่มีผู้ใดคัดค้านหรือตําหนิวิธีการและการตัดสินใจของวูหยงนี่แสดงให้เห็นถึงความเคารพที่พวกเขามีต่อวู่หยง
“ผู้อาวุโสป่าชงโปรดอธิบายสถานการณ์ให้ทุกคนฟัง”วูหยงกล่าวอย่างช้าๆ
“ทราบแล้ว” ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองวูป่าชงยืนขึ้น “หลายวันก่อนเทพปีศาจหลอมรวมสวรรค์ไม่เทพอมตะแห่งความรักส่งข้อความถึงท่านวูหยงเป็นการส่วนตัวเขาขอให้ผู้อาวุโส
สูงสุดลําดับที่หนึ่งของเราทําธุรกรรมสาธารณะกับเขาผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของเราต้องอดทนต่อความอัปยศและยอมรับคําขอดังกล่าว”ผู้อมตะตระกูลวูมองหน้ากัน
บางคนกําหมัด บางคนกัดฟัน พวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากฟางหยวนเพียงได้ยินเรื่องนี้หลังจากทั้งหมดวูหยงถูกบังคับให้ทําธุรกรรมกับเขา
แต่ในเวลาต่อมาวูหยงกลับหัวเราะเสียงดัง“โอ้ป๋าชงไม่จําเป็นต้องกล่าวเช่นนี้พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันข้าจะบอกความจริงกับทุกคนอย่างตรงไปตรงมากลุ่มผู้อมตะตั้งใจฟัง
ดวงตาของวูหยงส่องประกายขึ้น“นี่ไม่ใช่การทําธุรกรรมครั้งแรกระหว่างข้ากับฟางหยวนก่อนหน้านี้เราทําธุรกรรมลับกันมาหลายครั้งแล้วหลักฐานของฟางหยวนไม่ใช่ของปลอม”
วูหยงหยุดชั่วครู่ เมื่อเห็นกลุ่มผู้อมตะมองเขาด้วยสายตาส่องประกายวูหยงพยักหน้าด้วยความพอใจก่อนจะกล่าวต่อ“เหตุผลสําหรับเรื่องนี้ง่ายมากประการแรกไม่ว่าจะเป็นฟางหยวนคน ก่อนหรือเทพฟางหยวนในวันนี้เขาก็เป็นตัวตนที่เราไม่สามารถยั่วยุ ประการที่สองการทําธุรกรรมกับฟางหยวนเป็นประโยชน์มากต่อพวกเรา”
“ตระกูลวูของเราได้รับวิญญาณอมตะดวงใหม่หลายดวงเมื่อเร็วๆนี้ พวกมันล้วนถูกหลอมรวมขึ้นโดยฟางหยวนหากเราต้องหลอมรวมพวกมันด้วยตนเองเราต้องใช้ทรัพยากรอมตะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าและยังไม่สามารถรับประกันความสําเร็จ”
กลุ่มผู้อมตะยังเงียบ
วูหยงมองไปรอบๆและหยุดสายตาที่วูเฉียว
วูเฉียวตัวสั่นก่อนจะลุกขึ้นยืนและกล่าว“แต่…ตอนนี้กองกําลังใหญ่เหล่านั้นกําลังประณามพวกเราพวกเราควรจัดการเรื่องนี้อย่างไร?”
ทันที
วูหยงยิ้มและพยักหน้าให้กับวูเฉียว “เป็นคําถามที่ดี”
หลังกล่าวจบคําวูหยงยื่นมือออกไปและดึงวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลกลับมาหาเขาวูหยงเป่าลมออกมาจากปากเบาๆแต่วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลทั้งหมดกลับถูกทําลาย
“ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง”วูหยงหัวเราะ“พวกเขาจะกล้าโจมตีพวกเรางั้นหรือ?”
กลุ่มผู้อมตะตะลึง
วูหยงเอนหลังพิงเก้าอี้และจ้องมองทุกคน“พวกเจ้ายังไม่เข้าใจอีกงั้นหรือ? ทุกคนเวลาเปลี่ยนไปแล้ว!”
“สงครามชะตากรรมการไล่ล่าฟางหยวนการต่อสู้ในถ้ำปีศาจคลั่ง หลังจากทั้งหมดรากฐานของวังสวรรค์ถูกใช้ไปหมดแล้วแม้เทพอมตะกลุ่มดาวจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาแต่นางก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องประกาศว่าเทพอีกสองคนเป็นเทพปีศาจ!”
“เทพอมตะตะวันเดือดและฟางหยวนต่างอ้างว่าตนเองเป็นเทพอมตะ พวกเขาไม่เห็นด้วยกับฉายาเทพปีศาจ”
“เทพอมตะคือสิ่งใด เทพปีศาจคือสิ่งใด?”
“ฝ่ายธรรมะคือสิ่งใด ฝ่ายปีศาจคือสิ่งใด?”
