Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 170
Chapter 170 : That is gonna bruise tomorrow…
[Raijin]
เลเวล : 750
ระดับ : Holy
ความอันตราย : ตายแน่นอน
HP : 25,000,000
ดาเมจ : 150,000-200,000
ลดดาเมจ : 400,000
ดูดซับเวทย์ : 400,000
สกิล :
{Lighting Aura : สายฟ้ารอบตัวปกป้อง Raijin สุ่มทำการโจมตีออกจากออร่าโดยทำดาเมจโดยตรง 10% ของเลือดทั้งหมดที่เป้าหมายมีรวมถึงทำการสตันท์เป้าหมาย 5 วินาที ระยะเวลาสกิลนั้นจนกว่าจะยกเลิก }
{Thunder Drum : โจมตีด้วยกองรอบตัวเรียกสายฟ้าลงมา ตอนที่สายฟ้าโจมตีลงที่พื้นรึเป้าหมายนั้นจะทำให้เกิดผลมึนงงและตาบอด }
{El Thor : ท่าไม้ตายที่เรียกเอาสายฟ้าที่ทรงพลังลงมาฆ่าเป้าหมายทันทีที่โดน ไม่ว่าจะใช้สกิลอะไรในการป้องกันตัวเองก็ตาม การโจมตีนี้สามารถหลบได้แต่ไม่อาจจะกันรึป้องกันได้ }
{Brother of Storm : ถ้าพี่น้องคนใดคนหนึ่งตาย ตัวที่เหลือนั้นจะเข้าสู่โหมดคลั่ง ผู้เล่นมีเวลา 1 นาทีในการฆ่ามอนสเตอร์อีกตัวไม่งั้นแล้วฝ่ายโจมตีทุกคนจะตายทันที }
คำอธิบาย : Raijin บุตรแห่งสายฟ้า หนึ่งในสองพี่น้องที่มักจะถูกเรียกว่าบุตรแห่งพายุ เขาได้รับพลังในการมองเห็นอดีต, ปัจจุบันและอนาคต
[Fujin]
เลเวล : 750
ระดับ : Holy
ความอันตราย : ตายแน่นอน
HP : 25,000,000
ดาเมจ : 150,000-200,000
ลดดาเมจ : 400,000
ดูดซับเวทย์ : 400,000
สกิล :
{Flesh Tearing Wind: สร้างพายุขึ้นรอบตัว ลมนั้นจะค่อยๆลดเลือดศัตรูลง 1% ทุกๆวินาที ระยะเวลาสกิลนั้นจนกว่าจะยกเลิก }
{God of Wind Palm Strike : หมัดแห่งธาตุ ทำดาเมจ 200% ในพื้นที่รูปกรวย }
{God’s Wrath : เลือกเป้าหมายแล้วกระทืบเท่าทำดาเมจ 100% เป็นรูปกรวย เป้าหมายในพื้นที่นั้นจะถูกโยนขึ้นไปในอากาศ เป้าหมายหลักจะโดนโจมตีซ้ำตอนที่อยู่ในอากาศ ผลจากการโจมตีซ้ำนี้จะทำให้เป้าหมายตายทันที }
{Brother of Storm : ถ้าพี่น้องคนใดคนหนึ่งตาย ตัวที่เหลือนั้นจะเข้าสู่โหมดคลั่ง ผู้เล่นมีเวลา 1 นาทีในการฆ่ามอนสเตอร์อีกตัวไม่งั้นแล้วฝ่ายโจมตีทุกคนจะตายทันที }
คำอธิบาย : Raijin บุตรแห่งลม บอกกันว่าเขาคือคนสร้างพายุขึ้นมาทำให้เรือมากมายต้องจมลงไป
