Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 291
Chapter 291 : ความหวัง
ยามได้พาตัว เดฟ ไปยังตึกสามชั้น มันมียามไม่กี่คนที่เข้าออกตึกนี้ คนร้ายถูกเอาไปขังด้านในตึกนี้ ต้องขอบคุณที่ยามไม่ได้ใส่กุญแจมือกับ เดฟ
กัปตันได้พา เดฟ ไปยังห้องเล็กๆ มันมีโต๊ะและเก้าอี้สองตัวในห้อง มันดูคล้ายกับห้องสอบสวน
กัปตันได้ผายมือบอกให้ เดฟ นั่งลง ส่วนเขานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม
“ ฉันต้องเรียกทนายมั้ย ? “- เดฟ พูดกวนออกมา
“ ฉันไม่รู้ว่าทนายคืออะไรแต่ฉันจะถามคำถามนาย “ – ยามได้เอากำไลที่มีเพชรสีขาวออกมาใส่ให้กับ เดฟ
“ นายชื่ออะไร ?” – กัปตันถาม
“ Kis’Shtiengbrah “ – เดฟ ตอบกลับ เพชรบนกำไลได้เปล่งแสงสีเขียวออกมา
เดฟ เข้าใจทันทีว่ามันคือเครื่องจับโกหก เขาต้องระวังคำพูดตัวเอง
กัปตันพยักหน้าแล้วถามอีกรอบ – “ นายมีเป้าหมายอะไรถึงได้มาที่นี่ ? “
คำถามนี้มันยาก เหตุผลที่เขามาที่นี่ก็คือยึดเมืองนี้
“ ฟังนะ ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเมืองนี้แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงได้โดนสอบสวนกับการมาที่นี่แทนที่จะถามเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ “- เดฟ พูดขึ้น
กัปตันรู้ทันทีว่า เดฟ หลีกเลี่ยงที่จะตอบ ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้น – “ เราจะคุยส่วนนั้นทีหลัง ตอนนี้บอกฉันมาได้แล้วว่านายมาทำอะไรที่นี่ ? “
“ ฉันมาที่นี่เพื่อหากำไรและเปิดหูเปิดตา “ – เดฟ พูดขึ้น
เขาไม่ได้โกหก มันจริงที่ว่าเขามาเพื่อหากำไร กำไรจากเมืองด้วยการฆ่าราชาและเปิดหูเปิดตาในการทำความเข้าใจแผนผังของเมืองและจุดอ่อนสำหรับการโจมตีของเขา
เพชรเปล่งแสงสีเขียวออกมา เดฟ ไม่ได้โกหก เขายิ้มเมื่อคำพูดของเขาได้ผล
“ ดี ตอนนี้ก็บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้นและทำไมนายถึงได้ฆ่าชายคนนั้น “
“ ฉันก็กำลังขายของของตัวเอง แล้วมันก็มาโจมตีฉัน มันมีอาวุธด้วยและฉันก็แค่ป้องกันตัว “
“ ป้องกันตัวจนฆ่าอีกฝ่ายเลยงั้นเหรอ ? “
“ ฉันโกรธนิและมันก็มืดด้วย “ – เดฟ พยายามให้เหตุผลเพื่อไม่ให้เครื่องจับผิดทำงานและมันก็ได้ผลอย่างดีจนไฟเขียวติดขึ้นมา
กัปตันถาม เดฟ อีกซึ่งเขาก็หลีกเลี่ยงคำถามได้ตลอดและโทษระบบการป้องกันของเมือง
เดฟ เดินออกมาพร้อมกับเอา Grumpy ไปด้วย เขาเดินไปตามเมืองและได้ยินเสียงฮึดฮัดออกมาจากซอยมืด มันคือ Bud