หัวใจของกลุ่มผู้อมตะสั่นไหว
วูหยงหัวเราะ“ด้วยความขัดแย้งของเทพทั้งสามห้าภูมิภาคและสองสวรรค์จะเข้าสู่ยุคที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนหากเรายังยึดติดอยู่กับกรอบความคิดเดิมด้วยการแบ่งแยกฝ่ายธรรมะและฝ่ายปีศาจเราจะถูกกลืนกินโดยกระแสแห่งยุคสมัย!”
“พวกเจ้าไม่เห็นหรือว่าฟางหยวนไม่ได้บังคับให้สมาชิกของกองกําลังพันธมิตรทะเลปราณเข้าร่วมกับเขากองกําลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะของภาคใต้ที่ปราศจากตัวตนระดับเทพไร้ประโยชน์และไร้อํานาจอย่างสมบูรณ์เป็นไปไม่ได้ที่จะนําฝูงแกะออกไปปราบเสือที่ดุร้ายยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ไม่ถือว่าเป็นแม้แต่ฝูงแกะ”
“สิ่งเดียวที่สามารถต่อต้านเทพคือเทพเท่านั้น!”
“หนอนแมลงที่น่าสมเพชเช่นพวกเราจําเป็นต้องรักษาชีวิตรอดท่ามกลางความขัดแย้งของเหล่าเทพเราต้องทํางานหนักและดูดซับสารอาหารเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเองหากเรา ยอมรับชะตากรรมนี้ได้เราจะมีโอกาาสรอดชีวิต”
“ละทิ้งสิ่งที่เรียกว่าความภาคภูมิใจในฐานะฝ่ายธรรมะตัดพันธนาการที่เรียกว่าศีลธรรมและคุณธรรมราคาถูกลดความเย่อหยิ่งในฐานะผู้อมตะที่สูงส่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องผิวเผินและไร้ ค่าเช่นเดียวกับวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่ถูกทําลายไปก่อนหน้านี้ เทพสามารถฆ่าพวกเราทั้งหมดได้ด้วยหนึ่งลมหายใจ”
วูหยงเพิ่มระดับเสียงของเขา“ทํางานให้หนักใช้เวลาทุกนาทีและวินาทีในชีวิตของพวกเจ้าเพื่อความหวังที่จะมีชีวิตรอดในยุคที่ยิ่งใหญ่ที่น่าสะพรึงกลัวนี้!”
“ถูกต้องเราได้เรียนรู้มากมายจากคํากล่าวอันชาญฉลาดของผู้อาวุโสสูงสุดลําาดับที่หนึ่ง!”วูป่าชงวูเฉียวและผู้อมตะตระกูลวูคนอื่นๆลุกขึ้นและตอบรับอย่างจริงจังทะเลทรายตะวันตก
ฐานทัพใหญ่ตระกูลหว่าน
งานเลี้ยงพึ่งสิ้นสุดลง ในห้องโถงเหลือเพียงผู้อมตะตระกูลหว่านไม่กี่คน
ผู้อมตะระดับหก หว่านซุ้ยชิงโยนถ้วยสุราในมือลงบนพื้นด้วยความโกรธ
“พวกหน้าซื่อใจคด!พวกเขาทําให้ทะเลทรายตะวันตกขายหน้า พวกเขายังเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะที่ทรงเกียรติอยู่หรือไม่!”หว่านซุ้ยชิงตะโกนด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“ซุ้ยชิง” หว่านเสี่ยวขมวดคิ้วตําหนิเล็กน้อย
“ข้ากล่าวผิดงั้นหรือ?”หว่านซุ้ยชิงยังเต็มไปด้วยความโกรธ“เราจัดงานเลี้ยงเล็กๆทุกสามวันและงานเลี้ยงใหญ่ทุกห้าวันแต่พวกเขากลับให้คําตอบที่คลุมเครือและปฏิเสธที่จะให้คําตอบที่ชัดเจน!”
“ซุ้ยชิง!” หว่านเสี่ยวตะโกน
“ลืมมันไปซะ” เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลหว่านเปิดปากกล่าวผู้อมตะตระกูลหว่านเงียบเสียงลง
นอกฐานทัพใหญ่ตระกูลหว่านถังฟางหมิงและถังเมี่ยวบินอยู่บนท้องฟ้าและมองดวงดาวอย่างผ่อนคลาย
“การออกมาพักผ่อนบ้างเป็นการตัดสินใจที่ดี”ถังเดี่ยวยิ้ม
ถังฟางหมิงพยักหน้าด้วยความรู้สึกเดียวกัน
เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดของตระกูลถังที่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลมากที่สุดเหตุผลที่ถังฟางหมิงได้รับการสนับสนุนเพราะเขามีความสามารถพิเศษบนเส้นทางแห่งความฝัน
ครั้งนี้คนทั้งสองมายังตระกูลหว่านเพราะถังเมี่ยวน้องสาวสุดที่รักของถังฟานหมิงต้องการออกมาท่องเที่ยว
“พี่ใหญ่ ตระกูลหว่านดูแลพวกเราเป็นอย่างดี พวกเขามีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะจัดการตระกูลฟางหลังจากเจรจากับกองกําลังอื่นๆในวันนี้ ตระกูลหว่านคงผ่อนคลายลงมากท่านคิดว่ากองกําลังพันธมิตรจะถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อใด?”ถังเมี่ยวถาม
ถังฟางหมิงเผยรอยยิ้มตอบ“กองกําลังพันธมิตรต่อต้านตระกูลฟางจะไม่ถูกสร้างขึ้น”
“เพราะเหตุใด?”
