Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 235
Chapter 235: นักเวทย์ชุดแดง
เดฟ คิดอยู่สักพักแล้วพูดขึ้นมา – “ เซนทอร์ ? มันอาจจะเปลี่ยนบางอย่างได้ เอาล่ะ วาร์ปไปที่ Moria เราจะไปเจอกันที่โรงหลอมของเมืองแล้วซ่อมอุปกรณ์รอจนกว่าเพื่อนของ Fortress จะมาหา “
เดฟ ฉีกคัมภีร์วาร์ปแล้วโผล่มาที่ Moria เขาเดินไปที่โรงหลอมและทำการต่อรองเพื่อซ่อมอุปกรณ์ของเขา
ราฟ โผล่มาข้างๆแล้วก็ต้องเบิกตากว้าง
“ เอ้ย ไอ้ถุงเงิน ซ่อมมันให้ฉันด้วยสิ “
เดฟ ส่ายหน้าและรับอุปกรณ์ของ ราฟ ไปเพิ่มเข้าใส่ช่องคำสั่งซ่อม
จุดเสียของ ราฟ อีกอย่างคือเขาเป็นคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่ด้านการเมืองซะทั้งหมดแต่เขาเชื่อว่าอะไรที่เป็นของเพื่อนก็เป็นของเขาด้วย ในอีกด้านแล้ว ราฟ คิดว่าอะไรที่เป็นของเขาก็เป็นของเพื่อนด้วย ดังนั้นมันจึงดูยุติธรรมดี อย่างน้อยในความคิดของ ราฟ แล้วมันก็แสดงถึงความใจกว้างของ ราฟ และ เดฟ ก็ชื่นชมในเรื่องนี้ ถึงคนอื่นจะไม่เข้าใจก็ตาม
ไม่นานทั้งปาร์ตี้ก็ได้มารวมตัวกันที่ร้านตีเหล็กรออุปกรณ์ที่กำลังซ่อมอยู่
โซว์ นั้นชัดแล้วว่าไม่คิดจะให้ เดฟ ช่วย เธอส่งอุปกรณ์ให้กับ NPC โดยตรงและไม่ได้มองมาที่ เดฟ เลยด้วยซ้ำ
“ Tess บอกว่าเธอจะมาถึงในไม่ช้า “ – Fortress พูดขึ้นพร้อมกับยิ้มออกมา
ในตอนที่ Fortress พูดจบนั้นก็มีเสียงหนึ่งตะโกนขึ้นจากด้านหลัง
“ ไอ้ห่า ! ได้เวลาที่ฉันจะฆ่าไอ้ขี้ขโมยแล้ว “
เดฟ หันกลับไปและพบกับ Bone Breaker ในชุดเกราะขาว ด้านหลังเขานั้นมีพาราดินนับสินคนที่สใส่เกราะของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์
“ เหี้ยแล้วไง ฉันลืมเรื่องคำสั่งฆ่ากับการที่ฉันเป็นศัตรูกับทางโบสถ์ “ – เดฟ พึมพำกับตัวเอง
“ ตอนนี้แกจะทำยังไงล่ะ ? ครั้งที่แล้วแกโชคดีและหนีไปได้ ครั้งนี้ไม่มีใครช่วยแกได้ ฮาฮา ! “ – Bone Breaker ขู่ขึ้นมา
“ ฉันจำได้ว่าตอนนั้นมันไม่ใช่แบบที่แกบอกนะ ไอ้ตัวโดนหักกระดูก ฉันอัดแกเละจนยามของเมืองมาช่วยจับแกเข้าคุกนิ “ – เดฟ พูดขึ้น
Bone Breaker อยู่ในเมืองเพื่อซื้อยาตอนที่ได้รับแจ้งเตือนเควสเพื่อฆ่าศัตรูของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ในเมือง เขากดรับเควสเพื่อค่า xp แต่เขาไม่คิดว่าจะได้มาเจอกับคนที่ขโมยการสืบทอดของเขาไปและเขาก็มีคนช่วยด้วย การฆ่าไอ้ขี้โกงนี่ถือว่าเป็นเรื่องง่ายๆเมื่อมีพาราดินคอยช่วย เขาถึงกับยอมให้คนอื่นที่อยู่กับ เดฟ มาสู้ด้วยซ้ำ
ยังไงซะคำสั่งฆ่าก็ลอยอยู่บนหัวของ เดฟ เขาจะได้เงินคืนมาบ้างจากคำสั่งฆ่านี้
“ ฆ่าไอ้ห่านี่ซะ ! “ – Bone Breaker คำรามออกมา
