Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ - ตอนที่ 102 ลงทุนห้าล้าน
“…ฉันจะลองลงทุนห้าล้านเหรียญก่อน”
ตอนที่เขาพูดไปอย่างนั้น น้ำเสียงของเขาก็สบายๆราวกับว่าเขากำลังซื้อจักรยาน
นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่โจวได้พบกับนักลงทุนที่ทำตามอำเภอใจแบบนี้
เขาไม่ได้ดูบุลเล็ตต์พอยต์หรือพาวเวอร์พอยนต์หรือไม่ได้ขอรูปแบบธุรกิจด้วยซ้ำ เขาเปิดด้วยเงินห้าล้านโดยไม่ขมวดคิ้ว…
สิ่งที่คุณนายหยางสอนลู่โจวมาไม่ได้ใช้ประโยชน์เลย
ความยากจนจำกัดจินตนาการของเขาอีกครั้ง
หลิววั่นซานเป็นคนงานยุ่ง และเขาไม่ยอมเสียเวลาเปล่าแม้แต่วันเดียว เขาเรียกเลขาให้มาหาโดยไม่ใส่ใจแล้วพาลู่โจวไปที่ออฟฟิศของผู้จัดการโรงแรมแล้วพิมพ์สัญญา
สัญญาประเภทแบบนี้มีแม่แบบอยู่แล้ว ดังนั้นเขาก็แค่ต้องแก้ไขแม่แบบเท่านั้น
ตามข้อตกลงระหว่างประธานหลิวกับลู่โจว บริษัทจ้งซานซินฉายจะมอบทุนให้ห้าล้านหยวนแล้วได้รับหุ้นในแคมปัสแอสซิสแตนท์ยี่สิบเปอร์เซ็นต์
แน่นอนเงินห้าล้านหยวนนี้จะไม่ได้รับทั้งหมดในครั้งเดียว
ตามแนวทางการมอบเงินทุนทั่วไป ทั้งสองฝ่ายจะลงนามในข้อตกลงการโอนหุ้นก่อน แล้วส่งเงินชุดแรกให้บัญชีแคมปัสแอสซิสแตนท์ห้าแสนหยวน หลังจากนั้นก็จะโอนเงินให้อีกห้าแสนหยวนของต้นเดือนทุกเดือนเป็นเวลาสิบเดือน
วิธีการมอบเงินทุนแบบนี้ก็เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของนักลงทุนและเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการใช้เงินทุนในทางที่ผิดหรือก่อปัญหาด้านกฎหมายเนื่องจากพฤติกรรมที่สุดโต่ง
อย่างไรก็ตามถ้าหากนักลงทุนปฏิเสธที่จะทำตามข้อตกลงด้านเงินทุนแล้วมอบเงินล่าช้าไปมากกว่าหนึ่งเดือน มันจะมีสิ่งที่เรียกว่า’การหยุดการลงทุนชั่วคราว’เกิดขึ้น หุ้นที่ถูกครอบครองโดยนักลงทุนจะถูกกู้คืน ส่วนเงินที่ลงทุนไปแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของสตาร์ทอัพที่จะจ่าย
แน่นอนเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นนัก
หนังสือแสดงเจตจำนงถูกลงนามทันที ข้อตกลงเฉพาะที่เกี่ยวกับหุ้นกับเงินทุนจะเสร็จสมบูรณ์ในสามวัน เมื่อถึงเวลา จ้งซานซินฉายจะส่งคนมาเซ็นสัญญาที่มหาวิทยาลัย
และแล้วจดหมายแสดงเจตจำนงเงินทุนมูลค่าห้าล้านเหรียญก็ถูกลงนามทั้งแบบนี้
ลู่โจวนับเวลา มันไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ…
เนื่องจากโอนเงินในช่องทาง VIP เขาจึงได้รับข้อความจากธนาคาร ICBC อย่างรวดเร็ว
ห้าแสนหยวนถ้วน
ลู่โจววางปากกาลงบนโต๊ะ เขาถามด้วยความสับสน “คุณไม่อยากดูแผนการทางธุรกิจของเราหรือ?”
