Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 169
Chapter 169 : ตอนนั้นเขารู้ว่าเขา…..
[Dragon Ball Mythic]
ร่ายบอลไฟขนาดใหญ่กวาดทุกอย่างในเส้นทางและระเบิดทำดาเมจไฟ 10,000 หน่วย + 10*Int ในพื้นที่รอบๆระเบิดทำดาเมจไฟแบบกระจาย 5,000 ในพื้นที่ระยะ 5 ม. คูลดาวน์ 20 นาที ผู้ใช้จะได้รับการลดดาเมจ 80% ในตอนที่ร่าย เวทย์นั้นไม่อาจจะรบกวนรึถูกใบ้ได้
เรียนรู้ ? Y/N
” นี่มันเหมือนกับที่เท็งงุใช่นิ ” – เดฟพูดขั้น
” นายน่าจะเรียนรู้มันไว้ เดฟ มันใช้ได้กับสกิลไฟอื่นของนาย “
” เธอไม่อยากได้งั้นเหรอ ? ” – เดฟถาม
” ไม่ ฉันไม่มีค่า Int เยอะและได้สกิลมาสองอันแล้ว “
” ก็ได้ ” – เดฟกดตอบรับและเรียนรู้สกิล
[ คุณได้เรียนรู้ 10 สกิลจากหนังสือสกิล
ถ้าคุณอยากจะเรียนรู้สกิลเพิ่มจากหนังสือสกิลอื่นๆคุณต้องทำการยกเลิกหนึ่งในสกิลที่เรียนรู้มาเพื่อเปลี่ยนสกิล
ตอนนี้คุณได้เรียนรู้สกิลจากหนังสือสกิลดังนี้ :
Aura
Call of Chaos
Demon Call
Double edged
Dragon Ball
Ray of Flames
Spectral Skull
Stampede
Twin Strike
Vertical Slash
]
เดฟไม่ได้สนใจแจ้งเตือนในตอนนั้นและเช็คหน้าจอส่วนที่สอง
[Rift Maker]
นำชิ้นส่วนนี้ไปให้กับช่างตีเหล็ก พวกเขาอาจจะรู้จุดกำเนิดของมัน
” นี่มันไอเท็มเควส มันคือคันตาน่าของเท็งงุ ” – เดฟอธิบายกับโซว์
” ใช่ แล้วไอเท็มสืบทอดล่ะ ? “
[War tengu’s Mask]
คลาสนักดาบ
เมื่อใส่หน้ากากนี้แล้วความลับจะเป็นความลับ (ไม่อาจใช้ได้ถ้าผู้เล่นอยู่ในเควสการสืบทอดอย่างอื่นแล้ว)
” ใช่ นี่เป็นไอเท็มสืบทอดและมันก็เป็นเกรด B มันน่าจะขายทำเงินได้บ้าง ” – เดฟพูดขึ้น
” ใช่ เกรดมันก็ไม่ได้สูงเกินไปแต่มีผู้เล่นหลายคนที่ต้องการมัน แล้วไอเท็มชิ้นสุดท้ายล่ะ ? มันแบบร่างของเกราะเซ็ตรึไง ? “
” ใช่ ” – เดฟเอาแบบร่างให้กับโซว์ดู
[Warrior of the East Blueprint]
Fine Blood Silk 5 กก.
