Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน - บทที่ 2226 เพลิงสุริยัน
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 2226 เพลิงสุริยัน
ภาคใต้
กลุ่มผู้ใช้วิญญาณห้าคนกําลังวิ่งอยู่บนพื้น
ผู้นํากลุ่มเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่เขามีใบหน้าธรรมดาแต่มีความสามารถพิเศษมันคือเซียวเยี่ยนแห่งตระกูลเฉิง
วิญญาณเคลื่อนเปลวเพลิง
เขาใช้วิญญาณเคลื่อนเปลวเพลิงในการเดินทางแต่ละย่างก้าวของเขาเปลวเพลิงจะลุกไหม้ขึ้นบนพื้น
ผู้ใช้วิญญาณสี่คนที่อยู่ด้านหลังเซียวเยี่ยนต้องกัดฟันพยายามติดตามเขาไปอย่างสุดความสามารถ
“ท่านเซียวเยี่ยน พักสักครู่เถอะพวกเราเหลือพลังวิญญาณไม่มากแล้ว” ผู้ใช้วิญญาณระดับสองกล่าว
“อืม…” เซียวเยี่ยมชะลอความเร็วแต่ยังไม่หยุดวิ่ง
ที่นี่เป็นป่าลึก หากผู้ใช้วิญญาณมีพลังวิญญาณไม่เพียงพอพวกเขาจะตกอยู่ในอันตรายผู้ใช้วิญญาณระดับสองไม่มีคุณสมบัติที่จะสํารวจป่าแห่งนี้พวกเขาขาดทั้งความสามารถและความแข็งแกร่ง
แต่ตอนนี้เซียวเยี่ยนมีภารกิจที่ต้องทํา
‘ตามข้อมูลหากช้ากว่านี้ไฟจะทําลายล้างหมู่บ้านข้าต้องรีบไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!
‘คราวก่อนข้าถูกศัตรูหลอกให้ออกไปค้นหาทรัพยากรบนเส้นทางแห่งไฟทําให้ท่านหญิงเฉิง
ซินซื่อเผชิญหน้ากับอันตรายครั้งใหญ่’
คราวนี้ข้าต้องทํางานหนักและทําภารกิจให้สําเร็จเพื่อชดเชยความผิดพลาดของข้า!’
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เซียวเยี่ยนตัดสินใจออกคําสั่ง“พวกเจ้าทั้งสี่ไปพักซะ ข้าจะไปที่นั่นก่อนพักผ่อนเรียบร้อยแล้วก็ตามข้าไป”
“รับทราบ!”ผู้ใช้วิญญาณทั้งสี่ตอบ
ความเร็วของเซียวเยี่ยนเพิ่มขึ้นจนถึงขีดจุดเขารีบเดินทางต่อทันที
ไม่กี่ชั่วโมงถัดมาเขาไปถึงจุดหมายมันเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ในการปกครองของตระกูลเฉิง“นายท่านในที่สุดท่านก็มา!หมู่บ้านของเราเตรียมสุราอาหารไว้แล้ว…” ผู้นําหมู่บ้านเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับสี่แต่เขายังแสดงออกอย่างสุภาพต่อเซียวเยี่ยน
อย่างไรก็ตามเซียวเยี่ยนกลับโบกมือปฏิเสธ“ไฟสําคัญกว่าเราต้องแก้ปัญหานี้ก่อน”ผู้นําหมู่บ้านดีใจมาก“ขอบคุณนายท่านโปรดตามข้ามากล่าวตามตรงวันนี้ข้ากังวลมาก!”
