Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 290
Chapter 290 : อยู่ในการดูแล ?
เดฟ เดินทางผ่านประตูเมืองไป คนผิวดำรอบๆเมืองต่างก็พากันยุ่งอยู่กับการซื้อขายสินค้าและทำธุระของตัวเอง เมืองนี้ไม่ต่างอะไรจากเมืองอันเดตเลย คนในชุดดำจะพากันซื้อขายอาหาร, อาวุธและของใช้อื่นๆ มันถึงกับมีเด็กเล่นอยู่ตามถนนด้วย
เดฟ รู้สึกแย่กับการต้องทำลายเมือง ความต่างอย่างเดียวของเมืองนี้กับเมืองอันเดตคือคนพวกนี้น่ะเป็นคนของ Ash King
เดฟ ยังคงเดินเข้าไปในเมืองต่อ เขามาถึงที่ตลาดซึ่งได้พบกับพ่อค้าที่กำลังตั้งร้านอยู่
เดฟ เห็นว่าอีกฝ่ายมีอาวุธและเกราะนำมาวางขายให้กับลูกค้า
ตอนที่พ่อค้าคนนั้นเห็น เดฟ เข้า เขาก็ได้ละสายตาหนีด้วยท่าทีรำคาญ มันดูเหมือนว่าเขาจะไม่ชอบที่เห็นพ่อค้าคนอื่นขี่กิ้งก่าที่ตัวใหญ่และสีดำกว่าเขา เดฟ ไม่รู้ว่าที่นี่นั้นถือกันว่ายิ่งกิ้งก่าแข็งแกร่งเท่าไหร่ ของที่เอามาด้วยก็จะมีค่ามากเท่านั้น มันเป็นความเป็นจริงง่ายๆที่กิ้งก่าที่แข็งแกร่งนั้นจะหมายถึงการป้องกันสินค้าที่ดีกว่าเดิม
เดฟ ไม่ได้สนใจและเดินทางต่อจนกระทั่งถึงจุดเงียบๆของตลาด เดฟ ลูบที่หัว Grumpy และบอกให้มันนั่งลง
มันมีซอยมืดๆด้านหลัง เดฟ ซึ่งเขาดูแล้วว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น เดฟ ได้เอา Tiny ออกมาและบอกให้มันปล่อย Bud ออกมาจากช่องมิติ
Tiny ขยายตัวจนตัวใหญ่เกือบเท่ากับตึกข้างๆ ต้องขอบคุณที่ไม่มีใครเห็นมัน Tiny ได้ปล่อยโลงศพออกมาและเปิดฝาโรงออก Bud ได้ถูกเตะออกมาจากโลงทันที
Bud มองไปรอบๆแล้วถาม – “ เรา อยู่ในเมืองเหรอ ?”
“ ใช่ ฉันอยากให้นายทำอะไรให้ฉันสักหน่อย “ – เดฟ พูดขึ้นแล้วมองไปยัง Tiny – “ หดตัวกลับไม่งั้นคนอื่นจะรู้ “
Tiny เปลี่ยนตัวเองกลับไปเป็นสไลม์ จากนั้นก็โดดเข้าไปยังกระเป๋าของ เดฟ
เดฟ หันกลับไปหา Bud แล้วพูดขึ้น – “ นายพยายามหาข้อมูลของพีระมิด ถ้านายเข้าไปได้ก็ลองตรวจสอบแผนผังที่นั่นมา “
Bud พยักหน้าตอบรับก่อนจะหายกลายเป็นเงา
เดฟ ได้เอาอุปกรณ์ที่เขาไม่ได้ใช้ออกมาและวางไว้ตรงหน้า เขาถึงกับเอาหน้าไม้ของ Dunlord มาวางขายด้วย เขาถึงตั้งราคาไว้สูงจนไม่มีใครอยากจะซื้อ เขาแค่ต้องการอยู่ที่นี่สักพัก
มีคนสองคนเดินมาตามถนนในเมืองแล้วเข้ามาใกล้ เดฟ พวกนั้นหยุดกับสินค้าที่เขาวางขาย
สองคนได้เข้ามาหาและหนึ่งในนั้นได้ชี้มาที่โล่ที่ เดฟ วางขาย
“ เท่าไหร่ ? “ – ชายคนนั้นถามขึ้นมา
เดฟ ไม่อยากเสียเวลากับสองคนนี้จึงตอบกลับไป – “ 10,000 ทอง “
สองคนนั้นคิ้วขมวดเมื่อได้ยินราคาและเดินหนีไป
เดฟ เอาหมวกขึ้นมาปิดใบหน้าแล้วยืนกอดอกไล่สองคนนั้นไปด้วยการตั้งราคาที่สูง
Bud ใช้เวลาไปนานจน เดฟ เริ่มกังวล เขากลัวว่าผีดิบของเขาอาจจะถูกจับได้ เขาได้ตรวจสอบแผงจัดการอันเดตซึ่งก็พบว่าเลือดของ Bud ยังเต็มอยู่
“ ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี “ -เดฟ บอกกับตัวเอง
หลังจากนั้นสักพักคนก็ไม่ค่อยกล้าเดินมาที่ร้าน เดฟ พระจันทร์ที่นี่ดูเหมือนว่าจะครึ้มลง เดฟ เงยหน้าขึ้นมองและพบว่าเมฆนั้นบังดวงจันทร์เอาไว้อยู่
เดฟ ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในความมืดภายในเมือง เขาไม่ได้อยู่ในร่างอันเดต ดังนั้นการมองเห็นจึงแย่อย่างมาก เขารู้สึกว่ามีใครรึบางอย่างตามเขาอยู่ Grumpy ลุกขึ้นยืนแล้วเริ่มร้องออกมา นี่ชัดแล้วว่ามันเป็นศัตรู
เมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจด้านหลังเขา เดฟ ก็กระโดดไปข้างหน้าพร้อมกับมีดที่เพิ่งเฉือนผ่านจุดที่เขาอยู่ตะกี้
“ แกเป็นใครวะ ? ! “ – เดฟ สบถออกมา
เดฟ ไม่ได้รับคำตอบกลับมา เขารีบเอาถุงมือขึ้นมาใส่แล้วมองไปรอบๆ
เขาได้ยินเสียงหัวเราะผ่านความมืด จากนั้นก็มีเสียงตอบรับกลับมา – “ แทนที่จะเอาอาวุธออกมา นายกลับเอาถุงมือออกมา นายบ้ารึเปล่า ? “
เดฟ ไม่ได้ตอบกลับ เขามีเหตุผลของตัวเองว่าทำไมถึงได้เอาถุงมือออกมาก่อน ถุงมือนี้มีความสามารถติดตัวที่ทำให้เขาสลับอาวุธได้อย่างรวดเร็ว เสียงของดาบตัดผ่านอากาศมาทางด้านขวาของ เดฟ เดฟ โดดหนีแต่ก็ยังโดนปลายดาบเฉือนเข้าที่ไหล่
[-1,250]
เสียงของดาบดังขึ้นตรงหน้าแต่ครั้งนี้เขาเตรียมตัวพร้อมแล้ว เขาดึงเอาง้าวออกมาแล้วเหวี่ยงไปด้านหน้ารับดาบเอาไว้จนเกิดประกายไฟขึ้นมา แค่ครั้งเดียว เดฟ ก็ได้เห็นใบหน้าของนักฆ่า มันคือชายที่พยายามจะซื้อโล่จากเขา
“ นายปฏิกริยาเร็วดีนิ สำหรับมนุษย์น่ะนะ “ – ชายคนนั้นพูด เขาพุ่งเข้าหา เดฟ เดฟ ไม่เห็นว่าการโจมตีมาจากไหนและได้รับดาเมจมหาศาลเข้าไป
[-62,003]
เขาไม่ได้ใส่เกราะ ดังนั้นเลือดจึงน้อยอย่างมากเมื่อเทียบกับตอนใส่เกราะ ตอนนี้เขาเหลือเลือดไม่ถึง 40%
“ เอาล่ะไอ้ตูดหมึก แกคิดว่าแกซ่อนในความมืดได้สินะ ? ไฟมา ! “
เดฟ ได้ใช้ [Aura] จนเกิดไฟระเบิดออกมารอบตัวและทำให้ซอยนั้นสว่างขึ้น นักฆ่าถอยกลับเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มนุษย์คนนี้ตัวติดไฟอย่างกับคบไฟ
เดฟ ได้ใส่เกราะอกและรองเท้า Death Knight วิ่งเข้าหานักฆ่า ชายคนนั้นรีบกระโดดขึ้นไปที่กำแพงตึกและถีบตัวขึ้นไปเรื่อยๆ
เดฟ สะบัดมือเรียกหัวกะโหลก 8 อันออมกา เขาแปลกใจกับจำนวนหัวกะโหลกที่เพิ่มขึ้นมานี้แต่มีแจ้งเตือนกระพริบตรงมุมหน้าจอ เขาสรุปว่ามันเป็นเพราะสกิลได้เลเวลเพิ่มขึ้นมาจึงทำให้เพิ่มจำนวนหัวกะโหลกไปด้วย
หัวกะโหลกนี้เร็วกว่าแต่ก่อน พวกมันพุ่งเข้าใส่นักฆ่าอย่างรวดเร็ว
“ เวทย์แห่งความตาย ! “- นักฆ่าตะโกนขึ้นด้วยความแปลกใจแต่เสียงเขาก็ถูกกลับด้วยเสียงระเบิดแทน
***
คุณได้สร้างความกลัวให้กับเป้าหมาย
เป้าหมายติดดีบัฟกลัว !