หลิววั่นซานยิ้มแล้วส่ายหน้า “มันมีประโยชน์อะไร? บุลเล็ตต์พอยต์? พาวเวอร์พอยนต์? ของพวกนั้นมีไว้หลอกคนเท่านั้น ฉันไม่ได้ลงทุนในธุรกิจ ฉันลงทุนในผู้คน ฉันคิดว่าเธอมีความสามารถและคู่ควรแก่การลงทุน ต่อให้ฉันตัดสินใจพลาดไป ฉันก็เสียเงินที่มีราคาเท่ากับรถคันหนึ่ง มีอะไรใหญ่เชียว?”
ลู่โจวพูดไม่ออกโดยสมบูรณ์
บางทีนี่จะเป็นสิ่งที่คนรวยเป็นกัน?
เขาคิดถึงครึ่งเดือนที่เจ้าอ้วนอู๋กับหยวนลี่เหว่ยดิ้นรนและล้มเหลวในการหาทุนสองล้าน และตอนนี้เขาคุยแค่ไม่กี่คำและก็ได้มาห้าล้าน…
ทันใดนั้นเองก็มีความรู้สึกพึงพอใจที่อธิบายไม่ได้เบ่งบานอยู่ในใจ
หลิววั่นซานพูดกับศาสตราจารย์หลี่อีกเล็กน้อยก่อนจะจากไป ท้ายที่สุดแล้วเขาก็มีคนสำคัญคนอื่นที่ต้องไปคุยด้วย
ศาสตราจารย์หลี่มองลู่โจวที่กำลังจมอยู่กับเงินทุนห้าล้านแล้วถาม “ทำไม? แปลกใจเหรอ?”
ลู่โจวพยักหน้าช้าๆ
“มันก็แค่ห้าล้าน มีอะไรน่าแปลกใจ?” ศาสตราจารย์หลี่หรงเอินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเธอช่วยอาจารย์สักสองโปรเจกต์ อาจารย์จะช่วยให้เธอได้เงินทุนระดับซีรีส์เอด้วยซ้ำ”
ศาสตราจารย์หลี่มองสีหน้าไม่อยากจะเชื่อของลู่โจวแล้วไม่ได้พูดอะไร กลับกันเขายิ้มแล้วไปที่อื่นแทน
แม้ว่าบนโต๊ะจะเต็มไปด้วยอาหารอร่อยๆ แต่ลู่โจวก็ไม่ได้กินอะไรเลย
งานวิจัยที่ทำมาทั้งปีในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์ ทุกคนจึงมีความสุขมาก นักวิจัย ผู้ประกอบการ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท และทุกคนต่างก็ได้แสดงความยินดีให้กันและกัน
ลู่โจวถูกนักวิจัยบางคนบังคับให้ดื่ม หลังจากดื่มไปหลายรอบ เขาก็เมาแล้ว
ลู่โจวคิดอยู่เสมอว่าเขาคอแข็งพอควร เขามักจะดื่มกับรูมเมทเสมอ ซึ่งทำให้เขาคิดว่าเขาดื่มไหว
โชคดีที่เขาไม่ได้ทรุดคนแรก
รุ่นพี่เฉียนที่หน้าแดงเถือกทรุดอยู่ที่โต๊ะ
ในที่สุดทุกคนก็ดื่มเบาลง
พวกเขาอยู่กินดื่มจนถึงสองทุ่มก่อนจะแยกย้ายกันไป
หลังจากพวกเขาจากมา ประธานหลิวก็โทรเรียกคนขับรถสองคนแล้วส่งลู่โจวกลับมหาวิทยาลัย
หลิวโปบอกลาลู่โจวก่อนจะแบกรุ่นพี่เฉียนที่กำลังเมากลับหอพัก
ขณะที่ลู่โจวเดินไปตามทางเดินที่ถูกปกคลุมด้วยต้นอู่ถงตามลำพัง เขาก็รู้สึกถึงสายลมเย็นๆพัดผ่านไปและได้ยินเสียงเพลงดังมาจากโรงยิม
เขายืนอยู่ใต้ต้นอู่ถงแล้วส่ายหน้าก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมา จากนั้นเขาก็โทรหาเจ้าอ้วนอู๋
“ฮัลโหล? ว่าไง?”