พาราดินชักดาบออกมาพร้อมกันแล้วเดินผ่าน Bone Breaker ไปเริ่มสร้างวงล้อม
“ พวก เราคงพักต่อไม่ได้สินะ ! “ – Flanker พูดขึ้นมา
คนรอบๆเห็นแสงโผล่มาที่หัวของ Bone Breaker ตอนที่ Flanker พูดจบ
“ โอ้ เขา งั้นนายก็อยู่ในปาร์ตี้ของเขาด้วยสินะ ! งั้นก็ตายไปกับเขาซะ “ – Bone Breaker เยาะเย้ยขึ้นมา
“ พวกนี้แค่เลเวล 200 เราจัดการพวกนี้ได้ “ – เดฟ พูดขึ้น
“ ไม่ได้ถ้าไม่มีอุปกรณ์ มันยังซ่อมอยู่ “ – ราฟ พูดขึ้น
“ ใช้ชุดสำรองสิ คิดว่าเป็นการต่อสู้ท้าทายละกัน ฮาฮา ! “ – เดฟ ตะโกนขึ้นพร้อมกับใส่ถุงมือ
เสียงผู้หญิงคหนึ่งดังขึ้นด้านหลังพาราดิน –“ ฟักทองน้อย ทำไมนายต้องมีปัญหาตลอดเลยตอนที่ฉันเจอนายในเกม ? “
Fortress ยิ้มกว้างออกมา – “ เฮ้ กระต่ายน้อย ยินดีต้อนรับเข้าปาร์ตี้ “
ผู้หญิงในชุดแดงหมวกม่วงยืนอยู่ด้านหลังพาราดินยืนค้ำเอวส่ายหน้าให้ Fortress
นักเวทย์สะบัดมือของเธอพร้อมกับมีคทาโผล่มาในมือ – “ หยุดพวกนั้นให้อยู่นิ่งๆไว้ “
“ ได้ “ – จากนั้น Fortress ก็ได้เตือนคนอื่นในปาร์ตี้ – “ ทุกคนถอยกลับมาก่อน “
เขาได้ใช้ {Anchor Hall} ก่อนจะมีตะขอพุ่งออกมาจากพื้นล่ามพวกพาราดินเอาไว้ดึงความโกรธของพาราดินเข้าหา Fortress ในขณะเดียวกันนักเวทย์ก็ได้โบกคทาไปมาและร่ายเวทย์ –“ มิติที่บิดเบี้ยว นำพาจุดจบแห่งความจริงมา ! ระเบิด ! “
ก่อนที่ Tess จะได้พูดคำพูดสุดท้ายในการร่ายออกมานั้น Fortess ก็ได้ใช้ {Bulwark} เพื่อให้เขาเป็นอมตะ 3 วินาที
พาราดินที่ตอนนี้กำลังจะโจมตีแทงค์ก็ต้องหยุดอยู่กับที่เพราะสกิลของ Tess จากนั้นเกราะและเนื้อก็เริ่มถูกสูบเข้าไปในมิติที่บิดเบี้ยวก่อนจะหายไป คนเดียวที่เหลืออยู่คือ Fortress ที่ยังยืนอยู่ได้เพราะ {Bulwark}
“ นี่….สกิลสืบทอดงั้นเหรอ ? “ – ราฟ ถามออกมา
“ ใช่ เธอมีสกิลสืบทอดแห่งการทำลาย “ – เคทลิน พูดขึ้น มือของเธอกำรอบมีดไว้แน่นราวกับว่าเพื่อให้ตัวเองสบายใจ
“ นักเวทย์ที่มีการสืบทอดคลาส S ? “ – Perfect อึ้ง
Tess วิ่งเข้ามาหา Fortress เพื่อที่จะกอดและหยิกแก้มเขา – “ โอ้ นายนี่ ! ฉันคิดถึงนายจัง “
“ อ่ะ พระเจ้า ฉันจะบ้าตาย “ – Flanker พูดขึ้นพร้อมกับทำท่าเอานิ้วตัดคอ
Perfect ตบหัวของ Flanker และพูดขึ้นมา – “ หยุดทำตัวไร้สาระได้แล้ว “
“ โอ๊ย ! ฉันบอกเลยว่า Fortress น่ะไม่ได้มีดีอะไรแต่เขาจะได้สาวที่มีการสืบทอดคลาส S แบบนี้ไปน่ะเหรอ ? ไม่พวก ยังไงก็ไม่ ฉันบอกนายเลยว่าเธอเป็นผู้ชายอ้วนๆที่ยังอยู่บ้านแม่ ฉันรับรองได้ “
“ แล้วถ้าเธอเป็นผู้ชายแล้วมันยังไง ? นายเป็นพวกชอบผู้ชายงั้นสิ ? “