***
นักฆ่าตกลงมาที่พื้น เดฟ พุ่งเข้าไปหาแล้วใช้ง้าวปิดชีวิตอีกฝ่าย
“ อย่ามายุ่งกับฉัน ! “ – เดฟ ตะโกนออกมา – “ โอ้แแกตายแล้วนิ ! ไอ้ห่า เป็นไงล่ะคิดจะอวดเก่ง แกอยากขโมยของจากฉันเนี้ยนะ ?”
เดฟ ยังคงบ่นต่อไปข้างๆศพ NPC จนกระทั่งเสียงเท้าดังขึ้นมารอบตัวเขา
ยามได้ล้อม เดฟ เอาไว้โดยชี้อาวุธมาที่ เดฟ
เดฟ ตรวจสอบยามคนหนึ่งดู
***
[City guard]
เลเวล : 400
ระดับ : Epic
ดาเมจ : 50,000-60,000
อันตราย :
HP: 1,500,000
ป้องกันกายภาพ : 50,000
ป้องกันเวทย์ :50,000
คำอธิบาย : ยามที่มีหน้าที่ปกป้องเมืองและทำตามคำสั่ง การโจมตียามจะทำให้ผู้เล่นเป็นศัตรูกับเมือง มันดีที่สุดที่จะทำตามคำสั่งพวกนี้
***
“ ลดอาวุธลงซะ ! “ – ยามตะโกนหา เดฟ
เดฟ มองไปรอบๆ มันมียามมากกว่า 20 คน เขารอดได้ด้วยการเรียกอันเดตของเขาออกมาจากช่องมิติของ Tiny แต่เขาไม่อยากทำให้ตัวเองเป็นศัตรูกับยามตอนนี้
เดฟ เก็บง้าวและเกราะไปก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้น
“ ฉันแค่ป้องกันตัว “ – เดฟ พูดขึ้น
“ เราจะเอานายไปไว้ที่คุกของเมือง จับตัวเขา ! “ – ยามคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“ เดี๋ยว “ – เดฟ พูดขึ้น
“ อะไร ? นี่คิดจะขัดขืนรึไง ? “ –
“ ไม่ใช่แต่ฉันจะทิ้งพาหนะไว้นี่ได้ไง “ – เดฟ ชี้ไปที่กิ้งก่า
“ มันเป็นกิ้งก่าตัวใหญ่ ฉันไม่เคยเห็นตัวใหญ่แบบนี้มาก่อน กัปตัน เราจะเอามันไปกับเราด้วยมั้ย “ – ยามคนหนึ่งถามหัวหน้า
เดฟ สรุปว่านั่นคือหัวหน้าทีมซึ่งยังคงเป็นมิตรกับเขา – “ ใช่ ฉันซื้อมาแพงนะ ต้องขอบคุณที่มันค่อนข้างเชื่อฟัง ใช่มั้ย Grumpy ! “ – เดฟ ส่งสัญญาณบอกให้กิ้งก่าของเขาอย่าเพิ่งลงมือ
“ ฉันจะให้คนพากิ้งก่าไปไว้ใกล้ๆกับคุก เราจะปล่อยนายออกมาถ้านั่นเป็นการป้องกันตัวจริงๆ “ – กัปตันพูดขึ้น
“ นายจะรู้ได้ยังไงว่าฉันพูดความจริง ? “ – เดฟ ถาม
“ เรามีวิธีของเรา ตอนนี้นายตามฉันมาได้แล้ว มนุษย์ อย่าคิดตุกติก ! “ – กัปตันพูดขึ้น
“ ได้ “ – เดฟ ตอบกลับแล้วเดินตามพวกยามไป