Rise of The Undead Legion - ตอนที่ 86
Chapter 86:ยินดีที่ได้พบนายที่นี่ !
เดฟโผล่มาที่ใจกลางห้องโถงที่สลัว เขาเคยมาที่นี่มาก่อนพร้อมกับ Bone Breaker และ Stainless Steel พวกเขาเปิดประตูลับบนกำแพงด้วยกัน ทางเข้าไปยังห้องลับที่ที่พวกเขาพบกับ Deadra
แต่ตอนนี้กำแพงที่มีประตูนั้นถูกกันเอาไว้ด้วยเศษหินและเสาที่หัก
ก่อนที่เขาจะได้ไปตรวจต่อ มันก็มีแจ้งเตือนโผล่ขึ้นมา
[Kis’Shtingbrah The Ruthless
ตอนนี้คุณมีสเตตัสเทียบเท่ากับบอสตามระยะเวลาของภารกิจ
สเตตัสและสกิลของคุณจะถูกปรับชั่วคราว โปรดยืนยันและยอมรับการเปลี่ยนแปลง
คุณจะได้ 10 คะแนนต่อการตายของศัตรูแต่ละคนในดันเจี้ยนและ 100 คะแนนสำหรับศัตรูที่คุณฆ่าด้วยตัวเอง ]
[ Kis’Shtigbrah
ระดับ : บอส
เผ่า : อันเดต
HP : 250,000
MP: 50,000
แรง : ไม่จำกัด
โฟกัส : 100
Intelligence 260 +(200)
Wisdom 310+(200)
Dexterity 260 (+200)
Agility 260 +(200)
Vitality 25,000
Strength 260 +(200)
Magic Absorbtion ( การดูดซับเวทย์ ) : 2,000
Damage Nullification ( ลดดาเมจ ) : 4,000
Immunity ( ต้านทาน ) : 20% +(5)%
HP Regen ( ฟื้นฟูเลือด ) : 0.1/sec +(500)
Mana Regen (ฟื้นฟูมานา) : 1.1/sec +(500)
Stamina Regen ( ฟื้นฟูแรง ) : +∞
Rage/Focus (ค่าโฟกัส/ความคลั่ง) : 20/วินาที
ฉายา : ผู้โหดเหี้ยม
อาชีพและสกิลของคุณจะใช้การไม่ได้ระหว่างช่วงภารกิจ
คุณสามารถใช้สกิลเหล่านี้ได้ระหว่างทำภารกิจ
{ Call to Arms : เรียกลูกน้องออกมาจำนวนเท่ากับศัตรูที่เผชิญหน้า สูงสุด 10 ตัว ลูกน้องที่เยกออกมานั้นจะสุ่มตั้งแต่ระดับสูงจนถึงต่ำ}
{ Decimating slash : ทำดาเมจเป้าหมายเดียว 400% ของดาเมจอาวุธ (คูลดาวน์ 40 วินาที) }
{Shield Bash : ทำดาเมจโดยตรง 1,000 และส่งผลทำให้กระเด็น ถ้าผู้เล่นที่กระเด็นออกไปชนกับสิ่งแวดล้อมจะสตันท์ 2 วินาทีและรับดาเมจโดยตรงอีก 1,000 ถ้าผู้เล่นกระเด็นไปชนศัตรูคนอื่น ทั้งสองจะได้รับดาเมจโดยตรง 1,000 คูลดาวน์ 20 วินาที }
{War Cry : เพิ่มดาเมจของลูกน้อง 200% เป็นเวลา 60 วินาที }
{ Rage : สกิลติดตัว เมื่อเลือดลดลงต่ำกว่า 10% จะได้รับดาเมจเพิ่มขึ้น 200% }
{Boss Prestige : เพิ่มขนาดร่างกายและแผ่ออร่าที่ส่งผลความกลัว }
คุณจะรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้รึเปล่า ? Y/N