ผู้นําหมู่บ้านพาเซียวเยี่ยนไปด้านหลังภูเขา
เซียวเยี่ยนเห็นรอยแยกบนพื้นที่มีเปลวเพลิงสีขาวพุ่งขึ้นมา
“นี่คือเพลิงสุริยัน!” รูม่านตาของเซียวเยี่ยนหดเล็กลง“เพลิงสุริยันไม่ใหญ่นัก มันครอบคลุมพื้นที่ประมาณสองสามร้อยก้าวนี่ไม่เกินความสามารถของข้า”
เพลิงสุริยันเป็นเพลิงชนิดพิเศษมันเป็นทรัพยากรระดับห้าเซียวเยี่ยนรู้ว่าสิ่งนี้สามารถใช้ในการหลอมรวมวิญญาณบนเส้นทางแห่งไฟ
จากมุมมองของผู้อมตะเพลิงชนิดนี้มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งไฟและเส้นทางแห่งดวงดาว
“ข้าไม่พบเปลวเพลิงใดๆเมื่อข้าออกไปค้นหาก่อนหน้านี้แต่เมื่อข้ารับภารกิจนี้ข้ากลับพบเปลวเพลิงกองใหญ่“ท่านหญิงเฉิงซินซื่อตั้งใจมอบภารกิจนี้ให้ข้านางช่างใจดีและมีเมตตานัก’
‘เห้อ…บุญคุณนี้…’
เซียวเยี่ยนถอนหายใจอยู่ภายในเขาเข้าใจเจตนาของเฉิงซินซื่อ
เขาค่อยๆเดินเข้าไปหากองไฟ
เมื่อระยะทางสั้นลง เขารู้สึกถึงอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นเขาเริ่มโกรธโดยไม่มีเหตุผลนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกมันคือผลกระทบจากเพลิงสุริยัน ยิ่งเข้าใกล้สิ่งนี้มากเท่าใดพวกเขาก็จะรู้สึกโกรธมากเท่านั้น เซียวเยี่ยนพยายามใช้วิธีบนเส้นทางแห่งไฟของเขาเพื่อเก็บรวบรวมเพลิงสุริยัน
เขาสามารถเก็บเปลวเพลิงส่วนใหญ่สําหรับส่วนที่เหลือเขาต้องรอให้ผู้ใช้วิญญาณอีกสี่คนมาสนับสนุนแต่พวกเขาต้องรีบมา
เพลิงสุริยันจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลากลางวันแต่ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนความเร็วในการเติบโตของมันยังค่อนข้างช้า
นี่เป็นเหตุผลที่เซียวเยี่ยนรีบเดินทางมาที่นี่และทิ้งลูกน้องของเขาเอาไว้ข้างหลัง
‘ก่อนพวกเขาจะมาที่นี่ ข้าต้องจัดเตรียมบางสิ่งเอาไว้เพื่อป้องกันศัตรู’เซียวเยี่ยนเริ่มจัดเตรียมทันที
“เหตุใดจึงมีมนุษย์อยู่รอบๆ?” เซียวเยี่ยนพบว่ามีมนุษย์จํานวนมากอธิษฐานอยู่ในป่าใกล้กับกองไฟ
ผู้นําหมู่บ้านเร่งรับรองกับเซี่ยวเยี่ยนว่าจะไล่คนเหล่านั้นไป
จากนั้นผู้นําหมู่บ้านก็ชี้แจงเหตุผล
ปรากฏว่าเนื่องจากท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดเมื่อเร็วๆนี้กลางวันและกลางคืน
ไม่สามารถแยกความแตกต่าง
ดังนั้นผู้ใช้วิญญาณและมนุษย์ธรรมดาของทั้งห้าภูมิภาคจึงตกอยู่ในความหวาดกลัวคืนหนึ่งฝนเพลิงร่วงหล่นลงจากท้องฟ้า มนุษย์เหล่านี้ตกตะลึงกับปรากฏการณ์ดังกล่าวและคิดว่าสวรรค์โกรธแค้นและกําลังลงโทษมนุษย์ด้วยการเผาพวกเขาจนตายด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงคุกเข่าอยู่ที่นี่เพื่อสวดอ้อนวอนและขออภัย
“โง่เขลา!” เซียวเยี่ยนก่นเสียงเย็นแต่การแสดงออกของเขากลับอ่อนโยนมากขึ้น
เขาเข้าใจคนเหล่านี้
เมื่อท้องฟ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกเขาก็รู้สึกหวาดกลัวเช่นกันแต่จากข้อมูลของเฉิงซินซื่อเขาได้เรียนรู้ว่ามันไม่เป็นอันตรายต่อพวกเขาแม้มันจะอันตรายแต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใช้วิญญาณระดับเซียวเยี่ยนควรสนใจ
