Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 140
Chapter 140 : นักล่าที่ร้ายกาจ
ร่างชุดแดงได้มองลงมาที่เดฟและชี้ดาบมาที่เขา คลื่นดาบได้ตัดผ่านอากาศพุ่งเข้ามาใส่เขา
ทีมอันเดตได้กระจายตัวกันออกและหลบการโจมตีที่พุ่งเข้ามา พวกนั้นแค่พยายามออกนอกระยะของศัตรู
ผู้เล่นอีกคนได้แผ่ออร่าสีเหลืองออกมาพร้อมกับร่างขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นในพื้นที่ต่อสู้ ร่างนี้ดูคล้ายกับชายกำยำที่กำลังถือหอกอยู่
การปรากฏของสกิลการสืบทอดอันที่สองนี้ทำให้สถานการณ์นั้นแย่ลงไปอีก
ร่างที่สองได้ปากหอกเข้าใส่เดฟ มันลอยโค้งวนบนท้องฟ้าก่อนจะมุ่งหน้าเข้าหาอันเดตหนวดพร้อมกับเปลี่ยนเส้นทางตามการหลบหนีของ Stinger และเดฟ
” Stinger ขุดลงไป ! ” – เดฟสั่งการ Stinger ได้โน้มตัวไปข้างหน้าปล่อยให้เดฟเผชิญหน้ากับหอกที่เข้ามาพร้อมกันกันพรีสที่อยู่ด้านหลังเขา เขารอจังหวะที่หอกจะเข้ามาถึงตัวและใช้….{Bastion} เพื่อเป็นอมตะในการรับการโจมตีซึ่งทำให้หอกที่พุ่งเข้าใส่นี้หายไป
ออร่าอีกสองอันได้ปรากฏขึ้นมารอบตัวผู้เล่น
เดฟเบิกตากว้าง – ” เหี้ยเอ้ย ! นี่ทุกคนมีสกิลสืบทอดกันหมดเลยหรือไง ? “
มันยากที่จะพบกับผู้เล่นที่มีสกิลการสืบทอดสักคนหนึ่งและตอนนี้ เดฟได้เจอถึง 4 คนพร้อมกัน
” {Bastion} คูลดาวน์อยู่ ถ้าการโจมตีของการสืบทอดเข้าถึงตัวฉันได้ ฉันจบเห่แน่ ! “
ในตอนที่ออร่าอันใหม่ปรากฏขึ้นมาด้านหลังผู้เล่น เดฟก็หยุด Stinger อันเดตที่เหลือยังคงหนีออกจากพื้นที่ต่อสู้ ผู้เล่นทั้งแปดคนเริ่มเดินเข้ามาหาเขา ร่างยักษ์สี่ตัวด้านหลังได้มองมาที่เขาด้วย
แคมป์อันเดตนั้นอยู่ไกลเกินไปที่จะหวังว่าจะมีคนมาช่วยเขาได้ เดฟไม่ได้คิดว่ามันมีทางที่เขาจะเอาชนะคนพวกนี้ได้ หากไม่มีการสูญเสียครั้งใหญ่
‘Drahma ช่วยจัดการพวกนี้ได้แค่การโจมตีเพียงครั้งเดียวพวกนี้ก็ตายแล้วแต่จากนั้นฉันจะทำยังไงกับเวลาอัญเชิญ 4 ชม.ที่เหลือ ? ‘
เขาคิดที่จะเรียก Drahma ออกมาแต่มันคงดูเกินจำเป็น เขาไม่อยากเสียจำนวนการอัญเชิญไปแบบเสียเปล่า ไม่ต้องเดาเลยว่าเขาต้องเจอกับศัตรูมากกว่านี้แน่และพวกที่มาทีหลังต้องแข็งแกร่งกว่านี้ มันจะดีที่สุดถ้าเก็บการเรียก Drahma เอาไว้
เดฟมองไปที่ผู้เล่นที่เดินหน้าเข้ามาด้วยความโกรธ พวกนั้นมายุ่งกับเควสเขาและเขาไม่คิดที่จะยอมรับผลกรรมนี้
เขาคิดถึงสกิล,ไอเท็ม, กลยุทธทุกอย่างที่เขามีเพื่อพยายามหาความหวัง ไม่นานสีหน้าอันคุ้นเคยก็ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา ตอนนี้ปากของเขาได้เผยรอยยิ้มออกมา
เดฟยืนมองพวกผู้เล่นที่เดินเข้ามาพร้อมกับลูบหนวดโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเขาก็กางแขนออกแล้วตะโกนขึ้น – ” Blood Rage ! วันนี้ฉันจะแสดงโชว์ดีๆที่พวกนายจะไม่มีทางลืม ! ” – เสียงของ เดฟดังก้องไปทั่วพื้นที่เปิดและทำให้พวกผู้เล่นลังเลกันไปเล็กน้อย
จากนั้น เดฟ ก็ปรบมือเสียงดังสั่น นี่คือเงื่อนไขของการใช้สกิล
” นี่เขากำลังจะทำอะไร ? ” – พรีสในปาร์ตี้ถาม
” ฉันเองก็ไม่รู้ ฉันคิดว่าเขาพยายามหลอกเราและทำให้เรากลัว ” – ฮันเตอร์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดูถูก
“มีบางอย่างผิดปกติ ” – เบอร์เซิคเกอร์รู้สึกว่าออร่าของเขาสั่นตอบรับกับบางอย่าง คำพูดของเขาทำให้ทุกคนชะงักไป
ออร่าทั้งสี่ร่างได้เงยหน้าขึ้นมองพร้อมกัน
ผู้เล่น 8 คนมองตามออร่านั้นและก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความช็อก
บนท้องฟ้ามีไฟลุกไหม้อยู่ !