“ Bud นายกลับมาแล้ว นายเจออะไรบ้าง ?” – เดฟ ถาม
“ พีระมิด ป้องกันดี ฉัน เข้าไม่ได้ ต้องการข้อมูลเพิ่ม “ – Bud พูดขึ้น
มันไม่มีข้อมูลที่ เดฟ ต้องการ เขามองไปรอบๆและเห็นห้องสมุดที่มุมถนน
“ Bud กลับไปดูว่านายจะหาข้อมูลได้อีกมั้ย ฉันจะไปหาข้อมูลเพิ่มเหมือนกัน “
เดฟ ได้เอา Grumpy ไปไว้ที่ข้างถนนแล้วเข้าห้องสมุดไป
มันมีหนังสือเป็นพันๆเล่มวางไว้บนชั้นวางเรียงตามกำแพง มีชายผิวเข้มดูแลที่นั่นอยู่
“ มีอะไรให้ช่วยมั้ย คุณลุกค้า ?” – คนดูแลถามขึ้นมา
“ ฉันเพิ่งได้มาเมืองนี้ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นที่ที่ยิ่งใหญ่และโบราณ ฉันเลยอยากดูว่ามีหนังสืออะไรดีๆให้อ่านเกี่ยวกับประวัติที่นี่รึเปล่า “
“ โทษทีแต่หนังสือเกี่ยวกับประวัติของเมืองน่ะค่อนข้างสำคัญ คุณต้องแสดงสิทธิเพื่อจะดูหนังสือพวกนั้น”
เดฟ เอาเหรียญออกมาจากช่องเก็บของและถามขึ้น – “ นี่พอมั้ย ? “
คนดูแลเบิกตากว้างและรีบพูดขึ้นมา – “ รอเดี๋ยวนะ “
เขาเดินไปหาหนังสือและกลับมาพร้อมกับหนังสือขนาดต่างๆ
เขาวางมันไว้ที่โต๊ะแล้วพูดขึ้นมา – “ นี่คือหนังสือที่เกี่ยวกับโครงสร้างเมือง, ประวัติศาสตร์, ธรรมเนียมและเรื่องในอดีต ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่รู้ว่ามันมีนายพลในกองทัพด้วย “
“ ใช่ ฉันก็ผ่านอะไรมาเยอะ มนุษย์น่ะเป็นนายพลได้ถ้าแข็งแกร่งพอ “ – เดฟ พูดขึ้น
เหรียญนี้คือตำแหน่งนายพลในกองทัพ เดฟ รู้ว่าเขาเสี่ยงมากในการเปิดเผยตัวแต่เขาต้องการข้อมูลเกี่ยวกับพีระมิดและนี่คือทางที่เร็วที่สุดที่จะได้มันมา
เดฟ หยิบหนังสือขึ้นมาเริ่มอ่าน
เนื้อหาในหนังสือส่วนมากเกี่ยวกับสงครามและโครงสร้างรวมถึงการที่เมืองนี้ตกเป็นของ Ash King ยังไง แต่มันมีเนื้อหาเล็กน้อยที่เขาสนใจ
พวก Cindered หนังสือเรียกพวกนี้ว่าพวกที่อาศัยอยู่ในพีระมิด ครั้งหนึ่งพวกนี้เคยเป็นอิสระ พวกนี้อยู่เพียงลำพังและทำการซื้อขายกับพวกต่างๆในโลกใต้ดิน พวกนี้เก่งเรื่องทำคัมภีร์เวทย์ นักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกนี้ถูกเรียกว่าฟาโรห์ซึ่งได้สร้างเวทย์หวงห้ามขึ้นมา หนังสือที่มีพลังซึ่งทำให้โลกบิดเบี้ยวได้
เดฟ อ่านเนื้อหาต่างๆในหนังสือ พวกมันอธบายถึงพลังของเวทย์และการใช้งานมัน เวทย์หวงห้ามนั้นสามารถสร้างปาฏิหาริย์ที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เดฟ พบข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเวทย์พวกนั้น มันทำให้เขาเข้าใจเวทย์ของเมืองนี้ได้ดีกว่าเดิม
