Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 83
Chapter 83: จุดกำเนิดของอันเดต
เดฟโผล่กลับมาในถ้ำของเทพแห่งความตาย
เขาปัดแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นซึ่งโผล่ขึ้นมาทิ้ง
[คุณได้รับบททดสอบการสืบทอดครั้งที่สอง
พูดคุยกับ Death เพื่อรับข้อมูลเพิ่ม ]
Death นั่งอยู่ที่ริมสระโดยเอาเท้าจุ่มน้ำและมองไปยังน้ำที่เป็นวงๆก่อนที่มันจะหายไป เธอเงยหน้าขึ้นมองเดฟที่เดินเข้ามา ก่อนที่เดฟจะได้เป็นหน้าของเธออีกด้วยซ้ำ พลังของสายตานี้ทำให้เกิดความกดดันขึ้นมาอย่างมาก
เดฟ จำตำนานญี่ปุ่นที่พูดถึงนักดาบผู้โด่งดังได้ เรื่องราวเกิดขึ้นตอนที่หากสายตาเขามองไปที่ใคร คนนั้นก็หัวขาดแล้ว
” ฮึ่ม นายยังไม่พร้อม ภารกิจของนายในการเพิ่มพลังยังช้าเกินไป นายจะไม่สามารถฆ่าราขาที่ขี้ขลาดนั่นได้ “
เดฟไม่เข้าใจเหตุผลในการฆ่าราชา เควสของ Deadra นั้นก็เหมือนกันกับเขาที่ได้แหวนวงนี้จาก Death ในการฆ่าราชา
Death ยกเท้าขึ้นมาและมองไปที่เดฟสักพัก เขาต้องตัวสั่นเพราะพลังที่แผ่ออกมาจากเงาของเธอ
” นี่นายสงสัยคำพูดของเทพธิดาหรือไง ? ” – เธอถามออกมาด้วยเสียงใสๆ
เดฟตอบกลับ – ” ฉันแค่ต้องการทำความเข้าใจ ราชานั่นไม่ได้เป็นเหมือนที่เธอบอกไว้เลย ….”
เธอมองมาที่เขาอีกครั้งด้วยความอึดอัดอยู่สักพักแล้วพยักหน้า – ” ดีมาก งั้นฉันจะให้นายได้เห็น “
อยู่ๆพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในถ้ำอีกต่อไป พวกเขายืนอยู่ในมิติที่มืดมิดซึ่งรายล้อมไปด้วยหมู่ดาวหลากสีที่ระยิบระยับ ด้านล่างนั้นคือดาวเคราะห์สีฟ้าเขียวที่เต็มไปด้วยเมฆ โลกของ Conquest
เขาพยายามที่จะใจเย็นแต่ก็ไม่อาจจะละสายตาจากโลกที่หมุนวนตัวเองช้าๆได้
ความสูงไม่ใช่สิ่งที่เข้ากับเดฟได้เท่าไหร่นัก
ท้องของเขาเริ่มปั่นป่วน พื้นที่มองไม่เห็นนี้ที่พวกเขายืนอยู่นี้ได้ลดระดับลงไปที่ดาวเคราะห์นั้นด้วยความเร็วมากกว่าจรวดราวกับลิฟต์ที่ตกลงสู่นรก เขาแอบโล่งใจตอนที่อยู่ๆพวกเขาก็ได้หยุดลง
ด้านล่างพวกเขามีเมืองที่กำลังถูกโจมตีอยู่ กองทัพหลายพันทัพกำลังแบกสะพานวิ่งเข้ามา เครื่องโยนหินทำการโจมตีเข้าใส่เมือง การโจมตีค่อยๆทำให้กำแพงกลายเป็นเศษหิน เมืองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมารายล้อมไปด้วยภูเขาโดยมีปราสาทหินสีขาวตั้งอยู่ที่นั่น ปราสาทแห่งนี้ดูไปแล้วช่างยิ่งใหญ่
อยู่ๆมุมมองก็ถูกเพ่งไปที่ปราสาทเข้าไปยังหอคอยแห่งหนึ่ง
ด้านในหอคอยนั้นมี 9 คนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะ
ชายสีหน้านิ่งในชุดสีแดงทองยืนอยู่ที่หัวโต๊ะ อีก 5 คนยืนอู่ที่ด้านข้าง
หนึ่งในนั้นเป็นชายตัวใหญ่มองมายังชายที่หัวโต๊ะแล้วโค้งให้ – ” ขออภัย นายท่าน นี่…คือสิ่งที่เราต้องทำงั้นเหรอ ? ไม่มีทางอื่นหรือไง ? “
” Deadra …” – ราชามองมาที่อัศวินของตัวเองด้วยสีหน้าหงุดหงิดที่เข้ามาแทนที่แต่จากนั้นเขาก็หยุดและสลัดตัวเองจากความคลั่งไม่ให้ระบายอารมณ์ออกมา
เดฟอึ้งและคิดกับตัวเอง ‘ เหี้ย ! อัศวินนั่นคือ Deadra ! ‘
” พวกนายแต่ละคนให้คำปรึกษากับเรา เราไม่เห็นทางเลือกอื่นที่ดีกว่าในการสั่งการได้ นี่เป็นหน้าที่และภาระของเรา นี่คือสิ่งที่เราต้องตัดสิน “
มันมีของสองอย่างบนโต๊ะที่หน้าราชา พวกคนที่ยืนอยู่รอบๆโต๊ะต่างก็พาหลบสายตาไม่มองไปยังสิ่งของนั่น
หนึ่งในนั้นเป็นหนังสือหนังโบราณ มีสัญลักษณ์เปลวไฟสีดำที่ลุกขึ้นมาถูกวาดเอาไว้ที่ปก พวกเขาได้เห็นคลื่นพลังที่แผ่ออกมาราวกับไฟนี้มีอยู่จริง
ข้างหนังสือนั้นคือมีด ด้ามจับนั้นเป็นทองและตกแต่งไว้อย่างดี ในทางกลับกันแล้วใบมีดกลับเป็นสีเทา มันมีคลื่นพลังที่สั่นไหวไปตามคมมีดราวกับว่ามีฟันเหล็กที่ดูดทุกอย่างไปรวมถึงแสงและสีด้วย
ราชามองไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งแล้วสั่งการต่อ – ” Eleanor ผู้เป็นลูกสาวด้วยความเสียใจ นี่เป็นเพียงทางเดียว “
สาวน้อยที่มีคราบน้ำตาที่แก้มทั้งอันเก่าและใหม่ได้ขอร้องทั้งแปดคนให้ปล่อยเธอไป
” นี่คือบาปที่เราจำเป็นต้องทำ ฉันภาวนาให้วิญญาณของลูกให้อภัยเราด้วย พ่อและราชาอีกทั้งคนอื่นๆที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ต้องทำตามหน้าที่ “
เขาใช้ปลายมีดสะบัดเฉือนคอลูกสาวตัวเองและจบชีวิตของเธอไป เลือดได้พุ่งออกมาในอากาศราวกับน้ำพุแล้วรดไปที่หน้าของราชาจนย้อมมันเป็นสีแดง ราชาถึงกับต้องสะดุ้งจากเลือดที่รดหน้าตัวเอง – ” เลือดนี้คือการหลั่งน้ำตา “
เขาใช้มีดแทงเข้าไปที่หัวใจของลูกสาวและใช้มือทั้งสองข้างดึงมีดผ่านซี่โครงจนมาถึงท้องแล้วผ่ากระดูกลงมา
” กระดูกหักไปแล้ว ” – น้ำตาเริ่มปริ่มที่ตาของเขาผสมกับเลือดที่รดใบหน้าของเขา
เขาล้วงเข้าไปในตัวลูกสาวแล้วดึงเอาหัวใจออกมาจากอกของเธอพร้อมกับเสียงอันน่ากลัว
ราชาสะอื้น เขาเงยหน้าขึ้นและต้องหยุดไปราวกับตะลึง – ” หัวใจสองดวง “
ในมือเขานั้นหัวใจเริ่มดำขึ้นและกระตุกขึ้นมา จากนั้นมันก็เริ่มเต้นด้วยจังหวะผิดปกติ
ร่างนั้นนอนอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับเลือดที่นองเต็มพื้น จากนั้นหนังตาก็เปิดขึ้นพร้อมกับดวงตาสีดำ