“ ไม่มีทาง ฉันมีเพื่อนที่เป็นเกย์เยอะ ! ฉันบอกนายได้เลยว่านี่น่ะไม่ใช่ผู้หญิง นายเคยเห็นผู้หญิงทำแบบนั้นมั้ย ?” – Flanker ถามพร้อมกับชี้ไปที่สองคนที่ยังหยิกแก้มกันอยู่
Flanker หันกลับทนดูเพื่อนกับชายแก่ในคราบผู้หญิงไม่ไหว
หลังจากที่ลูบผม Fortress ได้สักพัก Tess ก็หันกลับมา
พวกพาราดินที่เหลือยังอยู่กับที่ไม่อาจจะทำอะไรได้ตอนที่เพื่อนของตัวเองหายไป
“ แกน่ะ “ – Tess ตะโกนไปที่ผู้เล่นคนหนึ่ง
Bone Breaker สะดุ้งและมองไปที่นักเวทย์
“ แกสั่งให้ทางโบสถ์มาทำร้ายที่รักของฉันใช่มั้ย “
“ อ่ะ ไม่ ฉันไม่ได้ทำ…”
ก่อนที่ Bone Breaker จะได้อธิบายว่าทำไมเขาถึงได้พาพาราดินมาที่นี่ Tess ก็ได้โบกคทาไปมาก่อนจะชี้ไปที่อีกฝ่าย – “ ตาย ! “
มีพายุสายฟ้าและลูกเห็บกลืน Bone Breaker เข้าไปจนกลายเป็นเศษแสง ผลลัพธ์จาการโจมตีนี้ได้ผลจนไม่อาจจะปฏิเสธได้แต่น่าแปลกกับคำร่ายของเธอที่เร็วเกินกว่าคนปกติทั่วไป มันคือสกิลสืบทอดที่พวกเขาเคยได้ยินมา {Rapid Chant}
“ เราน่าจะไปกันได้แล้ว ยามของเมืองน่าจะมาที่นี่ในไม่ช้า การฆ่าคนด้านในเมืองทำให้เรื่องยุ่งยาก “ – นักเวทย์หัวเราะ
“ เดฟ เอาเงินให้ฉันสำหรับซ่อมของทีสิ พวกนายออกจากเมืองไป ฉันจะรอที่ร้านตีเหล็กแล้วค่อยตามพวกนายไป “ – ราฟ พูดขึ้น
ทุกคนได้มุ่งหน้าไปยังทางออกเมือง ทุกคนได้ไปรวมตัวกันรอบ Tess เพื่อถามถึงสกิลสืบทอดของเธอและเพื่อทำความรู้จักเธอ ผู้หญิงคนนี้น่ะน่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องที่เธอกับ Fortress เจอกันได้ยังไงและมีความสัมพันธ์กันยังไง
นี่ทำให้ Fortress หน้าแดง Tess ตอบกลับอย่างดีใจในทุกๆรายละเอียด หลายคนมองไปที่แทงค์ซึ่งทำให้เขานั้นรู้สึกอึดอัด
Perfect หันกลับไปหา Flanker แล้วกระซิบ – “ นายมันโง่ ไอ้บ้านี่น่ะมันของจริงโว้ย พวก “
“ ฮึ่ม “ – พรีสฮึดฮัดออกมา – “ เป็นไปไม่ได้หรอก เขาน่ะไม่มีอะไรดีมากหรอก “
Perfect หัวเราะ – “ จากที่ฉันดูนะมีผู้หญิงสี่คนตรงนั้นที่ไม่เห็นด้วยกับนาย “
รออยู่ที่หน้าประตูเมืองได้ไม่นาน ราฟ ก็กลับมาหาพวกเขา เขาได้ส่งอุปกรณ์ให้กับทุกคนราวกับว่าเขาเป็นพ่อพระใจดี
เดฟ หันกลับไปหา Tess แล้วถามออกมา – “แล้วเธอจะให้เราขี่เซนทอร์ได้ยังไง ? “
“ ฉันมีไอเท็มที่เรียกพวกนั้นออกมาที่ไหนก็ได้ในเกมแต่มันก็มีเงื่อนไข “ – Tess พูดขึ้น
“ อะไร ? “ – เดฟ ถาม
“ เราใช้เซนทอร์เป็นพาหนะได้แค่วันเดียว “
“ วันเดียวก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว มันคงเดินทางได้ครึ่งหนึ่งถ้าสุสานไม่ไกลขึ้นไปอีก “ – เดฟ พูดขึ้น
“ งั้นก็ตกลงตามนี้ ให้ฉันเรียกมันออกมาที่นี่เลยมั้ย ?”
