Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 177
Chapter 177 : เดาสิว่าใครกลับมา
พวกเขาเดินตามทางไปรอบๆและสู้กับโกเล็มน้ำแข็งที่เจอ
หลังจากที่สู้กับโกเล็มตัวแรกมา เดฟก็คิดว่าโกเล็มนั้นฆ่าได้ง่ายและให้ xp เยอะ แต่เมื่อเขาสู้กับโกเล็มอีกตัวเพียงลำพัง มันก็ยากจนเหลือเชื่อที่จะหาแก่นของมัน ตอนนั้นเดฟก็โชคดีทำแขนมันแตกออกเผยให้เห็นแก่นที่ฝังไว้ด้านในได้แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำลายมันนั้นโกเล็มก็เปลี่ยนแก่นไปไว้ที่อื่นแล้วซ่อนมันไว้อีกครั้งซึ่งยื้อการต่อสู้นี้ให้นานออกไปอีก
สิ่งที่ทำให้เดฟหงุดหงิดมากที่สุดคือคำพูดของชายแก่ ทุกครั้งที่เดฟไม่อาจจะทำลายแก่นของเกเล็มได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ชายแก่ก็จะเริ่มเยาะเย้ยเขา เดฟเถียงไม่ได้เพราะชายแก่เพียงโจมตีครั้งรึสองครั้งก็ฆ่าโกเล็มได้แล้ว ตอนที่ชายแก่สู้นั้นเขาจะโดดขึ้นแล้วแทงหอกออกไปสองครั้ง การโจมตีครั้งแรกเพื่อทำลายน้ำแข็งที่ปกคลุมแก่นเอาไวและการโจมตีครั้งที่สองก็เพื่อทำลายมัน มันเหมือนกับชายแก่รู้ว่าแก่นนั้นอยู่ที่ไหน
ใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าพวกเขาจะไปสุดทางเดินที่ซึ่งพวกเขาได้เห็นประตูเหล็กกันทางเอาไว้อยู่
” นี่คือทางเข้าดันเจี้ยน ” – ชายแก่พูดขึ้นมาเบาๆ
” แล้วยังไงต่อ ? เราจะเข้าไปยังไง ?” – เดฟถาม
ชายแก่ไม่ได้ตอบและค่อยๆเดินไปที่ประตู เขาก้มตัวลงแล้วใช้หอกแตะไปที่แท่งเหล็กอันหนึ่งที่ประตู ประตูนี้ได้ส่งเสียงเสียดสีกันแล้วดีดตัวขึ้น ชายแก่เดินเข้าไปพร้อมกับบอกพวกเขาให้เดินตามเข้าไปด้วย
[คุณได้พบดันเจี้ยนใหม่ : Frozen Abyssal
มอนสเตอร์ตัวแรกที่ถูกฆ่าในดันเจี้ยนจะดรอปของที่ดีที่สุด
xp ทั้งหมดเป็นสองเท่า 7 วันในดันเจี้ยน (เวลาในเกม) ]
” ของที่ยังไม่ได้ถูกแย่งไปกับดันเจี้ยนที่ยังไม่รู้จัก หายากแหะ ดันเจี้ยนส่วนมากอยู่ในพื้นที่เปิดซึ่งพวกกิลด์ใหญ่ยึดไปแล้ว ” – เดฟแปลกใจ
” นี่เป็นดันเจี้ยนแห่งความตาย เควสสืบทอดน่ะยังไงก็อันตราย เมื่อผู้ถือเควสทำเควสเสร็จแล้วบอสมันก็จะไม่เกิดอีก ” – โซว์พูดขึ้นแล้วเดินตามชายแก่ไป
ถัดจากประตูนั้นเป็นทางเดินหินยาว ในตอนที่พวกเขาเดินไปตามทางเดินนั้นแสงมันจะสลัวลงในทุกๆก้าว ทางเดินนี้มีทางแยกที่เหมือนกับเขาวงกต ชายแก่ไม่ได้คิดอะไรมากและเดินนำพวกเขาไปด้านหน้าเรื่อยๆ
