Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 195
Chapter 195 : จัดการ !
ออร่าจากไฟนรกนั้นคลอบคลุมร่างของ Ash King เอาไว้ เขาเดินเข้ามาหา เดฟ พวกปิศาจที่โชคร้ายที่ขวางทางต่างก็โดนเผากลายเป็นเถ้าทันที
” อ่ะ เหี้ยละ ! “- เดฟ สบถออกมาในตอนที่ Ash King เดินเข้ามาใกล้
ราชาปิศาจได้สร้างหอกไฟขึ้นมาแล้วแทงเข้าใส่ เดฟ ก่อนที่หอกนั้นจะโดนตัว เดฟ นั้นราชาอันเดตได้ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางหมู่ควันและเหวี่ยงดาบรับหอกที่เข้ามาปัดการโจมตีออกไป มันมีเสียงเหล็กปะทะดังก้องและคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจนทุกคนรู้สึกได้ ไฟและควันกระจายตัวออกมาจากอาวสุธและทั้งสองก็ได้มองหน้ากัน สุดท้ายราชาอันเดตก็ได้ปัดหอกของราชาปิศาจทิ้งก่อนจะฮึดฮัดใส่ราชาปิศาจที่ตัวใหญ่กว่า
” เลือกคนที่มีขนาดเท่ากันหน่อยสิไอ้ขยะ ! “
เดฟ มองเปรียบเทียบความสูงของตนเองกับราชาอันเดต ราชานั้นสูงกว่าเขาไม่เยอะแต่ราชาปิศาจน่ะสูงกว่าเป็นสิบเท่า
” ในที่สุด ! ในที่สุดแกก็ปรากฏตัวออกมาไอ้ขี้ขลาด ! ” – ราชาปิศาจพูดขึ้นพร้อมกับลาวาที่กระจายออกมาจากปากในทุกคำที่พูด
ราชาปิศาจได้เหวี่ยงหอกแทงเข้าใส่ราชาอันเดต ราชาอันเดตจับตัว เดฟ เอาไว้ก่อนจะกระโดดเตะหอกนั้นทิ้งแล้วชูนิ้วกลางให้กับราชาปิศาจก่อนจะหนีไป
อาวุธของราชาปิศาจนั้นแทงลึกเข้าไปที่พื้นก่อนจะระเบิดอกมา ลาวานั้นกระจายตัวออกมารอบหอกพร้อมกับรอยแตกที่แผ่อกอมาจากแรงกระแทก ราชาปิศาจได้เดินเข้าไปหยิบเอาวุธออกมาก่อนจะฮึดฮัดด้วยความไม่พอใจ
ราชาอันเดตหัวเราะอย่างพอใจพร้อมกับเอาตัวดาร์กคนโปรดหนีไปและยังเยาะเย้ยเขาอีกด้วยซึ่งนั่นทำให้ราชาปิศาจกลายเป็นตัวตลก
นี่บ่งบอกได้ว่านั้นโง่กว่า สุดท้ายเมื่อดึงหอกออกมาจากพื้น Ash King ก็ได้ไล่ตามราชาอันเดตไปพร้อมกับโยนหอกไฟเข้าใส่อีกฝ่ายด้วยมือทั้งสองข้าง
ราชาอันเดตยังคงหัวเราะและหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย การโจมตีนั้นล้วนแต่ตกลงไปที่พวกปิศาจเอง นี่ยิ่งทำให้ Ash King โกรธยิ่งขึ้นอีก มันทำให้เขาเกือบบ้าและไล่ตามราชาอันเดตต่อพร้อมกับพ่นไฟออกมาจากปากด้วย เดฟ ถูกลากไปด้วยในตอนที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นโดยไม่อาจจะทำอะไรได้เลย ท้องไส้ของเขาปั่นป่วนเพราะอันตรายที่ตามมาด้านหลัง ราชาอันเดตกันการโจมตีอีกอันก่อนที่จะบินขึ้นไปที่ด้านหน้าของ Ash King