Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 80
Chapter 80: ไปฝึกมาใหม่นะไอ้น้อง
Warlord คำรามออกมากับชัยชนะที่ได้พร้อมกับอันเดตหนวดที่หายไปภายใต้การโจมตีของเขา สุดท้ายผู้เล่นที่คนมากมายในเกมไล่ล่ามากที่สุด ผู้เล่นที่เปิดส่วนอีเวนต์ต่อไปได้ถูกฆ่าลง
มีผู้เล่นกี่คนกันที่พยายามหาตัวและฆ่าโครงกระดูกตัวนี้แต่กลับต้องตายด้วยลูกไม้ของเขา ?
แต่ Warlord ไม่ใช่หนึ่งในนั้น เขาเป็นผู้เล่นอาชีพ ผู้เล่นระดับแชมป์และหัวหน้ากิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเกม
Warlord หันหลับมาจากที่ที่เดฟตายมองไปที่ธง มันเป็นรางวัลที่สองจากอีเวนต์นี้ ชัยชนะจากการฆ่าอันเดตหนวดนี้มันน่าพอใจพอๆกับธงนี่ด้วยเหตุผลที่ต่างกันออกไป
มันหมายความว่าดันเจี้ยนโลกเขตแรกนี้จะกลายเป็นของ Devastators ซึ่งระบบจะจัดการให้กับเขาเอง
ด้วยสิทธิของการพิชิตที่นี่ !
และ Devastators ก็สามารถตัดสินใจได้ว่าใครบ้างที่จะเข้ามาที่โลกใต้ดินได้บ้าง
มันจะมีดินแดนให้พิชิต, สมบัติที่จะได้รับมาและเกียรติยศ นี่ไม่ต้องพูดถึงการฟาร์มหา xp ในพื้นที่ที่เลเวลสูงกว่าที่อื่นในเกมตอนนี้ แค่นั้นก็เพียงพอให้ทุกกิลด์อยากที่จะแข่งขันกัน
บางอย่างทำให้เขาตะหงิดๆขึ้นมา มันราวกับว่าเขาลืมบางอย่างไปและสมองของเขาพยายามที่จะเตือนเขา
แต่มันคืออะไร ?
แม้ว่าจะตงิดใจแต่ Warlord ก็รู้สึกว่าเขากำลังรับคลื่นแห่งความสุขอยู่ อำนาจที่จะกำหนดโชคชะตาของผู้เล่นส่วนมากในเกม ไม่นานก็ไม่มีใครที่จะท้าทายอาณาเขตตะวันตกของ Devastators ได้
แต่ Warlord ก็ยังรู้สึกอึดอัดใจอยู่ มันมีเสียงกระซิบในหัวที่พยายามบอกเขาบางอย่าง
จากนั้นก็มีความคิดโผล่เข้ามา แจ้งเตือนฆ่า ! เขาไม่ได้แจ้งเตือนฆ่าตอนที่โจมตีใส่โครงกระดูกนั้น !
มันเป็นความผิดพลาด ! เขาลืมไปได้ยังไง ? ที่สำคัญกว่านั้นแล้วลูกไม้นี่มันคืออะไร
ขนที่หลังคอเขาลุกชันขึ้นมา
เขาหันกลับมาและมองเห็นกรงเล็บที่ฟาดมาที่ด้านหลังเขา
เขาได้รับแจ้งเตือนที่น่ากลัวกลับมาแทน
[ คุณตาย ! ]
สายตาเขาเริ่มพร่ามั่ว สิ่งเดียวที่เขาเห็นคือร่างที่ยืนอยู่บนศพของเขา
หน้าที่เหมือนมัมมี่ของโครงกระดูกได้มองมาที่เขาอย่างใจเย็นด้วยตาสีเขียวของมัน
จากนั้นแม้ว่า Warlord กำลังเปลี่ยนเป็นเศษแสงแต่เดฟกลับเปิดปากพูดขึ้นมา – ” ไปฝึกมาใหม่นะไอ้น้อง “
หน้าจอของ Warlord มืดลงไปทันที
[ คุณได้ตายในโลกใต้ดิน ]
[ คุณไม่อาจจะกลับเข้ามาในอีเวนต์นี้ได้อีก ]
[ คุณถูกห้ามเข้าออกเกมเป็นเวลา 72 ชม. ]
..