ทางเดินนี้มีห้องขังอยู่ข้างๆ กรงห้องขังนั้นเป็นสนิมและพังไป พวกที่อยู่ด้านในคือศพของทั้งมนุษย์และมอนสเตอร์ที่ถูกแช่แข็ง
สายตาอันเดตทำให้เขามองเห็นที่มืดได้ราวกับมันเป็นตอนกลางวันแต่กับชายแก่นั้นไม่ได้เหมือนกัน เขาได้จุดตะเกียงที่ห้อยไว้ตรงเอวขึ้นมาก่อนที่แสงสีฟ้าจะส่องสว่างพื้นที่รอบตัวเขา
” มันไม่เสี่ยงรึไงที่ใช้ไฟ ?” – เดฟถามด้วยท่าทีระวัง
” นายไม่รู้อะไรเลย ! นี่คือไฟน้ำแข็ง มอนสเตอร์จะไม่เห็นแสงจากมัน เราปลอดภัยตรานบใดที่ไม่ส่งเสียงดังมากเกินไป ตามฉันมา ฉันรู้เส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดไปหาชั้นผู้พิทักษ์ “
” ได้….ผู้เฒ่าโง่ ” – เดฟพูดส่วนสุดท้ายเบาๆ
” ทำไมนายต้องทำแบบนั้นล่ะ เดฟ ? ” – โซว์ ถาม – ” พูดเรื่องแย่ๆกับ NPC และผู้เฒ่านี่น่ะไม่ใช่แบบนายเลยนะ “
” เธอไม่เห็นที่เขาคุยกับฉันรึไง ? ฉันรู้ว่าเขาไม่ชอบอันเดตแต่เขาทำตัวดีกว่านี้ก็ได้แล้วท่าทีนี่มันอะไรกัน ? อย่างกับเขารู้ทุกอย่าง เขาบอกว่าเขาไม่เคยผ่านชั้นแรกไปเลยแล้วดูเขาสิ ทำตัวอย่างกับหัวหน้า ” – เดฟบ่นแล้วมองไปที่แผ่นหลังของชายแก่
” ว๊าว NPC นี่ทำให้นายดูแย่สินะ ” – โซว์ยิ้ม
” ไม่….ใช่ คนออกแบบเกมนี่ทำให้พวกนั้นเป็นเหมือนคนเกินไป ” – เดฟอดไม่ได้ที่จะยอมรับ
ทั้งสองยังคงคุยกันต่อเรื่องโครงสร้างของดันเจี้ยนและกลไกลต่างๆด้วยเสียงเบาๆพร้อมกับเดินตามชายแก่ไป
” เฮ้ ! ผู้เฒ่า ! มันมีมอนสเตอร์กำลังมาทางเรา หมาน้ำแข็งสามหัว ” – เดฟพูดขึ้นมาเบาๆเพราะชายแก่เหมือนจะไม่เห็นมัน
” เซอร์เบอรัสน้ำแข็ง ! ถ้ามันเห็นเราเข้ามันจะเรียกพวกมา ตามฉันมา ฉันรู้จักทางอ้อม “
ชายแก่เข้าไปในห้องขังห้องหนึ่งและรอให้ดาร์กกับเอลฟ์เดินตามมา
ตอนที่พวกเขาอยู่ด้านในนั้นเขาก็ได้กดอิฐบนกำแพงก่อนที่กำแพงจะเริ่มเปิดทางออก
เดฟได้ยินเสียงเท้าที่กระทบกับพื้น มอนสเตอร์นั้นคงได้ยินเสียงกำแพงและกำลังมาตรวจสอบที่นี่
” เร็วเข้า ” – ชายแก่พูดขึ้น
ตอนที่เดฟเข้าไปนั้นชายแก่ก็ได้กดไปที่กำแพงและมันก็ปิดตัวลง เขาได้ยินเสียงของมอนเตอร์ผ่านทางกำแพงและไม่นานพวกเขาก็ได้ยินเสียงอุ้งเท้าของมันเดินจากไป
” ทางนี้ไกลกว่าทางที่ฉันคิดจะไปแต่มันก็ปลอดภัย “
ชายแก่แตะไปที่ตะเกียงทำให้มันสว่างมากกว่าเดิม
ทางที่พวกเขาอยู่ตอนนี้กว้างและสูงกว่าเดิม ห้องขังเองก็ใหญ่กว่าทางเดินตะกี้ เดฟค่อยๆเดินเข้าไนห้องขังห้องหนึ่ง เขาได้พบกับศพขนาดใหญ่ที่นอนอยู่ที่พื้น มันคือเผ่าเดียวกับ Drahma พวกยักษ์