” ใช่ ฉันเดาว่าเราจบแล้ว ” – โซว์ พูดขึ้น – ” นอกซะจากว่านายจะเรียก Drahma ออกมาได้ ? “
” ฉันทำได้แต่พวกนี้ก็คงฉีกเขาเป็นชิ้นๆ “
พวกนั้นเดินไปดูยักษ์ทั้งสองตัวเพื่อหาทางแก้ปัญหา
” นายเห็นประตูด้านหลังพวกนั้นรึเปล่า ? ” – โซว์ชี้
” รูนั่นเหมือนพอดีกับจารึกที่เราเก็บมาเลย ” – เดฟตอบกลับ
” นายพูดถูกแต่มันอยู่ที่ใจกลางเขตความโกรธของพวกนั้น “
” เราลองใช้เหตุผลกับพวกนั้นดู๖…” – เดฟเสนอขึ้นมา
” นายคิดว่ามันจะได้ผลเหรอ ? “
เขายักไหล่ – ” ใครจะไปรู้ มันใช้ได้ผลกับโครงกระดูกตะกี้มาแล้วนิ “
เขาเร่ง Dunlord ให้เข้าไปใกล้กว่าเดิม ในตอนที่ Dunlord เข้าไปในระยะความโกรธของยักษ์ เดฟ ก็ได้พูดขึ้น – ” ฉันมาละ — ” – ประโยคถูกขัดด้วยการที่ Raijin นั้นเปลี่ยนร่างเป็นสายฟ้าแล้วหายตัวไป
” เหี้ย ! ” – เขาได้ใช้ {Vertical Slash} เพื่อกระโดดออกมาจากหลังของ Dunlord
Raijin โผล่มาตรงหน้า Dunlord แล้วโจมตีเข้าใส่ เสียงนั้นดังก้องไปทั่วทั้งห้องพร้อมกับสายฟ้าที่ระเบิดออกมาจากมือของ Raijin มันไม่มีอะไรเหลืออยู่ตรงนั้นเลยนอกจากเศษเสี้ยวของสายฟ้า
” Dunlord ยังแค่ทีเดียวเลย ” – เดฟ เริ่มลน
Fujin ได้พุ่งมาหาอันเดตและยื่นมืออกมา ลมรูปร่างเหมือนกับฝ่ามือได้ระเบิดออกมา Dog นั้นอยู่ในเส้นทางการโจมตีพอดี
Dog ตบไปที่หลังกิ้งก่าก่อนที่กิ้งก่าจะหายไป เขาไม่ได้มีเวลาที่จะหลบการโจมตีที่เข้ามา ดังนั้นเขาจึงบ่นบางอย่างที่ไม่อาจจะเข้าใจได้แล้วรับการโจมตีนั้นไว้ ลมได้อัดเข้ามาที่พวกอันเดตแล้วเป่า Dog และอันเดตด้านหลังทุกตัว
” เหี้ย ! นี่ต้องเสียขากับแขนไปบ้างล่ะในการเรียกพวกนี้กลับมา ” – เดฟบ่น
เดฟมองไปยังแผงจัดการอันเดตเพื่อส่งอันเดตกลับไปยังดินแดนอันเดตเหมือนกับที่ Dog ได้ทำแต่เขาก็ไม่พบอะไร
Raijinยืนบิดขาเข้าหากันแล้วประกอบมือในท่าสวดมนต์ สายฟ้าขนาดเท่ากับท่อนซุงได้ผ่าลงมาที่โซว์ เธอได้ใช้ {Ice Dome} เพื่อที่จะยื้อชีวิตตัวเองแต่ตอนที่แสงนั้นหายไป ส่วนที่เหลืออยู่ก็มีเพียงแค่หลุมเท่านั้น