ราชาปิศาจสูดหายใจก่อนจะพ่นลำแสงไฟเข้าใส่ศัตรู ราชาอันเดตเหวี่ยงดาบเป็นวงกลมอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือไฟที่ยิงเข้ามานี้เพื่อป้องกันตัวเองและดาร์กน้อยของเขาสร้างวงเวทย์ขึ้นมารอบตัว ไฟของปิศาจอาบไปทั่ววงเวทย์นั้นอยู่นาน ตอนที่ไฟดับลงนั้นราชาปิศาจและดาร์กก็ยังคงลอยอยู่บนอากาศไม่ได้ขยับรึเป็นอันตรายแต่อย่างใด
ราชาอันเดตได้เหวี่ยงดาบฟาดลงมาและตัดเป็นแนวขวางเข้าที่ท้องของ Ash King ลาวานั้นไหลออกมาจากรอยตัดนั้นและยิ่งทำให้ราชาปิศาจต้องหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม ราชาปิศาจได้ยกมือขึ้นเหนือหัวก่อนจะมีลูกไฟก่อตัวขึ้นมา ราชาปิศาจร้องคำรามออกมาก่อนจะโยนลูกไฟนั้นเข้าใส่ราชาอันเดต
” หึหึ แกนี่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลยนะ นี่แหละเลยทำให้แกแพ้ง่ายๆ ” – เสียงของราชาอันเดตดังขึ้นมาจากด้านข้าง
สิ่งต่อมาที่ เดฟ รู้คือเขานอนอยู่ที่ไหนสักที่พร้อมรู้สึกมึนๆที่หัว พื้นดินนั้นขยับไม่ว่าเขาจะพยายามลุกขึ้นยังไงก็ตาม ตอนที่เขารวบรวมสติแล้วลุกขึ้นนั่งเขาก็พบว่าเขาอยู่ด้านบนของวังกระดูก เขาเห็นสนามรบทั้งหมดและฟังก์ชันการขยายภาพก็ยังใช้งานได้ด้วย เขาเงยหน้าขึ้นและพบคริสตัลสีดำที่ลอยอยู่ด้านบนค่อยๆหมุนวนไปช้าๆ เส้นพลังที่มีออร่าสีดำเล็กน้อยแผ่ไปทั่วทั้งเมือง มันคือหัวใจแห่งความตาย ด้านล่างมันนั้นคือหลังคาที่มีไข่มังกรสีดำอยู่
ไกลออกไปนั้นราชาปิศาจยังคงตะโกนออกมาอย่างกับคนบ้าคอยฆ่าปิศาจเพื่อให้พวกของตนยังคงเดินหน้าเพื่อสู้กับพวกอันเดต
” นายทำลายหลักการของการต่อสู้ตอนที่ยิงเข้าใส่บัลลังก์ของ Ash King จากด้านล่างเขาซึ่งทำให้เขาอับอายด้วยปืนใหญ่ของเขาเอง ” – ราชาอันเดตหัวเราะ – ” อันเดตของฉันหัวเราะท้องแข็งจนเกือบสู้ไม่ได้ เรื่องนี้น่ะจะกลายเป็นตำนาน นายทำได้ดี ดาร์กน้อย “
เดฟ ยิ้มออกมา – ” ขอบคุณ ราชา ! “
” อีกไม่นานกองทัพของเราก็จะเอาชนะกองทัพของ Ash King ได้อย่างเช่นเคย ถ้านายไปสู้ที่แนวหน้าอีก ราชาปิศาจนั่นจะมาจัดการกับนายด้วยตัวเอง ดังนั้นนายควรอยู่ที่แนวหลังจะดีกว่า “
เดฟ พยักหน้าตอบรับ เขาได้ xp มาเยอะจากการทำลายปืนใหญ่พร้อมกับผลตอบแทนอื่นๆที่ได้จาการยิงปืนใหญ่เข้าใส่หอคอยของราชาปิศาจ ดังนั้นการไม่เข้าร่วมการต่อสู้จากนี้ไปและการที่จะไม่ได้ xp เพิ่มนั้นก็ไม่ได้เสียหายเท่าไหร่