เตือน : การตายจะรีเซ็ตตัวละครของคุณให้มีสเตตัสเหมือนก่อนหน้านี้แต่คุณจะไม่อาจยกเลิกภารกิจได้
คุณสามารถยกเลิกภารกิจได้ด้วยคะแนน 10,000 คะแนนแต่ชื่อเสียงของคุณในดินแดนอันเดตก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย
]
” ทำไมจะไม่ลองดูล่ะ “
เดฟกดยอมรับและตัวละครของเขาก็เริ่มขยายขนาดขึ้น
ไม่นานร่างกายของเดฟก็สูงขึ้นจากเดิมถึงสองเท่า
” เย้ ! ฉันอาจจะชินกับการตัวใหญ่แบบนี้ก็ได้ ” – เดฟมองไปที่สเตตัสใหม่ของตัวเองและพบว่าสกิลเดิมของเขากลายเป็นสีเทา – ” บ้าเอ้ย ไม่มีสกิลเดิมแม้แต่นิดเดียว ฉันรู้จุดอ่อนและจุดแข็งของมันแล้ว ตอนนี้ฉันต้องมาปรับตัวเข้ากับสกิลใหม่อีก “
” เดี๋ยวนะ “
เดฟเอามือถูหูตัวเองและพบว่าเขายังต่างหูที่ได้จาก Drahma อยู่
เขายังมีดาบที่แยกออกเป็นสองดาบอยู่และใช้ความสกิลของดาบได้ แหวนเองก็ยังใช้ได้ แม้ว่าเขาจะต้องกลับไปที่โลกใต้ดินตอนนี้แต่พวกมอนสเตอร์ที่นั่นก็ยังถือว่าเลเวลต่ำหากเทียบกับเขาตอนนี้
เดฟหันกลับมาตรวจสอบที่ดันเจี้ยน ดันเจี้ยนแห่งนี้เหมือนกับเขาวงกตที่เต็มไปด้วยโลงศพและหลุมศพเก่าๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าสนใจเขาจึงเริ่มเดินไปรอบๆดันเจี้ยนโดยหวังว่าจะพบบางอย่างที่เขามองข้ามไปในตอนแรกที่เขาเข้ามาในดันเจี้ยนนี้
เดฟได้ออกจากห้องบอสที่ที่เขากิดมาและเริ่มสำรวจส่วนที่เหลือของดันเจี้ยน
มันมีฝูงอันเดตที่เดินไปมาตามทางเดิน หลายตัวเป็น Elite Skeletal รึไม่ก็เป็น Elite Undead
” ที่นี่ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก “
ตอนที่เดฟไปถึงห้องมินิบอสเขาก็พบกับ Lesser Death Knight เฝ้าอยู่ที่นั่น
[ Unnamed Lesser Death Knight
ระดับ : Savage
เลเวล: 250
HP: 250,000
ความอันตราย : เป็นมิตร
ยามผู้อ่อนแอผู้เฝ้าสุสานของอัศวินที่โดนขับไล่ ]
หืม ครั้งที่แล้วมันไม่ได้มีคำอธิบายแบบนี้นิ
” เฮ้ย พวก ” – เดฟพูดขึ้น
Lesser Death Knight หันกลับมามองที่เดฟ
” นายท่าน ! ให้ฉันรับใช้อะไรดี ? ” – Lesser Death Knight ถามด้วยความเคารพ
โอ้ งั้นเขาก็คิดว่าฉันมีตำแหน่งสูงกว่าแม้ว่าระดับของเขาจะสูงกว่าฉันก็เถอะ ฉันคิดว่ามันเพราะตอนนี้ฉันเป็นบอสอยู่
” บอกเรื่องดันเจี้ยนนี้ให้ฉันรู้ที “
” ได้ นายท่านคงต้องมาใหม่ ที่นี่คือจุดพักของบริวารเก่าที่เคยรับใช้ Undead King “
