Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 241
Chapter 241 : คำสัญญา
เดฟ ได้วิ่งเข้าไปในป่าโดยเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่เขาเว้นระยะห่างได้พอตัว เขาก็ได้หยุดและผิวปาก ที่ต้นไม้ข้างๆเขานั้น Spike ได้โผล่มาราวกับผี – “ ว่าไงเพื่อน ดีใจนะที่แกมา “ – เดฟ พูดขึ้นพร้อมกับโดดขึ้นหลัง – “ สลัดพวกนี้ไปแล้วไปหาคนอื่นๆ “
Spike ร้องออกมาเชิงตกลงแล้ววิ่งออกไปทิ้งฝูงมอนเตอร์ไว้ด้านหลัง เดฟ ได้พา Spike อ้อมกลับมายังสุสาน แม้ว่าจะเดินทางไกลกว่าเดิมแต่ด้วยความเร็วของ Spike แล้วพวกเขาก็ไปถึงที่สุสานได้เร็วพอๆกับคนที่เหลือ
“ สถานการณ์เป็นยังไง ?” – เดฟ ถามผ่านช่องแชท
ราฟ ตอบกลับสั้นๆ – “ ไม่มีพวกคนป่ารึมอนเตอร์อื่นๆตามเรามา เราเห็นสุสานแล้วและมันก็เป็นเหมือนปราสาทขนาดใหญ่ “
“ ดี ฉันกำลังกลับไปที่สุสาน ไว้เจอกัน “ – เดฟ พูดขึ้น
ไม่นาน Spike ก็ได้วิ่งออกมาจากป่าและพุ่งเข้าไปยังจุดที่แผนที่บอกก่อนจะได้เห็นสุสานอยู่ตรงหน้า ที่นี่ดูคล้ายกับปราสาทเหมือนที่ ราฟ บอกมา เดฟ แปลกใจเล็กน้อยเพราะพวกเขาไม่ได้เจอกับอันตรายใดๆเลยระหว่างเดินทางมาที่นี่แต่จากนั้นเขาก็คิดออกว่าพวกคนป่าอาจจะไล่มอนเตอร์ออกไป
‘ต้องขอบคุณพวกตัวเล็ก ฮาฮา ! ’
เพื่อนเขารอเขาอยู่ใกล้ๆสุสาน
มีกำแพงหินสี่ด้านที่นั่น โครงสร้างของมันครั้งหนึ่งเคยเป็นหอคอยในแต่ละมุม แน่นอนว่ามันถล่มลงมาแล้ว จากการปีนกำแพงด้านหนึ่งไป เดฟ ก็ได้เห็นโดมสีทองครึ่งหนึ่งด้านบน มันมีมอสเกราะเต็มไปทั่ว เดฟ ไม่เห็นทางที่จะเข้าไปที่นั่นได้เลยด้านบน Spike
“ สวัสดีตอนเช้า ดีใจนะที่พวกนายแวะมา “- ราฟ ตะโกนหา เดฟ
เดฟ หัวเราะออกมาแล้วพา Spike ไปหาคนอื่นๆ
“ ไปกันเถอะ“ – เดฟ เงียบไปเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากป่า
เมื่อหันกลับไปดู เดฟ ก็ได้เห็นฝูงคนป่าวิ่งออกมาจากป่าพร้อมกับกรีดร้อง
“ เข้าไปในสุสาน ! “ – เดฟ พูดขึ้น
“ เดี๋ยวนะ ! “ – Perfect พูดขึ้นเพื่อห้ามทุกคน
เดฟ หันกลับไปมอง – “ อะไร ? “
แรนเจอร์ชี้ออกไป – “ ดูสิ พวกคนป่าหยุดแล้ว “
เขาพูดถูก พวกคนป่าหยุดโดยเว้นระยะห่างกับผุ้เล่นราวกับว่ามีอะไรกันไม่ให้พวกมันเข้ามาใกล้ได้อีก
“ บางทีพวกมันอาจจะกลัวสุสานก็ได้ “ – Flanker พูดขึ้น
“ บางทีอาจจะเป็นแบบนั้นแต่อย่ารออยู่ที่นี่เลย ไปดูกันดีกว่า เราต้องเข้าไปในสุสานและทำเควสให้เสร็จ “ – Fortress พูดขึ้น
“ งั้นก็เข้าไปกัน “ – เดฟ พูดขึ้นโดยมีผู้เล่นคนอื่นๆเดิมตามไป
Perfect มองไปที่คนป่า หนึ่งในนั้นโบกคทาไปมา พวกมันกรีดร้องบางอย่างก่อนจะฟาดคทาลงกับพื้นจนทำให้ทั้งเผ่าเริ่มกระโดดไปมาอย่างกับคนบ้า หลายคนล้มลงไปกับพื้น ตัวของมันสั่นราวกับโดนผีสิง
“ อ่ะพวก พวกห่านั่นเป็นไรไม่รู้ “ – Perfect พูดขึ้น
***
หมอผีคนป่าได้เรียกภัยพิบัติมาสู่คุณ ระวัง จิตวิญาณปิศาจในป่าจะเกาะติดคุณ
กลิ่นอายของป่าเพิ่มขึ้น 2 เลเวล !