มีเสียงจอแจดังมาจากโทรศัพท์ราวกับว่าเขากำลังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน
จะว่าไป อู๋ต้าไห่กับผู้จัดการทำงานตัวเป็นเกลียวให้กับบริษัทสตาร์ทอัพ แต่ลู่โจวกลับทำโปรเจกต์วิจัยวิทยาศาสตร์ซึ่งไม่ได้มีส่วนช่วยไรเลย
อย่างไรก็ตาม…
ดูเหมือนลู่โจวจะเป็นคนได้ MVP
“เรียบร้อย”
เมื่อเจ้าอ้วนอู๋ได้ยินคำพูดของลู่โจว เขาก็ถาม “อะไรเรียบร้อย?”
“เงินทุน จ้งซานซินฉายลงมุนห้าล้าน”
ปลายสายเงียบ
หลังจากนั้นสักครู่ เจ้าอ้วนอู๋ก็กระแอมแล้วพูด
“เท่าไหร่นะ? ฉันได้ยินไม่ชัด”
“ห้าล้าน”
เจ้าอ้วนอู๋สูดหายใจเข้าลึกๆ
ห้าล้าน!
นักลงทุนผู้ใจดีมอบเงินทุนให้ห้าล้าน!
ตามแผนเดิมของพวกเขา พวกเขาได้เงินสองล้านก็พอใจแล้ว ด้วยการโฆษณาสองแสนหยวนต่อเดือน พวกเขาจะมีเวลาดำเนินการหกเดือนและทำผู้ใช้ให้ได้หกล้านคน จากนั้นพวกเขาก็จะระดมทุนได้อีกครั้ง…
อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รับห้าล้านหยวนจากนักลงทุนผู้ใจดีเพียงคนเดียว
ลู่โจวกระแอมเพื่อทำลายความเงียบ “พูดอะไรหน่อยสิ นายเงียบแบบนี้มันน่ากระอักกระอ่วนนะ”
เจ้าอ้วนอู๋ยืนพิงเสาที่สถานีรถไฟใต้ดิน นิ้วเขากำลังสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น เขากำลังจะสูบบุหรี่ แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นป้ายห้ามสูบบุหรี่ เขาจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พูดอะไร? ฉันไม่อยากพูดอะไรเลย ฉันแค่อยากสูบบุหรี่เงียบๆ”
ลู่โจวถาม “แล้วหยวนลี่เหว่ยล่ะ?”
เจ้าอ้วนอู๋ “ฉันแยกกับเขา ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ข้างนอก…ฉันจะโทรบอกให้เขากลับมหาวิทยาลัย เอ้อ นายเซ็นสัญญายัง? หรือแค่หนังสือแสดงเจตจำนง?”
ลู่โจวหายใจเข้าลึกๆแล้วกล่าว “แค่จดหมายแสดงเจตจำนง แต่อีกฝ่ายจริงใจ ฉันได้เงินมาล่วงหน้าห้าแสนหยวนแล้ว สัญญาจะถูกลงนามในสามวัน คืนพรุ่งนี้เรามาประชุมกันเถอะ ไปจองห้องเรียนเลย”
เจ้าอ้วนอู๋ควบคุมลมหายใจแล้วกล่าว “โอเค นายจะให้ฉันส่งข้อความลงกลุ่มแชทไหม?”
“ฉันจะบอกพวกเขาเอง” ลู่โจวกล่าว เขาหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าว “โทรไปน่าจะดูเป็นทางการมากกว่า”
ลู่โจวหยิบหนังสือแสดงเจตจำนงการลงทุนแล้วเดินตรงไปยังหอพัก จากนั้นเขาก็โทรหาหยวนลี่เหว่ย หรงไห่และสมาชิกทุกคนในสมาคม นอกจากนี้เขาบอกพวกเขาเรื่องประชุมพรุ่งนี้ด้วย
เงินลงทุนห้าล้าน
สำหรับกลุ่มนักศึกษาผู้ประกอบการแล้วมันหมายความว่ายังไง?
มันหมายถึงโลกทั้งใบ…
ในแง่หนึ่งลู่โจวรู้สึกเหมือนเขาเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนทั้งแปด
เขาไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องดีไหม ถ้ามันไม่ใช่เพราะเขา คนพวกนี้ก็คงมีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เขารู้ว่าคืนนี้หลายคนจะนอนไม่หลับ
………………………………..