” ดูเหมือนคุกมากว่าจุดพักสำหรับสาวกนะ ” – เดฟพูดขึ้น
” นั่นก็จริง ราชาได้ขับไล่บริวารออกมา เรามาที่นี่เพื่อคุ้มกันที่นี่เพื่อที่บริวารนั่นจะหนีออกไปไม่ได้ “
ฉันเดาว่าเขาคงไม่รู้ว่า Deadra ได้ออกจากที่นี่ไปแล้ว
” ดีมาก ฉันจะไปดูรอบๆ ขยันทำงานเข้าไว้ ” – เดฟยกนิ้วโป้งให้กับอีกฝ่าย
” นายท่าน นั่นคือทางออกของดันเจี้ยน นายท่านอาจจะพบกับคนที่ผ่านไปมา มันอันตราย ” – Lesser Death Knight เตือนหลังจากที่เห็นว่าเดฟจะเดินไปทางไหน
” หือ แล้วไง ? ทำไมต้องรอให้คนเข้ามาเมื่อนายจัดการพวกเขาที่ประตูได้ ” – เดฟยักไหล่
” ฉันไม่เคยคิดถึงวิธีนั้นเลย นายท่านต้องการให้ไปกับท่านด้วยรึเปล่า ? “
” ได้ มาสิ “
เดฟและ Lesser Death Knight เดินไปยังทางเข้าของดันเจี้ยนด้วยกัน
เมื่อไหร่ก็ตามที่ไปเจอกับพวกอันเดต พวกนั้นจะมองบอสและมินิบอสที่เดินมาด้วยกันด้วยความแปลกใจ อันเดตต่างก็สงสัยแล้วพากันเดินตามมา
10 นาทีต่อมาพวกเขาก็มาอยู่ที่ทางออกดันเจี้ยนแต่มันไม่เหมือนกับตอนที่เดฟเข้ามา ตอนนี้มันมีกำแพงหมอกกั้นเอาไว้
เดฟจับไปที่กำแพงหมอกนั้นและมีแจ้งเตือนโผล่มาตรงหน้าเขา
[ คุณพยายามที่จะออกจากดันเจี้ยน! ]
Lesser Death Knight พูดขึ้นมาด้วยท่าทีกังวล – ” นายท่าน ฉันว่าอย่าออกจากที่นี่เลย ดันเจี้ยนคอยปกป้องชีวิตเราเอาไว้ ถ้าเราออกจากที่นี่เราจะตายอย่างถาวร “
” งั้นมันมีผลดีอะไรกับการอยู่ในดันเจี้ยนนี้นอกจากได้คะแนนล่ะ ? “
” ดันเจี้ยนไม่ใช่แค่ให้คะแนนกับเรา เรายังได้พลังด้วย ดันเจี้ยนได้ดูดซับแก่นชีวิตของคนที่ตายที่นี่ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้เล่นจำนวนหนึ่งตายไปในดันเจี้ยน ดันเจี้ยนจะให้แก่นชีวิตให้กับเราและเราก็จะแข็งแกร่งขึ้น “
ฉันคิดว่าเขาคงหมายถึง xp ตอนที่พูดถึงแก่นชีวิต มันจะหมายความว่าดันเจี้ยนสามารถดูดซับ xp จากผู้เล่นได้แต่ฉันไม่มีทางได้ xp จากการฆ่าผู้เล่น
ในตอนที่เดฟคิดถึงกลไกดันเจี้ยนนั้น กำแพงหมอกก็ได้แยกออกจากกันพร้อมกับพรีสคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามา เขาหันหลังกลับไปมอง ดูเหมือนว่าเขาจะพาคนอื่นมาด้วย
” ฉันบอกนายแล้ว Fortress เธอน่ะพึ่งตัวเองได้น่า พวก ! “
เดฟขมวดคิ้ว เสียงนี้ฟังดูคุ้นๆ
ตอนที่พรีสหันกลับมาและเห็นฝูงอันเดตมองมาที่เขา เขาก็ตัวแข็งทื่อไปรอยยิ้มเขากลายเป็นยิ้มแห้งๆไปทันที