แต่มันก็ไม่เชิงเป็นไฟซะทีเดียว ท้องฟ้านั้นฉีกตัวออกจากกันและมีอุกกาบาตขนาดใหญ่ตกลงมาใส่พวกเขา ! ใส่พวกเขา !
นี่คือสกิล {Call of Chaos} ที่เดฟได้มาเป็นรางวัลสำหรับการยึดเขตสองของดันเจี้ยนโลกได้
อุกกาบาตที่มาพร้อมกับความโกรธเคืองของสวรรค์
พวกผู้เล่นพยายามที่จะหนีแต่หินขนาดเท่กับภูเขานั้นพุ่งลงมาเร็วเกินไปกว่าที่พวกเขาจะหนีได้ทัน
เดฟไม่ได้รอให้อุกกาบาตตกลงมาที่พื้น เขาได้สั่งการอันเดตของเขาให้ถอยห่างจากผู้เล่นทั้ง 8 คนและทำการวนรอบพวกนั้นมุ่งหน้าไปทางตะวันออกต่อ
ผู้เล่นทั้ง 8 ได้ใช้สกิลป้องกันของตัวเองเพื่อหวังว่าจะรอดจากภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้
การระเบิดปะทุขึ้นมาตอนที่อุกกาบาตกระแทกพื้นพร้อมกับมีเศษหินและเหล็กนับไม่ถ้วนกระจายออกมาจากศูนย์กลางการระเบิด
ดาเมจ 50,000 ได้โผล่มาที่หัวผู้เล่นเหล่านั้น
หลังจากนั้น Cao Cao ก็เป็นคนแรกที่ได้สติจากความช็อก
” หือ ? มันไม่ได้เจ็บนิ ไม่มากเท่าไหร่ “
ผู้เล่นคนอื่นต่างก็ได้สติจากความสับสน เมื่อเห็นดาเมจที่น้อยบนหัวตัวเอง พวกเขาก็รู้สึกอายขึ้นมา
ทั้ง 8 คนมีสกิลที่สามารถฟื้นฟูเลือดได้มากกว่าที่เสียไปด้วยซ้ำ
พวกเขาเลเวลมากกว่าเดฟถึง 200 เลเวล พวกเขายิ่งใหญ่หากเทียบกับเดฟ นี่ไม่ต้องพูดถึงการสืบทอดที่พวกเขามีอยู่เลย ดังนั้นดาเมจ 50,000 นี้อาจจะร้ายแรงสำหรับเดฟ แต่สำหรับผู้เล่นพวกนี้มันมองข้ามได้ ถ้าพวกเขาสู้กับบอส งั้นเรื่องราวมันคงต่างจากเดิม ผู้เล่นทั้งแปดคนได้สูญเสียเลือด 50,000 ไปในครั้งเดียวคงถือว่าเป็นภัยพิบัติและฮีลเลอร์คงไม่อาจจะทำการฟื้นฟูเลือดได้ทันแต่เมื่อสู้กับผู้เล่นเพียงคนเดียว มันคงยากที่จะถือว่านี่เป็นเรื่องอันตราย
สกิลที่เดฟใช้นั้นมีภาพจำลองที่ดูทรงพลังและน่ากลัวแต่มันก็แค่นั้น พวกเขาแค่โดนภาพนั้นหลอกเอา
เมื่อเห็นว่าเดฟหายไป พวกเขาก็ได้แต่ด่าตัวเองที่โดนหลอก !
” ไปตามล่ามัน ! ” – เบอร์เซิคเกอร์ตะโกนขึ้นมา
” ใจเย็นๆไว้ ! ทุกคนไล่ตามอันเดตนั่นไปแต่ระวังตัวด้วย ! เขาเจ้าเล่ห์ ! ” – Cao Cao สั่งการออกมา
ทั้งแปดคนพากันไล่ตามอันเดตที่หนีไป
เดฟที่อยู่บนหลัง Stinger กำลังหัวเราะอย่างกับคนบ้าพร้อมกับวิ่งหนีด้วยความเร็วเต็มที่จากการไล่ล่าของผู้เล่นทั้งแปด
กรรรร !!!!
เสียงคำรามพร้อมลมอันรุนแรงได้พัดผ่านสนามหญ้าในพื้นที่เปิด
หนวดของเดฟสะบัดพร้อมกับ Stinger ที่หยุดไปในทันที
Dunlord ทุกตัวหยุดนิ่งและอันเดตด้านหลังก็หยุดชะงักตามไปด้วย
[ผลของความกลัวนั้นไม่ได้ส่งผลต่อคุณเพราะคุณเป็นอันเดต !]
มีเงาขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาที่ท้องฟ้าและพุ่งเข้าใส่ทีมอันเดตอย่างรวดเร็ว
เดฟไม่รู้เลยว่า Dunlord นั้นกลัวอะไรแต่ Stinger นั้นกลับตัวสั่นราวกับลูกหมาตกน้ำ
เงาที่เข้ามานั้นเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เดฟเริ่มตรวจสอบว่าอะไรคือสาเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ เขาไม่ชอบความคิดแบบนี้เลยแต่เขาก็ยังตะโกนออกมา – ” มังกรรรรรร ! “