แม้ว่าจะเป็นกลางแต่พลังของเวทย์หวงห้ามนั้นก็ทำให้เมืองแห่งนี้ถูกเรียกว่าสุสานฟาโรห์ซึ่งกลายเป็นเป้าหมายของ Ash King
Ash King เข้าโจมตีเมืองนี้และได้รับเวทย์หวงห้ามไปหลังจากที่ฆ่าฟาโรห์แต่การตายของฟาโรห์นั้นไม่ได้หมายถึงจุดสิ้นสุดการสร้างเวทย์หวงห้าม นักเวทย์ส่วนหนึ่งที่รู้จักฟาโรห์ได้หนีไปพร้อมกับความรู้ในการสร้างเวทย์เหล่านั้นและทำให้มันแพร่หลายไปทั่วโลก พวกนั้นไม่ต้องการให้ Ash King ได้พลังนี้ไว้คนเดียวและต้องการจะแพร่มันไปทั่ว
เดฟ อ่านหนังสืออีกเล่ม มันพูดถึงพีระมิดและโครงสร้างของมัน มันไม่ใช่แค่ศูนย์กลางของเมืองแต่ยังใช้ไว้ควบคุมสฟริงค์ด้านนอกด้วย สฟริงค์นี้คือสิ่งมีชีวิตที่ใช้ในสงครามและต้องให้อาหารอย่างต่อเนื่อง ราชาคนใหม่ที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมารับหน้าที่นี้ไป มันถูกป้อนอาหารด้วยชีวิตคนในเมืองนี้
เดฟ คิ้วขมวดเมื่ออ่านถึงบรรทัดสุดท้าย คนในเมืองนี้ไม่ได้เป็นภัยต่ออันเดต มันคือคนปกครองและลูกน้องของพวกนั้นต่างหาก
‘นี่ทำให้ง่ายกว่าเดิมมาก ฉันไม่ต้องฆ่าคนอื่นนอกจากหุ่นเชิดของ Ash King ’
เดฟ อ่านหนังสือเพิ่มอีก หนังสือเล่มหนึ่งได้อธิบายถึงโครงสร้างของพีระมิด มันเป็นข้อมูลที่ เดฟ สนใจ ข้างในพีระมิดนั้นเหมือนกับพื้นที่กั้น มันใหญ่พอที่จะจุกองทัพไว้ด้านในได้ กองทัพอันเดตของเขา
“ ตอนนี้ฉันก็ต้องหาทางไปหาราชาหุ่นเชิดนั่น “ – เดฟ ปิดหนังสือแล้วส่งมันคืนให้กับคนดูแล
“ ขอบคุณสำหรับหนังสือ “
“ ไม่เป็นไร “ – คนดูแลพูดขึ้น เขาดูกังวลเล็กน้อย เดฟ เห็นแต่ไม่ได้สนใจมัน
ในตอนที่เขาเดินออกมาจากห้องสมุด เขาก็เห็นยามกว่าสิบคนยืนรอเขาอยู่พร้อมอาวุธในมือ
“ อย่าขยับ ! “ – กัปตันพูดขึ้น
“ เฮ้ ฉันคิดว่าเราจบกันเรื่องฆ่าคนแล้วนิ ? “
“ ไม่ใช่เรื่องนั้น นายพลตัวปลอม ! “
‘ เหี้ยแล้วไง ’ เดฟ หันกลับไปมอง คนดูแลคงต้องแจ้งยามเรื่องเหรียญนี่ มันคงขึ้นอยู่กับเวลาว่าเขาจะโดนจับได้ตอนไหน
‘บ้าเอ้ย ฉันน่าจะเอาหนังสือมาด้วย ’
“ ตอนนี้นายมากับเรา ราชาอย่าพบกับนาย “
“ หือ ? ตะกี้ว่าไงนะ ? “
“ ใช่ ราชาต้องการรู้ว่านายได้เหรียญนี้มาได้ไง ฉันแนะนำให้นายร่วมมือ ไม่งั้นแล้วฉันจะเอานายไปให้สฟริงค์กิน “ – กัปตันพูดขึ้น
เอาจริงๆแล้ว เดฟ ก็ต้องการไปหาราชาเหมือนกันและนี่ก็ดูเหมือนเป็นโอกาสที่เหมาะเจาะพอดี