Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 1005 ถูกเอาเปรียบ?
หลังจากการเดินทางยาวนาน 10 ชั่วโมง เครื่องบินลงจอดอย่างราบรื่นที่สนามบินเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ผู้โดยสารเริ่มถอดเข็มขัดและพร้อมที่จะลงจากเครื่อง
หยางหยงอันลากกระเป๋าเดินทางขณะกำลังมองลู่โจวเดินจากไป เขามองไปที่หัวหน้าของเขาและถามอย่างระมัดระวัง
“อาจารย์ครับ คุณไม่ได้เป็นเพื่อนกับนักวิชาการลู่เหรอครับ”
เขาสังเกตเห็นบางอย่างตั้งแต่อยู่ที่ปักกิ่ง สีหน้าของนักวิชาการหวังยืนยันในสิ่งที่เขากำลังคิด
เพราะแบบนี้เขาจึงไม่กล้าเข้าใกล้ลู่โจว เนื่องจากเขากลัวว่าจะทำให้หัวหน้าโกรธ
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็มาจากมหาวิทยาลัยเหยียน แม้ว่าตัวเขาเองจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักวิชาการลู่ แต่ในฐานะนักวิชาการของมหาวิทยาลัยเหยียน เขาเลือกที่จะทำให้หัวหน้าพอใจ
แม้ว่าตอนอยู่บนเครื่องหวังซื่อเฉิงอยากจะโยนลู่โจวออกจากเครื่องบินมากขนาดไหน เขาก็ยังพยายามปฏิเสธ
“ไม่ ไม่ใช่สักหน่อย! ใครเป็นคนบอกคุณ อย่าพูดแบบนั้นนะ”
หยางหยงอัน “…”
พระเจ้า ดูจากน้ำเสียงของเขา ดูเหมือนเขากำลังโกหกอยู่นะ
หวังซื่อเฉิงมองหยางหยงอันเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “เรื่องบางเรื่องคุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลหรอกนะ ผมไม่ได้ชอบเขามากขนาดนั้นก็จริง แต่พวกคุณก็เป็นคนรุ่นใหม่กันทั้งคู่ คุณน่าจะลองสานความสัมพันธ์กับเขาดู มันจะช่วยคุณได้ในอนาคต”
นักวิชาการหวังไม่มีอย่างอื่นที่อยากจะพูด
หยางหยงอันรู้สึกโล่งใจ
แน่นอนว่าเขาไม่ได้แสดงความรู้สึกนั้นออกมา เขาแสดงสีหน้าเข้าอกเข้าใจพลางพยักหน้า
“ผมเข้าใจครับ อาจารย์”
ยิ่งไปกว่านั้น เขากังวลว่าหัวหน้าของเขา และแม้กระทั่งมหาวิทยาลัยเหยียนทั้งมหาวิทยาลัย อาจจะไม่ชอบนักวิชาการลู่ เขากังวลว่าถ้าเขาพยายามจะเป็นเพื่อนกับนักวิชาการลู่ เรื่องนี้จะกลับมาแทงข้างหลังเขา
แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนั้นไม่ได้เป็นปัญหาเลย
หัวหน้าของเขาไม่ชอบนักวิชาการลู่แค่ในเรื่องนิสัยส่วนตัว แต่เขาไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน
สิ่งที่หยางหยงอันไม่รู้ก็คือหัวหน้าของเขาดูถูกนักวิชาการลู่ แต่เพราะเหตุผลหลายอย่างหัวหน้าของเขาจึงต้องก้มหัวให้นักวิชาการลู่
เพราะอิทธิพลของลู่โจวไปไกลกว่าแค่วงการคณิตศาสตร์และวงการวิชาการ มันไปไกลถึงระดับชาติหรือแม้แต่ระดับโลกแล้ว
สำหรับนักวิชาการแบบเขาที่ไปได้ไกลกว่าแค่วงการวิชาการ คงไม่มีความคิดเรื่องการเล่นพักเล่นพวก
แต่สำหรับเขาแล้ว…
เขาคิดเองเออเองไปคนเดียว
…