” เย้ ! ไม่ชนะก็กลับบ้านไปไอ้น้อง ! ” – เดฟถึงกับเต้นไปมา จากนั้นเขาก็มองไปรอบๆด้วยความรู้สึกผิด จากนั้นก็มีภาพที่เขาไม่เคยเห็นโผล่ขึ้นมา
เดฟเยาะเย้ย Warlord ผู้เล่นเลเวลต่ำกลับไปสอนผู้เล่นที่เก่งที่สุดในเกมให้ไปฝึกมาใหม่
ผู้เล่นที่เลเวลเพิ่งถึง 100 ได้เอาชนะหัวหน้ากิลด์ของ Devastators ได้ คำเยาะเย้ยนี้เหมือนกับคำท้าทาย หากดูจากสถานการณ์และเนื้อหาของการต่อสู้มาคิดแล้วมันถือว่าเป็นการเอาชนะในตำนาน บางทีอาจจะยิ่งกว่าตำนานเลยก็ว่าได้
เขายังมีวีดีโออยู่ด้วย….
ชัยชนะของเดฟและการกลับมาจากความตายนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีที่จะเปิดเผยจออกไป
มันเป็นผลจากสองสกิล
อย่างแรกคือสกิลติดตัวของอาชีพที่ส่งผลต่อสาวกของผู้ที่ตาย :
+10% ดาเมจตอนที่ใช้ดาบ
+10% ค่าการป้องกันเมื่อใช้โล่
Deny the Reaper:
เมื่อเลือดเหลือ 0 วิญญาณของ Death’s Apostle จะร่องลอย 5 วินาที ระหว่าง 5 วินาทีนี้ Death’s Apostle สามารถปฏิเสธความตายได้
เมื่อปฏิเสธความตาย Death’s Apostle จะกลับมายังตำแหน่งเดิมด้วย HP,SP และ MP ที่เหลือครึ่งหนึ่ง
หลังจากที่ปฏิเสธความตาย Death’s Apostle จะต้องตอบแทนความตายด้วยชีวิตที่เลเวลมากกว่าหรือต่ำกว่าเขา การกระทำนี้ต้องทำในเวลา 3 ชม.ของการปฏิเสธความตาย
คำเตือน – หากล้มเหลวความตายอาจจะส่งผลต่อจุดยืนของคุณและเกิดผลที่ไม่น่าพอใจตามมา
การฟื้นคืนชีพอยู่ในขอบเขตของชีวิตไม่ใช่ความตาย
Deny the Reaper ไม่ใช่การฟื้นคืนชีพแต่เป็นการปฏิเสธความตาย ดังนั้นจึงไม่มีผลที่ตามมาหรือผลจากความตายเมื่อใช้ {Deny the Reaper}
ข้อแม้ 1 : ถ้าเลือดของผู้ใช้เหลือ 0 ภายในเวลา 3 ชม.ในการใช้ {Deny the Reaper} ผู้ใช้จะถูกความตายดึงตัวไปตามปกติแต่จะเสียเลเวลของตัวละคร 10% พร้อมกับการเพิ่มเลเวลของศัตรู
ข้อแม้ 2 : ผู้ส่งสารความตายไม่ได้ข้ามแม่น้ำแห่งความตายโดยไม่มีเหตุผล ผู้ใช้ต้องชดใช้ ถ้าไม่ได้วิญญาณกลับไป งั้นทองหรือของอื่นๆก็พอรับได้ อีกอย่างแล้วต้องจ่ายค่าตอบแทนในช่วงที่วิญญาณหลุดจากตัว ( 5 วินาที )
{Deny the Reaper} ทำให้เขากลับมาจากความตายได้ ราคาของการกลับมานี้คือเลเวลจะลดลง 10 เลเวลหากเขาตายอีกครั้ง
