Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 300
Chapter 300 : สั่งสอน
“ แกมาเสนอหัวเองเลยสินะ “ – สิงโตปัดใบมีดของตั๊กแตนทิ้งแล้วถอยกลับไป
เดฟ รีบลุกขึ้นยืนแล้วถอยออกห่างจากทั้งสอง มันดีที่ตั๊กแตนตัดสินใจจะช่วยแต่นั่นไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายมาเป็นพวกด้วย พวกนี้แค่เป็นศัตรูกันอยู่แล้วก็เท่านั้น
“ ไอ้พวกไม่มีเกียรติ แกไม่อยากสู้และพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองแบบเดี่ยวๆและต้องพึ่งจำนวน “ – สิงโตพูดขึ้นแต่ไม่ได้ดูเหมือนไม่พอใจ สำหรับการต่อสู้นี้ ยิ่งมันได้สู้เท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้มันตื่นเต้นเท่านั้น
“ แกไม่ต้องพูดถึงเกียรติหรอกทั้งๆที่แกโจมตีฉันตอนหายตัว “ – เดฟ เถียงกลับ เดฟ พร้อมจะสู้ด้วยการที่มีตั๊กแตนมาคอยช่วย การจัดการกับสิงโตนี้ไม่น่าจะใช่ปัญหา
ตั๊กแตนตัวเบลอเพราะความเร็วและพุ่งเข้าใส่สิงโต เดฟ ยากที่จะตามตั๊กแตนได้ทัน
‘บ้าเอ้ย เร็วกว่าแต่ก่อนอีก ’ เดฟ คิด สิงโตนั้นกลับกัน มันตามตั๊กแตนได้ไม่ยาก ตาสีทองของมันตามการเคลื่อนไหวของตั๊กแตนได้หมด
ตั๊กแตนเหวี่ยงใบมีดของมันเข้าใส่สิงโตซึ่งทำให้อีกฝ่ายต้องก้าวถอยหลบ สิงโตใช้ดาบของตัวเองเล็งไปที่ท้องตั๊กแตนแต่ เดฟ ไม่ได้ยืนเฉยๆ เขาใช้ [Immortal Apparition] ที่เพิ่งจะคูลดาวน์เสร็จเหวี่ยงหมัดเข้าใส่ดาบปัดทิ้งออกจากตัวตั๊กแตน ตั๊กแตนใช้โอกาสนั้นในการโจมตีเข้าที่ตาซ้ายของสิงโตจากมุมอับ
เดฟ ต่อยเข้าที่ท้องสิงโตและตามด้วยการเตะ ทำให้สิงโตนั้นกลิ้งไปกับพื้น
ตอนที่สิงโตลุกขึ้นยืนมันก็ส่งสายตาแค้นเคืองให้กับ เดฟ จากนั้นสิงโตก็หายตัวไป
อยู่ๆกองทัพของ เดฟ ก็เคลื่อนไหวได้และพุ่งเข้ามาหาเขา พวกนั้นล้อม เดฟ เอาไว้เพื่อปกป้องเขา
เดฟ รออยู่สักแป๊ปเพื่อดูว่าสิงโตหนีไปจริงๆรึเปล่า หลังจากที่ยืนยันว่าสิงโตหายตัวไป เดฟ ก็ถอนหายใจออกมา
“ เดาว่ามันจบดีกว่าที่ฉันคาดเอาไว้ “ – เดฟ พึมพำ
“ เราจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี ?” – Singund ชี้ไปที่ตั๊กแตนที่กำลังมองมาที่ผู้เล่นด้วยสายตาหิวโหย
เดฟ เดินไปหาตั๊กแตนซึ่งอีกฝ่ายก็หันมาหาเขาทันทีและยกใบมีดของมันเป็นการเตือน
เดฟ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วพูดขึ้นมา – “ ใจเย็นๆพวก ฉันไม่ได้มาร้าย ขอบคุณที่มาช่วยฉัน “
ตั๊กแตนมองมาที่ เดฟ ด้วยท่าทีสงสัย มันเข้าใจคำพูดของเขาแต่ไม่รู้จะตอบกลับยังไง
“ Warlord เราลองฆ่ามันดีมั้ย ?” – Satan Slayer พูดขึ้น เขาเป็นนักรบหากดูจากชุดที่ใส่ ชายคนนี้เป็นคนมีตำแหน่งสูงในกิลด์ เขายังเป็นคนมีอำนาจในโลกจริงด้วย เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าของ IGU ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของยุคนี้