โชคยังดีที่หวังซื่อเฉิงไม่ได้ออกมาจากสนามบินพร้อมกับลู่โจว ไม่อย่างนั้นเขาคงจะอับอายเป็นอย่างมาก
ตอนที่ลู่โจวออกมาจากสนามบินพร้อมหวังเผิง ตัวเขาเองก็ตกใจ
ด้านนอกสนามบิน รถสีดำสิบกว่าคันจอดตรงริมทางเดิน ชายชาวรัสเซียหน้าตาคุ้นๆ ถอดแว่นกันแดดออกและเดินตรงมาพร้อมอ้าแขนต้อนรับ รอยยิ้มเป็นมิตรปรากฏบนใบหน้าของเขาขณะที่กำลังกอดลู่โจว
“ฮ่าฮ่า ยินดีต้อนรับเพื่อนยาก นักวิชาการลู่! ยินดีต้อนรับสู่รัสเซีย! คุณยังจำผมได้ไหม”
ลู่โจวจับมือหลังจากที่กอดเสร็จและส่งยิ้มให้
“สวัสดีครับ คุณจอร์จีฟ ช่างเป็นการต้อนรับที่น่าสนใจจริงๆ “
“ผมบอกคุณแล้วว่าถ้าคุณได้มาเยือนมอสโกผมจะจัดการงานเลี้ยงต้อนรับที่พิเศษที่สุดสำหรับคุณ ที่นี่คือเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่มันก็ใกล้ๆ กับมอสโกอยู่” จอร์จีฟยิ้มและพูด “นี่คือลูกสาวผม วิกตอเรีย ผมเดาว่าคุณคงเคยเจอกันมาก่อนและนี่คือรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน”
“เราก็เคยเจอกันแล้วครับ” รัฐมนตรีโนวัคพูดขณะที่ยื่นมือขวาออกไป “ยินดีต้อนรับครับ”
ลู่โจวรู้สึกเคอะเขินเพราะมีเจ้าหน้าที่กระทรวงถึงสองคนมาต้อนรับเขา
“พวกคุณใจดีกับผมมากไปแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอก ก็อย่างที่คุณจอร์จีฟบอก ถ้าคุณมีโอกาสได้ไปประเทศรัสเซีย เราจะไปรับคุณที่สนามบินด้วยตัวเอง”
รัฐมนตรีโนวัคมองชายผู้มีอำนาจในชุดสูทดำและพูด “ผมขออนุญาตแนะนำให้คุณรู้จักกับแม็กซิมจากหน่วยความมั่นคงกลาง เขามีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของคุณที่รัสเซีย”
เจ้าหน้าที่ชื่อแม็กซิมเป็นคนค่อนข้างเงียบขรึม เขาพูดชัดถ้อยชัดคำ “สวัสดีครับศาสตราจารย์ลู่ ทีมอัลฟ่าของเราประจำการอยู่ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กแล้ว ทีมรักษาความปลอดภัยของเราจะทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของการประชุม ICM เรารับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดสำหรับกิจกรรมทางวิชาการที่นี่ ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย คุณโทรหาผมได้เลยนะครับ”
ลู่โจวรับโทรศัพท์จอพับและยื่นให้หวังเผิง หลังจากนั้นเขายิ้มและพูด “ขอบคุณครับ”
“ด้วยความยินดีครับ”
ลู่โจวสัมผัสได้ว่าแผนกรักษาความปลอดภัยของรัสเซียจัดการเรื่องความปลอดภัยในการมาเยือนของเขาอย่างพิถีพิถัน
เพราะรัสเซียคงไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับเขาขณะที่เขามาที่นี่
มันจะส่งผลกับความสัมพันธ์ทางการทูตและผลประโยชน์อีกหลายอย่าง
หลังจากที่ถามสารทุกข์สุกดิบกับโนวัคจากกระทรวงพลังงานแล้ว ลู่โจวพูดคุยกับโนวัคเกี่ยวกับตารางงานในอีกสองวัน