Ingots Dark Steel x 15
Infernal Gargoyle’s Heart
Dark Alligator’s Leather
ระดับช่างที่กำหนด : Smith Grandmaster
” เอาล่ะ มันคือแบบร่างอีกอัน ยังไงซะ โซว์ แล้วมีข่าวอะไรเรื่องเกราะเซ็ตคริสตัลรึเปล่า “
” คนในกิลด์บอกว่าเขาหาวัสดุในการสร้างไม่ได้ เขาจะบอกฉันตอนที่มีครบทุกอย่างแล้ว “
” เอาล่ะ ฉันจะลองคิดทีหลัง ฉันอาจจะทำการสร้างบางอย่างขึ้นมาเองได้ ” – เดฟมองไปที่อันเดตที่กำลังฟื้นฟูตัวขึ้นมา – ” เอาล่ะพวก เดินหน้ากันดีกว่า ! “
เขาขึ้นไปที่หลัง Dunlord และสั่งให้อีกตัวเป็นพาหนะให้กับโซว์
โซว์ขึ้นไปที่บนหลัง Dunlord แล้วพูดกับเดฟ – ” มันถือว่าเป็นการผลาญเงินเลยนะ มันต้องใช้วัสดุและวัตถุดิบมากมายเพื่อยกระดับช่างของตัวเอง “
” ฉันมีแบบร่างเยอะจากโลกใต้ดินและมันมีวัสดุมากมายที่สามารถหาจากที่นี่ได้ ฉันยังซื้อวัสดุสร้างระดับต่ำและแบบร่างที่จำเป็นสำหรับการเพิ่มระดับช่างได้ จากนั้นตอนที่ฉันสร้างเกราะและไอเท็มของโลกใต้ดินด้วยตัวเองได้ ฉันก็สามารถขายมันได้ตามราคาที่ฉันต้องการและเป็นผู้ผลิตเพียงคนเดียวในตลาดกับเกราะเซ็ตพวกนี้ “
” นั่นถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดี ” – โซว์ให้กำลังใจเดฟ
” เฮ้ เดฟ นายว่าเราลืมบางอย่างไปรึเปล่า ?” – โซว์ถามพร้อมกับเอียงหัว
” เอาจริงๆฉันก็ไม่รู้นะ “
โซว์ดึงสายบังเหียนแล้วมองกลับไปที่ภูเขา
” เจดีย์ ! เรายังไม่ได้เช็คมันเลย! “
” เธอพูดถูก ” – เดฟเร่ง Dunlord ของตัวเองไปที่เจดีย์และสั่งอันเดตตัวอื่นๆให้อยู่กับที่ให้รออยู่ตรงนั้น
โซว์ได้ตามเดฟขึ้นไปที่ภูเขา ตอนที่ไปถึงเจดีย์แล้ว เดฟก็ได้โดดลงจากหลัง Dunlord แล้วเดินเข้าไปด้านใน
โซว์ได้เข้าไปด้านหลังและพวกเขาก็ได้พบกับที่พักของพระ มันมีธูปถูกจุดไว้และเตียงกับโต๊ะเล็กๆตั้งอยู่ด้านใน
” ว๊าว สำหรับบอสแล้วเขาอยู่ในที่ที่ดูธรรมดาดีนะ ” – โซว์พูดตลกขึ้นมา
” มันมีจดหมายอยู่ที่นี่ ” – เดฟหยิบจดหมายขึ้นมาจากโต๊ะ
มันเป็นจดหมายเก่าๆที่มีตัวหนังสือและเครื่องหมายที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
” ฉันอ่านมันไม่ได้ ” – เดฟพูดขึ้น
โซว์เอาจดหมายไปจากเดฟแล้วมองดูก่อนจะพูดขึ้น – ” มันมีบางครั้งที่ผู้เล่นจะพบกับจดหมายที่ไม่เข้าใจได้แต่เราก็สามารถเอามันไปให้กับบรรณารักษ์ให้พวกเขาถอดข้อความออกมาให้ได้ นี่อาจจะเป็นไอเท็มเควส “
โซว์ส่งจดหมายคืนให้กับเดฟก่อนที่เขาจะเก็บมันไว้
เจดีย์แห่งนี้มีสามชั้นแต่ทางเข้าชั้นบนนั้นถูกปิดเอาไว้แน่น ทั้งสองคนยอมแพ้ก่อนจะเดินออกมาจากเจดีย์แล้วกลับไปหาพวกอันเดต พวกเขาได้มุ่งหน้ากลับไปยังห้องเดิม ตอนที่ไปถึงห้องกำแพงจากทางที่เพิ่งเข้ามาตะกี้ก็ได้ปิดลงแล้วมีประตูอีกบานที่เปิดขึ้นมาเป็นห้องสุดท้าย
” งัน้เราจะเข้าไปรึวาร์ปกลับดี ? ” – โซว์ ถาม
” เราอาจจะเข้าไปดูว่ามันเป็นยังไง ถ้ามันเก่งพอๆกับเท็งงุค่อยกลับออกมา ” – เดฟพูดขึ้นแล้วพา Dunlord ที่เหลือเดินเข้าไปในประตูที่เปิดออก
ทางเดินนั้นลาดลงและพวกเขาก็ได้เดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ เดฟเห็นกระดูกกระจายตามพื้นดินอยู่ทุกระยะ ตอนที่เข้าใกล้ประตูห้องบอสนั้นพวกเขาก็ได้พบกับสุสาน กองไฟขนาดใหญ่ที่ถูกจุดขึ้นมาในห้องและที่พื้นก็มีศพเป็นร้อยๆของทหารและอัศวิน
” นี่ดูเหมือนว่าเป็นสนามรบ ” – โซว์พูดขึ้น
ศพเริ่มกระดิกและกระดูกที่ฉีกขาดออกจากตัว กระดูกนั้นขยับไปมาราวกับมีด้ายที่มองไม่เห็นคอยชัก พวกนั้นเริ่มก่อตัวเองเข้าหกากันสร้างกองกระดูกขนาดใหญ่ขึ้นมา
” ฉันไม่ชอบที่มันเป็นแบบนี้เลย ” – เดฟพูดขึ้น
” นายเป็นอันเดตไม่ใช่รึไง มันไม่น่าจะเป็น โอ้พระเจ้า ! ” – โซว์กรีดร้องออกมา กระดูกที่ศพทุกศพได้ฉีกขาดออกจากร่างกายเดิมแล้วไปต่อรวมกันสร้างโครงกระดูกขนาดใหญ่ขึ้นมา โครงกระดูกนี้สูงอย่างน้อย 50 ม.ตอนที่มันลุกขึ้นยืน มันเริ่มที่จะขยับกรามไปมา มันทำราวกับฟันนั้นยังไม่เข้าที่
[Gashadokuro]
เลเวล : 500
ระดับ : Mythic
ความอันตราย : ???