ไม่มีทางเลยที่เดฟจะรอดจากเรื่องนี้ไปได้แต่เขาต้องการดูว่าสกิลของสองตัวนี้เป็นยังไงและรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดสำหรับครั้งหน้าในการลงดันเจี้ยนนี้
เดฟรู้สึกว่าลานนั้นสั่นไหว ตอนที่เขาหันกลับมาแล้วพบว่าFujinนั้นกำลังพุ่งมาทางเขา ยักษ์นั้นได้ต่อยเสียคางเดฟ แต่หมัดนั้นไม่ได้ถูกตัวเขาโดยมีแต่ลมที่ยกตัวเขาขึ้น เดฟได้ใช้ {Bastion} เพื่อกันดาเมจจากลม
Fujinกระทืบพื้นและมีลมก่อตัวขึ้นมาที่ใต้เท้าแล้วยกตัวเดฟขึ้นไปเผชิญหน้ากับยักษ์ มือของFujinนั้นพร่ามัวตอนที่ทำการโจมตีนับพันครั้งออกมา แรงของแต่ละการโจมตีนั้นพุ่งผ่านเดฟไปแล้วระเบิดออกที่ด้านหลังเขาเป่าไปทั่วทั้งห้อง แรงที่พัดขึ้นตัว เดฟขึ้นมานี้พัด เดฟขึ้นไปในอากาศซ้ำๆ Fujinยกเข่าขึ้นสูงแล้วเตะลงมาที่เดฟ
เดฟถูกอัดเข้ากับพื้นราวกับลูกบอล ตอนที่เด้งกลับขึ้นไปนั้นเขาก็ได้ไปเผชิญหน้ากับยักษ์อีกครั้ง ตอนนี้เขาพบว่ายักษ์กำลังทำท่าคลื่นเต่าอยู่
ตาของเดฟเปิดกว้างเมื่อเห็นแบบนั้น – ” คลื่นเต่ารึไง ? “
ลมได้ไปรวมตัวกันที่มือของFujinและพุ่งออกมาเข้าใส่เดฟ
[ คุณตาย ! ]
[ คุณจะเกิดใหม่ที่สุดสานที่ใกล้ที่สุดกับประตูวาร์ปในครั้งที่แล้วที่คุณใช้ ]
เดฟโผล่มาในป่าที่เต็มไปด้วยหลุมศพ น่าแปลกใจที่มีแสงเสียดแทงต้นไม้ส่องมายังสุสานนั้น มันเป็นตอนกลางวัน
” นี่ไม่ใช่โลกใต้ดิน “
เดฟเปิดแผนที่ เขาอยู่ในสุสานของ Moria เขาได้ทำการโทรหา โซว์
” เฮ้ โซว์ เธออยู่ไหน ? “
” ฉันถูกส่งกลับมาที่สุสานของเมือง Devi บอสนั่นโคตรเก่งเลย ….นายเห็นเลือดพวกมันมั้ย ? แล้วสกิลล่ะ ? เราจะสู้กับพวกมันยังไง ? “
” ฉันไม่คิดว่าเราควรกลับไปที่ดันเจี้ยนนั้น อย่างน้อยก็สักพัก เราลองเก็บเลเวลที่อื่นดูก็ได้ ” – เดฟพูดขึ้น
” ได้ ฉันต้องไปซ่อมธนูแล้วก็ยังต้องเอาของไปขาย ฉันจะไปเจอนายในอีกครึ่งชั่วโมง “
” ได้ ฉันจะรอ บอกฉันมาละกันก่อนที่จะใช้คัมภีร์วาร์ป ” – เดฟตัดสายแล้วนั่งทำการฟื้นฟูเลือดของตัวเอง
เขาดื่มยาฟื้นฟูและเปิดหน้าต่างจัดการ
” เหี้ย มันมีอันเดตที่ต้องเรียกกลับมาเยอะจริงๆ แม้แต่พาราดินกับพรีสก็ตายไปด้วย ” – เดฟบ่นออกมา
” เดวิดรัสเตอร์ ?”