“…เราจะไปส่งคุณที่โรงแรม และพรุ่งนี้เช้าทีมจะไปถึงหน้าทางเข้าโรงแรมตอนแปดโมงตรง…แน่นอนว่าคุณอยากจะมาตอนไหนก็ได้ แต่เป็นก่อนเที่ยงก็ดี”
ลู่โจวยิ้มและพูด “ไม่ต้องห่วง ผมไม่ตื่นสายหรอก ผมจะมาตรงเวลา”
รัฐมนตรีโนวัคยิ้มและพูด “ผมหวังว่าคุณจะมีช่วงเวลาดีๆ ที่นี่นะครับ”
ก่อนที่เขาจะมา เจ้าหน้าที่รัสเซียใช้ช่องทางการทูตเชิญชวนเขามาเยี่ยมสถานีพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชั่นที่กำลังก่อสร้างที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ดังนั้นนอกจากมาเพื่อเข้าร่วมงานประชุมคณิตศาสตร์นานาชาติแล้ว ลู่โจวยังมีเรื่องน่าสนใจที่เขาต้องทำ
แต่เรื่องนั้นคงใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ อย่างมากก็แค่ครึ่งวัน
ลู่โจวตั้งใจจะมาถึงสองวันก่อนงานประชุมคณิตศาสตร์นานาชาติ เพราะเขาอยากจะจัดการกับเรื่องเล็กน้อยพวกนี้ก่อนการประชุม
ลู่โจวเดินไปที่รถและกำลังจะขึ้นรถ อยู่ดีๆ วิกตอเรียก็ก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าวและวางมือลงบนประตูรถเบาๆ เธอยิ้มมุมปากและมองไปที่ลู่โจว
“เราเจอกันเป็นครั้งที่สองแล้ว ตามธรรมเนียมรัสเซียคุณน่าจะกอดฉันนะคะ”
ลู่โจว “ต้องทำแบบนั้นเหรอ”
“แน่นอนสิ!” วิกตอเรียยิ้มเย้ายวนและพูด “คุณไม่อยากจะลิ้มลองวัฒนธรรมของเราเหรอคะ”
“…”
ลู่โจวลังเลเล็กน้อยก่อนจะกอดคุณวิกตอเรียอย่างสุภาพ
แต่สาวรัสเซียผู้เร่าร้อนคิดไปไกลกว่านั้น
เธอจูบแก้มลู่โจวเบาๆ เขาแก้มแดงและผละออกทันที เขาถอยออกมาอย่างงุ่มง่ามและขึ้นรถ
พระเจ้าช่วย นี่มันวัฒนธรรมรัสเซียด้วยเหรอ
ฉันรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบเลย
กอดนั่นก็เร่าร้อน
ใช่ เร่าร้อนเกินไปด้วยซ้ำ
หวังเผิงนั่งอยู่เบาะหน้า ส่วนลู่โจวนั่งเบาะหลังกับแม็กซิมจากหน่วยความมั่นคงกลาง แม้ว่าโนวัคบอกกับลู่โจวว่าแม็กซิมเป็นแค่เจ้าหน้าที่ภาคสนาม แต่เห็นได้ชัดว่าแม็กซิมมีตำแหน่งที่สูงกว่าแค่เจ้าหน้าที่ทั่วไป
แม็กซิมสังเกตเห็นว่าลู่โจวแสดงสีหน้าประหม่า เขาจึงยิ้มและพูด
“ไม่ต้องห่วง เราจะดูแลคุณเอง”
ลู่โจวฝืนยิ้มและพูด “ผมไม่ได้ประหม่า ผมก็แค่ไม่ได้เดินทางมานานแล้ว ผมก็เลยไม่ค่อยชิน”
แม็กซิมยักไหล่และยิ้มจนเห็นฟันขาวของเขา และพูด “โอเค มาคุยเรื่องที่สบายใจกันดีกว่า คุณคิดว่าคุณวิกตอเรียเป็นอย่างไรบ้าง”
ลู่โจว “…คุณหมายความว่าอะไร”
“ชอบกอดนั่นไหม”
ลู่โจวไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ
“…รู้สึกอึดอัด”
แม็กซิมยิ้มและพูด
“รู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าเหรอ เปรียบเทียบได้สร้างสรรค์ดีนะครับ โอ้ ศาสตราจารย์ลู่ คุณนี่เป็นคนน่าสนใจจริงๆ “
ลู่โจว “…”
ฉันพูดว่าโดนฟ้าผ่าตอนไหนวะ
………………………