แต่นี่เป็นศพของพวกที่ยังไม่โตเต็มวัยไม่ได้ใหญ่เท่ากับ Drahma ผิวของยักษ์นี้แห้งผากหากมองผ่านชุดหนังเก่าๆ ตาของมันเบิกกว้าง สีหน้าน่ากลัวโดยมีสีระบายไว้ที่หน้า ข้อมือและข้อเท้ามีโซ่ล่ามเอาไว้และที่อกก็ถูกฉีกจนเห็นซี่โครง
” นายทำอะไรน่ะ เดฟ ? ” – โซว์ถามแล้วเดินเข้ามาหาเพื่อดูว่าเขาสนใจอะไรและในตอนที่เธอเห็นฉากที่น่ากลัวนี้เธอก็ได้เอามือทั้งสองข้างปิดปากเอาไว้
[เควสอัพเดต A Call for Help
คุณได้ค้นพบศพของยักษ์
Drahma รู้สึกได้ถึงเผ่าของเขาผ่านการเชื่อมต่อของเพชร
Drahma จะถูกเรียกมายังตำแหน่งของคุณในอีก 10 วินาที ]
มีแสงส่องประกายขึ้นมาสาดไปทั่วทางเดินดึงความสนใจจากมอนสเตอร์น้ำแข็งในระยะ อันที่จริงพวกมันหอนออกมาด้วยความโกรธมากกว่า มอนสเตอร์ทุกตัวในชั้นนั้นได้มารวมตัวกันเพราะแสง เสียงหอนของหมาป่าและเสียงเท้าของมอนสเตอร์เริ่มดังก้องไปทั่วดันเจี้ยน
” โอ้ซวยละ ! ” – เดฟสบถอออกมาแล้วจับเอาเพชรที่ลอยอยู่นั้นเพื่อจะปิดแสงเอาไว้แต่ก็ไม่สำเร็จ
” เกิดอะไรขึ้น ! ” – ชายแก่มองไปรอบๆด้วยท่าทีกลัว – ” ปิดมัน ! เราจะโดนล้อม ! “
เดฟเงยหน้าขึ้นมองเพดานและหน้าซีดลงไปเมื่อตระหนักได้ว่า Drahma จะถูกเรียกเข้ามาในคุกแห่งนี้ เขาวิ่งออกจากห้องขังนั้นแล้วโยนเพชรไปที่ทางเดินที่ใหญ่กว่า
” เกิดอะไรขึ้นน่ะ เดฟ ? ” – โซว์ถามด้วยความกลัว
” Drahma ! เขากำลังมา ! ” – เดฟพูดขึ้น – ” และเขาก็โกรธมากๆด้วย ! “
แสงของเพชรส่องประกายมากกว่าเดิมและเริ่มสั่นและแตกออก
มือขนาดใหญ่สองอันได้โผล่มาจากมิติก่อนที่จะเริ่มฉีกมิติออก เสียงคำรามอันดังสั่นซึ่งเพียงพอจะปลุกคนตายได้ดังขึ้นมาจากมิติที่กำลังฉีกขาดและ Drahma ก็ได้โผล่มา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและผิวของเขาก็แดงกล่ำ
อุณหภูมิในห้องนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากความร้อนของตัวยักษ์ มันราวกับเตาหลอม น้ำแข็งเริ่มระเหยเมื่อสัมผัสกับผิวของ Drahma เขาตัวใหญ่กว่าห้องนี้มากแต่เขาลดขนาดตัวลง
” เกิดอะไรขึ้น ? ! ” – ชายแก่ถามขึ้นมาตอนที่วิ่งหนีจากยักษ์
หลังจากที่ Drahma ลดขนาดตัวแล้วเขาก็ยังตัวใหญ่อยู่ดี ทุกก้าวที่เขาเดินจะทำให้ห้องนั้นสั่นไหว
Drahma ไม่แม้แต่จะทักทายเดฟ เขาเดินไปที่ห้องขังทีมีศพของยักษ์นอนอยู่