เดฟ ได้สกิลที่สองมาจากหนังสือที่เขาได้มาหลังจากที่เขาช่วย Drahma ฆ่าบอสโลกตัวแรก Dalmadoth
{Demon’s Call : ทำดาเมจเป้าหมายโดยตรง 5% ไม่สนใจการป้องกันติดตัวใดๆ มีโอกาส 10% ที่จะใช้ได้กับบอสและ NPC คูลดาวน์ 24 ชม. ความหายาก : Unique }
และเพราะ Warlord เหลือเลือดไม่ถึง 5% สกิลนี้จึงฆ่าเขาทันที
ดาเมจโดยตรงนั้นถูกใช้ได้แม้ว่าเลเวลจะต่างกัน ไม่งั้นแล้วมันคงไม่ใช่ดาเมจโดยตรง ชัดแล้วว่ามันเป็นสกิลที่ไว้ใช้กับ PvP ได้ อีกอย่างแล้วมันยังมีโอกาสที่จะใช้ได้กับอย่างอื่นนอกจากผู้เล่นด้วย
เดฟสามารถใช้สกิลนี้และได้แต่คาดหวังแต่มันเป็นโอกาสเดียวของเขา ไพ่ตายอันเดียวที่เขามี ถ้าเขาใช้มันและ Warlord รับมือด้วยสกิลป้องกันที่กันดาเมจของ {Demon’s Call} เอาไว้ได้ งั้นทุกอย่างสำหรับเดฟก็คงจบสิ้น
ตามที่เดฟคาดการณ์มา การแสดงนี้จะสำเร็จก็เมื่อ Warlord ไม่ระวังตัวและเขาก็ทำการโจมตีจากด้านข้าง วิธีเดียวที่เขาจะทำแบบนี้คือต้องมีความมั่นใจมากพอ ให้ Warlord คิดว่าเขาฆ่าเดฟไปแล้วและได้ทุกอย่างไป
การพนันของเขาก็ต้องมีความเสี่ยง อย่างน้อยก็คือความคิดของ Warlord
ผู้เล่นกำลังฝ่าแนวป้องกันของอันเดตเข้ามา เมื่อพวกนั้นมาถึงวิหาร เขาก็คงต้องตาย
[ประกาศจากเซิฟเวอร์ ! เวลาในการยึดครองดันเจี้ยนโลกหมดลงแล้ว การยึดครองของอันเดตในดันเจี้ยนโลกนั้นได้ถูกยืนยันโดยระบบ ! ]
[ กองทัพของ Undead King ได้มาถึงแล้ว ! ]
ด้านนอกประตูวิหารมีมิติที่ผันผวนเกิดเป็นประตูมิติขึ้นมา Death Knight เริ่มเดินผ่านประตูออกมา
จำนวนของมันเริ่มเพิ่มจำนวนจากพันและมากขึ้นเรื่อยๆจนพื้นดินเริ่มสั่นไหว
เดฟถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาทำได้ !
กองกำลังเสริมแบ่งออกเป็นสองส่วน หนึ่งส่วนล้อมวิหารเอาไว้เพื่อทำการป้องกันและอีกส่วนเดินหน้าไปที่อุโมงค์ที่นำไปสู่สะพาน
ตอนที่กองทัพสมทบมาถึงถ้ำ กองกำลังที่เหลือของ Delvina ที่ไร้ทิศทางจากการตายของเธอก็ได้รับคำสั่งอีกครั้ง พวกมันรวมกลุ่มใหม่และเริ่มทำการสู้อย่างมีประสิทธิภาพ
พวกอันเดตรวมทัพกันและผลักดันศัตรูกลับไป อันเดตจากวิหารและสะพานได้รวมตัวกันป้องกันประตูเอาไว้แล้วโมตีผู้เล่น ศัตรูที่เหลือนั้นต่างก็พ่ายแพ้ให้กับอันเดตเหมือนกับหมู่บ้านที่โดนน้ำป่าไหลท่วม
[ คุณได้ทำเควสพิเศษสำเร็จ !