เดฟตกใจและลุกขึ้นยืนหันไปหาคนพูด อีกฝ่ายนั้นเรียกชื่อเขา ไม่ใช่ชื่อตัวละครในเกมแต่เป็นชื่อจริงของเขา
” เหี้ย ! เธออีกแล้วเหรอ ? ทำไมเธอไม่ไปไกลๆฉันซะ ? “
ผู้หญิงที่พูดนั้นสวมเกราะหนังสีขาว เธอเป็นนักฆ่าขององค์กรหนึ่งที่ชื่อ….Mercy
“เดี๋ยวก่อน รอก่อน ได้โปรด ” – เด็กสาวพูดขึ้นแล้วค่อยเดินเข้าหา เธอยังเลเวลสูงกว่าเขาและเขาก็ไม่ได้มี Gale กับ Orn มาคอยปกป้องเขาด้วย ถ้า Mercy ต้องการที่จะฆ่าเขา มันคงไม่ยากสำหรับเธอที่จะทำแบบนั้นแต่มันได้มีประโยชน์ในการฆ่าเขา การเปิดอีเวนต์ตอนนี้ไม่ได้ขึ้นกับการกระทำของตัวละครอีกต่อไปและตอนนี้เดฟก็สามารถสนุกกับดินแดนอันเดตได้ตามต้องการแต่เธอยังไม่รู้เรื่องนี้
” เธอต้องการอะไร…คุณเจ้าหญิง? ” – เขาเน้นคำสุดท้าย
” ฉันคุยกับพ่อแล้วและเขาก็คุยกับไอ้โง่สองคนที่เขาส่งไป ‘ขอบคุณ’ สำหรับการช่วยเหลือของนาย ฉันมาที่นี่เพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงบาลวันนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น “- เธอพูดขึ้น
” ขอโทษน่ะไม่รับไว้หรอก ไปไกลซะ ” – เดฟตอบกลับ
” นายเลิกทำแบบนั้นกับฉันได้รึเปล่า ! “- เธอเริ่มตะโกนขึ้นมาซึ่งตัดกับบุคลิกของเธอ
” นายเป็นบ้าอะไรกันแน่ ? ” – เธอพูดต่อ
” ฉัน ? ฉันเป็นอะไร ? ” – เดฟต้องการที่จะระเบิดออกมาแต่เขาก็หยุดตัวเองก่อนจะตอบกลับ – ” ไม่ต้องมายุ่งกับฉันหรอก ฉันไม่ต้องการยุ่งอะไรกับเธอ…”
” มันเป็นความผิดฉันเอง ฉันสาบาน ! มันควรจะเป็นการขอบคุณ พวกนั้นไม่ควรขู่นาย พวกนั้นควรที่จะช่วยเหลือนายและมันไม่เกี่ยวกับเงินสองหมื่นนั่นหรอก มันเหมือนกับการดูถูก ! “
เดฟ แสดงสีหน้าเย็นชาออกมาแล้วไม่อาจจะใจเย็นอยู่ได้
” ฉันไม่สน ! “
” นายทำเหมือนพวกงี่เง่า พ่อบอกฉันให้มาคุยกับนาย เขาต้องการพบนายและเชิญนายไปกินมื้อเย็น ” – เธอพูดขึ้น
เดฟ ถึงกับผงะไปเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น – ” ทำไมฉันต้องไปเจอกับหัวหน้ามาเฟียด้วย ไม่ต้องเอาเรื่องเจ้าพ่อมาขู่ฉันหรอก ฉันรู้เรื่องหรอกน่า “
” ใช่ เขาเป็นหัวหน้ามาเฟียกลุ่มเรา แม้แต่ซิลวาน่าก็ปกป้องนายไม่ได้ถ้าเราต้องการที่จะจัดการกับนาย ” “
นี่ใช่คำขู่รึเปล่า ? เดฟถึงกับขมวดคิ้ว
Mercy นั้นทำตัวเป็นโกรธเมื่อเห็นสีหน้าเขา – ” นายมีปัญหาอะไร ? เราพยายามของโทษและจัดการเรื่องระหว่างเราให้ดีขึ้น “
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดออกมาอย่างใจเย็น- ” เราไม่ใช่คนแบบที่นายคิด เราจะได้เจอกันอีกในไม่ช้า “
จากนั้นเธอก็หายไป
อารมณ์ของเดฟดูสับสนหลังจากทีเธอหายไป เขาไม่ได้รู้สึกผิดกับการที่ดึงเธอออกมาจากรถในตอนนั้น ชีวิตคนน่ะสำคัญแต่การทำดีของเขากลับมาทำให้เขาต้องมีปัญหา