HP : 1,000,000
ดาเมจ : 60,000-80,000
ลดดาเมจ : 80,000
ดูดซับเวทย์ : 10,000
สกิล :
{Invisibility : สามารถที่จะหายตัวได้ช่วงเวลาหนึ่ง การโจมตีต่อไปหลังจากที่หายตัวหมดลงนั้นจะทำให้เป้าหมายตายทันที ( การโจมตีนี้ไม่ได้รับจากระดับภัยและจะโจมตีแบบสุ่ม )
{Indestructible : สำหรับเลือดทุกๆ 10% ที่เสียไปนั้นมันจะเข้าสู่ช่วงอมตะ 60 วินาที สกิลและเวทย์ไม่อาจจะทำดาเมจได้และต้านทานสกิลควบคุมทุกอย่าง }
{Bone Explosion : ระเบิดร่างกายบางส่วนทำดาเมจ 50,000 แบบ AOE }
คำอธิบาย
Gashadokuro เป็นสิ่งมีชีวิตยามค่ำคืน พวกมันถูกสร้างขึ้นจากร่างกายของคนตายที่เต็มไปด้วยความแค้นหลังจากที่ตายไปแล้ว บอกกันว่า Gashadokuro สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ผ่านการดื่มเลือดของเหยื่อ มีแค่ Omyouji ที่สามาถไล่มันไปได้ด้วยการใช้บทสวดเก่าๆ
” เอาล่ะ ฉันเดาว่ามันยังไม่สายไปที่จะวาร์ปหนี ไปจากที่นี่กันเถอะ ” – โซว์พูดขึ้น
” ฉันเดาว่าเธอพูดถูก เราไม่ได้มีพลังที่จะไปสู้กับมันได้ ” – เดฟพูดขึ้น
โครงกระดูกเอียงหัวเมื่อเห็นอันเดตที่เดินเข้ามา
” โอ้ มันมาแล้ว ! ” – โซว์พูดขึ้นแล้วดึงบังเหียนและรีบถอยกลับไป
ปากของโครงกระดูกอ้ากว้างก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงที่น่ากลัว – ” พวกแก พวกแกมาถึงที่นี่ได้ยังไง ? “
‘ มันไม่โจมตีเรา… ‘ เดฟรวบรวมความกล้าแล้วพูดขึ้นมา – ” เราจากโลกภายนอก มาจากดินแดนอันเดต “
” อะไรคือดินแดนอันเดต ? ” – โครงกระดูกพูดพร้อมกับเข้ามาใกล้ทั้งสอง มันมองมาที่พวกเขาซึ่งดูเป็นฉากที่น่ากลัวแต่ไม่ได้โจมตีเข้ามา
เดฟเงยหน้าขึ้นมองแล้วตอบช้าๆ – ” มันเป็นที่ที่มีอันเดตมากมายพักอาศัยอยู่ เหมือนกับฉันและพวกคนที่มากับฉัน “
” ฟังดูแล้วเป็นที่ที่ดี…ฉันอยากจะเห็นมัน ฉันได้ถูกขังไว้ที่นี่มานานแล้ว นานมากๆ “
” อะไรที่หยุดนายไว้ ? ทำไมไม่ออกจากที่นี่ไปซะ ? ” – เดฟถาม
” ผู้พิทักษ์ Raijin กับ Fujin พวกนั้นปกครองที่นี่และเราต่างก็เป็นทาส ” – โครงกระดูกพูดขึ้น
” ไม่ ตราบใดที่นายเป็นอันเดต มันไม่มีใครปกครองอันเดตนอกจาก Undead King ” – เดฟพูดขึ้น
” ใครคือราชาคนนั้น ? ” – โครงกระดูกเริ่มมีท่าทีสนใจในเดฟและเรื่องที่เขาเล่าให้ฟัง
” เขาเป็นราชาที่ดีและมีเกียรติ เขาปฏิบัติต่อคนของเขาด้วยความยุติธรรม ทุกคนน่ะมีอิสระทำได้ตามต้องการและไม่มีใครที่ถือว่าเป็นทาส “