คลาส S
เงื่อนไข : คุณเอาตัวรอดพร้อมกับรักษาธงเอาไว้ได้และป้องกันเขตจนกระทั่งกองทัพ Undead King มาถึง
รางวัล : เลเวล +5 ]
อีกอย่างแล้วระบบก็ยังให้รางวัลสำหรับผลงานที่เขาทำระหว่างเควสด้วย
[ ได้รับฉายา : ผู้ไม่ยอมแพ้ ตอนที่เลือดเหลือ 1%$ จะได้รับดาเมจ 0 เป็นเวลา 5 วินาที! คูลดาวน์ 1 ชม. ]
เสียงจากการต่อสู้จบลงและเดฟก็เดินออกมาจากในหมู่อันเดต
น่าแปลก เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเข้าใกล้อันเดต พวกมันจะหยุดและพยักหน้าให้กับเขา
[ เขตวาร์ปแห่งใหม่ถูกเพิ่มในแผนที่ของคุณ : Undead Legion Underworld Frontier
คุณสามารถใช้คัมภีร์วาร์ปและเดินทางมาที่นี่ได้ ]
เดฟ เดินมองหา Lone Arrow เขาขาดการติดต่อกับเธอในตอนที่สู้และท่ามกลางกองทัพอันเดต เขากังวลว่าเธอจะรอดหรือไม่ เธอจะโดนฆ่าทิ้งในเขตดันเจี้ยนโลกโดยอันเดตหรือเปล่า
หลังจากค้นหาอยู่หลายนาที เดฟก็ต้องยอมแพ้และเดินไปยังวิหารเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉันหวังว่าเธอจะล็อคเอาท์ออกไป มันคงแย่ถ้าเธอตายและถูกไล่ออกจากโลกใต้ดิน
ในตอนที่เขาไปถึงวิหาร มันก็มีแจ้งเตือนกระพริบขึ้นมา
[ คุณได้ถูกอัญเชิญไปยังวังกระดูก 1 เวลาในการอัญเชิญที่จะเริ่มต้น : 3 วินาที ]
” หือ ? “
ตัวละครของเดฟหายไปและหน้าจอที่มืดลง ไม่นานก็มีแสงสว่างวาบเข้ามาในตาเขา
ตอนที่สายตากลับมาเป็นปกติ เขาก็ก้มลงมองที่เท้าตัวเอง เขายืนอยู่บนภาพวาดของนักรบและปีศาจที่กำลังต่อสู้กับปีศาจ
เดฟเงยหน้าขึ้น ภาพนี้ปกคลุมเต็มพื้นห้องโถงขนาดใหญ่ มีเสามากมายเรียงรายค้ำไว้ที่เพดาน มีมังกรและนกฟินิกส์ที่ถูกสลักเอาไว้ที่เสาพันรอบเสาจนถึงเพดาน
ที่ปลายห้องโถงนั้นมีบัลลังก์ตั้งเอาไว้ บัลลังก์นี้ทำขึ้นจากระดูกของสิ่งมีชีวิตต่างๆ กระดูกจัดเรียงกันจนผิวของบัลลังก์นี้เรียบพร้อมกับที่นั่งอีก 3-4 ที่นั่งซึ่งทำมาจากกระดูกที่ก่อตัวคล้ายกันต้นไม้สีดำ จากนั้นก็มีที่พักแขนที่ทำจากหัวกะโหลกและขาเก้าอี้ทีเป็นของจริงๆพร้อมกับกรงเล็บที่ยื่นออกมา
ที่บัลลังก์นั้นมีร่างในชุดเกราะดำนั่งเท้าคางอยู่ มืออีกข้างวางอยู่ที่หัวกะโหลกมนุษย์
เดฟเห็นแค่แสงสีฟ้าหม่นส่องประกายออกมาจากรูที่หมวกของอีกฝ่าย
[ The Undead King ]
เลเวล : ???
ระดับ : King
ขั้น : Unholy
ดาเมจ : ???
สกิล : ???
HP: ???
พลังป้องกัน : ???
คำอธิบาย : ราชาของเหล่าอันเดต….
นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันเนี้ย ? มันไม่ได้ให้คำอธิบายอะไรสักอย่างเลย แล้วตำนานเบื้องหลังมันอยู่ไหนกัน ?
ความคิดของเดฟถูกขัดโดยเสียงของราชา – ” เด็กน้อย เจ้าทำผลงานอันยอดเยี่ยมให้กับข้า บอกความต้องการของเจ้ามาและข้าจะทำให้มันเป็นจริง “
หวานหมู ! ได้ไอเท็มเพิ่ม !