ตอนที่เขาเห็นร่างนั้นเขาก็โหยหวนออกมาแล้วฟาดไปที่กรงขังด้วยหลังมือ เขากอดร่างนั้นเอาไว้ที่อกแล้วร้องไห้ออกมา เสียงร้องของเขาทำให้ทั้งห้องสั่นสะเทือน
เดฟแค่มองดูฉากนี้ เขาพูดอะไรที่ช่วยอีกฝ่ายไม่ได้
” เกิดอะไรขึ้น เดฟ ? ” – โซว์ถาม
” Drahma เป็นคนสุดท้ายของเผ่า Black Skull Order ได้ทดลองกับเขาตอนที่เขาเป็นทาส ยักษ์นั่นก็โดนแบบเดียวกันและนั่นทำให้ Drahma เศร้า “
” มันต้องเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขาแน่ ” – โซว์พูดด้วยความสงสาร
” ใช่ ความคลั่งของ Drahma ได้ปลุกเขาและช่วยให้เขารอดจากการทรมานมาได้แต่พวกที่เหลือในเผ่านั้น…พวกนั้นไม่ได้แข็งแกร่งแบบเขา ยักษ์ตัวอื่นน่ะยังเด็กอยู่ “
ตาของโซว์เริ่มมีน้ำตาขึ้นมาแล้วรีบละสายตาหนีจากฉากนั้น
” พวกมันกำลังมา ” – โซว์พูดขึ้น
เดฟหันกลับไปแล้วพบกว่ามีหมาน้ำแข็งสามตัวกำลังวิ่งมาหาพวกเขาแต่คงต้องใช้เวลาอีกหลายวินาทีก่อนที่จะมาถึง เขาได้ใส่ถุงมือและเตรียมรับการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น
” Kis’Shtiengbrah ฉันขอบคุณสำหรับการหาเผ่าของฉัน “
เดฟหันกลับไปและพบว่า Drahma นั้นลุกขึ้นยืน เขาได้วางศพลงกับพื้นแล้ววางมือไว้ที่ศพ โซ่ไฟได้โผล่มาจากใต้ดินห่อร่างนั้นเอาไว้ก่อนที่ร่างนั้นจะโดนเผาเป็นเถ้า
” ทำไมนายถึงได้ทำแบบนั้น ?” – เดฟสับสน – ” นายขอให้ราชาชุบชีวิตเขากลับมาเป็นอันเดตก็ได้ “
” ฉันไม่อยากให้เขาทรมานในฐานะอันเดต… Kis’Shtiengbrah ฉันยอมรับในตัวตนอันเดตแต่ฉันไม่อยากให้มันต้องเกิดขึ้นกับใครอื่น “
Drahma เหวี่ยงอาวุธของตัวเองแล้วพูดขึ้น – ” ฉันรู้สึกโกรธ อันเดตน้อย และฉันไม่คิดว่าฉันจะยับยั้งตัวเองได้อีก ถอยออกไป ฉันไม่อยากทำร้ายนาย “
เส้นเลือดที่แขนของ Drahma นั้นเต้นไปมา ชัดแล้วว่าเขาพยายามควบคุมตัวเอง อุณหภูมิของตัวเขาเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมจนมีไอน้ำลอยออกมาจากตัว
Drahma กระทืบพื้นแล้ววิ่งออกไป
” เขยิบหนี ! ” – เดฟตะโกนขึ้นมา
โซว์ รีบวิ่งออกจากทางแต่เดฟต้องดึงแขนชายแก่ที่กำลังอึ้งอยู่ออกมาเพื่อให้หลีกทางจากทางวิ่งของยักษ์
Drahma พุ่งออกไปด้วยความแค้น กระบองเขาหมุนไปมาพร้อมกับสีหน้าที่จะต้องฆ่าทุกอย่างที่ขวางหน้า
เดฟได้ยินเสียงกระทืบเท้าของยักษ์ที่ไกลออกไปเรื่อยๆพร้อมกับเสียงโอดครวญของมอนสเตอร์และเสียงหักของกระดูก…..