Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 129
Chapter 129 : ใจสลาย
เดฟได้ออกจากห้องกับดักและเดินไปที่ห้องที่สี่
เขาพบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่มีคันโยกบนกำแพงด้านขวาของเขา
เขาเดินผ่านประตูเข้าไปยังห้องสี่เหลี่ยมที่ไม่มีอะไรนอกจากคันโยก 7 อันที่เรียงอยู่บนกำแพง คันโยกแต่ละอันนั้นมีสีแตกต่างกันไป
” มันน่าจะเป็นที่ที่กล่องสมบัติถูกซ่อนเอาไว้ ดูเหมือนว่าจะมีประตูลับเหมือนกับทุกๆห้อง “
เขาหันกลับมาเพื่อตรวจสอบทุกตารางนิ้วของห้องก่อนจะกดไปที่กำแพง, ตรวจสอบพื้น,มองไปที่เพดานแต่ก็ไม่พบอะไรที่มีเบาะแสเลยนอกจากคันโยกทั้งเจ็ดสี
เขาใช้เวลาคิดอยู่สักพักโดยที่ไม่ได้จับอะไรเลย
เขาเห็นว่าคันโยกนั้นจริงๆแล้วเป็นสีรุ้ง 7 สีแต่ไม่ได้เรียงลำดับกัน
จากนั้นเขาก็ดึงคันโยกสีแดงที่อยู่ตรงกลางลงมา
ในตอนนั้นเขาก็ได้ยินเสียงที่ดึงขึ้นมา
โด !
เสียงมันเหมือนกับระฆัง
คันโยกถูกโยกลงไปแล้วแต่ห้องนั้นก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร
เดฟคิ้วขมวด – ” ฉันคิดว่าประตูจะเปิดถ้าเรียงลำดับสีของคันโยก “
จากนั้นเขาก็โยกที่คันโยกสีส้มต่อ
ที !
หลังจากที่เสียงจบลง คันโยกสองอันได้โยกกลับขึ้นไปตามเดินก่อนจะมีการสั่นเกิดขึ้นจากด้านบน เดฟเงยหน้าขึ้นมองและพบว่าเพดานกำลังสั่นและค่อยๆเลื่อนลงมาก่อนที่จะหยุดตัวลง
การแก้ปริศนาที่ล้มเหลวนั้นหมายถึงว่าเพดานจะค่อยๆลดตัวต่ำลงมาแล้วบดขยี้เขา
” ไม่มีทาง Alfred นายคงต้องใจสลายแล้วล่ะ “
เดฟดึงคันโยกสีแดงอีกครั้งก่อนจะมีเสียงแบบเดิมดังขึ้นก้องไปทั่วทั้งห้อง เพดานนั้นไม่ได้สั่น เขามองไปที่เพดานเพื่อความมั่นใจ จากนั้นก็มองไปรอบๆห้องเพื่อดูว่าไม่มีความผิดปกติอย่างอื่นที่ทำให้แผนการเขาเสีย
” เอาล่ะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากเสียง ฉันคิดว่ามันหมายความว่าคันโยกสีแดงเป็นลำดับแรก “
เขาลองคันโยกอีกอันแบบสุ่มๆซึ่งมันทำให้เกิดเสียงต่างออกไปจากเดิม
มันเป็นเสียงแตรเป่า
ฟา!
” ตัวโน้ต ! ” – เขาหัวเราะออกมาเมื่อรู้ถึงวิธีแก้ปัญหา จากนั้นคันโยกทั้งสองอันก็เลื่อนกลับไปยังตำแหน่งเดิมและเพดานก็ลดระดับต่ำลงมาอีก
เดฟดึงคันโยกสีแดงอีกครั้งและจากนั้นก็เลือกคันโยกแบบสุ่มเพื่อทดลองดูใหม่
เร !
” ฉันคิดถูก ! “
เขาลองสีที่เหลือและได้ยินเสียงโน้ตแต่ละเสียง เขาจำโน้ตของแต่ละสีเอาไว้ เพดานตอนนี้อยู่บนหัวเขาแค่ไม่กี่นิ้วเท่านั้น
เขาลองทดสอบความคิดแรกที่โผล่มาในหัว เขาคงไม่ต้องเล่นเพลงของโมซาสหรอกมั้ง ?