ตอนนี้คุณมีกลิ่นแรงจนเป็นที่น่ารังเกียจและตอนนี้ก็เป็นภัยต่อป่า ถ้าคุณตายในป่า คุณจะเสีย 4 เลเวล
คุณจะได้ exp เพิ่มขึ้น 20% จากการฆ่ามอนเตอร์ในป่า
***
เดฟ ตะโกนออกมา – “ เหี้ยอะไรเนี้ย ? ! “
เดฟ เร่งให้ Spiker เดินหน้าต่อ – “ ช่างมัน เราแค่ต้องเข้าไปในสุสานและทำเควสให้เสร็จ หวังว่าหลังจากนั้นเราจะไม่ต้องกลับมาในป่าอีก “
“ อืม เราอาจจะมีปัญหาเล็กน้อย…” – Tess พูดขึ้นคอยหลบตาทุกคน
“ ปัญหาอะไร ? “ – เดฟ ถาม
“ เอ่อ ฉันมีกลิ่นเลเวล 3 แล้ว ดังนั้นคำสาปตะกี้ก็—“ – Tess โดนขัดโดยเสียงคำรามดังก้องไปทั่วป่า
“ – ใช่ ก็ไอ้นั่นแหละ “ – Tess พูดต่อให้จบ
มันคือมังกรนรกและตัดสินจากความดังของเสียงแล้วก็รู้ว่ามันอยู่ใกล้แค่ไหน เสียงคำรามของมังกรครั้งแรกนั้นได้ทำให้พวกคนป่าต้องกลัวและหนีไป
เดฟ มองไปที่ท้องฟ้าเพื่อหาแหล่งกำเนิดเสียง – “ โอ้ แกต้องไล่ตามฉันต่อ ทุกคนลงไปในน้ำ เราต้องข้ามคูน้ำไป ! “
Spike โดดลงไปในน้ำ วาเนสซ่า ปิดจมูกทันทีเมื่อได้กลิ่นเหม็นจากน้ำ
“ อี๋ มันเหม็นอ่ะ ตอนแรกก็แมลง ตอนนี้ก็นี่อีก “
“ เร็วเข้า เราไม่ได้มีเวลามากเท่าไหร่ “ – เดฟ เร่ง
พวกเขาพากันโดดลงไปในคูน้ำกันทีละคนและว่ายไปอีกฝั่ง
มังกรได้คำรามขึ้นมาอีกครั้งและทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดรู้ว่าต้องเกิดภัยพิบัติขึ้น มือของ เดฟ กำที่ขนของ Spike แน่นตอนที่มันว่ายไปอีกฝั่ง ในอีกด้านของคูนั้น Spike ได้เดินออกมาจากน้ำและไม่นานทั้งปาร์ตี้ก็ได้ยืนอยู่ตรงหน้าตึกหลักของสุสาน
“ เหี้ย เราจะเข้าไปยังไง ? “ – Flanker เงยหน้าขึ้นมองและสบถออกมาด้วยความกลัว มังกรน่ะเป็นจุดเล็กๆบนท้องฟ้าและเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
“ นี่ ! “ – Perfect พูดขึ้น มันมีประตูสีทองในกำแพงด้านหนึ่ง
“ เร็วเข้า ช่วยฉันเปิดประตูที “ – Perfect วิ่งไปผลักประตู
คนอื่นๆเข้าไปช่วยเขาผลักประตู หลังจากพยายามอยู่สักพักประตูก็เริ่มขยับและส่งเสียงเสียดสีออกมาก่อนจะเปิดช่องแคบๆซึ่งไม่กว้างพอที่พวกเขาจะเข้าไปได้
***
คุณได้รับผลจากออร่าความกลัว
ตัวละครของคุณจะไม่ตอบรับคำสั่งของคุณ !