ถังฟางหมิงถอนหายใจ“ตอนนี้ห้าภูมิภาคและสองสวรรค์เหมือนป่าที่มีเสือที่ดุร้ายสามตัวดวงตาของถังเมี่ยวส่องประกายขึ้น“พี่ใหญ่ ท่านหมายถึงเทพทั้งสามงั้นหรือ?”
ถังฟางหมิงพยักหน้า “นอกจากเสือสามตัวยังมีนกกระต่ายและปลาอีกมากมายตอนนี้นกตัวเล็กที่ชื่อหว่านต้องการจัดการกระต่ายตัวเล็กที่ชื่อฟางนกรู้ว่ามันไม่สามารถเอาชนะกระต่ายได้
โดยลําพังมันจึงรวบรวมนกและกระต่ายตัวอื่นโดยพยายามจ่ายค่าจ้างราคาสูงเพื่อกลั่นแกล้งกระต่ายฟาง”
“อย่างไรก็ตามกระต่ายฟางกําลังนั่งพิงเสือที่ดุร้ายไม่มีผู้ใดรู้ว่าเสือจะโกรธหรือไม่หากพวกเขาแตะต้องกระต่ายตัวนี้และทําให้เสือเคลื่อนไหวไม่ว่านกหว่านจะรวบรวมฝูงนกและกระต่ายมา
ถังเมี่ยวค่อนข้างแปลกใจ “พี่ใหญ่นี่คือเหตุผลที่พวกเขาจะไม่สามารถก่อตั้งกองกําลังกี่ตัวพวกมันทั้งหมดก็จะกลายเป็นอาหารของเสือ”
พันธมิตรงั้นหรือ?”
ถังฟางหมิงพยักหน้าและกล่าวด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม“ไม่ว่างานเลี้ยงจะยอดเยี่ยมหรือการเจรจาจะราบรื่นเพียงใดมันก็เป็นเพียงเปลือกนอกความจริงก็คือสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยเหล่านี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวหากเสือที่ดุร้ายตัวใดตัวหนึ่งเข้ามาในป่าแห่งนี้ไม่มีสัตว์ตัวใดที่
สามารถหยุดพวกมัน” ถังเมี่ยวสูดหายใจลึก“โชคดีที่ตระกูลฟางของเราติดต่อฟางหยวนมานานแล้วเราทําธุรกรรมมากมายกับเขา ในความคิดเห็นของข้าตั้งแต่วูหยงของภาคใต้ทําธุรกรรมกับฟางหยวนอย่างเปิดเผย ตระกูลถังของเขาก็สามารถ…”
“ไม่อย่างแน่นอน!” ถังฟางหมิงกล่าวตัดบท “ทุกการกระทําของท่านฟางหยวนมีความหมาย
ลึกซึ้ง เหตุผลที่เขาเปิดเผยหลักฐานการทําธุรกรรมกับกองกําลังต่างๆและผู้อมตะมากมายก่อนหน้านี้โดยไม่เอ่ยถึงตระกูลถังของเราเพราะเขากําลังปกป้องพวกเรา!”
“ตระกูลถังของเราไม่สมารถเปรียบเทียบกับตระกูลวูของภาคใต้หรือแม้แต่ตระกูลฟางเรา
เป็นกองกําลังที่อ่อนแอในทะเลทรายตะวันตก เพราะที่ตั้งของเรา เราจะถูกกองกําลังอื่นโจมตีได้อย่างง่ายดาย”
เราไม่ควรทําให้ความพยายามของเขาสูญเปล่า”
“ในเวลานี้เราไม่สามารถสร้างความโกลาหล เราควรทํางานกับท่านฟางหยวนอย่างลับๆต่อไป
“แน่นอนว่าข้อมูลที่ตระกูลหว่านพยายามสร้างกองกําลังพันธมิตรสามารถขายให้กับตระกูล
“เราสามารถมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลฟางกับท่านฟางหยวนผ่านการทําธุรกรรมฟางเพื่อผลประโยชน์ของเรา”
ของพวกเขา”
ถังฟางหมิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมาเขามีความเข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ในภาพรวมถังเมี่ยวตั้งใจฟังด้วยดวงตาส่องประกาย
แต่ในจังหวะนี้การแสดงออกของถังฟางหมิงกลับเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“พี่ใหญ่ เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“มีคนทําธุรกรรมกับท่านฟางหยวนในสวรรค์สีเหลืองอีกครั้งคราวนี้มีถึงสามคน!ท่ามกลางคนเหล่านี้มีคนภาคเหนือและภาคกลางรวมอยู่ด้วย!”ถังฟางหมิงเร่งตอบคําถามด้วยความตื่นเต้น