Warlord ส่ายหน้า – “ ไม่ Demetri พูดถูก นี่มีแต่จะทำให้เกิดปัญหา “
ตั๊กแตนเริ่มเบื่อ จากนั้นมันก็ตัดสินใจที่จะออกไป มันเคลื่อนที่ผ่านผู้เล่นไปอย่างรวดเร็วและหายไปในป่า
บางทีมันอาจจะคิดว่าคงเป็นความคิดที่ดีกว่าในการหาเหยื่อตัวเดียวดีกว่าการต้องมาสู้กับผู้เล่นหลายคนที่นี่
ตอนที่พื้นที่นั้นปลอดภัยแล้ว Warlord ก็เดินเข้ามาหา เดฟ และพูดขึ้น – “ งั้นถ้านายไม่ช่วยเรา แล้วนายมาที่นี่ทำไม ? นายก็เห็นนิว่านายไม่ได้มีเพื่อนมากนักที่นี่ “
“ นายพูดผิดนะ “ – เดฟ ยิ้ม – “ Blaster ไปไหน ? “ – เดฟ มองไปด้านหลัง Warlord พยายามหาตัว ราฟ
“ ฉันรู้จัก Blaster และถ้านายต้องการ ฉันพาเขามานายได้ “ – อัศวินใส่เกราะแดงเดินมาหา เดฟ
“ แล้วนายเป็นใคร ? “ – เดฟ ถาม
“ ฉันชื่อ Ruinsmith ฉันเป็นเพื่อนของ Blaster “
เดฟ คิ้วขมวด ชื่อนี้ทำให้เขานึกถึงบางอย่าง เขาคิดว่ามันไม่สำคัญแต่ก็จำได้ว่า ราฟ ไม่เคยพูดว่ามีเพื่อนในเกม เมื่อคิดแบบนั้น เดฟ ก็จำเรื่องหนึ่งได้ ชายคนนี้คือคู่หมั้นของ แอนนา เธอคือแฟนเก่าของ เดฟ !
“ เดี๋ยวก่อน Blaster ใช่นักดาบชุดดำรึเปล่า ? “ – Demetri ถาม
“ ใช่ คนนั้นแหละ “
“ ฉันรู้จักเขา เขาบอกว่าเขาเป็นเพื่อนกับนาย “ – จากนั้น Demetri ก็เรียกผ่านช่องแชทปาร์ตี้ – “ เอาหัวหน้าทีม A-20 มาที่นี่ “
ตอนที่ไอ้บ้าที่เสนอหน้ามาเห็นว่า Demetri รู้จัก Blaster เขาก็เริ่มลน เขาได้แต่พยายามออกจากสถานการณ์ตอนนี้แต่ เดฟ ไม่คิดจะปล่อยอีกฝ่ายไป เขาเข้าใจว่า Ruinsmith ต้องการอะไรจากเขา อีกฝ่ายต้องการใช้ชื่อ ราฟ ในการผูกมิตรกับเขา มันชัดเจนอยู่แล้ว อีกฝ่ายต้องการอาศัยชื่อเสียงของ เดฟ ในการเพิ่มอำนาจของตัวเอง
“ เดี๋ยวสิ Ruinsmith “ – เดฟ พูดขึ้นพร้อมกับยิ้ม เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าลูบหนวดอยู่
“ ต้องมีคนซวยแน่ๆ “ – เคทลิน พึมพำ
Tess ที่ยืนอยู่ข้างๆได้ยินจึงถามออกมา – “ ทำไม “
“ ตอนที่เห็นไอ้บ้านั่นลูบหนวดน่ะ ไม่มีอะไรดีหรอก หลักๆแล้วน่าจะเป็นห่วงอีกฝ่ายมากกว่า “ – เคทลิน พูดขึ้น
ราฟ โผล่มา – “ ว่าไง Demetri มีอะไร ? “ – เมื่อหันกลับมา ราฟ ก็เห็น เดฟ มองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ ว่าไงพวก ! “ – ราฟ พูดขึ้น – “ เกิดบ้าอะไรขึ้นที่นี่ ? “ – ราฟ พูดต่อเมื่อเห็นหลุมที่พื้น
“ เรื่องมันยาว ตอนนี้บอกฉันมา ฉันเพิ่งเจอเพื่อนของนายมา “ – เดฟ ชี้ไปที่ Ruinsmith
“ คนนี้ ? ไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย “ – ราฟ รู้ทันทีว่า เดฟ หมายถึงอะไร
“ จริงเหรอ ทำไมเขาถึงโกหกล่ะ ? ฉันรู้จัก Blaster และเพื่อนของเขาทั้งหมด นายคิดว่าฉันควรฆ่าคนที่ฉันไม่เชื่อรึเปล่า ? ”