***
“ ไม่ใช่วันนี้เว้ยสมอร์ก [Immune to Fear](ต้านทานความกลัว) “ – Flanker โบกคทาพร้อมกับมีแสงที่ส่องประกายรอบปาร์ตี้กันความกลัวออกไป
“ นี่ไง นายเรียกมังกรดำว่าสมอร์กอีกแล้ว ฉันคงจะเขียนหน้านายแล้วถ้าไม่ใช่ว่ายุ่งอยู่ “
“ เงียบไปน่า ตอนนี้หุบปากแล้วผลักประตูไป บัฟอยู่แค่ 10 วินาทีเท่านั้น “ -Flanker พูดขึ้นและลงมือทันที
มังกรตอนนี้บินอยู่บนหัวพวกเขา มังกรนั้นไม่พอใจที่ผู้เล่นต้านทานสกิลของมันได้ มังกรได้พุ่งลงมาที่พื้นแล้วพุ่งเข้าไปกัดผู้เล่นที่ผลักประตูอยู่ อยู่ๆประตูก็เปิดออกพร้อมกับทำให้ผู้เล่นเซล้มเข้าไปในสุสาน ปากของมังกรเกือบจะถึงที่ประตูแต่กลับไม่มีเหยื่อติดมาเลย
มังกรกรีดร้องอีกครั้ง มันพยายามเข้ามาหาผู้เล่นแต่ประตูนี้แคบเกินไปสำหรับมัน มังกรได้ร้องออกมาแล้วเอาหัวชนเข้ากับตึกทำให้ทั้งตึกนั้นสั่นไหวและมีหินและฝุ่นหล่นลงมา
ไม่นานมังกรก็ยอมแพ้และหันกับไปสนใจมอนเตอร์นอกสุสาน Spike นั้นตัวชาเพราะผลความกลัวจากมังกร มังกรได้ใช้เท้าของมันฟาดเข้าที่ Spike จนทำให้พื้นดินสั่นไหว
***
Forest Prong Fiend (Spike) ตาย !
***
เดฟ อ่านแจ้งเตือนและตัวนิ่งไปชั่วขณะก่อนจะปัดแจ้งเตือนทิ้ง เพื่อนที่แบกเขามาผ่านป่าได้ตายไปแล้ว ตาของเขาดูเหม่อลอยและค่อยๆเดินไปยังประตู
“ เดฟ นายทำอะไร ? ไม่ ! “ – ราฟ ตะโกนออกมาแล้ววิ่งเข้าไปหาเพื่อนแต่ เดฟ นั้นเหมือนกับซอมบี้ที่เดินไปทางประตูโดยไม่สนใจอะไรเพื่อออกไปสุสานแก้แค้นให้กับเพื่อน
“ ไม่ ! เวลาบัฟหมดแล้ว ! “ – Flanker ตะโกนบอก ราฟ
ราฟ หยุดที่ริมประตูและมองไปที่ เดฟ กับมังกร
[Aura of Terror] นั้นไม่ได้ส่งผลต่อผู้เล่นในตึกแต่เขาจะตัวชาทันทีที่เดินออกจากประตูไป
“ เราต้องช่วยเขา ! “ – โซว์ พูดขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปรวมตัวกับ ราฟ ที่ประตู
เคทลิน ส่ายหน้า – “ การที่คนทำอะไรโง่ๆน่ะไม่ใช่ว่าเราต้องทำด้วย การเดินออกจากที่นี่เป็นตั๋วกลับไปจุดเกิด “
“ แต่แล้ว เดฟ ล่ะ ? มันเป็นเควสเขา เขาจะตายที่นี่ ! “ – โซว์ ตะโกน
“ ฉันคงหยุดเขาไปแล้วถ้ารู้ว่าเขาจะทำอะไรแต่ตอนนี้มันช้าเกินไปแล้ว เดฟ น่ะจะต้องรับผลจากการกระทำตัวเองเหมือนกับคนอื่นๆ “ – เคทลิน พูดขึ้นอย่างเย็นชา
วาเนสซ่า ได้เอาพิณออกมาแล้วเริ่มดีด เสียงเพลงได้ดังขึ้นมาดังไกลไปถึงมังกร
“ ไอ้มังกรบัดซบต้านเสน่ห์ได้ ! “ – วาเนสซ่า พูดด้วยความหงุดหงิด