“ ไม่ รอจนกว่าเราจะอยู่ที่ Unburg “ – เดฟ พูดขึ้น
“ Urburg ?ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน “ – Tess พูดขึ้น
“ มันเป็นเมืองร้างใจกลางป่า “
“ โว๊ะ ! นายเจอเมืองในป่างั้นเหรอ ?” – Tess เบิกตากว้าง
“ ใช่ เราจะบอกเธอเรื่องนี้ตอนที่เราไปถึงที่นั่น เอ้านี่ไป “ – เดฟ ส่งคัมภีร์วาร์ปให้กับนักเวทย์
“ เอาล่ะพวก ทุกคนมีคัมภีร์วาร์ปไปที่ Urburg แล้วใช่มั้ย ? งั้นก็ไปกันเถอะ “ – เดฟ ฉีกคัมภีร์วาร์ปแล้วหายไปจากเ Moria
ไม่นานทุกคนก็ได้ไปรวมตัวกันที่ประตูวาร์ปของเมือง Urburg
“ เฮ้ นายต้องเชิญฉันเข้าปาร์ตี้ด้วย “ – Tess เตือน เดฟ
เดฟ จึงได้ส่งคำเชิญให้กับเธอ
***
ผู้เล่น Tess เลเวล 421 ได้เข้าร่วมปาร์ตี้ของคุณ
***
Tess ได้เอาเขาสีทองออกมาจากช่องเก็บของก่อนจะเป่ามัน
เซนทอร์ตัวผู้ตัวหนึ่งได้โผล่มาตรงหน้าเธอ ส่วนล่างนั้นใหญ่ยิ่งกว่าม้าพร้อมกับส่วนบนที่กำยำและยังมีธนูคาดไว้ที่หลัง
“ นักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ “- เซนทอร์โค้งให้
“ เฮ้ Derin ฉันอยากขอให้นายช่วยหน่อย “ – Tess พูดขึ้น
“ ตามต้องการ “
“ ปาร์ตี้ของฉันต้องการขี่พวกนายไปในสุสานที่อยู่ในป่า “
เซนทอร์มองไปรอบๆ – “ นี่คือป่า ความปลอดภัยของคนของฉันจะลดลงแต่สำหรับเธอแล้ว เราจะลองดูก็ได้ “
“ เอาล่ะ เราต้องการเซนทอร์ 9 ตัว “
“ แค่ 8 พอ “ – เดฟ พูดขึ้น
Tess เอียงหัวด้วยท่าทีสงสัย
เดฟ ยิ้มและผิวปากเพื่อเป็นการตอบกลับ
ตอนนั้นพื้นดินก็เริ่มสั่นไหวพร้อมกับกวางตัวขนาดใหญ่กว่าเซนทอร์ที่โผล่มาจากป่าวิ่งเข้ามาหาพวกเขา
Tess กลัวขึ้นมาและยกคทาเตรียมที่จะสู้
“ ใจเย็นๆไว้ เขาเป็นเพื่อนฉันเอง “ – เดฟ พูดขึ้นพร้อมกับ Spike ที่มาหยุดอยู่ตรงหน้า จากนั้น เดฟ จึงได้ลูบหัวและเกาคางให้มัน
“ การเป็นเพื่อนกับ Fiend นี่เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ เพื่อนเธอนี่สุดยอดจริงๆเลย นายหญิง “ – เซนทอร์มองไปที่ Spike ด้วยท่าทีอึ้ง เขาไม่ได้พูดอะไรต่อและยกเขาอันที่ใหญ่กว่าของ Tess และเป่ามัน จากนั้นก็มีเซนทอร์อีก 7 ตัวปรากฏตัวขึ้นมารอบตัวเขา
“ รีบไปกันเถอะ เวลาดีบัฟของป่ามันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “ – เดฟ พูดขึ้นพร้อมกับโดดขึ้นหลัง Spike