“ ตะ-แต่ เดี๋ยวสิ ไม่ เราเป็นเพื่อนกัน เขาก็แค่แกล้ง เราเคยเจอกันตอนงานเลี้ยงรุ่นคู่หมั้นฉันไง แม้แต่ Mercy ก็อยู่ด้วยและ Lone Arrow อีก “ – Ruinsmith พูดขึ้น
เดฟ หันกลับไปหา เคทลิน ที่พูดขึ้นมา – “ ใช่ ฉันคิดว่าฉันจำนายได้แต่ก็จำชื่อนายไม่ได้ เพื่อนของฉันเรียกเขาว่าไอ้เฮงซวย ใช่ ฉันคิดว่าคนนั้นแหละ “ – เคทลิน พูดด้วยรอยยิ้มที่คล้ายกับ เดฟ
“ เธอเองก็ทำมันเหมือนกันนะ “ – Tess พูดขึ้น
“ ทำอะไร ?” – เคทลิน ถาม
“ ยิ้มแบบเดียวกันเลย ดาร์กนั่นส่งผลกับเธอจริงๆ “ – Tess ส่ายหน้า
“ ไอ้เฮงซวย ? ใช่ เขาคือไอ้บ้าบอกว่าเพื่อนฉันเป็นโจร “ – ราฟ ราดน้ำมันใส่กองไฟ
“ โจร ? ฉันจำบางอย่างได้ เดฟ เองก็อยู่ในงานเลี้ยงนั่นไม่ใช่รึไง “ – เดฟ พูดขึ้น
ราฟ ไม่รู้ว่า เดฟ จะทำอะไร ดังนั้นเขาจึงได้แต่พยักหน้า
“ รึว่านี่คือคนที่เรียก เดฟ เพื่อนของฉันว่าเป็นโจร ? “ – เดฟ ถาม
ราฟ เริ่มสับสน ทำไม เดฟ ถึงเรียกตัวเองเหมือนบุคคลที่สาม จากนั้นเขาก็กระจ่าง เดฟ พยายามแยกชีวิตจริงกับเกม มันเสี่ยงแต่ดูเหมือนว่าจะได้ผล
“ ใช่ “ – เคทลิน พูดขึ้น – “ เขาบอกว่า เดฟ เป็นโจร เขาบอกว่า เดฟ ขโมยชุดที่ใส่มา มันทำให้ เดฟ เศร้านิดๆเพราะฉันลองไปถามดูแล้ว เขาไปตัดมาเอง “
Tess ส่งข้อความส่วนตัวหา เคทลิน – “ เธอก็เอากับเขาด้วยนะ “
“ แค่ช่วยนิดหน่อย “ – เคทลิน ยักไหล่
“ นั่นจริงรึเปล่า ?” – Demetri ถาม
“ มะ ไม่ โกหหมดเลย ! “- Ruinsmith พูดขึ้น
“ ฉันคงต้องโทรหา Lone เธอบอกทุกอย่างได้ “ – เคทลิน พูดขึ้นแล้วโทรหา โซว์ แบบเปิดลำโพง
Tess ส่ายหน้าและทำท่าภาวนาให้กับ Ruinsmith
“ สวัสดี Mercy เป็นไงบ้าง ?” – เสียงของ โซว์ ดังผ่านลำโพงขึ้นมา
จากนั้น เคทลิน ก็ให้ โซว์ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นซึ่งทำให้เรื่องดูจริงสำหรับ เดฟ มากกว่าเดิม
ในตอนที่ทุกคนฟังนั้น พวกเขาก็คิ้วขมวดและมองโกรธไปที่ Ruinsmith ชายคนนี้ยืนนิ่งอยู่กับที่ การมาผูกมิตรนี้เท่ากับการฆ่าตัวตาย
“ งั้นนายก็มาหาฉันหลังจากที่ดูถูกเพื่อนฉันและต้องการเป็นเพื่อนกับฉันต่อเนี้ยนะ ? ฉันไม่อยากได้เพื่อนแบบนาย บ้าเอ้ย ฉันเกลียดคนแบบนาย นายคิดว่านายเป็นใคร ? ประจบคนที่มีชื่อเสียงเพื่อที่ตัวเองจะได้กดหัวคนที่ด้อยกว่า นายมันน่าละอายกว่าทุกคนในเกมนี้ ไปไกลๆซะไป ! “ – เดฟ ตะโกน
Ruinsmith โกรธจัดเพราะรับความโกรธจากทุกคนไม่ไหว ดังนั้นเขาจึงตะคอกกลับ – “ แกคิดว่าแกเป็นใครวะถึงได้บอกให้ฉันไปไกลๆ ? แค่เพราะโชคดีที่ได้เควสการสืบทอดแล้วมาคิดว่าจะมาด่าฉันได้ตามต้องการรึไง ? ฉันพยายามเคารพแกแล้วแต่แกไม่สมควรว่ะ “
เดฟ ยิ้มออกมา – “ ฉันคิดว่าต้องปลุกให้แกตื่นหน่อยดีมั้ย “ – เดฟ ชักดาบออกมา
“ เราไม่ได้อยากสู้กับนาย ดาร์ก “ – Demetri พูดขึ้น