ตอนที่บัฟของ Flanker หมดลง เดฟ ก็ได้เผชิญหน้ากับ [Aura of Terror]
ตัวละครของเขาไม่ขยับแต่ เดฟ ต้องการที่จะขยับ เขาเผชิญหน้ากับมังกรและมองไปที่ตาของมัน
มังกรพบว่ามนุษย์กำลังท้าทายมันอยู่ มันอ้าปากกว้างและกัดเข้าไปที่ผู้เล่น เดฟ ได้ปล่อยให้มังกรกลืนเขาเข้าไป
ทุกคนต่างก็อึ้งเมื่อเห็นว่า เดฟ ได้หายไปในปากมังกร
ดาเมจลอยขึ้นมาจากจุดที่เขายืนอยู่
***
[-422,880]
***
จากนั้นก็มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา
***
คุณอยู่ในสภาพวิกฤต !
สกิลติดตัว [Unyielding] ทำงาน คุณต้านทานการตายได้ 5 วินาที !
คุณเหลือเลือด 1% !
***
เดฟ ได้ใช้ [Unyielding] ซึ่งลบผลของ [Aura of Terror] และมีเวลา 3 วินาทีในการต้านดีบัฟ เขายังใช้ [Aura] ของตัวเอง ตัวละครของเขาแผ่ไฟออกมาจนไหลออกมาจากช่องว่างที่ปากของมังกร
“ ลองโดนเผาดู ไอ้เหี้ย ! “ – เดฟ อ้าปากใช้ [Ray of Flames] มังกรร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดตอนที่ลำแสงได้พุ่งผ่านลำคอจนไปถึงท้องของมัน
หนังมังกรน่ะแข็งแกร่งกว่าเกราะส่วนมากที่ทุกคนรู้จักแต่ด้านในน่ะคนละเรื่อง แม้ว่าด้านในมังกรจะแข็งแกร่งกว่าของสัตว์อสูรส่วนมากแต่ข้างในก็ยังเป็นแค่เนื้อ [Ray of Flames] สามารถที่จะละลายสิ่งก่อสร้างได้ แน่นอนว่ามันต้องละลายเนื้อได้ ไม่นานก็มีกลิ่นไหม้ลอยออกมาจากท้องของมังกรและมีดาเมจมหาศาลลอยขึ้นที่หัวของมังกรเป็นตัวเลขสีแดง
[-120,000]
แต่หากเทียบกับเลือดที่มังกรมีแล้ว นี่มันเท่ากับลดเลือดเพียงเล็กน้อยแล้ว
มังกรได้คลาย เดฟ ออกมาจนทำให้เขากลิ้งไปชนกับกำแพง เดฟ ควรจะตายแต่เขาก็ยังเหลือเวลาในสกิล [Unyielding] อยู่
มังกรยังคงได้รับดาเมจจาก [Ray of Flames] มันคำรามและไอออกมา
[Aura of Terror] นั้นถูกหยุดชั่วคราว บางทีอาจจะเป็นเพราะมังกรนั้นกำลังบาดเจ็บอยู่ เดฟ ไม่ได้สนใจว่าทำไม เขาได้เงยหน้าขึ้นมองไปที่มังกรด้วยความพอใจนิดๆแต่นั่นก็ยังถือว่าไม่เพียงพออยู่ดี
จากนั้นเขาก็ได้ให้สัญญา สักวันเขาจะกลับมาในป่าตอนที่แข็งแกร่งกว่านี้ เขาจะแก้แค้นมังกรกับสิ่งที่มันทำกับ Spike
“ ฉันหวังว่าจะเผาหัวใจแกได้ ไอ้จิ้งจก ! แล้วค่อยฆ่าแกทีหลัง “
จากนั้นเขาก็หันกลับและวิ่งผ่านประตูเข้ามาในสุสานพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่โกรธแค้นยิ่งกว่าเดิม