ในเวลาเดียวกัน
สวรรค์สีขาว
หรือกล่าวให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือสวรรค์สีขาวดําที่รวมตัวกัน
ห่างออกไปไม่กี่หมื่นลี้ ฟางหยวนมองดวงอาทิตย์ดวงใหญ่จากระยะไกล
ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่อย่างช้าๆไปในเส้นทางที่แน่นอนโดยเริ่มจากทิศตะวันออกไปยังทิศ
ตะวันตกก่อนจะเคลื่อนจากทิศตะวันตกกลับไปยังทิศตะวันออก มันจะทําซ้ําขั้นตอนนี้อย่างไม่รู้สิ้นสุด
เมื่อใดก็ตามที่ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่จากสุดขอบทิศตะวันออกไปถึงสุดขอบทิศตะวันตกสวรรค์สีดําาจะอยู่เหนือสวรรค์สีขาวนั่นหมายความว่าเวลาสิบสองชั่วโมงจะผ่านพ้นไป
เมื่อสวรรค์สีขาวอยู่เหนือสวรรค์สีดํานั่นหมายความว่าเวลาอีกสิบสองชั่วโมงได้ผ่านพ้นไป
ด้วยการสลับชั้นระหว่างสวรรค์สีดําและสวรรค์สีขาวทั้งห้าภูมิภาคจึงมีท้องฟ้ากลางวันและกลางคืน
ดังนั้นในการรับรู้ของมนุษย์ธรรมดาดวงอาทิตย์จะปรากฏขึ้นในเวลากลางวันเท่านั้น
ดวงอาทิตย์มีขนาดใหญ่มาก
แม้แต่เทพปีศาจจิตวิญญาณที่มีร่างกายใหญ่โตที่สุดท่ามกลางเทพทั้งสิบเอ็ดคนก็ยังด้อยกว่าดวงอาทิตย์มาก
ตอนนี้ด้วยการหลอมรวมกันของสวรรค์ทั้งสองสภาพแวดล้อมจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน
ฟางหยวนสังเกตและเห็นเมฆสีดําขนาดใหญ่ปิดกั้นเส้นทางของดวงอาทิตย์เมื่อดวงอาทิตย์
เคลื่อนที่ไปข้างหน้า เมฆสีด่าส่วนใหญ่จะสลายไป
บางครั้งประกายไฟจะหลุดออกจากพื้นผิวของดวงอาทิตย์
เปลวไฟบางส่วนกระจายอยู่ในสวรรค์สีขาวดํา บางส่วนตกลงสู่ห้าภูมิภาค
จากมุมมองของฟางหยวนการปะทะกันของเมฆสีดํากับดวงอาทิตย์เหมือนการชนกันระหว่างร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า หนึ่งคือร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความมืดและเมฆาอีกหนึ่งคือร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งไฟและแสง
“เมฆด่าจะสลายไปแต่ดวงอาทิตย์ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเช่นกันด้วยการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงนี้
ไม่แปลกใจเลยที่สวรรค์สีขาวและสวรรค์ค่าจะเกิดความโกลาหล พวกมันใกล้แตกสลายแล้ว”
เดิมทีฟางหยวนตั้งใจหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางสวรรค์ แต่เพราะกายาสวรรค์เขาจึงเปลี่ยนแผนและขึ้นมาสํารวจสวรรค์ทั้งสองที่อยู่เหนือทะเลตะวันออกกายาสวรรค์ถูกทิ้งไว้โดยเทพปีศาจปล้นสวรรค์
กายาสวรรค์สามารถค้นหาและนําฟางหยวนเข้าสู่ถ้ําสวรรค์ มันมีประโยชน์มากในสงครามชะตากรรม
กายาสวรรค์อยู่ในรูปลักษณ์ของนกกระเรียนขาเดียวที่มีขนสีขาวราวหิมะและจงอยปากสีแดง
กายาสวรรค์ถูกเก็บไว้ในสวรรค์สีขาวมาตลอดฟางหยวนไม่สามารถนํามันออกไปนี่เป็นเพราะรากฐานของมันอยู่ในสวรรค์สีขาว
ตอนนี้สวรรค์สีขาวและสวรรค์สีดํากําลังหลอมรวมกันรากฐานของกายาสวรรค์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงฟางหยวนต้องช่วยเหลือและคงสภาพร่างกายของมันเอาไว้มิฉะนั้นมันจะถูกทําลาย!