” ราชาที่ดี ” – โครงกระดูกพูดขึ้น – ” ฉันขอเป็นพวกกับเขาได้รึเปล่า? ฉันหวังว่าจะไม่ต้องใช้ชีวิตอมตะในกรงที่หาทางออกไม่ได้นี่ “
เดฟตะลึง เขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอีกฝ่ายยังไง
[ คุณได้สร้างความสนใจให้สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งมาร่วมมือด้วย ดินแดนอันเดตจะรับพันธมิตรในนามของคุณ ตัวตนที่คุณรับมานั้นแข็งแกร่งเกินไปสำหรับทีมของคุณในตอนนี้
ตัวตนนี้จะอยู่ระดับ Doom Knight
คุณได้รับรางวัล +100,000 คะแนนสำหรับการรับพันธมิตรที่แข็งแกร่งเข้ามาให้กับอันเดต]
” สวย ! ” – เดฟพูดขึ้น
โครงกระดูกเริ่มหายไปจากห้องและมีไอเท็มชิ้นหนึ่งตกลงมาจากจุดที่มันยืนอยู่
[Stone Tablet]
” งั้นเราก็ได้แต่จารึกไม่ได้ของอย่างอื่น ” – โซว์ พูดด้วยท่าทีสลด
” มันดีกว่าไม่ได้อะไร ” – เดฟตอบกลับแล้วได้รับแจ้งเตือนสองอันหลังจากที่พูดจบ
[หนึ่งในทีมของคุณได้เปลี่ยนบางคนให้เข้าร่วมกับดินแดนอันเดต +50,000 คะแนน]
[หนึ่งในทีมของคุณได้เปลี่ยนบางคนให้เข้าร่วมกับดินแดนอันเดต +50,000 คะแนน]
” ว๊าว ฉันคิดว่า Bud กับ Dog จะรับคนเข้าดินแดนอันเดต “
” นายหมายความว่ายังไง ? ” – โซว์ถาม
” ฉันเพิ่งได้รับแจ้งเตือนมาว่าพวกนั้นได้เปลี่ยนอันเดตเข้าฝ่ายเราและได้รับรางวัลสำหรับเรื่องนั้น “
” นายคิดว่าห้องพวกนั้นจะมีบอสแบบเดียวกันรึเปล่า ? ” – โซว์ถาม
” ใช่ บางทีน่ะนะ เอาล่ะ เราควรจะไปพบกับพวกนั้นในไม่ช้าจากนั้นก็จะรู้เอง “
ทั้งสองได้ทำการค้นหาตามพื้นที่สนามรบแต่ก็ไม่ได้พบอะไรน่าสนใจ พวกเขาเดินออกจากห้องกลับมายังห้องหลัก ตอนที่ไปถึงที่นั่นประตูก็ได้ปิดลงและทั้งห้องก็ได้สั่นพร้อมยกตัวขึ้น เพดานนั้นเปิดออกให้พวกเขาเข้าไปยังพื้นที่ใหม่ มันเป็นลานขนาดใหญ่ที่มีประตูเพียงแค่บานเดียว ด้านหลังประตูนั้นมีอีกห้อง เดฟเห็นว่ามี Dunlord และอันเดตตัวอื่นๆรอพวกเขาอยู่ที่นั่น มันคือทีมอันเดตที่เหลือของเขา
” ดี พวกนายผ่านมันมาได้ ! “- เดฟดีใจในตอนที่กลับเข้าไปรวมกลุ่ม เขารีบนับจำนวนดูและพบว่าเขามี Dunlord 33 ตัวและอันเดต 350 ตัวที่เหลืออยู่
พาราดินสองคนได้ตายไปและเหลืออยู่แค่ 11 คน
Bud ได้เดินเข้ามาหา เดฟและส่งจารึก 4 อันและรูน 2 ชิ้นให้กับเดฟ
[Beast Rune]
เพิ่มดาเมจที่ทำและได้รับ 1% สำหรับทุกๆ 30 วินาทีในการต่อสู้
[Sanguine Rune]
เพิ่มผลการเลือดออกให้กับอาวุธมีคม