“ ฉันจะสู้กับเขา นายไม่ต้องช่วยหรอก Demetri ฉันมีคนของตัวเอง ! “ – Ruinsmith ตะโกนเรียกผู้เล่นหลายร้อยคนมาช่วย พวกนี้คือลูกน้องของเขา พวกนี้ทำงานให้เขาและต้องเชื่อฟังเขาแม้ว่าต้องสู้กับ เดฟ ก็ตาม
พวกลูกน้องเดินเข้ามายืนอยู่ใกล้ๆกับ Ruinsmith พวกนั้นดูเหมือนเข้าใจกันเมื่อมองตากันและรู้สึกว่าพวกเขาไม่อยากสู้ตามที่หัวหน้าสั่ง
“ นายจะทำยังไง ? วันนี้แหละคือวันที่โลกจะได้รู้ว่าฉันเป็นคนจัดการกับโครงกระดูกผู้โด่งดัง ! “ – Ruinsmith หัวเราะออกมา
ปกติแล้วเขาจะไม่ท้าทาย เดฟ แต่เพราะเขารู้จากวิดีโอก่อนหน้านี้ว่า เดฟ มีอันเดตเป็นพันแต่เมื่อเห็นอันเดตไม่กี่ร้อยตัว เขาก็มั่นใจว่าจะชนะ
Ruinsmith ต้องการใช้สถานการณ์นี้พลิกวิกฤตและทำให้ตัวเองชนะ ไม่ต้องเดาเลยว่านี่จะทำให้เขามีชื่อเสียงมากกว่าการเป็นเพื่อนกับ เดฟ อีก
“ Ruinsmith ! ถอยกลับมา ! นายไม่รู้หรอกว่านายยุ่งอยู่กับอะไร ! “ – เคทลิน แนะนำ
“ อย่างกับฉันจะสน เขาต้องตายวันนี้ “ – Ruinsmith ดึงดาบออกมาชี้ไปที่ เดฟ
“ Ruinsmith ! ถ้านายไม่ลดมือลง ฉันจะเตะนายออกจาก Devastator ! “ -Valentine ตะโกนกลับมา สิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการคือเป็นศัตรูกับ เดฟ โดยเฉพาะหลังจากที่ เดฟ รับปากแล้วว่าจะให้พวกเขาเข้าโลกใต้ดิน
“ ฉันไม่ต้องการกิลด์ของพวกแกหรอก “ – Ruinsmith ฮึดฮัดออกมา
“ ดาร์ก “ – Valentine มองไปที่ เดฟ ด้วยสายตารู้สึกผิด จากนั้นก็ส่งข้อความส่วนตัวหา เคทลิน
“ แกจะไม่พูดอะไรอีกรึไง ? ว่าไง มีอะไรจะพล่ามอีกมั้ย ?” – Ruinsmith พูดขึ้น เขาเห็นว่า เดฟ ยังคงมองมาที่เขาด้วยสีหน้าอึ้ง
‘ไอ้นี่โง่รึไง ? ’
เดฟ ได้ข้อความจาก เคทลิน บอกว่า – “ Valentine ให้ฉันบอกนายว่าถ้านายต้องการให้ช่วยทำลาย Ruinsmith เขาจะสั่งให้กิลด์ช่วยนาย นายแค่พยักหน้าก็พอ “
เดฟ ส่ายหน้าให้สัญญาณ Valentine ให้อยู่นิ่งๆ
“ เดาว่านายคงต้องโดนปลุกแล้วแหละ “ – เดฟ จับ Tiny ออกมาจากกระเป๋าและโยนขึ้นไปในอากาศ
“ แสดงพลังอันเดตออกมา “ – เดฟ พูดออกมาเบาๆ
Tiny เปลี่ยนร่างกลางอากาสและเรียกโลงศพเป็นร้อยๆอันออกมา
Ruinsmith ถอยกลับไป เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรจนกระทั่งโลงศพนั้นเปิดออก มีอันเดตเป็นพันๆตัวตกลงมาจากโลงศพ พวกนั้นมายืนด้านหลัง เดฟ อย่างกับกองทัพแห่งความตาย อันเดตได้แผ่ออร่าและความกดดันออกมาจนทำให้กองทัพผู้เล่นแสนคนต้องตกใจ
เสียงดังตึก 8 เสียงดังขึ้นด้านหลัง เดฟ พวกนั้นคือมันติคอร์
เดฟ กระตุ้นต่อด้วยการใช้ [Blot the Sun] ปิดบังแสงจากท้องฟ้า
“ ตะกี้นายบอกว่าจะสั่งสอนฉันสินะ ? มาดูกันหน่อยสิ ! “
อันเดตด้านหลัง เดฟ ตะโกนออกมาทันที
“ ไม่หิว ไม่เหนื่อย ไม่กลัว ! “