ชุดเกราะที่เธอสวมใส่นั้นหลุดออกจากตัวหล่นกระจายไปตามโต๊ะ ศพนั้นลุกขึ้นยืนที่โต๊ะและมองลงไปยังพวกคนที่อยู่รอบๆด้วยความหงุดหงิด
ทุกคนต่างก็ถอยออกจากโต๊ะในตอนที่ร่างนั้นลุกขึ้นยืนยกเว้นเพียงราชา
” พวกมนุษย์ ! หนังสือของฉัน….พวกแกกล้าดียังไง ! ? ” – คำพูดนี้ดังขึ้นมาจากร่างที่ถูกเฉือนคอไป
ราชาได้พูดขึ้นโดยไม่อาจจะมองตรงไปยังใบหน้าของอีกฝ่ายได้ – ” อาณาจักรและคนของเราตกอยู่ในอันตราย ฉันได้สละลูกเพียงคนเดียวเพื่อเรียกท่านมาและยืมพลังท่านในการช่วยเรา ทุกอย่างเป็นความรับผิดชอบของเราเพียงคนเดียว “
” แกเรียกฉันมาแล้วผูกมัดฉันกับหนังสือเพื่อทำตามที่แกสั่ง โง่เง่า ! สัญญานั้นไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะเข้าใจได้ แกเรียกหาความพินาศและความพินาศก็จะส่งผลต่ออาณาจักรของแก แม้ว่าจะมีทางอื่นแต่ฉันก็ไม่คิดจะให้สิ่งที่แกต้องการ ” – เธอหยุดและมองไปที่แต่ละคนรอบโต๊ะ ตาของเธอแสดงความหงุดหงิดออกมา ลมได้พัดผ่านเข้าไปในห้องจนทำให้ผมนั้นปลิวไปตามสายลมพร้อมกับกระดาษต่างๆ
” ไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะได้รับพลังจากฉันในวันนี้ ! ” – เสียงนั้นดังขึ้นมาแปลกๆราวกับว่าเกิดจากเสียงหลายเสียงที่มาพูดร่วมกัน หลายคนต้องเอามือป้องหู มีคนหนึ่งถึงกับสลบลงไปที่พื้นพร้อมกับฟองที่ปุดมาที่ปาก
” ฉันไม่สนใจเรื่องมนุษย์ สุดท้ายทุกคนก็ต้องไปที่อาณาจักรของฉัน คืนหนังสือและยกเลิกการอัญเชิญนี้ ! ปล่อยฉันและดีใจซะที่วันนี้วิญญาณของพวกแกไม่ได้ระเบิดจากโลกและถูกชิงห้วงเวลาไป “
นี่เกินกว่าที่ Deadra จะรับไหว – ” ปีศาจชั่วร้าย ! แกไม่พูดมันจะดีกว่า ! ทำตามที่ต่อรองเอาไว้ ให้ความช่วยเหลือราชาของฉันที่ทำการเรียกแกมา ! “
” โง่เง่า ! ฉันเตือนไว้แล้ว ฉันจะพูดเป็นครั้งที่สอง ! ไม่มีใครที่ฉันจะให้ยืมพลังตามที่พวกแกต้องการ ! “
” งั้นแกก็ไม่มีประโยชน์กับเรา ! ” – ราชาพูดขึ้น เขาแทงมีดลงไปที่หัวใจสีดำในมือจนทะลุไปถึงมือตัวเอง สีหน้าเศร้า รู้สึกผิดและเสียใจเผยออกมาที่ใบหน้าของเขาโดยไม่แสดงแม้แต่ความเจ็บจากบาดแผลตัวเองเลย
” แกทำอะไรลงไป ! ” – ร่างนั้นคำรามออกมาด้วยเสียงนับหมื่นที่ดูน่ากลัวและสิ้นหวังก่อนจะมีสายลมอันรุนแรงพัดเข้ามาในห้อง
ราชาก้มลงมอง หนังสือที่โต๊ะสั่นไหวอย่างแรง จากนั้นมันก็นิ่งไป หนังสือนี้กลายเป็นสีดำก่อนจะดำทมิฬ มันดำเหมือนกับส่วนลึกสุดของโลกที่แม้แต่แสงก็ไม่อาจจะให้แสงสว่างได้ ตอนที่สัญลักษณ์ไฟบนปกนั้นได้กลายเป็นหัวกะโหลก ราชาก็ต้องช็อคและกลัวขึ้นมา