แต่ก่อนที่เดฟจะได้พูดอะไร ไอเท็มหน้าต่างก็ลอยออกมาจากช่องเก็บของ มันโผล่มาตรงหน้าเขาก่อนที่จะลอยเข้าไปในมือของ Undead King
[ Broken Undead-king’s Helmet ]
หลังจากที่ราชามองไปที่หมวกนั่นสักพัก เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกผิด เขามองมาที่ เดฟด้วยความเอ็นดูมากกว่าเก่า
” ดูเหมือนว่าโชคชะตาของเราจะผูกกัน เด็กน้อย ฉันยกชื่อ Kis’Shtingbrah ให้กับเจ้าและยอมรับเจ้าเป็นหนึ่งในลูกหลาน ตอนนี้งานของเจ้าคือการยืนยัน เจ้าต้องออกค้นหาเกราะของหมวกนี่ว่าอยู่ที่ไหน ตอนที่เจ้าพบมันแล้วก็แจ้งมาทันที ไปพร้อมกับคำอวยพรของข้า เด็กน้อย “
สายตาขอเดฟพร่ามัวลงอีกครั้ง
ตอนที่เขากลับมามองเห็น เขาก็ได้มองไปรอบๆและตอนนี้เขากลับมาที่จุดเกิดในดินแดนอันเดต
รอบๆตัวเขามีอันเดตระดับ Captian อยู่เป็นแสนๆตัว
[ คุณกลายเป็นมอนเตอร์ที่มีชื่อ : Kis’Shtingbrah !]
[คุณได้สิทธิดันเจี้ยนพิเศษ ! ]
มันมีตัวเลือกภารกิจอันใหม่เพิ่มเข้ามา
[รับใช้ด้วยการเฝ้าในฐานะบอสดันเจี้ยนเป็นเวลา 24 ชม. ( เลเวลของดันเจี้ยนต้องสอดคล้องกับคุณ )]
[เควสใหม่ใช้งานได้แล้ว ! ]
[เควสเนื้อเรื่อง !
ระดับ : SSS
ค้นหาเกราะของ Undead King
นี่คือเควสเนื้อเรื่องของเกม การกระทำของคุณจากภารกิจจะส่งผลต่อโลก !
หน้าที่แรก : หาตัว Andre the Forge Smith เพื่อถามข้อมูลเกี่ยวกับเกราะของ Undead King ]
เดฟนิ่งไปเพราะความช็อก
” เควสเนื้อเรื่อง ” – เขาพึมพำกับตัวเองแล้วค่อยๆรวบรวมสติ
” อีกอันงั้นเหรอ ? ! บ้าไปแล้ว ! “
เขามีเควสเนื้อเรื่องอยู่อันหนึ่งแล้ว
เควสอันแรกที่เขาได้มาตอนที่ Deadra ได้บอกให้เขาฆ่า Undead King
จากนั้นงานแรกจากเควสการสืบทอดของเขาคือเขาต้องขึ้นเป็น Abyssal Knight ภายในเขตอันเดต ในตอนที่เขาทำเควสนี้อยู่เขาก็ยังทำเควสท้าทายจากการสืบทอดไปด้วย ทุกที่ล้วนแต่เป็นพื้นที่เลเวลสูง แน่นอนว่าต้องห้ามตายแม้แต่ครั้งเดียว
จากนั้นหลังจากที่เขาได้เป็น Abyssal Knight เขาก็จะได้รับภารกิจสุดท้ายจากความตาย การท้ายทายสุดท้ายในเควสการสืบทอด
และตอนนี้เขากลับได้เควสเนื้อเรื่องมาอีกอัน อันที่เขาปฏิเสธไม่ได้ด้วย อันนี้มาจาก Undead King ที่ให้เขาออกไปค้นหาเกราะเก่าๆทุกที่ในเกม
” มีงานเยอะจริงๆ ! ” – เขาบ่นออกมาแล้วส่ายหน้าสงสัยว่าเควสนี้จะทำให้เขาลำบากแค่ไหน
และจากนั้นก็มีแจ้งเตือนอีกอันโผล่ขึ้นมา
[ การท้าทายที่สองในการสืบทอดพร้อมแล้ว คุณจะเริ่มเลยหรือไม่ ? Y/N ]
อ่ะ มาถึงที่นี่ปุ๊ปก็มีงานให้ทำเลยสินะ
” ตกลง ! “
..
ในตึกหรูที่สูงที่สุดและหรูหราที่สุดในแมนฮัตตัน สาวน้อยผมม่วงคนหนึ่งกำลังหัวเราะคิกคักไปพร้อมกับอัพโหลดวิดีโอความยาวมากกว่า 12 ชม.
ชื่อวิดีโอที่อัพโหลดนี้คือ : ‘ Mr.Skeletal VS โลก ‘