การโจมตี 5 ครั้งแบบต่อเนื่องนี้จะทำดาเมจ 1% ของเลือดเป้าหมายตอนนั้นเป็นดาเมจเลือดไหล
” ขอบคุณมาก Bud ! ” – เดฟขอบคุณผีดิบ
” ฉันเดาว่าเราคงโชคดีที่มีหนังสือสกิลมาด้วย “- โซว์พูดขึ้น
” หนังสือ…Spark เอาไป….บอกว่าบอสไม่คิดมาก อันเดต แข็งแกร่ง…เขาให้ Dog 1 อันและฉันหนึ่งอัน…บอสไม่โกรธ ? “
เดฟคิ้วขมวด ‘ อันเดตเรียนรู้สกิลจากหนังสือสกิลได้ด้วยเหรอ ? ‘
เดฟมองไปที่ Spark แล้วเห็นว่าอันเดตนั้นได้พลิกหน้าหนังสืออย่างรวดเร็ว
” นายทำอะไร Spark ? ” – เดฟถาม
อันเดตหยุดพลิกหน้าหนังสือแล้วปิดหนังสือด้วยมือข้างเดียว เขามองมาที่เดฟแล้วพูดขึ้น – ” หัวหน้า ฉันคิดว่า Bud ต้องการใช้หนังสือสกิลที่เราได้มาเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง ฉันหวังว่าหัวหน้าจะยกโทษให้เพราะนี่เป็นวิธีทางเดียวที่เราจะรอดได้ “
” โอ้ งั้นนายก็พูดได้แล้ว ค่อนข้างคล่องด้วยแต่บอกฉันทีว่าทำไมนายถึงบอกให้ Dog ใช้หนังสือสกิลที่เขาพบ ? เท่าที่ฉันเห็นนะเขามาถึงที่นี่ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือสกิลเลยนิ “
” Dog พบหนังสือสกิลที่เกี่ยวข้องกับแส้ “
ในตอนที่เดฟหันกลับไปหา Dog มันก็ได้ซ่อนแส้ไว้ด้านหลังแล้วหันหน้าหนีทันที
เดฟ คิ้วขมวด
” ไม่เป็นไร การเอาสกิลทั้งหมดมาให้ฉันก็ไม่ใช่เรื่องดี การที่ลูกน้องเรียนรู้สกิลและใช้มันในการช่วยฉันในการต่อสู้มันก็คงดีกว่ามาก ” – เดฟบอกกับโซว์
ทีมอันเดตที่เหลือนั้นได้เดินหน้าเข้าไปยังประตูที่มีเพียงบานเดียวบนเวที มันดูเหมือนกับประตูที่พวกเขาเข้ามาในดันเจี้ยน ประตูนี้ได้เปิดเผยสิ่งที่อยู่ด้านในมัน มันเผยให้เห็นห้องโดมขนาดใหญ่ที่มีรูปปั้นพระและนักรบตะวันออกสลักไว้ที่กำแพง ในตอนที่อันเดตตัวสุดท้ายเข้าห้องมา ประตูนั้นก็ค่อยๆปิดลงและเสียงของปิศาจหัวเราะก็ดังก้องไปทั่ว
สายฟ้าและพายุได้พัดพาเข้าใส่ลานเผยให้เห็นสิ่งมีชีวิตขนาดเท่ากับ Drahma สองตัว พวกมันคือตัวที่พวกเขาเห็นตรงทางเข้าดันเจี้ยน ครั้งนี้พวกมันไม่ใช่รูปปั้นแต่มีเนื้อหนัง, กล้ามเนื้อและกระดูก…
ตอนที่โซว์ได้เห็นเลเวลของมันแล้วปากของเธอก็อ้าค้างแล้วพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก – ” ดะ เดฟ…ฉันคิดว่ามันได้เวลาใช้คัมภีร์วาร์ปแล้ว “
” ใช่ เรื่องนั้น…” – เดฟเงยหน้าขึ้นมองมอนเตอร์ทั้งสองตัวแล้วพูดขึ้น – ” ฉันลองดูแล้ว พื้นที่นี่กันการวาร์ปน่ะ….”