” ฉันจะพูดเป็นครั้งที่สาม ! พวกโง่ ! ด้วยชื่อฉัน บัลลังก์ฉัน พลังฉัน ขอให้เทพทุกตนตามฆ่าพวกแก ! นี่คือภัยพิบัติของพวกแก ! “
เดฟนั้นมองลงไปที่เมืองจากด้านบนฟ้า
เท่าที่เขาเห็นนั้นมีเงาเคลื่อนที่ผ่านอาณาจักรราวกับเมฆที่ปิดบังดวงอาทิตย์ จากนั้นมันก็เคลื่อนมืดขึ้นจนเหมือนค่ำคืนที่ไร้ดวงดาว
จากที่หอคอยนั้นมีคลื่นระเบิดเกิดขึ้นมาแล้วแผ่ออกไปทุกทิศทางราวกับคลื่นซึ่งไม่ได้มีวี่แววว่าจะทำลายสิ่งใด
ไม่ว่าคลื่นนั้นจะผ่านไปที่ไหน คนและสัตว์จะล้มลงราวกับหุ่นเชิดที่โดนตัดเชือก ต้นไม้ทุกต้นเริ่มเน่า แม้แต่โครงสร้างของตึกก็ยังโดนทำลาย
ที่แห่งนั้นได้ตกอยู่ในความมืดมิดและความวุ่นวาย
จากนั้นพื้นดินก็เริ่มสั่นไหวพร้อมกับรูขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นมา ทั้งผืนดินสั่นคลอนและมีเสียงคำรามออกมา
จากนั้นพื้นดินส่วนนั้นก็ยุบลงไปเร็วขึ้นเรื่อยๆห่างออกไปจากตำแหน่งของเดฟ มันหายไปในความมืดมิดเหลือไว้เพียงความว่างเปล่า
แสงและผืนดินได้กลับมาโดยไม่มีวี่แววของสถานที่เดิมอีก โลกได้กลับมาเป็นปกติราวกับที่นั่นไม่เคยมีอยู่ ป่า ภูเขาและต้นไม้ได้กลับมาสู่ความสงบสุขภายใต้สายตาของเดฟ
” นี่คือการลงโทษและพวกเขาก็ถูกลบออกจากโลก ” – Death พูดขึ้น
” เธอยังอยู่ในตัวผู้หญิงคนนั้น ลูกสาวของราชา ? “
” ฉันถูกขังไว้ด้านใน ในดินแดนมนุษย์ “
” เป็นแบบนั้นได้ยังไง ? ” – เดฟถาม
” การอัญเชิญนั้นดึงฉันมาที่นี่ ” – เธอใช้มือชี้ที่ตัวเอง – ” การแทงที่หัวใจนั่นควรจะจบพิธีนี้ ปกติแล้วการจบพิธีแบบนั้นจะไร้พลังส่งผลต่อโลกนี้และทำให้ฉันได้กลับไป แต่ฉันไม่ใช่ปีศาจทั่วไปหรือคนนอก ฉันไม่ได้อยู่ในดินแดนนรก พลังของฉันไม่อาจจะถูกชิงไปจากตัวได้และฉันไม่อาจจะออกจากโลกนี้ได้ ตอนนี้ฉันถูกขังไว้ในร่างกายที่อ่อนแอ ฉันไม่อาจจะกลับไปอยู่ในร่างที่สูงส่งที่อยู่ในดินแดนแห่งเทพได้ “
เดฟลูบหนวดตัวเองและคิด – ” แต่ถ้าเธอได้หนังสือกลับไป เธอจะกลับร่างเดิมของตัวเองได้มั้ย “
” ใช่ ฉันต้องมีหนังสือเพื่อทำลายการผูกมัดและปล่อยตัวเองออกจากร่างนี้แต่ฉันไม่รู้ว่าหนังสือนั่นอยู่ไหน มันซ่อนตัวจากสายตาของฉัน มันถูกปกป้องโดยราชาจากพลังที่ฉันยังเหลืออยู่ “
” ฉันไม่ได้มีตัวเลือกมากนักสินะ ” – เดฟพูดขึ้นด้วยท่าทีหมดกำลังใจ
” นายมีแหวนของฉัน ด้วยแหวนของเทพแห่งความตาย หนังสือนั่นอาจจะรู้ว่านายคือคนที่ฉันเลือกและเผยตัวเองออกมา ตัวเลือกที่นายมีคือการฆ่าราชา หาหนังสือและเอากลับมาให้ฉัน “