อันเดตตัวใหญ่สองตัวได้พาฝูงอันเดตที่มีชื่อสีแดงมา ตัวหนึ่งเป็นบอส อีกตัวเป็นมินิบอส
ร่างในชุดเกราะเดินเข้ามาชนพรีสที่ตัวแข็งทื่อจากด้านหลังและเริ่มบ่นออกมา – ” ให้ตายสิ Flanker ! ทำไมนายต้องมายืนนิ่งเหมือนไอ้โง่แบบนี้ ? “
เมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวแข็งทื่อไป ผู้เล่นใส่เกราะนั้นก็ได้มองไปรอบๆห้องก่อนจะหยุดเหมือนกับกวางที่โดนหมายหัว
ฮันเตอร์คนหนึ่งโผล่มาจากประตูและผลักสองคนก่อนหน้า ผู้เล่นคนนี้เร็วกว่าสองคนเล็กน้อย ทันทีที่เห็นบอสกับมินิบอส เขาก็ถอยกลับไปทันที – ” หือ บะบาย ! “
” เดี๋ยวก่อน ! ” – เดฟพูดขึ้น
ตาของทั้งสามคนถลนออกมา
” มีคำพูดบอกว่าครั้งแรกอาจจะเพราะโชค ครั้งสองเป็นเรื่องบังเอิญ ครั้งสามนี่สิจงใจ ตัวร้ายนี่ดีแหะ ฉันว่าฉันก็ชอบทองเหมือนกัน ” – เดฟพูดพร้อมกับยิ้ม
” ทะทำไมบอสถึงพูดกับเรา ? ” – พรีสถาม
” ตัวร้าย ? ทอง ? ! ” – ชายในชุดเกราะถามพร้อมกับเกาหัวตัวเอง
” ชัดแล้วว่านั่นคือ Mr.Skeleta ดูที่หนวดเขาสิ ” – ฮันเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงอวดรู้
” เหอะ ทักษะฮันเตอร์ของนายก็ถือว่าดีอยู่นะ ” – เดฟยิ้ม
” เราควรฆ่าพวกนั้นเลยมั้ย ? “- Lesser Death Knight ถาม
” ไม่ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ ฉันว่าเราน่าจะหาประโยชน์จากพวก TNT ได้ “
เดฟยิ้ม นี่เป็นครั้งที่สามที่เขาเจอกับพวกนี้ สองครั้งแรกนั้นคือภารกิจแบบสุ่ม ครั้งนี้เขาได้เลือกจุดเกิดตัวเองแต่ก็ยังมาพบพวกนี้ที่นี่
มันมากกว่าคำว่าบังเอิญที่พวกนี้มาอยู่ในที่เดียวกันและเวลาเดียวกันกับ เดฟ เขาต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้
พรีสและชายใส่เกราะคุยกัน
” อะไรคือ TNT ที่เขาเรียกเรา ? “
” เดี๋ยวนะ ถ้านี่คือ Mr.Skeletal แล้วทำไมเขาถึงตัวใหญ่…ใหญ่โคตรๆแบบนี้ได้ ? “
” TNT ที่ว่านี่ใช่ระเบิดมั้ย ? เจ๋ง เราน่ะคือระเบิด ! “
สองคนตีมือกันจนเสียงดังก้อง ฮันเตอร์กรอกตาใส่พวกนั้นพร้อมกับส่ายหน้าอยู่นาน
” ฉันตัวใหญ่อยู่แล้ว ” – เดฟตอบกลับด้วยรอยยิ้ม – ” และขอโทษด้วยนะที่มันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น มันหมายถึงพวกชื่อห่วยสามคน “
Pussy Flanker เลเวล 89 พรีส
Human Fortress เลเวล 86 แทงค์
Perfect Shot เลเวล 90 ฮันเตอร์