ที่ส่วนหนึ่งของสนามรบที่ซึ่ง Wendigo กำลังได้เปรียบพวก Sworn Stalwart เพราะ Wendigo นั้นได้เปรียบเรื่องจำนวน
” แตร ! ” – ราชาอันเดตตะโกนออกมา
แตรบนกำแพงเมืองได้ส่งเสียงออกมาทันที กองทัพอันเดตได้ยกโล่และดาบขึ้นก่อนจะเดินหน้า ทั้งกองทัพไม่นานก็เริ่มเดินหน้ากันเป็นจังหวะที่มั่นคงโดยแต่ละก้าวนั้นทำให้พื้นดินต้องสั่นสะเทือน
อันเดตเดินผ่าน Wendigo 4 ตัวที่ล้อมรอบ Sworn Stalwart ตัวหนึ่งซึ่งได้เข้าล้อมโจมตีมัน Sworn Stalwart นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายและแข็งแกร่ง ถึงแม้จะทำการล้อมมันไว้แต่มันก็ยังสร้างความเสียหายให้กับผู้โจมตีได้แต่จำนวนยังไงก็เอาชนะความกล้าได้ ไม่นาน Sworn Stalwart ก็ถูกฉีกแขนขาของมัน Wendigo เข้าไปกินศพเพื่อฟื้นฟูเลือดตัวเองก่อนจะเข้าไปร่วมมือกับพวกตัวเองในการเอาชนะ Sworn Stalwart ตัวอื่น ฉากนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสนามรบ
กองทัพนั้นหลีกเลี่ยงการต่อสู้ระหว่าง Wendigo และ Sworn Stalwart พวกเขามุ่งหน้าไปหาพวกกองทัพปิศาจอื่นแทน พวกเขาเริ่มทำการฆ่าปิศาจฝ่าไปเรื่อยๆโดยการเหวี่ยงอาวุธออกเป็นจังหวะและโจมตีได้อย่างแม่นยำจนฆ่าปิศาจได้หลายพันตัวในการโจมตีแต่ละครั้ง
หอคอยขนาดใหญ่หลายแห่งที่คล้ายกับหอคอยที่โดน เดฟ ทำลายได้โผล่ขึ้นมา พวกมันถูกดึงขึ้นมาโดย Sworn Stalwart ที่ค่อยๆปรากฏกายขึ้นในสนามรบ
” หอคอยโจมตี ” – ราชาอันเดตพูดขึ้น – ” มันเป็นเรื่องยากกับการป้องกันพวกมันถ้าพวกมันมาถึงกำแพงได้ “
เดฟ ลูบหนวดและมองไปยังฉากนั้น มีเพียงแค่ Wendigo ที่สามารถรับมือกับ Sworn Stalwart ได้แต่ Wendigo ทั้งหมดนั้นต่างก็ยังคงยุ่งอยู่ในสนามรบ จากนั้นความคิดหนึ่งก็โผล่มาในหัวและเขาก็ยิ้มออกมาเหมือนกับครั้งที่แล้ว
” ราชา ฉันมีความคิดดีๆ เราจะใช้ Dunlord สั่งพวกเขาให้ขุดทางใต้ดินด้านล่างเส้นทางของหอคอย ตอนที่หอคอยนั้นมาถึงโพรงเหล่านั้นแล้ว พวกมันจะหล่นลงไปในหลุมนั้นแทน “
” ความคิดดี ! ” – ราชาหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง
Doom Knight ตัวหนึ่งถูกเรียกตัวมาปรากฎตัวตรงหน้าราชาเพื่อรับคำสั่ง
เดฟ สามารถมองเห็นทั่วสนามรบ Dunlord เป็นแสนตัวได้มุดตัวลงกับพื้นก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังทิศทางของหอคอย
ตอนที่พวกนั้นไปถึงหอคอย Dunlord ก็ได้ทำการล้อมรอบมันไว้จากใต้ดินราวกับกำลังล้อมเหยื่อเอาไว้ Sworn Stalwart ตัวหนึ่งเห็นพื้นดินที่ผิดปกติและได้ฟาดแขนข้างหนึ่งลงมา มันยังคงฟาดลงมาที่พื้นดินเรื่อยๆราวกับตีกลองแต่ก็ไม่ได้พบกับความสำเร็จแต่อย่างใด Dunlord ได้ทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วและรีบถอยกลับมา
ไม่นานล้อของหอคอยแรกนั้นก็หักไปเพราะโพรงที่พื้น ตามที่ เดฟ คาดเอาไว้ น้ำหนักของหอคอยนั้นทำให้พวกมันตกลงมาใต้ดินทันที
ราชายิ้มออกมากับความสำเร็จของกลยุทธใหม่นี้แต่ไม่นานสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
เดฟ หันกลับไปมองตามสายตาของราชาเพื่อดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไร
Ash King เงียบไปสักพักแต่จากนั้นก็ได้หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง มิติข้างกายนั้นบิดเบี้ยวพร้อมกับมีชายแก่หลังค่อมโผล่มายืนข้างกายเขา
” Vreek ” – ราชาปิศาจพึมพำขึ้นมา
ชายแก่ใช้ไม้เท้าเคาะไปที่พื้นส่งคลื่นกระจายออกมาทั่วสนามรบ พื้นดินนั้นมีหนวดโผล่ขึ้นมานับไม่ถ้วนพร้อมกับหัวกะโหลกแดงขนาดใหญ่ที่โผล่มาจากใต้ดิน Devourer ได้มุ่งหน้าเข้าหากองทัพอันเดต หนวดของพกวมันนั้นกลืนกินทุกอย่างที่พวกมันสัมผัสได้
” Samael ! ” – ราชาพูดขึ้นก่อนที่ Abyssal Knight จะปรากฏตัวขึ้นมา
” ราชา ! “
” เอา Dementi กับ Dagla ไปจัดการกะโหลกพวกนั้นให้ฉัน “
” ได้ตามคำสั่ง ! ” – Samael ตอบกลับก่อนจะหายตัวไป
เดฟ สับสนว่าทำไมราชาถึงได้ส่ง Samael ไปสู้กับสิ่งที่เขาหนีมาตอนที่เข้าโจมตีวังกระดูกดำ
ควันสีดำเคลื่อนไหวผ่านสนามรบ เดฟ จำได้ว่านั่นคือร่างหนึ่งของ Samael ควันนั้นเคลื่อนที่ไปยังกะโหลกที่ใกล้ที่สุดก่อนที่จะพุ่งทะลุมัน ไม่นานกะโหลกนั้นก็กลายเป็นแค่หัวกะโหลกที่แห้งเหือด
Dagla เหวี่ยงคทาของตนสร้างวงเวทย์ดำยิงคลื่นพลังเข้าใส่กะโหลกแดงผ่ามันออกจากกัน Dementi ได้ใช้ธนูกระดูกของเธอยิงธนูออกไปรวดเร็วราวกับปืนกลเปลี่ยนกะโหลกเหล่านั้นกลายเป็นรังผึ้ง
” ราชาอันเดต ! ” – ราชาปิศาจหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง เขาตะโกนขึ้นมาดังก้องไปทั่วสนามรบ – ” แกจะไม่เป็นปัญหาให้ฉันอีกต่อไป ! นี่เป็นวันสุดท้ายที่แกจะได้อยู่ในโลกนี้ แกจะกลายเป็นแค่ศพเน่าๆ ! “
ในตอนที่ Ash King หัวเราะนั้นก็มีแสงส่องประกายอาบไปทั่วเมืองอันเดต เดฟ ต้องก้มหน้าเพื่อหลบแสง ตอนที่แสงนั้นจางไปก็ได้มีเสียงโน๊ตดนตรีดังขึ้น เขาได้เงยหน้าขึ้นมองและพบกับบางอย่างที่ส่องแสงเป็นประกายลอยอยู่ด้านบนวังกระดูก