เดฟต้องการทำเควสสืบทอดของตัวเองให้เสร็จแต่ Undead King เองก็แข็งแกร่ง เลเวลสูงกว่า 700 ซึ่งทำให้มันกลายเป็นบอสขั้น Unholy เดฟคงสู้กับบอสในเร็วๆนี้ไม่ได้
‘ ฉันขายมันได้นี่ ส่วนขยายนี่ฆ่าตัวตายเพื่อแลกกับเงินและตำแหน่งที่สูงในกิลด์สักกิลด์หนึ่งแต่หากไม่มีการสืบทอด มันก็ไม่มี Mr.Skeletal การผจญภัยและการค้นพบอีกต่อไป ฉันก็จะกลายเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ‘
เธอส่งก้อนเหล็กเล็กๆให้กับเดฟ – ” นี่จะทำให้หนังสือเผยตัวตนออกมาตอนที่นายอยู่ใกล้พอ “
เดฟมองไปที่มัน
เครื่องมือค้นหาของ Death มันดูเหมือนกับเข็มทิศเก่าๆแต่มันไม่ได้มีเครื่องหมายอะไร มันมีการทำงานแค่อย่างเดียวและมันก็ไม่ได้บอกด้วยว่าทิศเหนือทางไหนและมันก็ยังผูกมัดกับผู้เล่นด้วย
เดฟเก็บเข็มทิศนั้น เขาคงไม่ต้องใช้มันเร็วๆนี้
เทพธิดาแห่งความตายได้โบกมือ – ” เราเสร็จสิ้นเรื่องนี้แล้ว อย่าทำให้ฉันผิดหวัง ! “
” รอก่อน ! แล้วเรื่องการท้าทายล่ะ—“
เดฟได้กลับมาที่วิหาร
[ ยินดีด้วยที่ทำการท้าทายแรกในส่วนที่สองเสร็จ : xp +100,000]
[ เลเวลเพิ่ม ]
[ เตือน : ความสามารถที่สองของแหวนได้ถูกปลดผนึกแล้ว ! { Life Cleaver }]
” หือ…? ! เย้ ! ไม่ต้องเจ็บตัวรึเกือบตายเลยแหะ ! “
มันน่าจะบอกว่าง่ายได้ ! เขาอดทนรอไม่ได้ที่จะดูว่าสกิลนี้มีความสามารถยังไง มันต้องมีอะไรพิเศษบ้างแหละ
ในตอนที่เขากำลังจะตรวจสอบมันนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เดฟไม่ได้เชื่อมต่อโทรศัพท์กับแคปซูลเกม
ตอนที่เขาลุกขึ้นจากแคปซูลและมองไปที่โทรศัพท์ เขาก็จำเบอร์โทรนั้นได้ นั่นคือ Lone Arrow
หวังว่าเขาจะไม่ต้องรู้สึกผิดกับมัน เขากดรับสายทันที
” เอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ! “
เสียงกรีดร้องสูงๆดังขึ้นมาในหูและต้องทำให้เขาต้องปวดหัว เขามองไปที่โทรศัพท์แล้วดูว่ามันพลังหรือเปล่า เขาส่ายหน้าแล้วเอาโทรศัพท์มาแนบหูและได้ยินเสียงบ่นของ Lone Arrow
“….ดูที่เว็บข่าวสิ ! เร็วเข้า เร็วเข้า เร็ว ! ตอนนี้เลย ตอนนี้ ตอนนี้ ! รอก่อน รอ รอ ! ก่อนที่นายจะทำแบบนั้น นายต้องส่งวิดีโอชั่วโมงสุดท้ายของนายจากดันเจี้ยนโลกมาก่อน ได้โปรด ได้โปรด ฉัน ฉันต้องการ ฉันต้องการมันจริงๆ ได้โปรดและก็ขอบคุณด้วย ! “
เสียงนี้เหมือนกับในการ์ตูนชิปมังก์เลย
ทันทีที่เดฟล็อกอินเข้าไปในเว็บไซต์เกม เขาก็รู้เหตุผลว่าทำไม
” อ่ะ—- “