” โด เร มี ฟา ซอล ลา ที “
ห้องสั่นไหวและเพดานก็ลงมาได้เกือบครึ่งทางก่อนที่จะสั่นแล้วเลื่อนกลับขึ้นไป
ประตูที่ปลายห้องสั่นไหวก่อนจะเปิดออกแต่มันก็เปิดออกแค่เพียงไม่กี่นิ้ว
เดฟเดินไปที่ประตูแต่ไม่ได้เห็นอะไรผ่านรอยแตกนั้น
เขากลับมาที่คันโยกและดึงคันโยกสีแดงอีกครั้ง
เสียงโดดังขึ้นแต่ครั้งนี้เพดานกลับเลื่อนลงมาหาเขาและคันโยกก็ได้เด้งคืนกลับตำแหน่งเดิม
” ลำดับมันเปลี่ยนไป นี่มันเป็นแบบสุ่ม ” – เดฟเริ่มหงุดหงิด
เขาลูบหนวดตัวเองแล้วมองไปที่คันโยกพยายามหาความคิด เขาเดินกลับมาที่กำแพงและดึงคันโยกสีเขียวและมันก็ส่งเสียงทีออกมา จากนั้นเขาก็ดึงคันโยกเสียงลาและพบว่าเพดานยังคงอยู่นิ่งดังเดิม
” งั้นลำดับที่ถูกต้องตอนนี้มันกลับกันแล้ว ” – เดฟยิ้มเมื่อคิดปริศนาส่วนที่สองออก
เขาดึงคันโยกแบบสลับจากเดิมก่อนที่ประตูจะเปิดออกเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านหลัง
ประตูไม้สีแดงซึ่งมีรูกุญแจทองเหลืองปรากฏขึ้นมา
สีหน้าของเดฟหม่นลง – ” ประตูอีกบาน เยี่ยมจริงๆ “
เดฟรู้สึกว่าห้องนั้นสั่นไหวและคันโยกก็ได้หุบกลับเข้าไปในกำแพง
เขาเงยหน้าขึ้นมองและพบว่าเพดานกำลังลดระดับต่ำลงมาโดยไม่มีท่าทีจะหยุด
” เหี้ย ! ” – เดฟรีบวิ่งไปที่ประตูแดงแต่เขาไม่รู้เลยว่าจะเปิดมันยังไง เขาไม่ได้มีกุญแจ
” กุญแจ กุญแจ ! กุญแจอยู่ไหน ! ” – เขาตะโกนออกมาด้วยความกดดัน
มันไม่ได้มีอะไรบ่งบอกเลยว่าจะหากุญแจได้จากที่ไหน ! มันมีแค่ตัวล็อกโง่ๆตรงหน้าเขา
เขาพยายามลองผลักมันดู
” บ้าเอ้ย ! “
เพดานห่างจากหัวเขาไม่กี่สิบฟุตพร้อมกับฝุ่นที่ร่วงลงมา จากนั้นเขาก็เห็นรอยเล็กๆบนประตู ข้อความ ! ข้อความ เบาะแส !
” มันบอกว่าอะไร ? ” – เขาหรี่ตาลงพยายามอ่านตัวหนังสือเล็กๆตรงหน้า – ” กุญแจหายไป อุปสรรคตอนนี้คือตัวล็อค ความหวังเดียวของคุณคือ..” – มันจบลงแค่นี้ราวกับว่าส่วนสุดท้ายถูกลบออก
” แล้วมันหมายถึงอะไรวะ ! มันไม่มีกุญแจนี่หว่า ! ” – เขาเงยหน้าขึ้นมอง เพดานตอนนี้ห่างจากหัวเขาไปแค่ 6 ฟุต เขาแสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมาก่อนจะพูดขึ้น – ” ฉันยอมแพ้ “
จากนั้นก็เดินไปที่ประตูที่เขาเข้ามาในห้องนี้ตั้งใจจะออกจากห้องไป ก่อนที่เขาจะไปถึงประตู กำแพงนั้นก็ยกตัวขึ้นปิดทางเข้าเอาไว้
เดฟหน้าซีด – ” นี่ต้องล้อเล่นแน่ๆ ! Alfred แกมันเฮงซวย แกคิดจะฆ่าฉันอยู่แล้วใช่มั้ย ? ” – เขาตะโกนออกมาด้วยใบหน้าและตาที่แดงก่ำ
เขานั่งลงไปและรอให้เพดานกดทับตัวเอง ตอนนี้แม้แต่ตัวล็อคเอาท์ก็ยังใช้ไม่ได้
ในตอนที่เพดานกำลังลดตัวลงมานั้น เดฟได้สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเริ่มผ่อนคลราย ตอนนี้มันไม่ได้มีประโยชน์ที่จะดิ้นรนอีก
” ฉันเดาว่านี่คงจัดไว้ให้ฉันโดยเฉพาะสินะ ” – เขาพูดขึ้น
” แต่ปริศนานี้มันบ้าอะไร ? ” – ตอนนี้ปริศนานี้ยังวนเวียนอยู่ในหัวเขา
กุญแจหายไป อุปสรรคคือตัวล็อค ความหวังเดียวคือ…”
” ทำอะไร …? เดี๋ยวนะ มันคือปริศนา คำพูดที่หายไปคือปริศนา แล้วสิ่งที่ต้องทำกับประตูที่ล็อคคืออะไร….? “
เขาตบหน้าผากตัวเอง – ” ไม่มีทาง ! มันคงไม่ง่ายแบบนั้นใช่มั้ย ? ! “
เพดานห่างจากหัวเขาไม่กี่ฟุต เขานั่งอยู่หน้าประตู ตอนนี้ห้องมันต่ำจนเขายืนไม่ได้แล้ว
เขาต้องคลานจากประตูทางเข้า ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากแมวเลย
” กุญแจหายไป อุปสรรค์คือตัวล็อค ความหวังเดียวของเราคือ….เคาะ ! “
เดฟเคาะทันที เขาเคาะประตูอย่างต่อเนื่องด้วยหมัดของเขา
” ให้ได้ผลด้วยเถอะ ! “
ห้องเริ่มสั่นในตอนที่เขาเริ่มเคาะประตูพร้อมกับเพดานที่หยุดลง
ตอนนั้นหน้าของเขาแทบจะแนบกับพื้นแล้ว
เพดานเริ่มยกตัวขึ้น ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ประตูได้เปิดออกเองราวกับเชื้อเชิญเดฟให้เข้าไป
เดฟลุกขึ้นยืนและต้องการจะเข้าไปข้างในแต่ตอนนั้นความคิดหนึ่งก็โผล่มาในหัวเขา
” แล้วใครเปิดประตู ? “